“หยวนชี่ทั้งห้าของสำนักเสวียนเทียน?”ไป๋จินเต๋อรับรู้ถึงจังหวะการย่างก้าวชี่แท้ของหลินเฟิง“ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะรู้จักสำนักเสวียนเทียนด้วย”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและกำลังจะฆ่าไป๋จินเต๋อ แต่เมื่อเห็นไป๋จินเต๋อโบกมือด้วยความหวาดกลัวแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เพื่อนตัวน้อยหลิน อย่าฆ่าฉัน! ฉัน...ใช่เลย! ฉันสามารถจะบอกความลับของตระกูลเซี่ยงอย่างหนึ่งแลกกับชีวิตของฉัน!”“ความลับของตระกูลเซี่ยง?”หลินเฟิงยกฝ่ามือขึ้นมาเบา ๆด้วยความลังเลเล็กน้อย“ใช่แล้ว ใช่แล้ว”ไป๋จินเต๋อล้มลงไปกับพื้น กระแอมสองครั้งก่อนจะรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ตระกูลเซี่ยงกำลังมุ่งเป้าไปที่คุณสหายน้อยหลินเฟิง เพียงแค่คุณยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะบอกความลับนี้กับคุณ”“พูด” หลินเฟิงมีสีหน้าที่เย็นชาเฉยเมย“สหายน้อยหลินเฟิง คุณจะรับรองชีวิตของฉันใช่ไหม?”“ไม่พูดมาตอนนี้ผมฆ่าคุณแน่ รีบพูดมา!”ลมปราณภายในมือของหลินเฟิงกลายเป็นชี่แท้ แรงกดดันมหาศาลทำให้ตาทั้งสองข้างของไป๋จินเต๋อเบิกกว้างด้วยควงามหวาดกลัว ในขณะที่กำลังขอความเมตตานั้นในใจของไป๋จินเต๋อก็รู้สึกโกรธมากเช่นกัน“ได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบเจอกับดาวปีศาจคนนี้ ฉัน
สีหน้าของหลินเฟิงเย็นชา จากนั้นชี่แท้ก็ออกจากร่างกาย คิดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นค้อนยักษ์โปร่งใสกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าใส่ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อ“คุณ!”เห็นได้ชัดว่าไป๋จินเต๋อไม่อยากที่จะยุ่งกับหลินเฟิง จึงกระโดดขึ้นจากพื้นไปสองฟุตทันที แล้ววิ่งหนีไปทางประตูโรงงานอย่างบ้าคลั่งก่อนจะใช้โอกาสนี้หลบค้อนพลังชี่แท้ของหลินเฟิงฝีมือความสามารถแข็งแกร่งอย่างนี้ ที่แท้อาการเจ็บหนักและท่าทางอ่อนแอเมื่อครู่เขาเสแสร้งออกมาทั้งหมด“คิดหนีเหรอ? สายไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าชี่แท้ของหลินเฟิงจะออกจากร่างกาย แต่มันก็ยังคงเชื่อมต่อกับหลินเฟิง และนี่ก็ความละเอียดอ่อนอันเป็นลักษณะพิเศษของหยวนชี่ทั้งห้าหลินเฟิงโบกมือ แล้วค้อนยักษ์พลังชี่แท้ก็พุ่งออกไปด้านข้างไป๋จินเต๋อและเหวี่ยงกลับมาในอากาศทันที“อะไรนะ?!”ไป๋จินเต๋อคิดว่าหลบการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงได้แล้วก็จะปลอดภัยแต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงยังจะสามารถควบคุมค้อนยักษ์พลังชี่แท้ได้อีก เขาถูกค้อนยักษ์พลังชี่แท้ที่ย้อนกลับมาโจมตีเข้าที่กลางหน้าอก ก่อนจะลอยออกไปพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช“อ้าก!”ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อยุบลง ก่อนที่เขาจะพ่นเลือดขึ้
หลิวหย่งยื่นมือออกไปสั่งการ ลูกน้องสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังรอจนทนแทบไม่ไหวตั้งนานแล้ว พากันลุกขึ้นยืนในมือของพวกเขามีอาวุธชนิดต่าง ๆ ทุกสายตาดูมีความตื่นเต้นอย่างมาก“คุณหลินได้แก้ปัญหาความกังวลของพวกเราแล้ว พวกขยะของตระกูลเซี่ยงที่เหลือเหล่านั้น พวกเรายังจะมีอะไรให้หวาดกลัวอีก?”“สหายทั้งหลาย บุกเข้าไปให้หมด!”“ลุยกัน!”หลิวหย่งเลียลิ้นสีแดงสด และตะโกนออกมาเสียงดัง จากนั้นก็นำหน้าบุกเข้าไปไปหานักสู้ของตระกูลเซี่ยงที่วิ่งออกมาจากโรงงาน ไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าด้วยกัน การต่อสู้ที่รุนแรงก็ได้ปะทุขึ้นหลินเฟิงไม่ได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ในเมื่อมันเป็นเรื่องของเซียวคุน ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องให้โอกาสคนของเซียวคุณได้แสดงฝีมือหน่อยหลินเฟิงหนีไปพร้อมกับร่างของไป๋จินเต๋อไปยังที่ห่างไกลออกไป และค้นพบยาพิษจำนวนมากที่บนตัวของไป๋จินเต๋อ และ "คัมภีร์ร้อยพิษ" เล่มหนึ่ง ยาพิษเหล่านี้ถูกหลินเฟิงเก็บเอาไว้คัมภีร์ร้อยพิษถูกหลินเฟิงเปิดออก เขาถูกยาพิษชนิดต่าง ๆ ที่บันทึกอยู่ด้านบน และวิธีการสกัดแมลงพิษต่าง ๆ ทำให้ตกตะลึงในทันทีถึงขั้นที่มียาพิษบางชนิด เขาแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ
หลินเฟิงส่ายหน้าและปฏิเสธทันที แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกวิธีที่ดีกว่านี้ขึ้นมาได้ จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางหลิวหย่ง: “งั้นคุณคิดว่าแบบนี้เป็นอย่างไร”“คุณได้นําที่ดินนี้กลับคืนจากตระกูลเซี่ยง น่าจะยังไม่ได้นำไปใช้ประโยน์ย่างอื่น ไม่สู้นำโรงงานพร้อมที่ดิน รวมถึงเครื่องมือที่อยู่ข้างใน ปล่อยเช่าให้กับผมทั้งหมด เป็นอย่างไร?””“ผมจะให้ราคาที่สูงกว่าตระกูลของเซี่ยงสิบเปอร์เซ็นต์”“อะไรนะ?”หลิวหย่งถลึงตาโต“ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้……” หลิวหย่งโบกไม้โบกมือเห็นว่าหลิวหย่งไม่ยินยอม หลินเฟิงขมวดคิ้วและพูดว่า: “งั้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ละเป็นไง?”“ไม่ใช่ครับ คุณหลินคุณเข้าใจผิดไปแล้ว”หลิวหย่งเห็นหลินเฟิงขึ้นราคา ก็รู้ทันทีว่าหลินเฟิงเข้าใจผิด เขาเลยรีบพูดไปว่า: “ในเมื่อคุณหลินต้องการ งั้นผมก็ไม่สามารถที่จะให้คุณตามราคาที่ตระกูลเซี่ยงได้ไปแน่นอน ไม่อย่างนั้นในใจของพวกเราก็จะรู้สึกไม่สบายใจ”“เอาแบบนี้นะครับ นับเฉพาะการเช่าที่ดิน ในราคาครึ่งหนึ่งของราคาตลาด”“โรงงานและเครื่องมือที่เหลือ ก็ไม่ใช่พวกเราที่จ่ายเงินเพื่อสร้างมัน คิดซะว่ามอบให้กับคุณหลินเฟิงไปเปล่า ๆ แล้วกัน คุณหลินอย่าปฏิเสธเด็ดขาด ไม่อย
“ส่งพวกคุณกลับไป? นี่มันเป็นเรื่องอะไรกัน?”เซี่ยงตงเซิงงงงวย น้ำเสียงของโอวหยางป๋อนี้ต่ำกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงขั้นมาขอร้องให้เขาช่วย นี่มันเกิดขึ้นอะไรขึ้นกันแน่?“ไม่ปิดบังกับผู้นำตระกูลเซี่ยง หลินเฟิงคนนี้พวกเราไม่สามารถที่จะต่อกลอนได้ ต่อให้เป็นสำนักเสินฉือก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะได้ ดังนั้นฉันพ่อลูกจึงรีบที่จะวางแผน กลับไปยังสำนักเสินฉือเพื่อเตือนกับเจ้าสำนัก หลังจากนั้นก็ค่อยจากไปจากสำนักเสินฉือ ห่างไกลจากการฆ่าฟัน”โอวหยางป๋อถอนหายใจออกมาเขามองดูไปยังเซี่ยงตงเซิงที่สีหน้างุนงงแล้วพูดว่า: “แผนการของฉันล้มเหลว ไม่เพียงแต่ที่จะโดนหลินเฟิงแย่งเอาไผ่กลืนทองไป แถมยังโดนเขาทำร้ายวิทยายุทธลมปราณภายในอีก”“แนะนําผู้นำตระกูลเซี่ยงสักประโยค คุณล้มเลิกความคิดที่ต่อต้านหลินเฟิงไปเถอะ ถ้าหากตระกูลเซี่ยงของคุณต้องการที่จะมีจะอยู่ต่อไป”“……”เซี่ยงตงเซิงบีบราวจับแน่น เกือบที่จะบีบเท้าแขนของเก้าอี้จนแตกละเอียดพวกไร้ประโยชน์! ทั้งหมดเป็นพวกที่ไร้ประโยชน์!ในดวงตาของเซี่ยงตงเซิงเต็มไปด้วยเส้นเลือด แทบจะคลุ้มคลั่งในทันทีสำนักเสินฉือที่ยิ่งใหญ่ของนาย แถมยังเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียนอันดับท
เขาตะโกนด้วยความโกรธ ตามองไปที่ลูกสาวของเขาที่กำลังร้องไห้ และตะโกนออกมาว่า “รีบหนีไป! ไม่ต้องสนใจพ่อ!”“เซี่ยงตงเซิง มันบ้าไปแล้ว ลูกรีบนำเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ไปบอกกับเจ้าสำนัก!”“อย่าให้เจ้าสำนักต้องไปเอาเรื่องหลินเฟิงเพียงเพราะชีวิตของพ่อ!”“ถ้าจะแก้แค้นให้พ่อ ก็ต้องมาหาเซี่ยงตงเซิง”“พ่อ!”โอวหยางชิ่งเศร้าและโกรธมาก เพราะการมาหาตระกูลเซี่ยงเป็นความคิดของเธอเองข้างกายของสองพ่อลูกไม่เหลือใครแล้ว โอวหยางชิ่งจําเป็นต้องรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อของเธอก่อน ป้องกันบาดแผลไม่ให้เป็นอันตรายถึงชีวิตเธอคิดว่าตระกูลเซี่ยงจะรับพวกเขาเข้ามาเพราะเห็นแก่เซี่ยงหลง แต่กลับไม่คิดว่าเซี่ยงตงเซิงนั้นจะบ้าขึ้นมาแบบนี้คิดไม่ถึงว่าจะย้อนกลับมาฆ่าพวกเขา และโยนความผิดทั้งหมดให้กับหลินเฟิง“ชิ่งเอ่อร์ รีบหนีไป!”โอวหยางป๋อได้เห็นธาตุแท้ของเซี่ยงตงเซิงอย่างชัดเจนแล้ว เซี่ยงตงเซิงที่ผมหงอกเต็มหัวคนนี้ได้เสียสติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในหัวสมองคิดแต่จะฆ่าหลินเฟิงได้อย่างไรตอนนี้เขาได้ตกอยู่ในมือของเซี่ยงตงเซิง แถมยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก อยากจะหนีไปนั้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้แล้ววิธีเดียวที่จะลดคว
ในเมื่อเรื่องมันมาถึงตอนนี้แล้วโอวหยางชิ่งจะเสียใจภายหลังก็ไม่มีประโยชน์อะไรสิ่งเดียวที่เธอต้องคิด ณ จุดนี้ คือการหนีออกไปจากตระกูลเซี่ยง เอาเรื่องตระกูลเซี่ยงฆ่าพ่อของเธอไปบอกกับสำนักเสินฉือไม่ให้เจ้าสำนักนั้นไปแก้แค้นหลินเฟิงแต่มาเอาเรื่องที่ตระกูลเซี่ยงสุดท้ายโอวหยางชิ่งใช้กำลังทั้งหมดที่มี ปีนกำแพงหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยงแต่ร่างกายภายนอกของเธอเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เนื่องจากจุดตันเถียนแตกสลายจนทำให้บาดเจ็บภายใน สติของเธอเริ่มพร่ามัวเล็กน้อยในตอนนี้คฤหาสน์ของตระกูลเซี่ยงนี้ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่อยู่บนเนินเขาในเขตชานเมืองหยางเฉิงเขาทั้งลูกต่างเป็นทรัพย์สินของตระกูลเซี่ยงโอวหยางชิ่งทั้งวิ่งและต่อสู้ ถูกไล่ล่าโดยผู้คุ้มครองของตระกูลเซี่ยง ในที่สุดก็วิ่งไปถึงขอบหน้าผา และไม่มีทางที่จะถอยได้แล้ว“โอวหยางชิ่ง คุณควรที่จะยอมจำนนและหยุดต่อต้านซะ!”“โอวหยางชิ่ง ว่าง่ายจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมันดีต่อคุณและผม!”กับการยั่วยุของผู้คุ้มกันตระกูลเซี่ยง ทำให้ใบหน้าของโอวหยางชิ่งนั้นแสดงท่าทีที่ดุร้าย เธอมองไปที่หน้าผาที่อยู่ข้างหลัง จุดต่ำสุดด้านล่างเป็นแม่น้ำเล็ก ๆ“เชอะ พว
“อ้อ……ที่โรงแรมจิ่วโจวแล้วกัน ตอนเย็นมีเพื่อนสมัยเรียนสองสามคนมาหาฉันพอดี คุณก็มาช่วยสมทบฉันด้วย”พูดจบประโยคนี้ ถังหว่านก็เอานิ้วพันรอบสายโทรศัพท์อีกครั้ง และพูดเสริมไปอีกว่า:“อ่อใช่ เพื่อนร่วมชั้นของฉันมีแต่สาวสวยนะ”“ชิ งั้นผมก็ไม่ไปแล้ว”“โอ๊ยคุณเนี่ยนะ”ถังหว่านหัวเราะด้วยท่าทีของหลินเฟิง และถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอกิ๊กของฉัน? คุณกลัวว่าความงามของฉันไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้เหรอ และคุณจะไปตกหลุมรักคนอื่นอย่างอดไม่ได้งั้นเหรอ?”“กิ๊กคืออะไร……”หลินเฟิงพูดอย่างจนใจ: “งานเลี้ยงของเพื่อนร่วมชั้นพวกคุณ ผมไม่ไปดีกว่า”“ฉันเคยพูดไปแล้วว่า ให้คุณไปเป็นหน้าเป็นตา เพื่อนร่วมชั้นของฉันมีสามีกันหมดแล้ว มีฉันที่ไปตัวคนเดียว ดูอึดอัดเกินไปหน่อย”ถังหว่านเบะปากพูด“เป็นยังไง ตกลงว่าคุณจะไปไหม”“ก็ได้”หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความจนใจ: “ดูเหมือนว่าวันนี้ที่คุณโทรมาหาผม ก็เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะสิน่ะ!”“ฉลาด”ริมฝีปากสีแดงของถังหว่านยกขึ้น และทำการวางโทรศัพท์ตั้งโต๊ะไป“ถังหว่าน ฉันไม่เตือนเธอไม่ได้หรอกนะ เธอเป็นคนที่มีคู่หมั้นแล้ว ทางที่ดีควรไปมาหาสู่กับไอ้ส
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ
“ตอนนี้ ฉันถามพวกนายตอบ”หลินเฟิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาจวงฉุน เหยียดมองลงที่ชายผู้ล้มอยู่บนพื้น และตกใจจนหน้าซีดเผือด“คุณ...คุณว่ามาครับ คุณว่า...ผม...ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”จวงฉุนในตอนนี้รู้สึกกลัวจนสติแตก ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่“เมื่อวาน อุปกรณ์ไฮเอนด์ล็อตหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป ถูกคนขโมยและทำลายระหว่างทาง...”“เป็นฝีมือพวกผม!”เมื่อจวงฉุนได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมา รีบยอมรับทันทีเขากราบหลินเฟิงไม่หยุดและพูดว่า:“ขอโทษครับคุณหลิน เรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำจริงๆ แต่เราแค่ถูกใช้เป็นปืนเท่านั้น! หลงซิ่วจากตระกูลหลงสั่งให้พวกเราทำ เขาสั่งให้พวกเราทำ พวกเราก็ไม่กล้าขัดคำสั่งนะครับ!”การได้ยินคำวิงวอนของจวงฉุนซึ่งแทบจะเป็นเหมือนการขอความเมตตาเริ่นโหย่วไฉที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอต้องรู้ไว้ว่า ผู้ชายคนนี้เคยคุยโม้กับเขามาก่อนว่า เขาทำได้ดีแค่ไหนและเผาผลาญมันได้คล่องแคล่วแค่ไหนท่าทางหยิ่งยโส มีท่าทางเหมือน “ถูกบังคับ” ที่ไหนกัน?แต่ตอนนี้เริ่นโหย่วไฉไม่กล้าที่จะพูดอะไรเกรงว่าจะเดินตามรอยของสวีโจวการตายแบบนี้ มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ
“พวกเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋ออีกต่อไป!”“ทุกคนฟังคำสั่งของฉัน ลุย!”คำสั่งของจวงฉุนมีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งของสวีโจวอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่แค่เพราะเงื่อนไขที่จวงฉุนเสนอมาดึงดูดพวกเขามากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้ถึงความสามารถของหลินเฟิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คนธรรมดาหลายคนรวมกันอาจเปรียบเป็นขงเบ้งได้ในความคิดของพวกเขา ความสามารถของหลินเฟิงเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็มองไม่เห็นแต่สิ่งที่เป็นความจริงคือพวกเขากลับสามารถมองเห็นข้อได้เปรียบของพวกเขาจากจำนวนคนบวกกับพลังอำนาจของหลงซิ่วด้วยหลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม นักบู๊ตระกูลหลงประมาณสิบกว่าคนในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว และล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้ทีละคนวันนี้สู้ดูสักตั้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องตาย!"แม่งเอ๊ย จวงฉุนไอ้สารเลวตัวน้อย!"ในที่เกิดเหตุมีเพียงสวีโจวเท่านั้น ที่รู้ว่าการปิดล้อมครั้งนี้เป็นการไปตายโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำเขาเกลียดจวงฉุนมาก จนถึงขั้นมีความคิดอยากฆ่าเขาด้วยซ้ำแต่ทว่าจวงฉุนกลับแสยะยิ้มมองดูสวีโจว และพูดอย่างเย็นชา:“สวีโจว อย่าทำเป็นเสแสร้งอยู่ตรงนี้ รอให้ภารกิจในครั้งน
"อะ......"จางฉุนไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดอะไร เขาพาคนเหล่านี้มาที่นี่ เป้าหมายเพียงเพื่อจับตัวอิ่นนั่วเจียไปเขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊และจัดการยากสักหน่อยเพราะงั้นถึงเรียกคนของตัวเองมาแต่อะไรที่เรียกว่า “พาผู้กระทำความผิดมาตรงหน้าเขาโดยตรง” ?ในตอนนี้เอง สวีโจวที่อยู่ไกลออกไปก็คำรามออกมาอย่างกะทันหัน“นาย... ฉันจำได้ นายคือหลินเฟิง! นายคือ... นายคือคนของหลี่ซื่อกรุ๊ป! หลินเฟิงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป!”"อะไรนะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้ จางฉุนก็หันหน้ามองไปที่หลินเฟิงด้วยสีหน้าที่น่าเหลือเชื่อเพราะเขาเคยได้ยินชื่อหลินเฟิงเขาได้ยินมาจากหลงซิ่วว่า ข้อห้ามประการเดียวในการปฏิบัติการครั้งนี้คือการปะทะกับหลินเฟิงตัวซวยคนนี้หลงซิ่วเตือนจางฉุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ระวังหลินเฟิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเกินความคาดหมายของเขา“โอ้? ดูท่าพวกคุณจะรู้จักผม”หลินเฟิงเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นรัศมีแห่งความหวาดกลัวก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา อุณหภูมิทั่วทั้งห้องทำงานก็ลดลงมากกว่าสิบองศาในพริบตาเดียวแม้แต่ชาที่มีไอร้อนลอยออกมาเมื่อครู่นี้บนโต๊ะ
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน