ในขณะที่ทุกคน รวมทั้งหลิวหย่งกำลังมึนงง หลินเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า:“ไม่ใช่แค่เหลือลมหายใจสุดท้าย ต่อให้พวกคุณจะไม่เหลือลมหายใจแล้ว ผมก็สามารถช่วยให้กลับมาได้”“เชี่ย!”“สุดยอด!”“ใจเด็ดมาก!”ในตอนที่ทุกคนต่างคิดว่าหลินเฟิงจะมีการถ่อมตัวเอาไว้ กลับคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดด้วยความมั่นใจในตัวเอง และพูดอย่างเต็มที่แบบนี้แม้แต่หลิวหย่งก็คาดไม่ถึงท่าทางที่มั่นใจตัวเองของหลินเฟิง ทำให้ส่งเสริมขวัญกำลังใจของพวกเขาอย่างมากในที่นี้ก็ไม่มีใครที่จะเกรงกลัวว่าตระกูลเซี่ยงจะวางยาพิษพวกเขาอีกทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มส่งเสียงร้องตะโกน จะแสดงอำนาจให้ตระกูลเซี่ยงได้เห็น“ถ้าไม่ซ่อนกลอุบายไว้ งั้นฉันก็ไม่กลัวหรอก!”“สหายทุกคน ไป ไปตระกูลเซี่ยงกัน!”“ไป!”คนกลุ่มหนึ่งขึ้นรถไปพร้อมกับส่งเสียงร้องตะโกน ขบวนรถยาวเหยียดสร้างภูมิทัศน์พิเศษสายหนึ่ง ดึงดูดผู้คนที่เดินไปมานับไม่ถ้วนให้หยุดมอง อันที่จริงความกังวลของหลิวหย่งนั้นถูกต้องในเวลานี้ที่โรงงานของที่หยุดทำการของตระกูลเซี่ยง ไป๋จินเต๋อโทรหาเซี่ยงตงเซิงที่ตัวอยู่ที่เมืองหยางเฉิงด้วยสีหน้าที่ลำพองใจ“น่าจ
“คิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยงยังจะวางกับดักไว้ให้ฉันจริง ๆ หากวันนี้คุณหลินไม่มาที่นี่ด้วย พวกเราเหล่าสหายอาจจะตกหลุมพรางตระกูลเซี่ยงไปแล้ว!”“ขอถามคุณหลิน เส้นไหมพวกนี้....”“เส้นไหมพวกนี้เป็นเพียงแค่ชั้นนอกสุด ปนเปื้อนพิษของหญ้าแมงมุมฟ้าเท่านั้น ทำให้คนที่ไปสัมผัสหมดสติโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตหรอก”หลังจากที่หลินเฟิงเข้าไปใกล้เพื่อสังเกตอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“มันก็เป็นแค่อุบายเด็ก ๆ เพียงแค่ใช้อาวุธฟาดออกไปข้างหน้า อย่าให้พิษบนเส้นไหมโดนผิวหนัง มันก็ไม่มีผลอะไรแล้ว”“ทุกคนได้ยินกันหมดแล้วนะ อย่าให้พิษเส้นไหมนั้นโดนผิวหนังของตัวเองเด็ดขาด!”หลิวหย่งหันหลังไปตะโกนใส่พวกลูกน้อง จากนั้นก็เขาก็เปิดทาง ยกมีดปังตอขึ้นแล้วโบกไปที่ด้านหน้า ทำให้เส้นไหมที่เดิมทีขึงตึงนั้นขาดออกจากกัน“หืม?”ภายในโรงงานในขณะนี้ ไป๋จินเต๋อที่เพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ของเซี่ยงตงเซิงขมวดคิ้วขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าตาข่ายป้องกันที่เขาขึงไว้นั้นถูกคนแตะต้อง ก่อนจะหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าเซียวคุนกับคนอื่น ๆจะมาหาถึงที่แล้วจริง ๆ และคิดจะเอาที่ดินเช่าโรงงานคืนด้วยแต่ใ
“ถอย!”หลิวหย่งรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะอวดดี ในเมื่อคุณหลินพูดแล้ว งั้นก็ควรจะเชื่อใจคุณหลิน ในเมื่อที่ดินอยู่ตรงนี้ ต่อให้หลินเฟิงอยากได้ก็เอาไปไม่ได้ดังนั้นเขาจึงถูกลูกน้องหามขึ้นมา แล้วพาหนีออกไปที่ด้านนอกของโรงงานในเวลานี้ พวกเขาเพิ่งจะมองเห็นหมอกควันสีน้ำเงินจาง ๆที่อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า“คุณหลินคนนั้นเป็นเทพจริง ๆด้วย ถึงได้มองเห็นทุกอย่าง”ลูกน้องคนหนึ่งเอาแขนที่ปิดปากปิดดจมูกออก แล้วพูดออกมาด้วยความตกตะลึง“ใช่แล้ว แถมยังมีความสามารถที่น่ากลัวอีกด้วย เมื่อครู่นายเห็นที่เขาเอาชนะพี่หย่งด้วยสองมือไหม เด็ดขาดว่องไว ไม่มีอืดอาดยืดยาดสักนิด”“เอาล่ะ หุบปากให้หมด!”เมื่อหลิวหย่งได้ยินว่าตัวเองเพิ่งจะถูกหลินเฟิงเอาชนะได้ ในใจก็เกิดความกลัวพร้อมกับสีหน้าที่แดงเล็กน้อยเขาเป็นลูกน้องที่เชี่ยวชาญในการรบมากที่สุดของเซียวคุนหลังจากที่เดินทางไปทั่วทุกที่เป็นเวลาหลายปี ก็ได้รับการกล่าวขาน แต่คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะโดนหลินเฟิงเอาชนะด้วยสองมือได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจเขาก็รู้สึกอับอายด้วยความโกรธและชื่นชมด้วยความยินด
หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างข่มขู่“ไม่...ไม่ใช่....”เหงื่อเย็นที่ไหลออกมาจากหน้าผากของไป๋จินเต๋อไม่หยุด เขาล้มเลิกความคิดที่จะเป็นศัตรูกับหลินเฟิงไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และในตอนนี้ความคิดแรกที่มองเห็นหลินเฟิงก็คือการวิ่งหนีหนีให้ไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!“ น่ารังเกียจจริง ๆ ไอ้สารเลวตัวน้อยจากตระกูลกู้คนนั้นไม่ใช่บอกว่าจะไปหาคนของตระกูลหลงให้มาฆ่าหลินเฟิงหรอกเหรอ? ทำไมเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกระโดดโลดเต้นได้อีกล่ะ?!”ไป๋จินเต๋อสาปแช่งอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ใบหน้าก็พยายามอย่างหนักที่จะฉีกรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ออกมา“ที่แท้ก็เป็นสหายน้อยหลินเฟิง ไม่ได้เจอกันนานเลย”“คุณไม่ได้เจอกับใครมานาน บัญชีของตระกูลเซี่ยง ผมยังไม่ได้คิดกับพวกคุณเลย!”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ด้วยเจตนาฆ่า“ไม่ ไม่ ไม่....”ไป๋จินเต๋อรีบโบกมือก่อนที่กลอกตาแล้วพูดว่า“สหายน้อยหลินเฟิง ตระกูลเซี่ยงของฉันก็กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ที่เซี่ยงหลงตาย ผู้นำตระกูลเซี่ยงตงเซิงก็กลับตัวกลับใจ ในตอนนี้เขาไม่เพียงแต่จะกินเจและสวดมนต์ทุกวัน แต่ย
“หยวนชี่ทั้งห้าของสำนักเสวียนเทียน?”ไป๋จินเต๋อรับรู้ถึงจังหวะการย่างก้าวชี่แท้ของหลินเฟิง“ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะรู้จักสำนักเสวียนเทียนด้วย”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและกำลังจะฆ่าไป๋จินเต๋อ แต่เมื่อเห็นไป๋จินเต๋อโบกมือด้วยความหวาดกลัวแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เพื่อนตัวน้อยหลิน อย่าฆ่าฉัน! ฉัน...ใช่เลย! ฉันสามารถจะบอกความลับของตระกูลเซี่ยงอย่างหนึ่งแลกกับชีวิตของฉัน!”“ความลับของตระกูลเซี่ยง?”หลินเฟิงยกฝ่ามือขึ้นมาเบา ๆด้วยความลังเลเล็กน้อย“ใช่แล้ว ใช่แล้ว”ไป๋จินเต๋อล้มลงไปกับพื้น กระแอมสองครั้งก่อนจะรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ตระกูลเซี่ยงกำลังมุ่งเป้าไปที่คุณสหายน้อยหลินเฟิง เพียงแค่คุณยกโทษให้ฉัน ฉันก็จะบอกความลับนี้กับคุณ”“พูด” หลินเฟิงมีสีหน้าที่เย็นชาเฉยเมย“สหายน้อยหลินเฟิง คุณจะรับรองชีวิตของฉันใช่ไหม?”“ไม่พูดมาตอนนี้ผมฆ่าคุณแน่ รีบพูดมา!”ลมปราณภายในมือของหลินเฟิงกลายเป็นชี่แท้ แรงกดดันมหาศาลทำให้ตาทั้งสองข้างของไป๋จินเต๋อเบิกกว้างด้วยควงามหวาดกลัว ในขณะที่กำลังขอความเมตตานั้นในใจของไป๋จินเต๋อก็รู้สึกโกรธมากเช่นกัน“ได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบเจอกับดาวปีศาจคนนี้ ฉัน
สีหน้าของหลินเฟิงเย็นชา จากนั้นชี่แท้ก็ออกจากร่างกาย คิดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นค้อนยักษ์โปร่งใสกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าใส่ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อ“คุณ!”เห็นได้ชัดว่าไป๋จินเต๋อไม่อยากที่จะยุ่งกับหลินเฟิง จึงกระโดดขึ้นจากพื้นไปสองฟุตทันที แล้ววิ่งหนีไปทางประตูโรงงานอย่างบ้าคลั่งก่อนจะใช้โอกาสนี้หลบค้อนพลังชี่แท้ของหลินเฟิงฝีมือความสามารถแข็งแกร่งอย่างนี้ ที่แท้อาการเจ็บหนักและท่าทางอ่อนแอเมื่อครู่เขาเสแสร้งออกมาทั้งหมด“คิดหนีเหรอ? สายไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าชี่แท้ของหลินเฟิงจะออกจากร่างกาย แต่มันก็ยังคงเชื่อมต่อกับหลินเฟิง และนี่ก็ความละเอียดอ่อนอันเป็นลักษณะพิเศษของหยวนชี่ทั้งห้าหลินเฟิงโบกมือ แล้วค้อนยักษ์พลังชี่แท้ก็พุ่งออกไปด้านข้างไป๋จินเต๋อและเหวี่ยงกลับมาในอากาศทันที“อะไรนะ?!”ไป๋จินเต๋อคิดว่าหลบการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงได้แล้วก็จะปลอดภัยแต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงยังจะสามารถควบคุมค้อนยักษ์พลังชี่แท้ได้อีก เขาถูกค้อนยักษ์พลังชี่แท้ที่ย้อนกลับมาโจมตีเข้าที่กลางหน้าอก ก่อนจะลอยออกไปพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช“อ้าก!”ที่หน้าอกของไป๋จินเต๋อยุบลง ก่อนที่เขาจะพ่นเลือดขึ้
หลิวหย่งยื่นมือออกไปสั่งการ ลูกน้องสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังรอจนทนแทบไม่ไหวตั้งนานแล้ว พากันลุกขึ้นยืนในมือของพวกเขามีอาวุธชนิดต่าง ๆ ทุกสายตาดูมีความตื่นเต้นอย่างมาก“คุณหลินได้แก้ปัญหาความกังวลของพวกเราแล้ว พวกขยะของตระกูลเซี่ยงที่เหลือเหล่านั้น พวกเรายังจะมีอะไรให้หวาดกลัวอีก?”“สหายทั้งหลาย บุกเข้าไปให้หมด!”“ลุยกัน!”หลิวหย่งเลียลิ้นสีแดงสด และตะโกนออกมาเสียงดัง จากนั้นก็นำหน้าบุกเข้าไปไปหานักสู้ของตระกูลเซี่ยงที่วิ่งออกมาจากโรงงาน ไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าด้วยกัน การต่อสู้ที่รุนแรงก็ได้ปะทุขึ้นหลินเฟิงไม่ได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ในเมื่อมันเป็นเรื่องของเซียวคุน ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องให้โอกาสคนของเซียวคุณได้แสดงฝีมือหน่อยหลินเฟิงหนีไปพร้อมกับร่างของไป๋จินเต๋อไปยังที่ห่างไกลออกไป และค้นพบยาพิษจำนวนมากที่บนตัวของไป๋จินเต๋อ และ "คัมภีร์ร้อยพิษ" เล่มหนึ่ง ยาพิษเหล่านี้ถูกหลินเฟิงเก็บเอาไว้คัมภีร์ร้อยพิษถูกหลินเฟิงเปิดออก เขาถูกยาพิษชนิดต่าง ๆ ที่บันทึกอยู่ด้านบน และวิธีการสกัดแมลงพิษต่าง ๆ ทำให้ตกตะลึงในทันทีถึงขั้นที่มียาพิษบางชนิด เขาแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ
หลินเฟิงส่ายหน้าและปฏิเสธทันที แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกวิธีที่ดีกว่านี้ขึ้นมาได้ จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางหลิวหย่ง: “งั้นคุณคิดว่าแบบนี้เป็นอย่างไร”“คุณได้นําที่ดินนี้กลับคืนจากตระกูลเซี่ยง น่าจะยังไม่ได้นำไปใช้ประโยน์ย่างอื่น ไม่สู้นำโรงงานพร้อมที่ดิน รวมถึงเครื่องมือที่อยู่ข้างใน ปล่อยเช่าให้กับผมทั้งหมด เป็นอย่างไร?””“ผมจะให้ราคาที่สูงกว่าตระกูลของเซี่ยงสิบเปอร์เซ็นต์”“อะไรนะ?”หลิวหย่งถลึงตาโต“ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้……” หลิวหย่งโบกไม้โบกมือเห็นว่าหลิวหย่งไม่ยินยอม หลินเฟิงขมวดคิ้วและพูดว่า: “งั้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ละเป็นไง?”“ไม่ใช่ครับ คุณหลินคุณเข้าใจผิดไปแล้ว”หลิวหย่งเห็นหลินเฟิงขึ้นราคา ก็รู้ทันทีว่าหลินเฟิงเข้าใจผิด เขาเลยรีบพูดไปว่า: “ในเมื่อคุณหลินต้องการ งั้นผมก็ไม่สามารถที่จะให้คุณตามราคาที่ตระกูลเซี่ยงได้ไปแน่นอน ไม่อย่างนั้นในใจของพวกเราก็จะรู้สึกไม่สบายใจ”“เอาแบบนี้นะครับ นับเฉพาะการเช่าที่ดิน ในราคาครึ่งหนึ่งของราคาตลาด”“โรงงานและเครื่องมือที่เหลือ ก็ไม่ใช่พวกเราที่จ่ายเงินเพื่อสร้างมัน คิดซะว่ามอบให้กับคุณหลินเฟิงไปเปล่า ๆ แล้วกัน คุณหลินอย่าปฏิเสธเด็ดขาด ไม่อย