จางกุ้ยหลานกลอกตาไปมา ไม่ได้เห็นหลี่ฮุ่ยหรานอยู่ในสายตาด้วยซ้ำเธอล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาหลินเฟิง......หลินเฟิงที่กลับไปถึงอ่าวเทียนสุ่ย ก็เริ่มกลั่นยาให้หลานเฟยอยู่ทีห้องใต้ดินแล้วในตอนนี้เอง จางกุ้ยหลานโทรศัพท์เข้ามาหลินเฟิงชะงักงัน และรับสายอีกฝ่ายของโทรศัพท์มีเสียงของจางกุ้ยหลานดังขึ้น: “หลินเฟิง ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”หลินเฟิงฟังจากน้ำเสียงของเธอ ก็ไม่ได้ไว้หน้าจางกุ้ยหลาน: “คุณมีธุระอะไรไหม?”จางกุ้ยหลานก็ขี้เกียจจะพูดมากกับเขา: “นายซื้อโสมมังกรหัวของตระกูลเถียนไปแล้วใช่ไหม?”“ใช่แล้วจะทำไม?”“โสมมังกรหัวต้นนั้นอยู่ที่ไหน? นายรีบเอามาส่งให้ฉัน ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานตอนนี้ต้องการใช้โสมนั่นด่วน”หลินเฟิงขมวดคิ้วแน่น ตอนนั้นที่เขาแต่งงานกับหลี่ฮุ่ยหราน ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานสักนิดถือว่าเป็นต้นตระกูลของตระกูลหลี่ ความสามารถไม่ธรรมดา มีลูกหลานมากมาย根本瞧不上江北李家分支。แต่ดูถูกดูแคลนตระกูลหลี่สาขาย่อยเมืองเจียงเป่ยเป็นอย่างมากไม่อย่างนั้นครอบครัวของหลี่ฮุ่ยหรานคงไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดนี้ตอนนี้คนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานต้องการโสมมังกรหัวต้นนี
โจวอวี้เฟิ่งได้ยินก็อดที่จะเร่งเร้าไม่ได้: “งั้นยังรออะไรอีก? รีบไปเร็วเข้าสิ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของฉัน พวกเธอจะแบกรับไหวไหม?”“ใช่ใช่ใช่” เมื่อจางกุ้ยหลานได้ยินแบบนี้ ก็รีบพูดกับลูกสาว “ฮุ่ยหราน ลูกรีบไปที่บ้านของหลินเฟิง แล้วเอาต้นโสมมังกรหัวมา”“แม่ หลินเฟิงจะเอาต้นโสมมังกรหัวให้พวกเราโดยไม่มีเหตุผลได้ยังไง?”หลี่ฮุ่ยหรานแบมืออย่างจนปัญญาตอนนี้จางกุ้ยหลานก็ไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น และพูดออกมาตรง ๆ “โอ๊ย เมื่อก่อนหลินเฟิงคนนั้นเคยเชื่อฟังลูก ลูกอยู่ต่อหน้าเขาก็แสดงท่าทีสักหน่อย เขาก็เชื่องเหมือนกับลูกสุนัขตัวหนึ่งและเอาโสมมังกรหัวมาให้ลูกแน่นอน”เห็นลูกสาวตัวเองไม่ยอมไป เธอเลยพูดอย่างจริงจัง: “ฮุ่ยหราน คราวนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของตระกูลหลี่ของพวกเราเลยนะ”“ลูกต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางแบบนี้ของแม่ตัวเองแล้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้: “หนูรู้แล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานทำได้เพียงนั่งรถไปหาหลินเฟิงคนเดียว......ภายในวิลล่าอ่าวเทียนสุ่ย หลินเฟิงใช้ประโยชน์จากโสมมังกรหัวกับวัตถุดิบยาจีนอื่น ๆ จนในที่สุดก็กลั่นเป็นยาเม็ดออกมาได้สำเร็จหลังจากเอาให
ตอนที่เขากำลังคิดว่าจะให้หลี่ฮุ่ยหรานเข้ามาดีไหมนั้นถังหว่านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เข้ามาพูดใกล้ ๆว่า: “ที่แท้ก็เป็นภรรยาเก่าของคุณ ทำไมถึงไม่ให้เธอเข้ามาล่ะ?”พูดจบก็กดปุ่มเปิดประตูหลินเฟิงกรอกตา ถังหว่านคนนี้ช่างสร้างเรื่องได้เก่งจริง ๆหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่อ่าวเทียนสุ่ยขมวดคิ้วเป็นปม คาดไม่ถึงเลยว่าถังหว่านก็อยู่ในบ้านของหลินเฟิงด้วยการก้าวเท้าของเธอเร่งเร็วขึ้นอย่างอดไม่ได้เมื่อถึงบ้านของหลินเฟิงแล้วมองเห็นถังหว่าน สีหน้าของเธอก็อึมครึ้ม “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ด้วย?”ถังหว่านยิ้มตาหยีก่อนจะพูดว่า “หลินเฟิงเป็นลูกน้องของฉัน ฉันเป็นห่วงลูกน้องนิดหน่อยจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“แต่เป็นคุณต่างหาก มาทำอะไรที่นี่?”หลี่ฮุ่ยหรานเงยหน้าเชิดอกแล้วพูดว่า “ ฉันก็มาดูสามีเก่าของฉัน มีปัญหาอะไรไหม?”“หึหึ ในเมื่อคุณยังรู้ว่าเป็นสามีเก่า แล้วไม่รู้จักที่จะหลีกเลี่ยงเลยงั้นเหรอ?” ถังหว่านพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“ฉันต้องหลีกเลี่ยงอะไร? ถึงแม้ฉันกับหลินเฟิงจะหย่ากัน แต่ฉันกับเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานใหม่”หลี่ฮุ่ยหรานพูดออกมาอย่างฉะฉาน “หรือคุณก็คือแฟนสาวของหลินเฟิง?”“ฉันเหรอ...ตอนนี้ยังไม่ใช่
หลินเฟิงพยักหน้าในเวลานี้เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ถังหว่านบอกเมื่อสักครู่เป็นความจริง“เมื่อสักครู่นี้ตอนที่แม่ของคุณโทรมาหาผม ผมได้นำโสมมังกรหัวกลั่นเป็นยาเม็ดแล้ว”ถึงแม้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะผิดหวังเล็กน้อยที่ได้ยิน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร โสมมังกรหัวไม่มีแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอายาเม็ดเปลี่ยนเป็นโสมมังกรหัวบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้ในเมื่อโสมมังกรหัวอันนี้ก็ไม่มีความหมายสำหรับเธอ และหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่ได้ผิดหวังมากนัก“งั้น...งั้นก็ช่างมันเถอะ”หลินเฟิงมองไปที่หลี่ฮุ่ยหราน และครุ่นคิดอยู่นานแล้วพูดขึ้น “ไม่รู้ว่าญาติของครอบครัวคุณป่วยเป็นโรคอะไร ผมสามารถช่วยไปดูให้ได้”“นี่....ช่างมันเถอะ หมอเทวดาพวกนั้นในเจียงเป่ยต่างก็รักษาไม่หาย...”เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานพูดแบบนี้ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนั้นพูดผิดและรีบเปลี่ยนคำพูด “ ความหมายของฉันก็คือ อาการป่วยของเธอร้ายแรง และหมอเทวดามากมายต่างก็พูดว่าจำเป็นต้องใช้โสมมังกรหัว”หลินเฟิงยิ้ม “ในตอนนั้นที่คุณปู่ป่วยหนักแทบจะไม่รอดก็เป็นผมที่รักษาหาย ็็็็นนนอย่างน้อยก็ต้องลองกันสักหน่อยไหม”หลี่ฮุ่ยหรานรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลินเฟิงทันที ในใจรู
“จบแล้ว มันจบแล้ว หรือว่าตระกูลหลี่ของพวกเราจะไม่สามารถกลับไปต้นตระกูลได้แล้วเหรอ??”โจวอวี้เฟิ่งเห็นแม่ลูกสองคนพึมพำจึงเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว “พวกเธอสองคนพูดอะไรกัน? โสมมังกรหัวอยู่ที่ไหน? รีบเอาออกมาเร็ว ๆสิ”หลี่ฮุ่ยหรานกล่าวอย่างฝืนใจ “คุณอาสะใภ้ โสมมังกรหัวถูกหลินเฟิงเอาไปใช้เรียบร้อยแล้ว”“อะไรนะ?” โจวอวี้เฟิ่งโมโหขึ้นมาด้วยความโกรธหลี่ฮุ่ยหรานรีบพูดว่า “แต่ว่าพวกคุณวางใจ ฉันได้เชิญหลินเฟิงมาด้วย”“หลินเฟิงมีความเชี่ยวญชาญในด้านการแพทย์ และสามารถรักษาอาการป่วยของหลานสาวได้แน่นอน””เธอล้อเล่นอะไร?”โจวอวี้เฟิ่งทำสีหน้ารังเกียจ แววตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม“หมอเทวดาที่เจียงหนานมีมากมายขนาดนั้นต่างก็ไม่สามารถรักษาอาการป่วยของลูกสาวฉันได้ ในเจียงเป่ยของพวกเธอมีใครที่จะสามารถรักษาลูกสาวได้อีก?”“ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือโสมมังกรหัว”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ปัญหาก็คือ ตอนนี้โสมมังกรหัวไม่มีแล้ว และหลินเฟิงคนนี้ก็มีทักษะการแพทย์ที่ไม่ธรรมดาด้วย”“ไม่แน่เขาอาจจะรักษาเยว่หรูให้หายจริง ๆ ก็ได้ ลองดูดีกว่าปล่อยให้เยว่หรูรอโสมมังกรหัวในครั้งต่อไป”
โจวอวี้เฟิ่งได้ยินก็เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ใช่แล้ว พวกเราตระกูลหลี่เจียงหนานอยู่เหนือกว่าคนอื่น ๆ”เธอชี้ไปหน้าของหลินเฟิงก่อนจะตะโกน “ตอนนี้ฉันให้โอกาสนายไถ่โทษ ขอโทษฉันกับลูกสาวของฉันซะ”โจวอวี้เฟิ่งมั่นใจในอำนาจของตระกูลตัวเองเป็นอย่างมาก ไอ้หมอนี่รู้แล้วว่าตัวเองคือคนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานแล้วยังไม่มาขอโทษเธออย่างว่าง่ายอีกแต่เธอก็ประเมินหลินเฟิงต่ำไปจริง ๆหลินเฟิงหัวเราะเยาะก่อนจะพูดว่า “ขอโทษพวกคุณฝันกลางวันหรือเปล่า? วันนี้อย่าพูดว่าให้ผมขอโทษคุณเลย แม้แต่การรักษาโรคของลูกสาวคุณก็อย่าได้คิดเลย”“ดีจริงไอ้หลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าไม่เห็นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของฉันอยู่ในสายตา”โจวอวี้เฟิ่งโกรธอย่างมากหลี่เยว่หรูที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยก็พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ แม่ พวกเราไม่ต้องให้เขารักษา หนูไม่เชื่อหรอกว่าบนโลกนี้จะไม่มีหมอเทวดาที่รักษาหนูจนหายได้”“นี่....”หวังไห่รีบห้ามปราม “คุณนายโจว โปรดสงบสติอารมณ์หน่อย ในตอนนี้มีหมอเทวดามาอยู่ตรงหน้าแล้ว อาการป่วยของคุณหลี่ก็จะหายดีเป็นปกติในทันที”“อีกทั้งพวกคุณยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้องมาก่อเรื่องราวใหญ่โตกับเรื
ตอนนี้เธอไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรกับหลินเฟิงแล้วเวลานี้โจวอวี้เฟิ่งกอดอกแล้วพูดด้วยใบหน้าเยาะเย้ย: “ไอ้สกุลหลิน ตอนนี้ฉันให้โอกาสนาย คุกเข่าแล้วมาขอร้องฉันดี ๆ บางทีฉันอาจจะพิจารณาให้ใช้เส้นสายของตระกูลหลี่เพื่อช่วยนายก็ได้นะ”“ถ้าไม่อย่างนั้น นายก็อาจจะตายอย่างน่าเวทนาก็ได้นะ”หลินเฟิงมีสีหน้าดูถูดเหยียดหยาม “ผมจำเป็นต้องให้คุณช่วยด้วยเหรอ? ไม่ดูสารรูปตัวเองซะบ้าง”“แก...”โจวอวี้เฟิ่งโกรธมาก เดิมก็คิดว่าตอนนี้หลินเฟิงจะต้องคุกเข่าร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนตัวเองให้ช่วยเขาแน่ ๆคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายคนนี้จะยังกล้าเยาะเย้ยตัวเองอีก“พูดมากขนาดนั้นทำไม? มากับพวกเราเร็ว ๆ” คนที่เป็นผู้นำพูดจบก็ควบคุมหลินเฟิงออกจากห้องผู้ป่วยหลินเฟิงก็ไม่ได้ต่อต้าน สถานที่นี้คือโรงพยาบาลและเขาก็ไม่ได้อยากต่อสู้ในสถานที่แบบนี้เช่นกันอีกทั้งเขาก็ต้องการที่จะดูว่าใครที่พุ่งเป้ามายังตัวเองมองดูหลินเฟิงถูกพาตัวไป หลี่ฮุ่ยหรานกระวนกระวายอย่างมากจากนั้นก็หันไปมองโจวอวี้เฟิ่งก่อนจะพูดว่า “อาสะใภ้ ขอร้องนะคะช่วยหลินเฟิงด้วยเถอะ ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะมีนิสัยดื้อรั้นนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นคนดีมาก เขาต้องถูกใส่ความแ
หลินเฟิงสายตามองไปที่เหยาปินที่สีหน้าเย็นชา เขาเคยได้ยินถึงชายคนนี้มาบ้าง เป็นตำรวจที่เก่งกาจอันดับหนึ่งของเมืองเจียงโจวเป็นคนที่มีความสามารถแข็งแรง และฝีมือโหดเหี้ยมใครก็ตามที่ถูกเขาเพ่งเล็งจะไม่สามารถหนีไปได้ แต่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนจากสำนักเสินฉือหลินเฟิงเอ่ยปากเตือนว่า: “คุณอยู่ที่เจียงโจวก็ถือได้ว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ทําไมต้องเป็นสุนัขของสำนักเสินฉือต่อไปล่ะ?”เหยาปินพอได้ยินเข้าก็หัวเราะ นึกว่าหลินเฟิงนั้นกลัวซะแล้ว ถึงได้พูดเสียดสีเขาจากนั้นเขาก็พูดอย่างเหยียดหยามว่า: “ไอ้หนุ่ม นายไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมฉัน ทำให้สำนักเสินฉือไม่พอใจ พูดได้เพียงว่าเป็นความโชคร้ายของนาย”“คนธรรมดาอย่างพวกนาย ไม่มีวันเข้าใจความน่ากลัวที่ซ่อนเร้นของโลกสำนักหรอก”“แต่นายวางใจได้ ผมจะพยายามทำไม่ให้คุณนั้นไม่รู้สึกเจ็บปวด และจะทำให้คุณโอวหยางนั้นพอใจ”หลินเฟิงหัวเราะออกมาว่า: “งั้นดูเหมือนว่า ผมจะต้องขอบคุณสิน่ะ?”“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”ในตอนนี้หลินเฟิงก็ได้พูดอีกว่า: “เรื่องความน่ากลัวที่ซ่อนเร้นของโลกสำนักนั้นผมเข้าใจอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนมาบ้างไหม? ”เห