พวกโจวเสี่ยวหางก็สะพายกระเป๋ารุ่นนี้ หลินเสวี่ยฮุ่ยถึงแม้อยากได้ตั้งนานแล้ว แต่เธอไม่มีเงินจริง ๆหลินเฟิงยิ้มพูด: “ไม่มีปัญหา เธอดูว่ามีเสื้อผ้าหรือของอย่างอื่นที่ต้องการอีกไหม ซื้อพร้อมกันซะเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็โบกมือติดต่อกันในทันที ”ไม่เอาหรอก ของในร้านนี้แพงมาก คุณซื้อกระเป๋าให้ฉัน ฉันก็ดีใจมากแล้ว”เธอทำใจให้หลินเฟิงใช้จ่ายเงินมากมายไม่ได้หรอกในเมื่อตั้งแต่เล็กเธอช่วยแม่ของเธอดูแลร้าน เธอรู้ดีมาก ๆ ว่าการหาเงินนั้นยากมากแค่ไหน”หลินเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ: ไม่เป็นไร วันนี้ฉันดีใจมาก คุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อเถอะค่ะ”เขาดีใจเป็นอย่างมาก หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ครอบครัวยากจน ไม่ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เห็นแต่ผลประโยชน์และแน่นอนว่าต้องเป็นเพราะจ้าวเฉียวอวิ๋นสั่งสอนมาดี“ฮะ! ไม่ต้องจริง ๆ ค่ะ อีกอย่างตอนนี้ฉันยังมีเสื้อผ้าอีก ซื้อเยอะแยะขนาดนั้นทำไมคะ” หลินเสวี่ยฮุ่ยท่าทางแน่วแน่หลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็พูดอะไรอีกไม่ได้ ทำได้แค่พยักหน้าเมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ชำระเงิน กระเป๋าสะพายข้างทั้งหมดราคาหกพันห้าร้อยบาท หลินเฟิงจ่ายเงินโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยในตอน
แม้แต่หลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างเมื่อมองไปแล้วก็ก้มหน้าลงด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็เอามือลูบจมูกของตัวเองไม่กล้าพูดอะไรมากหลี่ซืออวี่ชี้ไปทางชุดชั้นในตัวนั้น เป็นชุดนอนสีดำบางตัวหนึ่งดูยังไงก็มีความลามกอยู่เล็กน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยดึงหลี่ซืออวี่เอาไว้ทันที จากนั้นก็พูดเสียงเบา: “ชุดนี้ใส่ได้ยังไงกัน ไม่เอาดีกว่า”หลี่ซืออวี่ได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้น: “ชุดนี้ทำไมจะใส่ไม่ได้ ฉันคิดว่าสวยมากเลยนะ”พนักงานที่อยู่ข้าง ๆ รีบเดินเข้ามาพูด: “ใช่ค่ะ ชุดชั้นในรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของร้านของเราเลยนะคะ”“การออกแบบไม่เพียงทันสมัย เซ็กซี่ แถมยังสบายมาก ๆ ฉันเองก็ยังเคยซื้อเลยค่ะ”“ตอนนี้มีทั้งไซซ์ใหญ่ไซซ์เล็ก พวกคุณอยากจะลองไหมคะ?”หลี่ซืออวี่พูดกับหลินเสวี่ยฮุ่ยด้วยความใจเย็นเป็นอย่างมาก: “เสวี่ยฮุ่ย เธอดูชุดชั้นในแบบนั้นที่เธอใส่สิ ทั้งหนาทั้งขี้เหร่ ผู้ชายคนไหนดูแล้วจะชอบบ้างล่ะ?”“ให้ฉันพูดนะเธอซื้อชุดนี้เถอะ รับรองว่าผู้ชายเห็นแค่แวบเดียวก็ลืมไม่ลงหรอก”หลินเสวี่ยฮุ่ยใบหน้าร้อนผ่าว หางตาเหลือบมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆเมื่อเห็นหลินเฟิงหน้าแดงระเรื่อ เธอก็อยากจะลองดูบ้าง แต่ก้าวข้ามอุปส
เธอยืนอยู่ตรงหน้ากระจก ดวงตาคู่สวยเคลื่อนไหวไปมา จากนั้นก็ชื่นชมเรือนร่างของตัวเองอย่างอดไม่ได้“อืม...รูปร่างของฉันก็ไม่เลวเลยนี่นา”หลินเสวี่ยฮุ่ยยิ้มมุมปากเล็กน้อย และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเธอตัดสินใจที่จะซื้อตัวนี้แหละในตอนที่อยากจะถอดออกเธอกลับพบว่า ชุดชั้นในตัวนี้ทำยังไงก็ปลดไม่ออกเธอพยายามจับตะขอที่อยู่ตรงแผ่นหลังของตัวเอง พึงได้พบว่าตัวเองเหมือนจะล็อกตะขอตายเอาไว้หลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นตระหนก จากนั้นก็รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมากยิ่งอยากจะปลดตะขอ แต่กลับล็อกมันแน่นขึ้นบนหน้าผากก็ยิ่งมีเหงื่อไหลออกมาเธอเคาะประตูเบา ๆหลินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างนอกพูดขึ้นทันที: “มีอะไรเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่ภายในห้องลองเสื้อผ้าถามขึ้นเสียงเบา: “คือว่า...พี่เฟิง พนักงานขายอยู่ไหมคะ?”หลินเฟิงชะงักเล็กน้อย และหันหน้ามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่พบพนักงานร้านเลยด้วยซ้ำไม่รู้ว่าเธอไปไหนแล้วหลินเฟิงพูด: “เธอไม่อยู่ เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินว่าพนักงานขายไม่อยู่ ก็รู้สึกเก้กังเป็นอย่างมากเธอจึงถามเสียงเบา: “งั้นหลี่ซืออวี่ล่ะคะ?”“เธอไปลองเสื้อผ้าน่ะ ยังไม่ออกมา”“ฮะ?
หลินเสวี่ยฮุ่ยกุมชุดชั้นในที่เล็กกะทัดรัดที่อยู่ตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าก็แดงก่ำตอนนี้เธอปล่อยมือก็ไม่ใช่ ไม่ปล่อยมือก็ไม่ใช่คนทั้งคนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม จากนั้นก็มองหลินเฟิงที่อยู่ในกระจกห้องลองเสื้อผ้า ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เธอหลินเฟิงก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ จึงรีบหันหน้าไปทางอื่นพื้นที่ที่แคบและเล็กแบบนี้ ทั้งสองคนรู้สึกว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงโดยฉับพลันหลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดขึ้น: “คือว่า ฉันออกไปก่อนนะ...”ตะขอปลดออกแล้ว ตัวเองยังจะยืนอยู่ตรงนี้ทำอะไรอีกหลินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้าขณะเดียวกันหลี่ซืออวี่ก็เปลี่ยนชุดชั้นในเสร็จเรียบร้อยแล้วและก็เดินออกมา แต่กลับไม่เห็นหลินเฟิงและหลินเสวี่ยฮุ่ย ในใจก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย“เสวี่ยฮุ่ย เธออยู่ข้างในไหม?” หลี่ซืออวี่ถามขึ้นในตอนนี้ได้ยินเสียงของหลี่ซืออวี่ หลินเสวี่ยฮุ่ยกับดึงหลินเฟิงเอาไว้หลินเฟิงมองไปทางเธอด้วยสัญชาตญาณ เห็นเพียงแค่หลินเสวี่ยฮุ่ยส่ายหน้าติดต่อกันเธอไม่อยากให้หลี่ซืออวี่เห็นว่าเธอกับหลินเฟิงเบียดกันอยู่ในห้องลองเสื้อผ้าเดียวกัน ไม่อย่างนั้นจากความสามารถในการจินตนาการของหลี่ซืออวี่ ไม่แน่ว่าจะแต
ในตอนที่เขาเตรียมจะหลับตางีบ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างตกลงที่บนตัวของเขาเมื่อก้มหน้ามองดู หลี่ซืออวี่วางมือลงบนขาของเขาค้ำศอกค้ำตัวเอาไว้ คนทั้งคนเอนตัวมาทางเขาหลินเฟิงเหลือบมองเธอด้วยความนิ่งเฉยหลี่ซืออวี่ยิ้มบาง และตั้งใจดึงคอเสื้อที่หน้าอกของตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าจะโป๊เธอนั่งไขว่ห้าง ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอถอดรองเท้าส้นสูงที่อยู่บนเท้าออกตั้งแต่เมื่อไหร่ เท้าสวยที่สวมถุงน่องถูน่องของหลินเฟิงเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจ หลี่ซืออวี่เห็นเขาไม่ได้ตอบสนอง การเคลื่อนไหวของมือก็ใจกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆเธอลูบขาของหลินเฟิงขึ้นไปเรื่อย ๆเมื่อเห็นว่าจะลูบโดนเข็มขัดของหลินเฟิงแล้วแต่กลับถูกเขาจับเอาไว้หลินเฟิงขมวดคิ้วและพูดเสียงเบา: “เธอทำตัวดี ๆ หน่อย”หลี่ซืออวี่เผยรอยยิ้มสวยหยาดเยิ้มที่มุมปากออกมาถูกหลินเฟิงเตือนครั้งหนึ่ง ครั้งนี้หลี่ซืออวี่ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรอีกหลินเฟิงลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำจะไปฉี่หลี่ซืออวี่เห็นว่ามีโอกาส จึงลุกขึ้นเดินตามไปทันทีหลินเฟิงเดินเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันจะถอดกางเกง หลี่ซืออวี่ก็เบียดเข้ามาในห้องน้ำที่มีห้องกัน“เธอบ้าไปแล้วเหร
เมื่อบรรลุถึงเป้าหมายกับหลินเฟิง หลี่ซืออวี่ออกจากห้องน้ำไปด้วยความพึงพอใจอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่มาส่งถึงที่แบบนี้ หลินเฟิงไม่ได้มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้รังเกียจว่าหลี่ซืออวี่หน้าตาไม่สวยที่มากกว่านั้นก็เป็นเพราะผู้หญิงที่ไม่รักตัวเองแบบนี้ ทำเพื่อเงินแล้วสามารถขายได้ทุกอย่างหลินเฟิงยิ่งไม่มีทางใส่ใจกับเธอจนมากเกินไปนัก ถ้าหากวันไหนตัวเองถูกสวมเขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำเมื่อฉี่เสร็จ หลินเฟิงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พบว่าหลี่ซืออวี่ก็ยังรอเขาอยู่ที่หน้าห้องน้ำทั้งสองคนกลับไปยังโรงหนังแต่กลับพบว่าที่นั่งของตัวเองถูกคนยึดครองไปแล้ววัยรุ่นคนหนึ่งที่แต่งตัวโดดเด่นนั่งอยู่บนที่นั่งของหลินเฟิง และพยายามตีสนิทกับหลินเสวี่ยฮุ่ย: “คนสวย คุณก็มาดูหนังคนเดียวเหรอครับ? ไม่สู้พวกเราแอดเฟสบุ๊คกันดีกว่า”หลินเสวี่ยฮุ่ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างกายตัวเองมีคนแปลกหน้าเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่เธอรีบโบกมือปฏิเสธแล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องค่ะ ฉันมาด้วยกันกับพี่ชายของฉัน”“อ๋อ...งั้นก็ไม่เป็นไร คุณออกมาเที่ยวเหรอครับ?” วัยรุ่นจี้ถามอีกครั้งหลินเสวี่ยฮุ่ยก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายวัยรุ่นห
จากนั้นก็ชี้หน้าเขาและพูดด่าทอ: “ถ้านายไม่ดูหนังก็ไสหัวออกไปซะ”พูดจบ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของเขาออกไปทันทีโทรศัพท์เครื่องนั้นถูกเขวี้ยงจนแตกกระจายเสียงดัง “เพล้ง”เจี่ยงชุนหยางโมโหเป็นอย่างมาก: “แม่งเอ๊ย นั่นเป็นโทรศัพท์ผลไม้ 14 ที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่นะ”“แกแม่งกล้าโยนของฉัน”หลี่ซืออวี่ก็ด่าทอขึ้นอย่างอดไม่ได้: “ไอ้เวรที่ไหนกัน ถือโทรศัพท์ผลไม้แล้วคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่หรือไง? ของแค่ห้าหมื่นบาทยังกล้าเอาออกมาโอ้อวด รีบไสหัวไปเลย”“อย่ามารบกวนเจ๊ดูหนัง”ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ลูกคนรวยอย่างเจี่ยงชุนหยางแบบนี้เธออาจจะมองอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้หลี่ซืออวี่ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อยตัวเองเกาะหลินเฟิงได้แล้ว แต่ละเดือนได้เงินเดือนละห้าหมื่นบาทเป็นเรื่องง่ายดายมากเธอยังอยากจะยืมโอกาสในการดูหนังทำความใกล้ชิดกับหลินเฟิงให้มากขึ้นด้วย ไอ้ปัญญาอ่อนนี่พูดพึมพำอยู่นั่นแหละ ทำให้แผนการของเธอถูกขัดขวางจนหมดในตอนนี้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะดูหนังแล้วอารมณ์ของทุกคนถูกเจี่ยงชุนหยางทำให้หงุดหงิด เมื่อเห็นหลินเฟิงตบหน้าเจี่ยงชุนหยาง ไม่ต้องพูดเลยว่าพวกเขาสะใจมากแค่ไหน และแทบอยากจะเข้าไปตบหน
“อย่าพูดจนมั่นใจเกินไป นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” หลินเฟิงพูดอย่างไม่รีบร้อน“แกเป็นใครแล้วจะทำไมวะ? นี่คือถิ่นของฉัน”เจี่ยงชุนกวงพูดด้วยความจองหอง: “ลุยเลย อย่าทำร้ายโดนคนสวยสองคนนั้นล่ะ”เขาออกคำสั่ง พวกรปภ. ที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งไปทางหลินเฟิงทันทีหลินเฟิงเพียงแค่เหลือบมองหลินเสวี่ยฮุ่ยกับหลี่ซืออวี่อย่างเรียบเฉย และพูดเสียงแข็ง: “ถอยไป”หลี่ซืออวี่ดึงหลินเสวี่ยอวี่ถอยไปอยู่ตรงมุมด้วยความรู้งานเป็นอย่างมาก“ไอ้หนุ่ม ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” หัวหน้ารปภ. ตวาดด้วยความโมโหแล้วพุ่งเข้ามาหลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็ยกมือขึ้นต่อยไปทางหัวหน้ารปภ. คนนั้นจนล้มคว่ำกับพื้นคนทั้งคนเหมือนกับลมที่พัดแรง เคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางกลุ่มรปภ. แต่ละหมัดที่เหวี่ยงออกไปเบามาก แต่ต้องมีคนหนึ่งที่ล้มลงชั่วลมหายใจเดียว หลินเฟิงก็ต่อยจนรปภ. หลายคนล้มคว่ำอยู่บนพื้นแต่ละคนโอดครวญด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด“พี่เฟิงเจ๋งไปเลย” หลี่ซืออวี่ที่อยู่ด้านข้างเหมือนจะคาดการณ์ไว้ได้ตั้งนานแล้วว่าจะมีตอนจบแบบนี้เธออดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจหลินเฟิง“แม่งเอ๊ย...” เจี่ยงชุนกวงสองพี่น้องเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“ระหว่างตระกูลใหญ่ เรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือสร้างความแค้นเล็กๆ แล้วทำลายเรื่องสำคัญ เพิ่มช่องว่างและขัดขวางความสัมพันธ์”แววตาของหลงยวนลึกซึ้ง แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า :“แต่ผมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะทำไม่ใช่มองหาความแค้นเล็กๆ แต่เป็นการสร้างหมากรุกขึ้นมา”“หากแผนของหลงเซียวสำเร็จ อย่างมากก็แค่ให้ตระกูลถังรู้สึกหวาดกลัวและออกจากเมืองจิงไป”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลงยวน พ่อบ้านก็สับสนเล็กน้อย“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง หากไม่อยู่ในเมืองจิง แบบนั้นยังจะเรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิงได้อย่างไร?”“ผิดแล้ว”หลงยวนพูดอย่างเย็นชาว่า :“สิ่งที่เรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง ไม่ได้เป็นเพียงอำนาจที่คุณเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น”“ยกตัวอย่าง ตระกูลหลินที่แทบจะสูญหายไปแล้ว”“คฤหาสน์ที่เมืองจิงของตระกูลหลินที่ตั้งอยู่นั้นแทบจะรกร้าง มีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมด และไม่มีใครทำความสะอาด แต่คุณกล้าพูดไหมว่าตระกูลหลินไม่ใช่หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวย?”“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไร้เดียงสาเกินไป”หลงยวนเงยหน้า สายตาแสดงความลุ่มลึกออกมา“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง เบื้องหลังของทุกตระกูลต่
เมืองจิง คฤหาสน์ตระกูลหลงเวลานี้หลงยวนถือหนังสือคัมภีร์ไว้ในมือ พร้อมกับเดินท่องบทไปมานี่คือการลงโทษที่ผู้นำตระกูลหลงมอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ และเขาจะต้องท่องคัมภีร์ห้าสิบเล่มให้ได้ จึงจะปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกได้อีกครั้งหลงยวนก็ไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย และอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเพื่อท่องหนังสือคัมภีร์“คุณชายหลงยวน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ในเวลานี้ พ่อบ้านตระกูลหลงเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้น?”หลงยวนจำเป็นต้องท่องให้เสร็จเรียบร้อยนั้น ถึงได้หันไปมองทางพ่อบ้านตระกูลหลงคนนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของพ่อบ้านตระกูลหลงจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่หลงยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ถึงขั้นที่ไม่สามารถอ่านความคิดจากใบหน้าของเขาได้เลย“คุณชายหลงหยวน เมื่อครู่พวกเราได้รับแจ้งจากตระกูลซือหม่าว่าคุณหนูหลงเซียวถูกฆ่าตายแล้ว!”“ที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด!”พ่อบ้านตระกูลหลงหน้าตาเศร้าเสียใจ“ถูกคนฆ่า?!”ในแววตาของหลงยวนมีความเย็นชาวาบผ่าน เขาจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลหลงและพูดว่า :“เล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ”“คุณชายหลงยวน คือแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูห
เขาในฐานะผู้นำตระกูลถัง จึงมองเป้าหมายของคนเหล่านี้ออกในฐานะผู้ทำการค้าที่แท้จริง คนเหล่านี้ไม่อยากเปิดศึกกับตระกูลหลง อยากจะปกป้องถิ่นฐานของตัวเองเอาไว้ถ้าหากจะเปิดศึก งั้นก็หวังว่าจะยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้เต็มที่แต่ถังเจี้ยนหยวนรู้ว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เป็นการยืนรอความตายชัดๆ แต่คนเหล่านี้หัวโบราณเกินไปยินยอมยืนรอความตาย ก็จะไม่ยอมขาดทุนนี่เป็นสันดานเลวที่มีเฉพาะผู้ทำการค้า“เอาล่ะ ถังจวิน นายออกไปเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”ถังเจี้ยนหยวนโบกมือ บอกให้ถังจวินออกไปถังจวินทำความเคารพ และหันหลังเดินจากไป“เฮ้อ...”ถังเจี้ยนหยวนกลับมานั่งลงตรงตำแหน่งของผู้นำตระกูล จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆตระกูลหลงทำขนาดนี้แล้ว แต่ตระกูลถังยังคงแตกแยกกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตัวเองจะเสียหาย ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมาสู้รบกับตระกูลหลงด้วยซ้ำต้องรู้ไว้ว่าตระกูลถังในฐานะตระกูลการค้าสามารถกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจิงประเทศมังกรได้ เช่นนั้นเรื่องที่มีอิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่รูปแบบของตระกูลถังแตกต่างจากตระกูลอื่นๆ เป็นอย่างมาก
“ตู้ไหว”หลินเฟิงมองตู้ไหวที่จะหนีไป จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คุณไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน”“อืม หวังว่าเป็นงั้นนะครับ”ตู้ไหวมองไปทางหลินเฟิงแล้วเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา จากนั้นพาลูกน้องของตัวเองหนีจากทั้งหมดเหลือเพียงถังจวินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และคนตระกูลหลงที่กลายเป็นซอสเนื้อ“หลินเฟิง คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?!”“วันนี้นายจำเป็นต้องบอกกับฉัน!”ถังจวินโมโหจนมุ่งหน้าเข้ามา และดึงคอเสื้อของหลินเฟิงเค้นถามหลงเซียวตายแล้วถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร หน่วยลับของตระกูลถังก็จะต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครเชื่อว่านักเลงที่ผ่านมากลุ่มหนึ่งจู่ๆ เกิดความคิดจะฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลงมีแต่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยลับตระกูลถังนี่มันเป็นการจับถังจวินและหน่วยลับตระกูลถังคนอื่นๆ ขึ้นเตาเผาอย่างไม่ต้องสงสัยถึงเวลาคนชั้นสูงของตระกูลถังถามขึ้นมา พวกเขาอธิบายได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เห็นท่าทางลนลานของถังจวิน หลินเฟิงยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และส่ายหน้าพูดว่า:“เป็นสุนัขรับใช้จนติดนิสัยแล้วเหรอ?”“พวกนายคิดว่าใครก็เป็นเหมือนพวกนายงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห