จากนั้นก็ชี้หน้าเขาและพูดด่าทอ: “ถ้านายไม่ดูหนังก็ไสหัวออกไปซะ”พูดจบ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของเขาออกไปทันทีโทรศัพท์เครื่องนั้นถูกเขวี้ยงจนแตกกระจายเสียงดัง “เพล้ง”เจี่ยงชุนหยางโมโหเป็นอย่างมาก: “แม่งเอ๊ย นั่นเป็นโทรศัพท์ผลไม้ 14 ที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่นะ”“แกแม่งกล้าโยนของฉัน”หลี่ซืออวี่ก็ด่าทอขึ้นอย่างอดไม่ได้: “ไอ้เวรที่ไหนกัน ถือโทรศัพท์ผลไม้แล้วคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่หรือไง? ของแค่ห้าหมื่นบาทยังกล้าเอาออกมาโอ้อวด รีบไสหัวไปเลย”“อย่ามารบกวนเจ๊ดูหนัง”ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ลูกคนรวยอย่างเจี่ยงชุนหยางแบบนี้เธออาจจะมองอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้หลี่ซืออวี่ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อยตัวเองเกาะหลินเฟิงได้แล้ว แต่ละเดือนได้เงินเดือนละห้าหมื่นบาทเป็นเรื่องง่ายดายมากเธอยังอยากจะยืมโอกาสในการดูหนังทำความใกล้ชิดกับหลินเฟิงให้มากขึ้นด้วย ไอ้ปัญญาอ่อนนี่พูดพึมพำอยู่นั่นแหละ ทำให้แผนการของเธอถูกขัดขวางจนหมดในตอนนี้คนที่อยู่รอบ ๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะดูหนังแล้วอารมณ์ของทุกคนถูกเจี่ยงชุนหยางทำให้หงุดหงิด เมื่อเห็นหลินเฟิงตบหน้าเจี่ยงชุนหยาง ไม่ต้องพูดเลยว่าพวกเขาสะใจมากแค่ไหน และแทบอยากจะเข้าไปตบหน
“อย่าพูดจนมั่นใจเกินไป นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” หลินเฟิงพูดอย่างไม่รีบร้อน“แกเป็นใครแล้วจะทำไมวะ? นี่คือถิ่นของฉัน”เจี่ยงชุนกวงพูดด้วยความจองหอง: “ลุยเลย อย่าทำร้ายโดนคนสวยสองคนนั้นล่ะ”เขาออกคำสั่ง พวกรปภ. ที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งไปทางหลินเฟิงทันทีหลินเฟิงเพียงแค่เหลือบมองหลินเสวี่ยฮุ่ยกับหลี่ซืออวี่อย่างเรียบเฉย และพูดเสียงแข็ง: “ถอยไป”หลี่ซืออวี่ดึงหลินเสวี่ยอวี่ถอยไปอยู่ตรงมุมด้วยความรู้งานเป็นอย่างมาก“ไอ้หนุ่ม ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” หัวหน้ารปภ. ตวาดด้วยความโมโหแล้วพุ่งเข้ามาหลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็ยกมือขึ้นต่อยไปทางหัวหน้ารปภ. คนนั้นจนล้มคว่ำกับพื้นคนทั้งคนเหมือนกับลมที่พัดแรง เคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางกลุ่มรปภ. แต่ละหมัดที่เหวี่ยงออกไปเบามาก แต่ต้องมีคนหนึ่งที่ล้มลงชั่วลมหายใจเดียว หลินเฟิงก็ต่อยจนรปภ. หลายคนล้มคว่ำอยู่บนพื้นแต่ละคนโอดครวญด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด“พี่เฟิงเจ๋งไปเลย” หลี่ซืออวี่ที่อยู่ด้านข้างเหมือนจะคาดการณ์ไว้ได้ตั้งนานแล้วว่าจะมีตอนจบแบบนี้เธออดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจหลินเฟิง“แม่งเอ๊ย...” เจี่ยงชุนกวงสองพี่น้องเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ถึงเวลาเขาจ่ายเงินนิดหน่อยใช้เส้นสายจัดการก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้วเขาแสร้งทำเป็นตกตะลึงแล้วพูดขึ้น: “อย่าสิสหาย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ทำไมคุณต้องเดือดร้อนไปจนถึงเชิงถังด้วยล่ะ”“หุบปาก” หลินเฟิงตบไปที่ใบหน้าของเขาเจี่ยงชุนกวงเลือดไหลออกจากมุมปาก ในใจก็แอบด่าทอ: แม่งเอ๊ย ให้เกียรติแล้วยังจะไม่สนใจอีกนะหลินเฟิงโทรศัพท์ไปยังห้องทำงานประธานเชิงถังทันที แต่ว่าในตอนนี้ถังหว่านไม่อยู่ คนที่รับสายก็คือเลขาน้อยของถังหว่านเธอรู้ถึงความสัมพันธ์ของถังหว่านกับหลินเฟิงเป็นอย่างดี เมื่อได้ยินเสียงของหลินเฟิงก็พูดด้วยความเคารพทันที: “คุณหลินมีธุระอะไรไหม?”“ผู้จัดการของเชิงถังพลาซ่าชื่อว่าอะไร”เลขาน้อยรีบตรวจสอบดุ: “เจี่ยงชุนกวง”“ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานอย่างมาก สามารถเรียกรปภ. ยี่สิบกว่าคนมาลงมือกับผมได้ โชคดีที่ผมเคยฝึกฝนมาก่อน นี่ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่น ๆ พบเจอกับคนแบบนี้จะไม่ถูกตีตายพอดีเหรอ”หลินเฟิงน้ำเสียงแฝงไปด้วยความโมโหเลขาน้อยตกตะลึงอย่างมาก: “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”“ขอโทษ คุณหลิน นี่เป็นความสะเพร่าของพวกเรา ฉันจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้ จะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเข้มงวดแน่นอน” เลขาน้อ
“นั่นเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้นายไม่ได้เป็นแล้ว” หูเหล่ยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีการปล่อยให้ลังเล“หูเหล่ย คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?” เจี่ยงชุนกวงโมโหในทันทีไอ้หมอนี่ชาติชั่วจริง ๆ เมื่อก่อนตัวเองดูแลเขาขนาดนั้น ตอนนี้กลับจะขายเขาซะแล้ว“เพียะ”หูเหล่ยก็เด็ดขาดและชัดเจน ยกมือขึ้นตบหน้าทันที จากนั้นก็ถีบไปที่หน้าอกของเขา“อ้าก...” เจี่ยงชุนกวงกลิ้งไปรอบหนึ่งถึงจะหยุดร่างกายเอาไว้ได้หูเหล่ยพูดเสียงเย็นชา: “สัญญานี้นายเซ็นหรือไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร เชิงถังจะฟ้องร้องนาย นายรอติดคุกได้เลย”“หูเหล่ย นี่มันสัญญาบ้าบออะไร ฉันไปขัดแย้งกับหุ้นส่วนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำให้เกิดผลเสียต่อบริษัท นายมีสิทธิ์อะไรไล่ฉันออก?”เจี่ยงชุนกวงยืนขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ และต่อว่าอย่างไม่ยุติธรรมหูเหล่ยชี้หน้าเขาแล้วพูดด่าทอ: “แกแม่งฟังฉันให้ดีนะ ท่านนี้หลินเฟิง คุณหลินคือหุ้นส่วนของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง เป็นพันธมิตรของคุณหนูถัง พูดอีกอย่างเขาก็คือหัวหน้าของนาย”“อะไรนะ?” เจี่ยงชุนกวงได้ยินคำพูดนี้ก็งุนงงในทันที จากนั้นก็มองไปทางหลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง?”เจี่ยงชุนกวงรีบมองไปทางหูเหลย: “คุณไ
ฉินอิ๋งเกาหัวแล้วพูดขึ้น: “ฉันกลับรู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้นะ”“ในเมื่อพวกเราสองตระกูลมีความแค้นต่อกันมากมาย”“แล้วจะยังไงล่ะ ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนก็มีวิธีรับมือ ตอนนี้พวกเรากองกำลังใหญ่โต มีอะไรให้ต้องกลัว” ถังหว่านพูดอย่างสบายใจฉินอิ๋งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย คิดว่าคุณหนูใหญ่พูดได้มีเหตุผลนิดหน่อยตัวเองไม่ใช่คนที่จะเป็นหัวหน้าได้ มีบางครั้งคิดเยอะเกินไปผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูห้องชาก็ถูกคนผลักออกเซี่ยงตงเซิงเดินเข้ามาก่อน ด้านหลังของเขายังมีหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเดินตามมานั่นก็คือเซี่ยงหลงลูกคนโตของตระกูลเซี่ยง“คุณหนูถังมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ ผมไม่ได้ต้อนรับด้วยตัวเอง เสียมารยาทจริง ๆ ครับ” เซี่ยงตงเซิงหัวเราะเสียงดังถังหว่านก็เผยรอยยิ้มมืออาชีพออกมาแล้วพูดขึ้น: “เถ้าแก่เซี่ยงงานยุ่ง จะเหมือนกับคนว่างงานอย่างฉันที่ไหนกันคะ”“ไม่ทราบว่าคุณเซี่ยงครั้งนี้เรียกฉันมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”เซี่ยงตงเซิงหัวเราะเยาะ: “ครั้งนี้ไม่ได้เป็นผมที่ต้องการพบคุณหนูถัง แต่เป็นลูกชายของผม”พูดจบ เซี่ยงหลงก็นั่งลงตรงข้ามทั้งสองคนจากนั้นก็เงยหน้ามองทั้งสองคน
อีกฝ่ายไม่ได้มาดี ฉินอิ๋งก็ไม่ไว้หน้าแม้แต่นิดเดียวอีกทั้งเธอยังสามารถรับรู้ได้ว่าเซี่ยงหลงเป็นคนที่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา หากไม่ลงมือเต็มที่ ตัวเองอาจจะไม่สามารถเอาชนะได้เมื่อเห็นว่ามีดพกในมือของตัวเองกำลังจะฟันผ่านคอของเขาเซี่ยงหลงก็เคลื่อนไหวในทันที มือที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าแม้กระทั่งฉินอิ๋งก็มองการเคลื่อนไหวของเขาได้ไม่ชัดเจน จู่ ๆ เธอก็รู้สึกปวดที่ข้อมืออย่างรุนแรงมีเสียงดังขึ้น “โครม”เซี่ยงหลงจับข้อมือของฉินอิ๋งกระแทกลงบนโต๊ะน้ำชาทันที จากนั้นก็แย่งมีดพกในมือของฉิงอิ๋งไปแทงเข้าไปที่ฝ่ามือของฉิงอิ๋งอย่างแรง“อ๊ะ...”ฉิงอิ๋งส่งเสียงกรีดร้องออกมา ฝ่ามือที่ถูกตอกไว้กับโต๊ะน้ำชา มีเลือดไหลออกมาจากกลางฝ่ามือใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว แขนที่สั่นเทา ในใจที่ตื่นตัวมากพอ เธอคิดในใจว่าระวังมากพอแล้ว แต่ก็ยังคาดไม่ถึงว่าความแตกต่างของเธอกับคุณชายตระกูลเซี่ยวจะมากถึงขนาดนี้เซี่ยงหลงมองไปที่ฉินอิ๋งด้วยความเหยียดหยาม “สาวน้อย นี่คุณอยากจะฆ่าผมเหรอ?”เซี่ยงตงเซิงเห็นความสามารถของลูกชายตัวเองก็ดีใจมาก ต้องรู้ไว้ว่าฉิงอิ๋งคนนี้เป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรีฉินที่มีความสามารถที่ไม่ธรร
เซี่ยงตงเซิงพูดอย่างเหยียดหยาม “สาวน้อย ตรงนี้ไม่มีสิทธิ์ให้เธอพูดจา”ถังหว่านมองไปทางฉินอิ๋งแล้วพูดเสียงเบา “ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ตระกูลเซี่ยงจะไม่ฆ่าฉันหากยังไม่ได้ตำรับยาประสานพลังมาก่อน”“ฉันไม่มีทางเป็นอะไร เธอรีบกลับบ้านไปแจ้งพ่อแม่ของฉันให้พวกเขาเตรียมเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทให้พร้อม หลังจากนั้นก็แจ้งให้หลิงเฟิงรู้ ให้เขาเอาตำรับยาประสานพลังกับเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทมาช่วยฉัน”ตอนนี้เธอก็เชื่อได้แค่ว่าหลินเฟิงจะสามารถช่วยตัวเองได้ฉิงอิ๋งเห็นแบบนี้ก็ทำได้เพียงแต่พยักหน้าอย่างจนปัญญามองดูถังหว่านถูกคนตระกูลเซี่ยงพาขึ้นรถไป ฉิงอิ๋งก็ไม่กล้าที่จะอืดอาดยืดยาดแม้แต่น้อย เธอรีบโทรศัพท์ไปหาหลินเฟิงทันที......หลินเฟิงที่อยู่ที่อ่าวเทียนสุ่ยได้รับสายโทรศัพท์จากฉิงอิ๋งก็ตกตะลึงคิดไม่ถึงว่ากลางวันแสก ๆ ถังหว่านจะถูกคนลักพาตัวไปแล้ว แม้แต่ฉินอิ๋งก็ยังได้รับบาดเจ็บด้วยถึงแม้ว่าฉิงอิ๋งจะไม่ใช่อัจฉริยะด้านการต่อสู้ แต่หลังจากที่เรียนรู้วิธีการปล่อยพลังหัตถ์สายฟ้าก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จัดการฉินอิ๋งได้ในวินาทีเดียวดูท่าว่าตระกูลเซี่ยงจะมีผู้มีฝีมือสูงสินะเขาไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ก่อน
ผู้หญิงที่เป็นผู้นำคนนั้นมีรูปร่างผอมเพรียวและยังสวมหน้ากากสีดำขลับ ตาทั้งสองข้างเหมือนกับนกอินทรี เฉียบคมไม่ธรรมดาสวมเสื้อหนังรัดรูปและดูมีความทะมัดทะแมงอย่างมากหลินเฟิงนับจำนวนดูแล้วก็พบว่าที่ด้านหลังของเธอยังมีอีกยี่สิบกว่าคนเขากับฉินเซี่ยวเทียนพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ไม่ได้”“ทำไมล่ะ” หลินเสวี่ยเยี่ยนไม่เข้าใจอย่างมากหลินเฟิงอธิบายว่า “จำนวนคนมากเกินไปก็เป็นภาระ เป้าหมายหลักของพวกเราคราวนี้ก็คือเพื่อไปช่วยถังหว่าน ไม่จำเป็นต้องพาคนไปมากขนาดนี้หรอก”ฉินเสี่ยวเทียนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่แล้ว อีกอย่างถ้าพวกเราพาคนไปมากขนาดนี้ ตระกูลเซี่ยงจะต้องระแวงอย่างแน่นอน”หลายเฟยได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกเหยียมหยามในใจ “ภาระ? ฉันดูแล้วพวกคุณต่างหากที่เป็ฯภาระ? ช่วยคุณหนูออกมา แค่พวกเราก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณเข้าแทรก”“คุณ....” ฉินเสี่ยวเทียนพูดไม่ออก สายน้อยคนนี้ ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสินะหลินเสวี่ยเยี่ยนพูดขึ้นในทันที “นายกรัฐมนตรีฉินอย่าได้ถือโทษ บุคคลนี้เป็นปรมาจารย์อันดับที่ยี่สิบในการจัดอันดับโลก อีกทั้งยังเป็นผู้คุ้มกันของตระกูลถัง มีความสามารถอยู่บ้าง”ฉินเสี่