ในระหว่างที่ฟาดฟันเหมือนกับจะฉีกอากาศให้ขาดออกและทำให้เกิดลมเป็นระยะ ๆหลินเฟิงมือไขว้หลังแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็แวบหลบอย่างยอดเยี่ยมพลังกระบี่ที่แข็งแกร่งแต่ละครั้งไหลผ่านผิวหนังของเขาเขาเป็นเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ไม่ว่ากระบวนท่ากระบี่ของเหยนควานจะประณีตแค่ไหนก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อยเหยนควานยิ่งสู้ยิ่งตกตะลึงความรวดเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?”“พ่อ พ่อไม่ต้องออมมือ รีบฆ่าเขาซะ”“หุบปาก” เหยนควานตวาดด้วยความโมโหเขาอยากจะฆ่าหลินเฟิงให้เร็วหน่อยอยู่แล้วหลินเฟิงพูดเย้ยหยันไม่หยุด: “นี่ก็คือวิชากระบี่ของสำนักอวี้เจี้ยนของพวกคุณเหรอ? ก็งั้น ๆ แหละ”“ไอ้สารเลว ยังกล้าดูถูกสำนักอวี้เจี้ยนเหรอ?”เหยนควานสายตาแน่นิ่งกำลังภายในทั้งหมดรวบรวมไปที่ข้อมือ“ฉันดูสิว่านายจะหลบอย่างไร”“หงส์ร่อนนกการำ”เหยนควานแทงกระบี่ออกไปทันที ข้อมือสั่นอย่างรุนแรงตัวกระบี่ก็สั่นเป็นอย่างมาก และส่งเสียงสั่นออกมาเป็นระยะสายตามองไป ก็เห็นว่าคมกระบี่เล่มนั้นเหมือนกับกลายเป็นกระบี่นับสิบเล่มไม่สามารถแยกแยะสภาพความเป็นจริงได้เลย เหมือนกับหงส์ร่อนนกการำบิ
“ซี้ด...หลินเฟิงคนนี้มีความสามารถอะไรกันแน่นะ? ฉินเซี่ยวเทียนตกตะลึงตาค้าง มองไปทางหลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ“แม่เจ้า!” ฉินอิ๋งกลืนน้ำลาย ในดวงตามีความอิจฉาแวบผ่านแม้แต่ถังหว่านก็รู้สึกตะลึงงันอย่างอดไม่ได้ หลินเฟิงคนนี้ทำลายความรู้ของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจริง ๆหลินเฟิงวางเท้าลง คนทั้งคนล่องลอยมาตรงหน้าของเหยนควานเยหนควานยังอยากจะสู้กลับหลินเฟิงตบไปที่ไหล่ของเขา“แกร่ก” กระดูกหัวไหล่ของเหยนควานแตกละเอียดทันที“อ้าก...”เหยนควานเจ็บจนหน้าตาเหยเก สีหน้าดุดันจนน่าหวาดกลัว“คุณแพ้แล้ว”หลินเฟิงมองดูเขาอย่างเรียบเฉย“คุณฆ่าตัวเองหรือว่าจะให้ผมช่วยคุณจัดการ?”เหยนควานหายใจอย่างแรง เขาไม่อยากจะเชื่อ และยิ่งไม่เข้าใจว่าตัวเองจะแพ้ให้กับวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งได้อย่างไรเขาฝึกวิชาต่อสู้มาสามสิบปีอย่างเสียเปล่าให้เขาฆ่าตัวเองนั้นไม่มีทาง“แกนับประสาอะไรกันถึงได้กล้าให้ฉันฆ่าตัวเอง?”“ลุยเลย ฆ่ามันให้ฉันซะ”ลูกศิษย์ของสำนักอวี้เจี้ยนกรูกันเข้ามา เขาไม่เชื่อว่าหลินเฟิงจะสามารถรอดไปได้ทุกคนกำลังจะเข้าไปฆ่าหลินเฟิงก็ได้ยินเสียงดังสะเทือนของเครื่องยนต์ดังมาจากข้างนอ
คำพูดของเขามีความหมายแฝงเป็นอย่างมากแต่ฉินเซี่ยวเทียนก็เข้าใจคนผู้นี้ รับรายงานจากผู้ไม่ประสงค์ลงนาม คนผู้นั้นน่าจะเป็นหลินเฟิงสินะเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก จากนั้นก็พยักหน้า: “กัปตันเสิ่นลำบากแล้วครับ มีอะไรต้องการให้ผมรับผิดชอบไหมครับ?”เสิ่นหานพูดออกคำสั่ง: “ควบคุมคนของสำนักอวี้เจี้ยนทั้งหมดเอาไว้ก่อน ผมรับผิดชอบตรวจสำนวนและตัดสินคดี”“รับทราบ” ฉินเซี่ยวเทียนรับคำสั่ง และช่วยคนของเสิ่นหาน ควบคุมลูกศิษย์สำนักอวี้เจี้ยนเหล่านี้ไปขึ้นรถทั้งหมด“ช้าก่อน ผมคือผู้นำสำนักอวี้เจี้ยน พวกคุณเป็นใครกัน? มีสิทธิ์อะไรจับผม?” เหยนควานถูกทหารสองคนกดลงที่พื้นสองมือถูกพลิกและมัดเอาไว้เขาโตมาขนาดนี้ไม่เคยได้รับการดูถูกขนาดนี้มาก่อนเสิ่นหานได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว และเดินไปตรงหน้าของเขาหมัดหนึ่งถูกปล่อยออกไปบนจุดตันเถียนของเขาเหยนควานหน้าแดงก่ำในทันที ดวงตาถลนออกมา น้ำย่อยในกระเพาะพุ่งขึ้นมาเสิ่นหานออกแรงจับเอาไว้ นิ้วมือเหมือนกับเท้าของเหยี่ยวเหยนควานร้องเสียงหลงอย่างน่าอนาถ“ตอนนี้ผมมีสิทธิ์แล้วยัง?” เสิ่นหานสีหน้าเย็นชาและถามด้วยความดุดันเหยนควานตกใจจนตัวสั่น และมีเหงื่อไหลออกมาเห
“หืม?” เสิ่นหานได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีต้องรู้ไว้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายหลินเฟิงคนไหนบ้างที่ไม่ใช่สาวงามหน้าตาดีเขาหันกลับไปและกวาดตามองถังหว่านกับฉินอิ๋งที่ยืนอยู่ด้านข้างหลินเฟิง หน้าตาไม่เลวเลยจริง ๆถ้าหากเป็นแบบนี้ งั้นฉินเซี่ยวเทียนคนนี้อนาคตไม่แน่อาจจะกลายเป็นพ่อตาของหลินเฟิงก็ได้คิดได้ถึงตรงนี้ท่าทางของเสิ่นหานเปลี่ยนไปในทันที“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองเหรอ แต่ว่าคุณชายหลินเคยสั่งเอาไว้ว่า สถานะของเขาห้ามพูดซี้ซั้ว”เสิ่นหานยิ้มพูด: “แต่ว่าผมสามารถบอกใบ้ให้คุณได้”ฉินเซี่ยวเทียนพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส: “กัปตันเสิ่นพูดมาได้เลยครับ”“คุณเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนเมืองหนานไห่ไหม?”ฉินเซี่ยวเทียนเกาหัว เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้รายละเอียดชัดเจน”เขาเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนเมืองไห่หนานมาบ้างเหมือนว่าจะเป็นสำนักใหญ่ที่เก่าแก่เป็นอย่างมาก เดาว่าคงจะเก่งกาจกว่าสำนักอวี้เจียนอย่างมากเสิ่นหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ: “คุณชายหลินเพียงแค่กระทืบเท้า ก็ทำให้บุคคลของสำนักเสวียนเทียนหวาดกลัวได้”“ห๊ะ?”ฉินเซี่ยวเทียนตกตะลึงอย่างมาก
ฉินเซี่ยวเทียนพูดด้วยความโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจฉินอิ๋งได้ฟังก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ของพ่อเหมือนว่าจะมีเหตุผลจริง ๆ นั่นแหละบางที ตัวเองอาจจะลองดูได้จริง ๆ......ขณะเดียวกัน ถังหว่านขับรถอยู่แล้วถามขึ้น: “หลินเฟิง ดูท่าคุณปิดบังต่อฉันเอาไว้ได้ลึกมากเลยนะ”หลินเฟิงยิ้มบาง: “ผมจะปิดบังอะไรคุณได้?”“คุณยังเสแสร้งกับฉันอีก เสิ่นหานคนนั้นมีสถานะอะไร ตำแหน่งอะไร เขาทำไมถึงเคารพต่อคุณขนาดนี้?”หลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉย: “ผมก็แค่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาเอาไว้ ดังนั้นเขาถึงได้เกรงใจผมขนาดนี้”“ฉันไม่เชื่อ”หลินเฟิงยักไหล่: “ถ้าหากคุณไม่เชื่อ งั้นผมก็ช่วยไม่ได้”ถังหว่านโมโหจนอยากตบคน เธอจี้ถาม: “งั้นฉันถามคำถามสุดท้ายกับคุณ จากความสามารถของคุณ สามารถจัดการกับผู้มีฝีมือของตระกูลเก่าแก่เหล่านั้นของเมืองจิงตูได้หรือไม่?”“เมืองจิงตูนับประสาอะไร ช่วงที่ผมอยู่จุดสูงสุด สี่ตระกูลใหญ่ของเมืองจิงตูก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของผม” หลินเฟิงพูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก“คุณโม้เกินไปหน่อยหรือเปล่า?”ถังหว่านมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัยตระกูลถังของพวกเธอก็เป็นสี่ตระกูลใหญ่เมืองจิงตู ผู้มีฝีมือสูงเหล่านั
ถังหว่านยิ้มพูด: “จู่ ๆ ตอนนี้ฉันเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเฟิงจะต้องช่วยคุณอย่างเต็มที่ทุกครั้ง”“คุณโง่จนน่ารักจริง ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงักงัน: “คุณหมายความว่าอย่างไร?”“ไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันเพียงแค่อยากจะบอกคุณว่า ตั้งแต่ต้นจนจบฉันไม่เคยเลี้ยงดูหลินเฟิงมาก่อน”ถังหว่านโบกมือด้วยความน่าเบื่อ“ไม่ได้เลี้ยง?” เห็นได้ชัดว่าหลี่ฮุ่ยหรานไม่เชื่อคำพูดของถังหว่าน“งั้นทำไมคุณถึงช่วยเหลือหลินเฟิงอยู่ตลอด?”“ฉันเพียงแค่ชื่นชมความสามารถและนิสัยของหลินเฟิงเฉย ๆ”ถังหว่านยันคางเอาไว้แล้วพูดขึ้นหลี่ฮุ่ยหรานกลับไม่เชื่อคำพูดบ้าบอกของเธอถังหว่านมองสีหน้าแบบนี้ของเธอแล้วรู้สึกขำ: “ฉันบอกกับคุณตั้งนานแล้ว ความสามารถของหลินเฟิงมีเกินกว่าที่คุณคิดไว้ แต่น่าเสียดาย ที่คุณไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน”“ถ้าหากคุณหลี่ไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันก็ขอตัวก่อนนะคะ”ถังหว่านลุกขึ้นช้า ๆ“นี่ งั้นต่อไปคุณห้ามตามตื๊อหลินเฟิงอีก” หลี่ฮุ่ยหรานรีบพูด“หึหึ คุณหลี่ คุณกับหลินเฟิงหย่าร้างกันแล้ว หลินเฟิงจะคบกับใครก็เป็นอิสระของเขา”ถังหว่านยิ้มเหยียดหยาม: “คุณควรจะไปเกลี้ยกล่อมเขา ไม่ใช่มาข่มขู่ฉัน”หลี่ฮุ่ยห
สะสมทรัพย์สินเอาไว้ได้ไม่น้อย เขาก็หวังเป็นอย่างมากว่าลูกชายจะสืบทอดมรดกของเขาตอนนี้ยาปรับประสานพลังโด่งดังอย่างมาก ได้ยินว่าคนที่วิจัยและผลิตยาปรับประสานพลังก็คืออดีตสามีของหลี่ฮุ่ยหราน เขาจึงอยากให้ลูกชายของเขาเอาตำรับยามาจากหลี่ฮุ่ยหรานแต่น่าเสียดายที่แผนการล้มเหลวแล้วหลี่ว์เจิ้งหยางพูดด้วยความเก้กัง: “พ่อ หลี่ฮุ่ยหรานไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับหลินเฟิงด้วยซ้ำ อีกอย่างหลี่ฮุ่ยหรานระมัดระวังเป็นอย่างมาก”“เธอวางแผนจะรอให้คุณปู่ตระกูลหลี่จัดงานวันเกิดเสร็จแล้วค่อยพิจารณาเรื่องการลงทุน”หลี่ว์เฉิงเลี่ยงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “งั้นแกก็คิดหาวิธีเข้าทางคุณปู่ตระกูลหลี่ พยายามเอาตำรับยาปรับประสานพลังมาให้ได้เร็ว ๆ หน่อย”“ผมรู้แล้วครับพ่อ...”หลี่ว์เจิ้งหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูท่าเขาจะต้องไปงานวันเกิดของคุณปู่ตระกูลหลี่สักหน่อยแล้ว......ขณะเดียวกัน หลินเฟิงที่เพิ่งฝึกวิทยายุทธเสร็จก็ขับรถมายังตลาดขายวัตถุโบราณเมืองเจียงโจวงานวันเกิดของคุณปู่เขาไม่มีทางลืมอยู่แล้วปกติคุณปู่ชอบเล่นของเก่าเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เขาไม่ได้ให้จ้าวเทียนหัวไปซื้อแต่คิดจะมาเลือกด้วยตนเอง ในเมื่อขอ
“เพล้ง” เครื่องลายครามสีฟ้าขาวที่อยู่ในมือแตกละเอียดในทันที“แม่งเอ๊ย”หลี่ว์เจิ้งหยางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นก็หันหน้ามองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ห่างจากเขาสองเมตรเต็ม ๆ“ไอ้สกุลหลิน แกกล้าขัดขาฉันเหรอ?”หลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ก็หัวเราะเยาะทันที: “คุณเนี่ยนะน่าขำซะจริง ๆ ตัวเอง ตัวเองเดินล้มเอง ยังมีหน้ามาโทษผมอีก?”“แกพูดจาไร้สาระ ฉันเดินอยู่ดี ๆ จู่ ๆ จะล้มลงได้อย่างไร?”หลี่ว์เจิ้งหยางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและถลึงตาใส่หลินเฟิง: “ต้องเป็นแกที่เล่นไม่ซื่อลับหลังแน่นอน”“วันนี้แกต้องชดใช้เครื่องลายครามของฉัน”หลินเฟิงพูดด้วยใบหน้าเย็นชา: “นายเอาหน้ามาจากไหนที่จะเอาเงินจากฉัน? ไสหัวไป”หลี่ว์เจิ้งหยางเห็นหลินเฟิงจะเดินไป เขาก็เข้าไปห้ามเอาไว้ทันที จากนั้นก็เอะอะโวยวาย: “วันนี้แกต้องชดใช้เงินให้ฉัน ไม่ชดใช้เงินก็อย่าคิดที่จะจากไป”“ใครก็ได้ ทุกคนมาดูสิ ไอ้หมอนี่ทำแจกันดอกไม้ของผมแตก แต่กลับไม่อยากชดใช้เงิน นี่ยังมีกฎหมายอยู่ไหม”คนที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหลี่ว์เจิ้งหยาง ก็ล้อมรอบเข้ามาดูความครึกครื้นหลินเฟิงหัวเราะเยาะ และจ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยาง อยากจะให้เขาชดใช้เงินนั
“ระหว่างตระกูลใหญ่ เรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือสร้างความแค้นเล็กๆ แล้วทำลายเรื่องสำคัญ เพิ่มช่องว่างและขัดขวางความสัมพันธ์”แววตาของหลงยวนลึกซึ้ง แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า :“แต่ผมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะทำไม่ใช่มองหาความแค้นเล็กๆ แต่เป็นการสร้างหมากรุกขึ้นมา”“หากแผนของหลงเซียวสำเร็จ อย่างมากก็แค่ให้ตระกูลถังรู้สึกหวาดกลัวและออกจากเมืองจิงไป”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลงยวน พ่อบ้านก็สับสนเล็กน้อย“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง หากไม่อยู่ในเมืองจิง แบบนั้นยังจะเรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิงได้อย่างไร?”“ผิดแล้ว”หลงยวนพูดอย่างเย็นชาว่า :“สิ่งที่เรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง ไม่ได้เป็นเพียงอำนาจที่คุณเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น”“ยกตัวอย่าง ตระกูลหลินที่แทบจะสูญหายไปแล้ว”“คฤหาสน์ที่เมืองจิงของตระกูลหลินที่ตั้งอยู่นั้นแทบจะรกร้าง มีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมด และไม่มีใครทำความสะอาด แต่คุณกล้าพูดไหมว่าตระกูลหลินไม่ใช่หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวย?”“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไร้เดียงสาเกินไป”หลงยวนเงยหน้า สายตาแสดงความลุ่มลึกออกมา“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง เบื้องหลังของทุกตระกูลต่
เมืองจิง คฤหาสน์ตระกูลหลงเวลานี้หลงยวนถือหนังสือคัมภีร์ไว้ในมือ พร้อมกับเดินท่องบทไปมานี่คือการลงโทษที่ผู้นำตระกูลหลงมอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ และเขาจะต้องท่องคัมภีร์ห้าสิบเล่มให้ได้ จึงจะปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกได้อีกครั้งหลงยวนก็ไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย และอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเพื่อท่องหนังสือคัมภีร์“คุณชายหลงยวน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ในเวลานี้ พ่อบ้านตระกูลหลงเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้น?”หลงยวนจำเป็นต้องท่องให้เสร็จเรียบร้อยนั้น ถึงได้หันไปมองทางพ่อบ้านตระกูลหลงคนนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของพ่อบ้านตระกูลหลงจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่หลงยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ถึงขั้นที่ไม่สามารถอ่านความคิดจากใบหน้าของเขาได้เลย“คุณชายหลงหยวน เมื่อครู่พวกเราได้รับแจ้งจากตระกูลซือหม่าว่าคุณหนูหลงเซียวถูกฆ่าตายแล้ว!”“ที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด!”พ่อบ้านตระกูลหลงหน้าตาเศร้าเสียใจ“ถูกคนฆ่า?!”ในแววตาของหลงยวนมีความเย็นชาวาบผ่าน เขาจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลหลงและพูดว่า :“เล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ”“คุณชายหลงยวน คือแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูห
เขาในฐานะผู้นำตระกูลถัง จึงมองเป้าหมายของคนเหล่านี้ออกในฐานะผู้ทำการค้าที่แท้จริง คนเหล่านี้ไม่อยากเปิดศึกกับตระกูลหลง อยากจะปกป้องถิ่นฐานของตัวเองเอาไว้ถ้าหากจะเปิดศึก งั้นก็หวังว่าจะยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้เต็มที่แต่ถังเจี้ยนหยวนรู้ว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เป็นการยืนรอความตายชัดๆ แต่คนเหล่านี้หัวโบราณเกินไปยินยอมยืนรอความตาย ก็จะไม่ยอมขาดทุนนี่เป็นสันดานเลวที่มีเฉพาะผู้ทำการค้า“เอาล่ะ ถังจวิน นายออกไปเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”ถังเจี้ยนหยวนโบกมือ บอกให้ถังจวินออกไปถังจวินทำความเคารพ และหันหลังเดินจากไป“เฮ้อ...”ถังเจี้ยนหยวนกลับมานั่งลงตรงตำแหน่งของผู้นำตระกูล จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆตระกูลหลงทำขนาดนี้แล้ว แต่ตระกูลถังยังคงแตกแยกกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตัวเองจะเสียหาย ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมาสู้รบกับตระกูลหลงด้วยซ้ำต้องรู้ไว้ว่าตระกูลถังในฐานะตระกูลการค้าสามารถกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจิงประเทศมังกรได้ เช่นนั้นเรื่องที่มีอิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่รูปแบบของตระกูลถังแตกต่างจากตระกูลอื่นๆ เป็นอย่างมาก
“ตู้ไหว”หลินเฟิงมองตู้ไหวที่จะหนีไป จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คุณไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน”“อืม หวังว่าเป็นงั้นนะครับ”ตู้ไหวมองไปทางหลินเฟิงแล้วเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา จากนั้นพาลูกน้องของตัวเองหนีจากทั้งหมดเหลือเพียงถังจวินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และคนตระกูลหลงที่กลายเป็นซอสเนื้อ“หลินเฟิง คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?!”“วันนี้นายจำเป็นต้องบอกกับฉัน!”ถังจวินโมโหจนมุ่งหน้าเข้ามา และดึงคอเสื้อของหลินเฟิงเค้นถามหลงเซียวตายแล้วถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร หน่วยลับของตระกูลถังก็จะต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครเชื่อว่านักเลงที่ผ่านมากลุ่มหนึ่งจู่ๆ เกิดความคิดจะฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลงมีแต่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยลับตระกูลถังนี่มันเป็นการจับถังจวินและหน่วยลับตระกูลถังคนอื่นๆ ขึ้นเตาเผาอย่างไม่ต้องสงสัยถึงเวลาคนชั้นสูงของตระกูลถังถามขึ้นมา พวกเขาอธิบายได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เห็นท่าทางลนลานของถังจวิน หลินเฟิงยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และส่ายหน้าพูดว่า:“เป็นสุนัขรับใช้จนติดนิสัยแล้วเหรอ?”“พวกนายคิดว่าใครก็เป็นเหมือนพวกนายงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห