“คุณหลินไม่มีชิปแล้วเหรอคะ?”ไป๋ชิงเฉี่ยนมองดูหลินเฟิงที่แพ้จนหมดเกลี้ยงแล้วถามขึ้น“ที่ฉันยังมีอยู่เล็กน้อย คุณเอาไปใช้ก่อนก็ได้ค่ะ”หลินเฟิงรีบโบกมือแล้วพูดขึ้น: “ไม่จำเป็นครับ ผมก็แค่เล่นผ่าน ๆ ไปเท่านั้นเองครับ”“ชิงเฉี่ยน คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรครับ?” ในตอนนี้มีเสียงที่โดดเด่นดังขึ้นเห็นแค่ว่าชายสวมชุดสูทคนหนึ่งสาวเท้าเดินเข้ามาหลินเฟิงจ้องมองไป เขาก็คือเหยนจวิ้นคุณชายของตระกูลเหยน“หลินเฟิง? คิดไม่ถึงว่าคุณก็มาด้วย”เหยนจวิ้นแสร้งทำเป็นตกตะลึง: “เที่ยวเล่นที่นี่พึงพอใจไหมครับ?”ในตอนนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนพูดอธิบาย: “งานเลี้ยงในวันนี้เหยนจวิ้นเป็นคนจัดงานค่ะ”หลินเฟิงได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นถิ่นของตระกูลเหยนในตอนนี้เหยนจวิ้นพูดขึ้นกับไป๋ชิงเฉี่ยน: “ชิงเฉี่ยน ผมพาคุณไปรู้จักเพื่อนคนอื่น ๆ นะครับ”ไป๋ชิงเฉี่ยนกลับพูดเสียงเบา: “ไม่เอาดีกว่า คนพวกนั้นฉันไม่รู้จักสักเท่าไหร่”เหยนจวิ้นพูดต่อ: “ไม่เอาสิครับ คุณเป็นถึงบุคคลสำคัญในวันนี้ อีกอย่างมีเพื่อนเยอะก็มีเส้นสายเพิ่มมากขึ้น”“ในอนาคตคุณเป็นถึงคนที่จะแต่งงานเข้าตระกูลเหยน รู้จักเพื่อนของผมเอาไ
“คุณก็แค่ถือว่ามีตระกูลถังค้ำหนุนคุณอยู่เบื้องหลัง ถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ?”หลินเฟิงมองเขาอย่างเหยียดหยามแล้วพูดดูถูก: “แล้วจะทำไม? ไม่เหมือนคุณ คุณไป๋เธอไม่อยากสนใจคุณ คุณกลับเป็นเหมือนกับหมาที่ประจบสอพลอ”“นาย...”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็โมโหเป็นอย่างมากเหยนจวิ้นอดกลั้นความโมโหในใจแล้วพูดขึ้น: “หึ เป็นแบบนั้นแล้วจะทำไม ไป๋ชิงเฉี่ยนจะเป็นผู้หญิงของฉันไม่ช้าก็เร็ว รอให้ฉันแต่งงานกับไป๋ชิงเฉี่ยนเรียบร้อย ฉันจะทำอย่างไรกับเธอก็ทำอย่างนั้น”“ถึงเวลาฉันจะมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกมากมายเท่าไหร่ เธอก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”“ส่วนนายกลับเป็นได้แค่หมาของตระกูลถังตลอดไป”หลินเฟิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา: “คำพูดประโยคนี้ถ้าให้คุณไป๋ได้ยิน เกรงว่าเธอคงจะผิดหวังอย่างมากนะ”“ฮ่าฮ่าฮ่า...การแต่งงานเกี่ยวดองของฉันกับตระกูลไป๋เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”เหยนจวิ้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากสองตระกูลแต่งงานเกี่ยวดองกัน พวกเราไม่เห็นตระกูลถังอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ”“ตอนนี้นายมอบหัวใจมังกรใต้พื้นดินออกมา ถึงเวลาฉันยังสามารถพิจารณาไว้ชีวิตแกได้”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะ
“เกิดอะไรขึ้น?” ในตอนนี้เองถังหว่านกับฉินอิ๋งรีบตามกลับมาพบว่าที่ชั้นสองมีคนล้อมรอบอยู่มากมาย จึงตามเข้ามาร่วมครึกครื้นด้วยเหยนจวิ้นจึงพูดขึ้นทันที: “คุณถัง เพื่อนที่คุณพามายั่วยุสำนักอวี้เจี้ยนของผมแถมยังลงมือทำลายวัตถุโบราณของตระกูลเหยนของเราด้วย”“ผมลงมือห้าม เขาก็ยังกล้าทำร้ายคน เรื่องนี้เกรงว่าวันนี้คุณจะต้องให้คำอธิบายที่เหมาะสมกับผมหน่อยแล้วล่ะ”“อะไรนะ?”ถังหว่านได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากจึงรีบมองไปทางหลินเฟิงรู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอรู้จักนิสัยของหลินเฟิงเป็นอย่างดี จึงไม่เชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของเหยนจวิ้นอยู่แล้ว“หลินเฟิงนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”หลินเฟิงสองแขนกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน: “ไอ้หมอนี่อยากได้หัวใจมังกรใต้พื้นดินของผม ผมไม่ให้ เขาก็เลยแย่งชิงกันซึ่ง ๆ หน้า”“ผมไม่ลงมือจัดการเขาแล้วจะจัดการใคร?”ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็พากันมองหน้ากัน สองคนนี้มีคำพูดของตัวเอง พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใครชั่วขณะถังหว่านเชื่อคำพูดของหลินเฟิงอยู่แล้ว จึงขมวดคิ้วมองไปทางเหยนจวิ้น“คุณชายเหยน มีเรื่องแบบนี้ไหมคะ?”เหยนจวิ้นส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ: “ไอ้หมอนี่ก
“ชิงเฉี่ยน คุณฟังผมอธิบาย นี่ไม่ใช่เรื่องจริงครับ”“เพียะ” ไป๋ชิงเฉี่ยนยกมือขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าของเขาเธอกัดริมฝีปาก จากนั้นก็ถลึงตาใส่เหยนจวิ้นด้วยความโมโห“ฉันไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ การแต่งงานระหว่างพวกเราสามารถยกเลิกได้แล้ว”“ชิงเฉี่ยน อย่าสิครับ นี่เป็นการใส่ความกัน เป็นไอ้เวรหลินเฟิงคนนั้นที่ใส่ความผม” เหยนจวิ้นรีบจับแขนของไป๋ชิงเฉี่ยนเอาไว้ไป๋ชิงเฉี่ยนสะบัดมือออกอย่างแรง และพูดตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห: “คุณไปอธิบายกับคุณปู่ของฉันเองเถอะ”พูดจบเธอก็ออกจากคลับเฮาส์ไปด้วยความโมโหต่งหลิงอวี้เห็นแบบนี้จึงรีบตามออกไป: “คุณหนู คุณรอฉันด้วยสิคะ...”“ชิงเฉี่ยน...”เหยนจวิ้นกำลังอยากจะตามไป หลินเฟิงกลับขวางไว้ตรงหน้าของเขา: “ไอ้หนุ่ม เมื่อครู่นายเหยียดหยามฉันขนาดนั้น ควรจะให้คำอธิบายกับฉันหน่อยไหม?”ในตอนนี้ถังหว่านก็กอดอกแล้วพูดเสียงเย็นชา: “ถูกต้อง เรื่องนี้คุณต้องให้คำอธิบาย”เหยนจวิ้นกัดฟันแล้วถลึงตาใส่หลินเฟิงด้วยความโมโห: “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่านายจะเจ้าเล่ห์แบบนี้ ยังแอบบันทึกเสียงเอาไว้ด้วย”“เป็นเพราะนายโง่เองก็เท่านั้นแหละ”หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “นายคุก
ขณะเดียวกันภายในค่ายทหารที่ชานเมืองเจียงโจวทหารสวมชุดลายพรางคนหนึ่งกำลังนอนกลางวันอยู่ภายในห้องทำงานจู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีเสียงเตือนของข้อความดังขึ้นมา“แม่งเอ้ย ใครวะส่งข้อความมากลางวันแสก ๆ?”ชายหนุ่มหยิบหมวกที่อยู่บนใบหน้าของตัวเองลงมาด้วยความหงุดหงิดเขาล้วงโทรศัพท์ออกมาด้วยความโมโห แต่ในตอนที่เขาเห็น เบอร์โทรศัพท์มือถือ คนทั้งคนก็ตาสว่างขึ้นมาทันที“เชี่ย…” เขาลุกขึ้นทันทีและตะโกนต่อลูกน้อง“ทุกคนมารวมตัวกัน”......ไม่เพียงค่ายทหารเขตชานเมืองเจียงโจวที่กำลังรวมตัวกันคนของตระกูลฉิน ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันถังหว่านก็ไม่ได้อยู่ว่าง เธอโทรไปหาโจวเฉินทันทีให้เขาเรียกคนของตระกูลถังทั้งหมดตามมาที่คลับเฮ้าส์ที่เธออยู่ในตอนนี้สำนักอวี้เจี้ยนเมืองเจียงโจวไม่ใช่กองกำลังเล็ก ๆ เพียงแค่คนของตระกูลฉิน เกรงว่าไม่แน่ว่าจะควบคุมสำนักอวี้เจี้ยนได้หลังจากที่โจวฉินได้รับคำสั่งและจะรวบรวมกำลังคน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ถูกหลินเสวี่ยเยี่ยนแย่งไป“ถังหว่าน ลูกทำอะไรอยู่กันแน่? ทำไมจู่ ๆ ถึงเรียกรวมตัวคนของตระกูลถัง?”ถังหว่านพูดด้วยความหงุดหงิด: “โอ๊ย หนูไม่มีเวลามาอธิบายมากมายกับแม่ ตอนนี้หลิ
ประตูกระจกของคลับเฮ้าส์ถูกคนทุบแตกผู้มีฝีมือของสำนักอวี้เจี้ยนในมือถือกระบี่ยาวพุ่งเข้ามาล้อมรอบหลินเฟิงและคนอื่น ๆ เอาไว้แน่นหนาเหยนจวิ้นรู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็ตะโกนต่อหลินเฟิงด้วยความโอหัง: “ไอ้หนุ่ม แกเสร็จแน่”“พ่อฉันมาแล้ว”หลินเฟิงเห็นเขายังกล้าพูดพล่ามกับตัวเองจึงยกมือขึ้นตบไปที่ใบหน้าของเขาเหยนจวิ้นฟันหลุดกระเด็นและมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ๊ย”ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของสำนักอวี้เจี้ยนกระจายตัวออก เหยนควานเดินออกมาจากในกลุ่มคนเห็นพวกหลินเฟิงสามคน จากนั้นก็มองไปยังลูกชายที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ดูท่าแผนใส่ความของเขาล้มเหลวแล้วในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกับพวกเขาอีกแล้ว“หลินเฟิง ปล่อยลูกของฉันมาซะ”เหยนควานก็ไม่ได้เร่งเร้าจนเกินไป เขารู้ว่าหลินเฟิงสมองกลวงเล็กน้อย เร่งจนโมโหเขาก็กล้าฆ่าคนจริง ๆหลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “ลูกชายของคุณใส่ความผม ทำไมผมต้องปล่อยเขาไปด้วย?”“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันขอโทษแทนเขาแล้วกัน แบบนี้นายพอใจแล้วสินะ?”เหยนควานพยายามรักษาความเป็นมิตรของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุด: “นายปล่อยคนไป ความแค้นก่อน
ฉินเซี่ยวเทียนได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟิงจะบาดหมางกับสำนักอวี้เจี้ยนได้รุนแรงขนาดนี้แต่เขาก็ยังฝืนพูดขึ้น: “ท่านผู้นำเหยน ไม่ทราบว่าเห็นแก่หน้าของผม จะสามารถไว้ชีวิตหลินเฟิงได้ไหมครับ?”เหยนควานกวาดตามองฉินเซี่ยวเทียนด้วยความเย็นชา: “ไว้ชีวิต?”“ผู้ว่าฉิน ผมพูดคุยกับคุณอยู่ตรงนี้ ก็ถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว”“ถ้าคุณอยากจะปกป้องเขานั่นไม่มีทางอย่างแน่นอน”ฉินเซี่ยวเทียนหัวเราะเสียงดัง: “ผมรู้ ผมรู้ แต่หลินเฟิงเบื้องหลังไม่ธรรมดา ถ้าหากท่านผู้นำเหยนอยากจะฆ่าหลินเฟิงเกรงว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมาก”“ตระกูลถังเมืองเจียงโจว สำนักไป๋เกา ตระกูลฉิน สำนักเทียนเตา ท่านผู้ว่าหลิวท่านไหนบ้างที่ไม่เคยได้รับบุญคุณจากสหายน้อยหลิน?”“ถ้าหากวันนี้คุณฆ่าเขาแล้ว เกรงว่าคนเหล่านี้จะไม่พอใจต่อสำนักอวี้เจี้ยนนะครับ”เหยนควานขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ผู้ว่าฉินกำลังข่มขู่ผมอยู่เหรอ?”“ไม่ ไม่ ไม่...คุณเข้าใจผิดแล้ว”ฉินเซี่ยวเทียนรีบโบกมือแล้วพูดขึ้น: “ผมเพียงแค่ให้คำแนะนำคที่จริงใจกับท่านผู้นำเหยน”“จากที่ผมดูไม่สู้เอาแบบนี้ พวกเราใช้กฎเกณฑ์แบบดั้งเดิมที่สุดในการแก้ไขปัญหาเถอ
ในระหว่างที่ฟาดฟันเหมือนกับจะฉีกอากาศให้ขาดออกและทำให้เกิดลมเป็นระยะ ๆหลินเฟิงมือไขว้หลังแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็แวบหลบอย่างยอดเยี่ยมพลังกระบี่ที่แข็งแกร่งแต่ละครั้งไหลผ่านผิวหนังของเขาเขาเป็นเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ไม่ว่ากระบวนท่ากระบี่ของเหยนควานจะประณีตแค่ไหนก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อยเหยนควานยิ่งสู้ยิ่งตกตะลึงความรวดเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?”“พ่อ พ่อไม่ต้องออมมือ รีบฆ่าเขาซะ”“หุบปาก” เหยนควานตวาดด้วยความโมโหเขาอยากจะฆ่าหลินเฟิงให้เร็วหน่อยอยู่แล้วหลินเฟิงพูดเย้ยหยันไม่หยุด: “นี่ก็คือวิชากระบี่ของสำนักอวี้เจี้ยนของพวกคุณเหรอ? ก็งั้น ๆ แหละ”“ไอ้สารเลว ยังกล้าดูถูกสำนักอวี้เจี้ยนเหรอ?”เหยนควานสายตาแน่นิ่งกำลังภายในทั้งหมดรวบรวมไปที่ข้อมือ“ฉันดูสิว่านายจะหลบอย่างไร”“หงส์ร่อนนกการำ”เหยนควานแทงกระบี่ออกไปทันที ข้อมือสั่นอย่างรุนแรงตัวกระบี่ก็สั่นเป็นอย่างมาก และส่งเสียงสั่นออกมาเป็นระยะสายตามองไป ก็เห็นว่าคมกระบี่เล่มนั้นเหมือนกับกลายเป็นกระบี่นับสิบเล่มไม่สามารถแยกแยะสภาพความเป็นจริงได้เลย เหมือนกับหงส์ร่อนนกการำบิ