“ก็บัตรเอทีเอ็มไง” จางกุ้ยหลานพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ“บัตรเอทีเอ็ม? ทำไมต้องให้คุณ?”หลินเฟิงรู้สึกตลกกับการทำตัวเย่อหยิ่งของเธอ“แกมานั่งกินนอนกินอยู่ในตระกูลหลี่ของเราตั้งสามปี แถมยังมาทำร้ายลูกชายฉันอีก หรือแกคิดว่าไม่ควรจ่ายเงินชดใช้?” จางกุ้ยหลานนับนิ้วแล้วเอ่ยว่า “ค่าที่แกมานั่งกินนอนกินสามปี แกต้องให้ห้าสิบล้าน ค่าหมอ ค่าทำขวัญที่ทำร้ายลูกชายฉันก็ห้าสิบล้านเหมือนกัน” “รีบเอาบัตรเอทีเอ็มมาให้ฉันเลย” “แม่...พอได้แล้ว เรารีบไปกันเถอะ” พอหลี่ฮุ่ยหรานได้ฟังการคิดบัญชีจากผู้เป็นมารดาถึงกับหมดคำพูดสามปีหลินเฟิงกินอะไรนักหนาถึงต้องจ่ายห้าสิบล้าน?เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ที่งี่เง่าไร้เหตุผลแบบนี้ เธอก็รู้สึกขายขี้หน้าอยู่เล็กน้อย“แกหลีกไปเลย”จางกุ้ยหลานผลักลูกสาวออกไป วันนี้เธอต้องได้เงินร้อยล้านนี่หลินเฟิงยืนเอามือไพล่หลังและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จางกุ้ยหลาน ผมหลินเฟิงคนนี้นั่งกินนอนกินที่บ้านคุณมาสามปี แต่ผมก็คืนให้พวกคุณไปหมดแล้ว” “แล้วที่หลี่เหวินเชาถูกต่อย นั่นเป็นเพราะเขาไปหลอกถังหว่าน ถ้าไม่รั้งถังหว่านไว้ พวกคุณก็จะได้เห็นว่าการแก้แค้นของถังหว่านนั้นน่ากลั
ภายในธนาคารเจียงโจวชุยข่ายเตะตูดเลี่ยวกั๋วต้งไปหนึ่งป๊าบ “ตายเหรอยัง? เมื่อไหร่จะคืนเงิน?”“ผู้จัดการชุย อีกสองวัน อีกสองวันผมจะคืนเงินให้”เลี่ยวกั๋วต้งลูบเอวของตนเองแล้วเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“วันนี้ก็คงต้องขอให้ผู้จัดการชุยช่วยเป็นธุระให้ผมหน่อยนะครับ”“ยังจะให้ผมช่วยคุณอีกเหรอ? คุณรีบมาชำระเงินกู้ของธนาคารให้หมดเร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นก็อย่าเปิดบริษัทของคุณอีกเลย” ชุยข่ายด่ากราด“ผู้จัดการชุยขอให้คุณช่วยผมแค่ครั้งนี้ เงินกู้ยี่สิบห้าล้านของธนาคารเจียงโจว ผมสามารถคืนได้ในทันที”ชุยข่ายนิ่งชะงัก ถามอย่างไม่เข้าใจ “พูดว่าไงนะ?”“เมื่อกี้สาวสวยคนนั้นเป็นประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป เธอรับปากว่าจะโอนเงินห้าสิบล้านให้ผม พอถึงเวลานั้นเงินยี่สิบห้าล้านก็พอที่จะชำระคืนเงินกู้แล้ว”เลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างขบขันชุยข่ายมองเขาด้วยความสงสัย “ดูไม่ออกเลยนะ ว่าคนอย่างคุณจะมีความสามารถอยู่บ้าง จะทำให้แม่หนูนั่นเอาเงินให้คุณได้ตั้งห้าสิบล้านได้จริง ๆ เหรอ?”เลี่ยวกั๋วต้งยิ้มและตบเข้าที่เอวของตนเอง “เพราะเอวผมยังดีอยู่ไงล่ะ ถ้าได้แม่ของเธอแล้วเอามาทำเงินสักหน่อยก็สบายแล้วไหม?”ชุยข่ายครุ่น
ทันใดนั้นก็ถูกรปภ. ห้ามเอาไว้บอดี้การ์ดของคุณถังรู้จักกันอยู่แล้ว และอีกฝ่ายก็ยังเป็นลูกสาวจากจวนผู้ว่าราชการด้วยแต่ก่อนหน้านี้หินเฟิงสั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวนเขา“คุณหนูฉิน......คุณเข้าไปไม่ได้ครับ”ฉินอิ๋งแสดงบัตรห้องพักแล้วพูดว่า “ฉันได้รับคำสั่งจากคุณถังให้มาพบหลินเฟิง”“แต่นี่......”รปภ.ถีงกับงง ก่อนหน้านี้ไม่ได้ถามเอาไว้ด้วยสิแม้แต่คุณถัง หลินเฟิงก็ไม่ให้เข้าพบ บางทีก็อาจไม่อยากพบเธอด้วยรีบอธิบายว่า “คุณหนูฉิน คือแบบนี้นะครับ ก่อนหน้านี้คุณหลินกำชับไว้ว่า ห้ามให้ใครเข้าไปในห้องของเขา รวมถึงคุณถังด้วย”“ใช่ครับ ๆ คุณหลินบอกว่าเขากำลังปลีกวิเวก.......ดูเหมือนจะต้องฝึกบำเพ็ญ”ยังไงซะหลินเฟิงก็บอกไว้เช่นนี้ฉินหยิงขมวดคิ้ว “นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมาฝึกอีก? ฉันมีเรื่องสำคัญต้องพบหลินเฟิง เกิดอะไรขึ้นมาพวกนายไม่ต้องรับผิด ไปให้พ้น”รปภ.สองนายกล้าห้ามที่ไหนเล่า ทำได้เพียงหลีกทางให้อย่างเชื่อฟังประตูโรงแรมถูกฉินหยิงเปิดออกเธอได้รับคำสั่งจากถังหว่านว่า ให้พาหลินเฟิงออกจากเจียงโจวให้เร็วที่สุดข่าวที่ถังหยุนเหลยถูกฆาตกรรมได้แพร่กระจายไปถึงตระกูลถังที่เมืองจิงตูแล้วที่ตร
เสื้อผ้าบนร่างของฉินอิ๋งถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆร่างเปลือยเปล่าไม่เหลือสักชิ้นร่างนวลขาวเผยต่อสายตาของหลินเฟิงแต่เขากลับไม่อ่อนโยนเลยสักนิดฉินอิ๋งหวาดกลัวจนตาทั้งสองดูอึ้ง น้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาในเวลานี้เธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต่อต้านยังไง“หลินเฟิง ขอร้องล่ะ...... มีสติหน่อย”หลินเฟิงเมินเฉยต่อคำอ้อนวอนของเธอ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อปิดปากเธอฉินอิ๋งพยายามผลักเขาออกสุดชีวิต แต่หลินเฟิงเหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ที่กดเธอไว้จนหายใจไม่ออกจนกระทั่งเธอรู้สึกว่าหลินเฟิงกำลังจะฉีกกางเกงของตนในยามวิกฤตนี้ ฉินอิ๋งกัดลิ้นของหลินเฟิงอย่างแรงทันใดนั้นหลินเฟิงก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแล้วเด้งตัวออกจากร่างของฉินอิ๋งสุดแรงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้ทำให้เขาคืนสติมาได้นิดนึงถึงได้เห็นชัด ๆ ว่าเมื่อกี้ตนเองทำอะไรลงไปกระแทกนิ้วไปที่จุดถานจง จุดเทียนทูและจุดเสินเชวียสีหน้าของหลินเฟิงเปลี่ยนไปมาก แล้วก็กระอักเลือดออกมาดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้นก็ค่อย ๆ หายไปมองฉินอิ๋งที่หดตัวอยู่มุมห้อง กอดไหล่ทั้งสองไว้ น้ำตาเอ่อไหลและไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธอว่ายังไง“คุณ...... คุณหลิน คุณ......
ฉินอิ๋งอึ้งชะงัก “คุณหลิน นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”“คุณอย่าใช้อารมณ์สิ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลี่ยงก็ควรจะเลี่ยงสิ!”“ให้ซ่อนตัวสักพัก จะให้ซ่อนไปตลอดชีวิตเลยเหรอไง? แทนที่จะซ่อนตัวไปตลอด สู้ไปเผชิญหน้ากันไม่ดีกว่าเหรอ”หลินเฟิงเอ่ยอย่างราบเรียบทำให้ฉินอิ๋งพูดไม่ออกไปชั่วขณะแต่หลินเฟิงกลับไม่ให้เวลาเธอได้พิจารณา เดินตรงออกจากโรงแรมไปเลยฉินอิ๋งที่เห็นสถานการณ์ก็ทำได้แค่รีบตามไปหลินเฟิงขึ้นรถ แต่ฉินอิ๋งกลับยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ“เธอไม่ไปด้วยใช่ไหม?”ฉินอิ๋งส่ายหน้า “ฉัน...... ยังมีธุระอีก ต้องกลับบ้าน”หลินเฟิงพยักหน้าและขับรถไปหาตระกูลถังเพียงลำพังฉินอิ๋งรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาถังหว่าน “พี่หว่านเอ๋อ หลินเฟิงไม่ไปกับฉัน แต่กลับไปที่วิลล่าตระกูลถังค่ะ”“ฉันโน้มน้าวเขาไม่ได้เลย”ถังหว่านได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยอย่างเสียดายว่า “รู้งี้ ไม่บอกเรื่องนี้กับเขาหรอก”“โอเค ขอบใจเธอนะ เรื่องหลังจากนี้ฉันจะจัดการเอง”บนรถ หลินเฟิงได้รับสายจากถังหว่าน“ฮัลโหล? หลินเฟิง? คุณอยู่ที่ไหน?”หลินเฟิงเอ่ยอย่างราบเรียบว่า “ใกล้จะถึงบ้านคุณแล้ว”“หลินเฟิง คุณจะมาจริง ๆ เหรอ?” ถังหว่านถามทั
ในเวลานี้ถังหว่านได้เอ่ยเตือน “พี่รอง ฉันขอแนะนำว่าเก็บอำนาจความเป็นคุณชายไว้กับตัวเถอะ อีกเดี๋ยวก็ทำตัวสุภาพ ๆ กับคุณหลินไว้หน่อยนะ”“มันเป็นใคร? เธอถึงได้สั่งให้ฉันทำตัวสุภาพกับมัน?”ถังอวิ๋นเฟิงพูดด้วยใบหน้าที่อวดดี “มันได้คุยกับฉันซึ่ง ๆ หน้า เรียกว่าเป็นเกียรติของชีวิตมันเถอะ”ถังหว่านได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญาไม่นานหลังจากนั้น หลินเฟิงก็มาถึงวิลล่าตระกูลถังทันทีถังหว่านและถังว่านหลี่ยืนขึ้นต้อนรับเขาในนาทีแรกที่มาถึง“คุณหลิน คุณมาแล้ว”“หลินเฟิง”ถังว่านหลี่เอ่ยกำชับ “คุณหลิน คุณชายรองตระกูลเราจากเมืองจิงตูมาเยี่ยมในครั้งนี้ อยากจะถามคุณเกี่ยวกับการตายของถังอวิ๋นเฟิง เดี๋ยวคุณช่วยเล่าความจริง ไม่ต้องปิดบัง”“ท่านผู้นำอาวุโสตระกูลถังไม่ต้องห่วงครับ ผมทราบดี”หลินเฟิงยิ้มให้เบา ๆเข้าไปในห้องรับแขกหลินเฟิงและถังอวิ๋นเฟิงมองหน้ากันถังอวิ๋นเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกคือหลินเฟิงสินะ?”“ใช่”“แกเป็นคนฆ่าถังหยุนเหลยใช่ไหม?”หลินเฟิงเล่าด้วยท่าทีเฉย ๆ ว่า “ไอ้หมอนั่นร่วมมือกับฆาตกรทรยศตระกูลถัง ฆ่าอาจารย์เหลียงแล้วยังจะฆ่าฉินอิ๋งอีก”“หลังจากที่ผมช่วย
“แกไม่เห็นจะต้องเอาเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้มาทำให้พี่รองของแกขุ่นเคืองเลยหนิ”“แม่ นี่หนูกำลังช่วยชีวิตเขาอยู่นะ ถ้าคนกลุ่มนี้กล้าแตะต้องหลินเฟิง วันนี้เขาได้ตายกันอยู่ตรงนี้แน่” ถังหว่านกัดฟันพูดที่จริงเธอรู้จักหลินเฟิงเป็นอย่างดี กล้าดียังไงมาทำเบ่งต่อหน้าเขาแม้แต่เทพพระเจ้า หลินเฟิงก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันนับประสาอะไรกับคุณชายรองตระกูลถัง“นี่...…” หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อถังอวิ๋นเฟิงได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็ค่อย ๆ ขรึมลงหลินเฟิงมันเป็นใคร กล้ามาถามเอาชีวิตตนเชียวเหรอ?“พวกแกมัวรออะไรอยู่ ลงมือเลย”เขาชี้ไปที่หลินเฟิงและตะโกนออกมาอย่างโมโหถังหว่านส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พี่ชายรองของตนรนหาที่ตายจริง ๆแล้วในเวลานี้มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอกของวิลล่าตระกูลถัง “อย่าแตะต้อง......”ทุกคนได้ยินจึงหันไปมอง ผู้มาเยือนคือจ้าวเทียนหวาถังหว่านแอบดีใจ“ลุงจ้าว ลุงมาได้ไงคะ?”จ้าวเทียนหวายิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ได้ยินว่ามีคนจะรังแกคุณชายหลิน ลุงจะไม่มายุ่งก็ไม่ได้”ถังอวิ๋นเฟิงพอจะรู้จักจ้าวเทียนหวาอยู่บ้างประธานของบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลที่จู่ ๆ ก็กลับจากต่างประเทศ
ถังอวิ๋นเฟิงมองไปที่ฉินเสี่ยวเทียอย่างแทบไม่เชื่อในสายตาตัวเองอีกนิดเดียวฟันกรามของตัวเขาก็จะแตกเป็นชิ้น ๆหลินเฟิงคนนี้เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกสาวของท่านผู้ว่างั้นเหรอ?ถังว่านหลี่ก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว "พี่ฉิน การที่พี่ได้มาอยู่ตรงนี้ได้นำความรุ่งโรจน์มาสู่ตระกูลถังของเราอย่างแท้จริง!"“พี่ถังไม่ต้องเกรงใจ หลักๆ ฉันมาที่นี่เพื่อพบกับคนที่ช่วยชีวิตลูกสาวของฉันเท่านั้น” ฉินเสี่ยวเทียนพูดอย่างมุ่งมานะพร้อมกับโบกมือปัดฉินหยิงแนะนำอย่างรวดเร็ว "คุณพ่อ คนนี้คือหลินเฟิงที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง"ฉินเสี่ยวเทียนมองตามปลายนิ้วของลูกสาวที่ชี้ไปทางด้านหน้าทันใดนั้นสายตาก็ประสานเข้ากับหลินเฟิงหลินเฟิงทักทายอย่างน้อบน้อม “สวัสดีครับท่านผู้ว่าราชการฉิน ผมหลินเฟิงครับ”ดวงตาที่เหมือนเหยี่ยวของฉินเซียวเทียนหรี่ลงเล็กน้อย และพยักหน้าด้วยความพอใจ: "ใช่แล้ว ชายหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์อันน่าทึ่งจริงๆ ลูกสาวของฉันเลือกคนไม่ผิดเลย"ในขณะนี้ ถังหว่านรีบเดินไปหาฉินหยิงและกระซิบถาม : "หยิงหยิง เธอไปพูดยังไงคุณพ่อของเธอจึงมาที่นี่ได้?"เธอเข้าใจนิสัยของอาจารย์เป็นอย่างดีเป็นเรื่องยากที่เขาจะเป็นฝ่า