เลี่ยวกั๋วต้งขมวดคิ้วขึ้นเขาอยู่ใกล้ชิดกับจางกุ้ยหลานเพราะอยากได้เงินเธอเท่านั้น ทุกวันอยู่ใกล้กับหญิงแก่วัยสี่สิบจนเขาอยากจะอ้วกแล้ว เมื่อเห็นผู้ชายที่รักของเธอขมวดคิ้วขึ้น จางกุ้ยหลานเลยถามว่า "ทำไมหรอกั๋วต้ง คุณไม่ตกลงงั้นเหรอ?"“เอ่อ...จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงหละ?”เลี่ยวกั๋วต้งเปลี่ยนสีหน้าทันที พูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ "จริงๆฉันคิดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ""ทำไมล่ะ?"“หนึ่งคือเราไม่มีสถานะกัน ถึงแม้ว่าเราจะแต่งงานครั้งที่สอง แต่ฉันคิดว่าก็ควรทำให้มันเป็นกิจลักษณะทำให้คนทั้งเจียงโจวรู้”เมื่อได้ยินจางกุ้ยหลานได้ยินสิ่งนี้ หน้าเธอก็ยิ้มอย่างเขินอาย "เราก็โตๆกันแล้ว ทำไมถึงคิดเรื่องเด็กๆแบบนี้อยู่?"“จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ การแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ ฉันมาเที่ยวมาบ้านคุณตลอดก็จะถูกคนอื่นเอาไปนินทาได้” เลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างชอบธรรมพอจางกุ้ยหลานได้ฟังก็รู้สึกว่าดูมีเหตุสมผลในใจก็รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งขึ้น เธอไม่คิดว่าเลี่ยวกั๋วต้งจะคิดถึงเพื่อเธอมากมายขนาดนี้ตัวเองไม่ได้ดูคนผิดไปจริงๆเลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างเศร้าโศกในเวลานี้ "อีกอย่าง เรื่องที่บริษัทก็มีเ
จางกุ้ยหลานพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก "เหวินเชาวางใจเถอะ แม่จะโทรหาพี่สาวเราเดี๋ยวนี้"เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้หลี่ฮุ่ยหรานกำลังจัดการเรื่องการเมืองในบริษัทอยู่จู่ๆ ก็มีสายเข้าจากแม่ เธอรู้สึกแปลกใจมาก“แม่ มีอะไรไหมคะ?”จางกุ้ยหลานบีบเอวแล้วกัดฟันพูดว่า "ฮุ่ยหราน น้องชายแกถูกตี"“อะไรนะ? ใครโดนตีมา?”“จะเป็นใครอีกล่ะ? แน่นอนว่าเป็นอดีตสามีของลูก” จางกุ้ยหลานพูดด้วยความโกรธ“หลินเฟิง? เพราะอะไร?” หลี่ฮุ่ยหรานถามอย่างสับสนจางกุ้ยหรานตอบว่า "จะเพราะอะไรอีก วันนี้พี่ชายของลูกไปสัมภาษณ์ที่บริษัทเซิ่งถัง หลินเฟิงไอ้สวะนั่นพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับน้องชายของลูกกับถังหว่าน"“พี่ชายของลูกถูกไล่ออกแล้ว หลินเฟิงใช้โอกาสนี้แก้แค้น”“ตอนนี้ลูกโทรหาหลินเฟิง แล้วให้เขาขอโทษน้องชายของลูกซะ”หลี่ฮุ่ยหรานเบื่อหน่ายเลยพูดว่า "แม่ หลินเฟิงมีผลอะไรในการตัดสินใจของถังหว่านล่ะ?"“เขาเป็นเด็กที่อ่อนต่อโลกของถังหว่าน ขอร้องเขาสักนิดก็ได้แล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานมองบนแม่มองว่าถังหว่านเป็นคนง่ายๆงั้นหรอหากถ้อยคำรักสองสามคำสามารถเปลี่ยนใจของถังหว่านได้ งั้นเธอก็จะไม่ล้ำเส้นถัง
ทันทีที่เข้าไป พนักงานธนาคารในชุดมืออาชีพก็รีบเดินมาข้างหน้าแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?"หลินเฟิงหยิบเช็คออกมา "เปิดบัญชีให้ผมหน่อยครับ และฝากเงินในเช็คเข้าไปครับ"เมื่อพนักงานเห็นเช็ค คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเงินจำนวนมหาศาลถึง 20 ล้าน จึงรีบพูดว่า "กรุณามากับฉันด้วยค่ะ ธุรกรรมของคุณเป็นบริการวีไอพีระดับสูง ฉันจะแจ้งให้ผู้จัดการทราบ และให้เขาช่วยจัดการให้ค่ะ”หลินเฟิงพยักหน้า "ยุ่งยากจัง"สุดท้ายแล้ว หากฝากเงินจำนวนมหาศาล 20 ล้านในธนาคารใดก็ตาม ก็อยู่ในระดับผู้มีอิทธิพลแล้วโดยปกติแล้วธนาคารไม่กล้าละเลยพนักงานธนาคารแนะนำหลินเฟิงเข้าไปในล็อบบี้ที่ตกแต่งอย่างหรูหราอีกทั้งยังนำกาแฟมาให้เขาเป็นการส่วนตัว โน้มตัวลงมาโดยไม่ลืมที่จะเบียดตัวเองเข้าไปชิดเนินเขาที่สวยงามปรากฏต่อหน้าหลินเฟิงธนาคารเจียงโจวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติมากมาย แต่คนรุ่นใหม่และร่ำรวยอย่างหลินเฟิงนั้นหายากโดยปกติแล้วพนักงานธนาคารไม่ยอมที่จะปล่อยโอกาสนี้ไปน่าเสียดายที่หลินเฟิงไม่ได้มองด้วยซ้ำนี่ทำให้เธอผิดหวังมากสักพัก ผู้จัดการในชุดสูทก็ได้เดินเข้ามาทันทีที่เข้าไป เขาก็โค้งคำนับหลินเฟิง"สวัสด
พนักงานเคาน์เตอร์ที่อยู่ข้าง ๆ มองพริบตาเดียวก็จำได้ว่าเป็นหลี่ฮุ่ยหราน เดินเข้าไปพูดด้วยความเคารพว่า “ที่แท้ก็คุณหลี่นี่เอง ผู้จัดการของเรากำลังให้บริการอยู่ค่ะ”“อ้อเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานถามอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่า “งั้นเราคงต้องรออีกสักพักเลยสินะ”คนที่ทำให้ชุยข่ายถึงกับต้องให้บริการด้วยตนเองต้องเป็นคนไม่ธรรมดาแน่ ๆ บางทีอาจเป็นเจ้าสัวสักคนงั้นตนก็รออีกสักครู่แล้วกันพนักงานเคาน์เตอร์รีบพาพวกเขาไปที่ห้องพักรับรองทันทีหลังจากนั้นสักพัก หลินเฟิงก็ทำธุระเสร็จก็เดินออกมาหลี่ฮุ่ยหรานเห็นหลินเฟิงก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ “หลินเฟิง คุณมาทำอะไรที่นี่?”หลินเฟิงมองไปที่พวกเธอสามคนแล้วเอ่ยอย่างราบเรียบว่า “มาทำธุระที่นี่” “แล้วคุณล่ะ?”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอธิบาย “บริษัทของคุณเลี่ยวต้องการเงินทุนห้าสิบล้าน จะยืมจากฉันห้าสิบล้าน ฉันเลยมาโอนเงินให้คุณเลี่ยวน่ะ”แววตาของหลินเฟิงนิ่งชะงัก หันกลับไปมองเลี่ยวกั๋วต้ง “คุณให้เขายืมเงิน?”ผู้ชายคนนี้ชอบโกหก ไม่ใช่คนที่น่าเชื่อถือหลี่ฮุ่ยหรานให้เขายืมเงิน จะได้เงินคืนกลับมาไหมนั้นยากที่จะบอกได้พอจางกุ้ยหลานเห็นหลินเฟิงก็ถึงกับขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืนทัน
“ทำไม? คุณอยากจะต่อยผมเหรอ?” หลินเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเลี่ยวกั๋วต้งกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก ครั้งก่อนสู้กับหลินเฟิงที่ร้านอาหารเขาเองก็รู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “คนอย่างนาย ไม่คู่ควรให้ฉันได้ออกแรงหรอก”เขาตะโกนเสียงดังในทันที “รปภ. ๆ”หลังจากเขาตะโกนเสียงดังไปได้ไม่เท่าไหร่ รปภ.ของธนาคารเจียงโจวก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหัวหน้ารปภ.กลับรู้จักเลี่ยวกั๋วต้ง“คุณเลี่ยว เกิดอะไรขึ้นครับ?”เลี่ยวกั๋วต้งชี้ไปที่หลินเฟิงและพูดว่า “ไอ้เด็กนี่มันจะต่อยคนอื่น พวกนายไม่ใส่ใจเลยเหรอไง?”“ว่าไงนะครับ? กล้ามาสร้างความวุ่นวายในธนาคารเจียงโจวเลยเหรอ?”หัวหน้ารปภ.เห็นสายตาของหลินเฟิง ก็ยังเด็กมากอยู่นั่นแหละ ดูแค่แวบเดียวก็ดูไม่เหมือนคนรวยตะคอกด้วยเสียงเข้มว่า “รีบขอโทษคุณเลี่ยวเลยนะ”หลินเฟิงเหลือบมองเขาอย่างเมินเฉย “คุณคิดว่าคุณเป็นใคร กล้ามาสั่งผม?”“แม่งเอ๊ย” หัวหน้ารปภ.คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำตัวโอหังขนาดนี้เหวี่ยงกระบองในมือขึ้นมาแล้วฟาดไปที่หัวของหลินเฟิงหลินเฟิงยกฝ่ามือขึ้นเสียงดัง “ผัวะ” ทำให้หัวน้ารปภ.ถึงกับลอยออกไป“โอ๊ย......” ชั่วพริบตาหัว
“คุณหลินต่อยคุณก็สมควรแล้ว” ชุยข่ายพูดไปด่าไป“โอ๊ย......”เลี่ยวกั๋วต้งประคองเอวตนเองแล้วกรีดร้องอย่างข่มไว้ไม่อยู่ทำหน้างุนงงมองไปที่ชุยข่าย “ผู้จัดการชุย เรารู้จักกันมานาน ทำไมคุณถึงช่วยพูดแก้ต่างให้เจ้าเด็กนี่ล่ะ?”แม้แต่รปภ.ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังอึ้งตาม ๆ กันหรือว่าไอ้เด็กนี่จะเป็นญาติของผู้จัดการชุย?ชุยข่ายจ้องเขาแล้วเอ่ยว่า “คุณหลินเป็นลูกค้าคนสำคัญของธนาคารเจียงโจวมาฝากเงินหนึ่งร้อยล้าน คุณคิดว่าคุณเป็นใคร”อีกคนเป็นลูกค้าที่มาฝากเงินสดหนึ่งร้อยล้าน กับอีกคนที่เอาแต่ร้องไห้อ้อนวอนขอกู้เงินกับตัวเองเขารู้ดีว่าควรจะช่วยใคร“ว่าไงนะ? ผู้จัดการชุย คุณไม่ได้เล่นตลกใช่ไหม?” จางกุ้ยหลานมองหลินเฟิงด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “มัน...... มันจะเอาเงินมาจากไหนตั้งร้อยล้าน?”หลี่ฮุ่ยหรานก็ตกใจช็อคเหมือนกันหลินเฟิงมีเงินถึงร้อยล้านเลยเหรอ?ชุยข่ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหลินได้ฝากเงินไว้ที่ธนาคารเจียงโจวเรียบร้อยแล้ว ยังจะไม่จริงอีกเหรอ?”“เช็คร้อยล้านนั่นอาจเป็นถังหว่านที่ออกให้ก็ได้”เมื่อได้ยินเช่นนั้นจางกุ้ยหลานก็รู้ในทันทีดวงตาคู่นั้นจ้องไปที่หลินเฟิงอย่างอิจฉานึก
“ก็บัตรเอทีเอ็มไง” จางกุ้ยหลานพูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ“บัตรเอทีเอ็ม? ทำไมต้องให้คุณ?”หลินเฟิงรู้สึกตลกกับการทำตัวเย่อหยิ่งของเธอ“แกมานั่งกินนอนกินอยู่ในตระกูลหลี่ของเราตั้งสามปี แถมยังมาทำร้ายลูกชายฉันอีก หรือแกคิดว่าไม่ควรจ่ายเงินชดใช้?” จางกุ้ยหลานนับนิ้วแล้วเอ่ยว่า “ค่าที่แกมานั่งกินนอนกินสามปี แกต้องให้ห้าสิบล้าน ค่าหมอ ค่าทำขวัญที่ทำร้ายลูกชายฉันก็ห้าสิบล้านเหมือนกัน” “รีบเอาบัตรเอทีเอ็มมาให้ฉันเลย” “แม่...พอได้แล้ว เรารีบไปกันเถอะ” พอหลี่ฮุ่ยหรานได้ฟังการคิดบัญชีจากผู้เป็นมารดาถึงกับหมดคำพูดสามปีหลินเฟิงกินอะไรนักหนาถึงต้องจ่ายห้าสิบล้าน?เมื่อเผชิญหน้ากับแม่ที่งี่เง่าไร้เหตุผลแบบนี้ เธอก็รู้สึกขายขี้หน้าอยู่เล็กน้อย“แกหลีกไปเลย”จางกุ้ยหลานผลักลูกสาวออกไป วันนี้เธอต้องได้เงินร้อยล้านนี่หลินเฟิงยืนเอามือไพล่หลังและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จางกุ้ยหลาน ผมหลินเฟิงคนนี้นั่งกินนอนกินที่บ้านคุณมาสามปี แต่ผมก็คืนให้พวกคุณไปหมดแล้ว” “แล้วที่หลี่เหวินเชาถูกต่อย นั่นเป็นเพราะเขาไปหลอกถังหว่าน ถ้าไม่รั้งถังหว่านไว้ พวกคุณก็จะได้เห็นว่าการแก้แค้นของถังหว่านนั้นน่ากลั
ภายในธนาคารเจียงโจวชุยข่ายเตะตูดเลี่ยวกั๋วต้งไปหนึ่งป๊าบ “ตายเหรอยัง? เมื่อไหร่จะคืนเงิน?”“ผู้จัดการชุย อีกสองวัน อีกสองวันผมจะคืนเงินให้”เลี่ยวกั๋วต้งลูบเอวของตนเองแล้วเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“วันนี้ก็คงต้องขอให้ผู้จัดการชุยช่วยเป็นธุระให้ผมหน่อยนะครับ”“ยังจะให้ผมช่วยคุณอีกเหรอ? คุณรีบมาชำระเงินกู้ของธนาคารให้หมดเร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นก็อย่าเปิดบริษัทของคุณอีกเลย” ชุยข่ายด่ากราด“ผู้จัดการชุยขอให้คุณช่วยผมแค่ครั้งนี้ เงินกู้ยี่สิบห้าล้านของธนาคารเจียงโจว ผมสามารถคืนได้ในทันที”ชุยข่ายนิ่งชะงัก ถามอย่างไม่เข้าใจ “พูดว่าไงนะ?”“เมื่อกี้สาวสวยคนนั้นเป็นประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป เธอรับปากว่าจะโอนเงินห้าสิบล้านให้ผม พอถึงเวลานั้นเงินยี่สิบห้าล้านก็พอที่จะชำระคืนเงินกู้แล้ว”เลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างขบขันชุยข่ายมองเขาด้วยความสงสัย “ดูไม่ออกเลยนะ ว่าคนอย่างคุณจะมีความสามารถอยู่บ้าง จะทำให้แม่หนูนั่นเอาเงินให้คุณได้ตั้งห้าสิบล้านได้จริง ๆ เหรอ?”เลี่ยวกั๋วต้งยิ้มและตบเข้าที่เอวของตนเอง “เพราะเอวผมยังดีอยู่ไงล่ะ ถ้าได้แม่ของเธอแล้วเอามาทำเงินสักหน่อยก็สบายแล้วไหม?”ชุยข่ายครุ่น