หากเกิดขึ้นอีกครั้งบางทีหลินเฟิงอาจจะทนไม่ไหวก็ได้นี่มันทรมานเกินไปจริง ๆหลี่ฮุ่ยหรานก็ตื่นเช้าด้วยเธอเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ จัดผมของเธอ และเฝ้าดูหลินเฟิงวิ่งอย่างแข็งขันด้านล่างนอกจากความผิดหวังแล้ว ยังมีอารมณ์ขันและความอ่อนโยนแฝงอยู่ในดวงตาด้วยหนึ่งสัปดาห์จึงผ่านไปสัปดาห์นี้ หลินเฟิงต้องอยู่ข้างตัวหลี่ฮุ่ยหรานทุกวัน คอยระวังการตอบโต้และการลอบโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อการจัดการหลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นง่ายกว่าที่คาดไว้ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ บริษัทก็ฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำครั้งก่อน โดยโครงการต่าง ๆ เริ่มหมุนเวียนอย่างราบรื่น ในฐานะผู้นำ หลี่ฮุ่ยหรานได้รับความชื่นชมและการสนับสนุนจากกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข่าวลือไร้สาระภายในบริษัท ที่ว่าหลี่ฮุ่ยหรานมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังท้ายที่สุดแล้ว เธอคือคนที่สามารถทวงเงินจากบริษัทเต๋อเซิ่งได้ เหล่าบอร์ดบริหารจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?สำหรับกัวโหย่วคัง เขายังคงถูกกักบริเวณในออฟฟิศตัวเอง สีหน้าอมทุกข์ แต่ยังไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้“พี่ คุณวางใจได้!”จางซินนั่งอยู่ข้
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป
หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้ายตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่ารถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขาเมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ “คุณหลิน....”ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง “คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลจ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดหลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว” “หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว” “และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป” “อ๋า”จ้าวเทียนหวาตกใจมาก “นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว” “ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้ง
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถเสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่นคาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมาเขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ” “หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วหลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก “หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้” “ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย” “จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับเธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง” “ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย” “ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”
“ปัง ๆ ๆ” เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องกันดังขึ้นลมฝ่ามือของฉินอิ๋งเหมือนมีดพลังแข็งแกร่งและเผด็จการทั้งสองได้เผชิญหน้าแลกเปลี่ยนกันมากกว่าสิบกระบวนท่าหลินเฟิงไม่มีความคิดที่จะฆ่าเธอ แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแม้ว่าการบำเพ็ญของเขายังไม่ฟื้นตัว แต่ฉินอิ๋งก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “ฉินอิ๋ง หยุดนะ”ในเวลานี้ ถังหว่านที่อยู่บนเตียงตะโกนอย่างรุนแรงฉินอิ๋งได้ยินแล้วจึงหยุดการโจมตีทันทีมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่หว่านเอ๋อ เด็กคนนี้...” “พอแล้ว”ถังหว่านพูดเบาๆว่า “หมอเทวดาหลินมารักษาโรค อย่าหยาบคายใส่เขา”คุณพ่อของฉินอิ๋งเป็นอาจารย์ของเธอเอง คำพูดของหลินเฟิงทำให้เธอไม่สบายใจแต่ในฐานะที่เป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง เป็นอัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ คิดอย่างใจเย็นเป็นสิ่งที่เธอควรทำ ในการต่อสู้ที่เมื่อกี้ถังหว่านก็สามารถดูออกว่าหลินเฟิง ดูคล่องตัว ความสามารถไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สู้กับฉินอิ๋งอย่างเต็มที่ถ้าเขาสู้เต็มที่ ฉินอิ๋งต้องแพ้แน่ และนี่คือสาเหตุที่เธอพูดให้หยุดสำหรับคำสั่งของถังหว่าน ฉินอิ๋งไม่กล้าไม่ทำตาม จึงได้แต่ถอยหลังไปอย่างเงียบๆถังหว่า
“ดูพอหรือยัง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูดแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่าหลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อยและชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง” “ฮา ฮา”ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ “ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ “ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”หลินเฟิงส่ายหัวเอาเข็มเงินเข็มออกมาปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนเข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ
หลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตูใหญ่ของตระกูลถัง โรลส์-รอยซ์คันหนึ่งขับมาจากข้างหลังและจอดอยู่ข้างๆเขาประตูรถเปิดออก ถังหว่านเดินลงมา “บ้านคุณหลินอยู่ที่ไหนคะ ให้ฉันไปส่งไหม”หลินเฟิงคิดสักพักแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้ไม่มีที่อยู่ คิดว่าจะพักที่โรงแรม”ตัวเขาเองอยู่ที่เจียงโจวไม่ได้ซื้อบ้านไว้เลย เมื่อหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้วเขาก็จะไม่กลับไปตระกูลหลี่อีก “อึม...”ถังหว่านอึ้ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเยอะ “นี่พอดีเลย ตระกูลถังเรามีโรงแรมห้าสิบกว่าแห่งในเจียงโจว” “ให้ฉันจัดการให้คุณหลินเถอะ เมื่อเสวียนหลิงโสมถึงแล้ว ก็พอดีส่งไปให้คุณเลย” “ก็ได้”หลินเฟิงคิดไปคิดมาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขานั่งที่เบาะข้างหลังกับถังหว่าน ฉินอิ๋งเป็นคนขับรถเมื่อถึงประตูเขตวิลล่า ฉินอิ๋งก็จอดรถ “เกิดอะไรขึ้น”ถังหว่านถาม “ข้างหน้ามีรถคันหนึ่ง ไม่รู้ทำไมช้า”ฉินอิ๋งบ่นหลินเฟิงมองไปข้างนอกผ่านหน้าต่างรถ เห็นมีชายสวมชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้องรักษาความปลอดภัย “แจ้งคุณปู่ถัง ว่าหวางเส้าหลง นายน้อยของตระกูลหวางในเจียงโจวขอมาเยี่ยม”พูดจบก็เอาเงินสดก้อนหนึ่งยื่นให้พนักงานรักษาความปลอดภัยพนักงานรักษาความปล
หลี่เหวินเชาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย พูดเสียงดังว่า “คนกากๆอย่างคุณกล้ามาชี้นิ้วสั่งผมเหรอ” “วันนี้กูต้องให้บทเรียนมึงแทนพี่สาวกู”หลินเฟิงเตะท้องของเขาด้วยขาเดียวหลี่เหวินเชาบินออกไปเหมือนโดนระเบิด “อา”แฟนสาวตัวเล็กของหลี่เหวินเชากลัวจนหน้าซีดวิ่งโซซัดโซเซไปยังข้างๆของหลี่เหวินเชา ถามด้วยความกลัว ที่รัก คุณเป็นอย่างไรบ้าง”สีหน้าถังหว่านมีรอยยิ้มที่เย็นชาเด็กชายคนนี้กล้าต่อสู้กับหลินเฟิงด้วย ช่างกล้าหาญเกินแต่สิ่งที่เธออยากรู้อยากเห็นมากคือ หลี่ฮุ่ยหรานที่หลินเฟิงพูดถึงเป็นใคร “ไอเหี้ย”หลี่เหวินเชาใบหน้าบิดเบี้ยว ที่ท้องมีความเจ็บปวดที่รุนแรง รู้สึกลําไส้เกือบจะถูกเตะจนด้วยดวงตาที่มืดมนจ้องไปที่หลินเฟิง “คุณ...คุณกล้าเตะผมเหรอ”หลินเฟิงใจเย็นลง “แต่ก่อนคือเห็นแก่พี่สาวคุณ ผมจึงไม่ได้จริงจังกับคุณ” “ตอนนี้ผมไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหลี่อีกต่อไปแล้ว หากคุณยังกล้าหยาบคายต่อหน้าผมแบบนี้อีก ผมจะเอาคุณตาย”มองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของหลินเฟิงหลี่เหวินเชาสั่น คําสบถที่อยากจะพูดถูกกลืนลงไปหันหน้ามองไปที่ถังหว่านและตะโกน “นี่คุณมาทำอะไร กูมาใช้บริการที่นี่
หากเกิดขึ้นอีกครั้งบางทีหลินเฟิงอาจจะทนไม่ไหวก็ได้นี่มันทรมานเกินไปจริง ๆหลี่ฮุ่ยหรานก็ตื่นเช้าด้วยเธอเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ จัดผมของเธอ และเฝ้าดูหลินเฟิงวิ่งอย่างแข็งขันด้านล่างนอกจากความผิดหวังแล้ว ยังมีอารมณ์ขันและความอ่อนโยนแฝงอยู่ในดวงตาด้วยหนึ่งสัปดาห์จึงผ่านไปสัปดาห์นี้ หลินเฟิงต้องอยู่ข้างตัวหลี่ฮุ่ยหรานทุกวัน คอยระวังการตอบโต้และการลอบโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อการจัดการหลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นง่ายกว่าที่คาดไว้ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ บริษัทก็ฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำครั้งก่อน โดยโครงการต่าง ๆ เริ่มหมุนเวียนอย่างราบรื่น ในฐานะผู้นำ หลี่ฮุ่ยหรานได้รับความชื่นชมและการสนับสนุนจากกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข่าวลือไร้สาระภายในบริษัท ที่ว่าหลี่ฮุ่ยหรานมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังท้ายที่สุดแล้ว เธอคือคนที่สามารถทวงเงินจากบริษัทเต๋อเซิ่งได้ เหล่าบอร์ดบริหารจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?สำหรับกัวโหย่วคัง เขายังคงถูกกักบริเวณในออฟฟิศตัวเอง สีหน้าอมทุกข์ แต่ยังไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้“พี่ คุณวางใจได้!”จางซินนั่งอยู่ข้
“แบบว่า...สามี อย่าไปเลย ฉันกลัวความมืดและอะไรแบบนี้….”เมื่อเห็นรอยยิ้มซุกซนของหลินเฟิงหลี่ฮุ่ยหรานเปิดปาก สับสนจนทำอะไรไม่ถูก และพูดว่า“ไม่ ฉันแค่ไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายในการเปิดสองห้องนั้นสูง และมีข้อเสียมากมาย”หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ในความสับสนและเริ่มพูดเรื่องไร้สาระแล้ว“ฮึ…”หลินเฟิงอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเขาเห็นท่าทางเขินอายและโกรธของหลี่ฮุ่ยหรานในร่างผู้หญิงตัวเล็ก ๆและเมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นหลินเฟิงหัวเราะเยาะเธอ ในที่สุดเธอก็หยุดอธิบาย จากนั้นเบือนหน้าด้วยความโกรธ“เอาล่ะ ฉันจะไม่แกล้งคุณอีกแล้ว”หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและนั่งลงข้าง ๆ หลี่ฮุ่ยหราน กอดเธอไว้ในอ้อมแขนและยิ้มพร้อมพูดว่า“ห้องหนึ่งก็คือห้องหนึ่ง แต่ฉัน หลินเฟิง ไม่ใช่คนทำอะไรไม่รู้จักคิด เมื่อฉันได้ลงหลักปักฐานจริง ๆ ฉันจะให้สถานะที่คุณสมควรได้รับแก่คุณ”“อย่ารีบร้อนในตอนนี้ คุณรู้ไหม?”ดวงตาที่จริงใจของหลินเฟิงทำให้หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และเธอก็ทำปากยื่นเหมือนเด็กผู้หญิงที่ถูกกระทำผิด“แล้ว… เมื่อไหร่จะเป็นอย่างนั้น”“ใช่… เมื่อไหร่กันนะ…”หลินเฟิงกอดหลี่ฮุ่ยหร
306ทันทีที่ใช้การ์ดประตูนี้เปิดประตู หลินเฟิงก็มองไปที่ภายในห้องและตกตะลึงทันทีมันเป็นห้องนอนขนาดคิงไซส์!เขาหันศีรษะอย่างเกร็ง ๆ และมองไปที่หลี่ฮุ่ยหราน“ห้องสวีทระดับพรีเมียมมีคนจองไปแล้ว ดังนั้น ฉันจึงต้องตกลงที่จะเข้าพักในห้องดีลักซ์สวีทแทน ไม่ต้องกังวล สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมนี้ยังคงมีอยู่…”หลี่ฮุ่ยหรานเดินเข้ามาในห้องขณะพูดแต่ทันทีที่เธอเห็นเตียงขนาดใหญ่ในห้องที่กว้างขวาง ท่าทางของเธอก็แข็งค้างและเธอดูสับสนเล็กน้อย“เฮ้อ นี่….”หลินเฟิงเกาหัวและยิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆหลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นอะไรได้มากมายจากรอยยิ้มของหลินเฟิง และใบหน้าอันบอบบางของเธอก็แดงขึ้นขณะที่เธอพึมพำ“ไม่ควรเป็นอย่างนั้น ฉันจำได้ว่าฉันขอให้จางซินจองห้องชุด”หลี่ฮุ่ยหรานพูดแล้วเดินไปที่ทางเดินนอกห้องและทักทายพนักงานเสิร์ฟเพื่อสอบถาม“ฉันขอโทษจริง ๆ คุณหลี่ ห้องที่คุณขอให้เลขาจองไว้ก่อนหน้านี้ก็คือห้อง 506 ซึ่งเป็นห้องดีลักซ์สวีท”“แต่เนื่องจากต้องซ่อมบำรุงรักษาชั่วคราว เราจึงไม่สามารถย้ายเข้าได้ชั่วคราว เราได้จัดห้องดีลักซ์อีกห้องให้คุณแล้ว และเลขาของคุณก็ตกลงด้วย ดังนั้น”“ต้องขอโทษที่ไม่ได้แจ้
กลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้งเมื่อเผชิญกับหน้ากับความกังวลของจางซิน จ้าวเว่ยก็อ้างเหตุผลอย่างไม่ใส่ใจ บังเอิญล้มลงและฝ่ามือของเขาไปกระแทกกับส้อมที่ใครบางคนทิ้งไว้จึงทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นเมื่อเห็นบาดแผลบนฝ่ามือของจ้าวเว่ย จางซินก็ไม่สามารถนั่งนิ่งได้และรีบดึงเขาออกไป“ไปกันเถอะ ฉันจะช่วยคุณหาหมอมาทำแผลให้”“ไม่จำเป็น”จ้าวเว่ยรู้สึกอาย เขาแอบเหลือบมองหลินเฟิงแล้วกระแอมออกมาพร้อมพูดว่า“คุณหลินเพิ่งรักษาฉันมาและตอนนี้ไม่เจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว”“ไม่ใช่มั้ง? เขาเป็นแค่หมอกระเป๋า คุณไว้ใจเขามากกว่าโรงพยาบาลจริงเหรอ? ไปกันเถอะ! อย่าเสี่ยงติดเชื้อเพราะผู้ชายคนนั้น ถ้ามันทิ้งรอยแผลเป็นไว้ คุณจะต้องเสียใจ…”จางซินไม่ไว้ใจหลินเฟิงเลยและเยาะเย้ยความคิดเรื่องการรักษาของเขาสุดท้าย จ้าวเว่ยทำได้เพียงปล่อยให้จางซินลากเขาออกไปอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาจากไป เขาพยักหน้าให้หลินเฟิงอย่างหมดหนทางหลินเฟิงดื่มกาแฟบนโต๊ะเท่านั้นและไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ เพิ่มเติม“หลินเฟิง ก่อนหน้านี้ นาย…”เมื่อเห็นจางซินและจ้าวเว่ยจากไป หลี่ฮุ่ยหรานก็อดไม่ได้ที่จะมองหลินเฟิงที่ไม่ปิดบังอะไรและพยักหน้าพร้อมพูดว่
หลินเฟิงตกตะลึงไปชั่วขณะ ตระกูลหลงจะสู้สุดตัวกับตระกูลถังจริงหรือ?ก่อนหน้านี้ ถังเจี้ยนหยวนยังบอกด้วยว่ากลยุทธ์ของตระกูลหลงนั้นถูกวางแผนโดยหลงหยวนเพียงคนเดียว หากผู้นำตระกูลหลงอยู่ที่นี่ เขาจะไม่เสี่ยงทําเรื่องแบบนี้แน่นอนแต่ไม่คาดคิดว่าเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า ท่าทางของตระกูลหลงก็เปลี่ยนไป พวกเขาต้องการทำสงครามกับตระกูลถังอย่างเต็มตัว?!แม้แต่วางแผนมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อโค่นล้มตระกูลหลี่ดูเหมือนว่าความพยายามส่วนใหญ่ของตระกูลหลงจะมุ่งเป้าไปที่เขา!หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็หัวเราะเยาะออกมา“ฉันเข้าใจแล้ว... เพราะเป็นอย่างนี้นี่เอง….”หลินเฟิงหยิบยาเม็ดสีเข้มน่ากลัว ออกมาจากกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ ยัดเข้าไปในปากของจ้าวเว่ย แล้วพูดอย่างเย็นชา“ถ้านายรู้จักฉัน แกก็จะรู้ทักษะทางการแพทย์ของฉัน ยาเม็ดนี้เรียกว่าถังเจี้ยนหยวน และตั้งแต่วันที่แกกินยานี้ไป แกจะต้องได้รับยาแก้พิษทุกสัปดาห์”“ไม่งั้นสิ่งที่รอแกอยู่คือความเจ็บปวด โดยที่เส้นลมปราณของแกจะระเบิด และแกจะตายอย่างทุกข์ทรมานเป็นเวลาร้อยวัน”เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินเฟิง จ้าวเว่ยก็ตัวสั่นด้วยความกลัว“แน่นอนว่าฉัน
“ท่านครับ ท่าน….”“หลบไป”หลินเฟิงผลักพนักงานเสิร์ฟที่ขวางทางออกไป แล้วรีบวิ่งไปหาจ้าวเว่ย จากนั้นก็ยกคอเสื้อขึ้น ดึงเขาและผลักเขาเข้าไปในห้องน้ำชาย“ปัง!”หลินเฟิงหันมือไปปิดประตูห้องน้ำ แล้วล็อกกลอน“แกจะทำอะไร?!”จ้าวเว่ยกัดฟันและมองไปที่ฝ่ามือที่เลือดออกของเขา ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความโกรธที่มีต่อหลินเฟิง“ฉันจะทำอะไรเหรอ?”หลินเฟิงโยนเขาลงบนพื้นห้องน้ำแล้วเยาะเย้ย “ฉันคิดว่าคำถามที่ดีกว่าคือ แกกำลังพยายามทำอะไรอยู่?” “ก่อนอื่นเรามาคาดเดาตัวตนของแกกันก่อนดีกว่า”หลินเฟิงเหยียบฝ่ามือของจ้าวเว่ยที่ถูกส้อมแทง ทำให้เขาต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง“แกเข้าใกล้จางซิน เพื่อหลี่ซื่อกรุ๊ป เป้าหมายของแกคืออะไร? เพื่อถ่วงเวลา? แกกำลังถ่วงเวลาให้ใครอยู่?! พูดมาสิ!”หลินเฟิงหรี่ตาและจ้องมองจ้าวเว่ยอย่างเย็นชา“แก…แกกำลังพูดอะไร? ฉัน... ฉันไม่รู้อะไรเลย!”จ้าวเว่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นหลินเฟิงถามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เขาไม่รู้ว่าหลินเฟิงได้ยินมันได้อย่างไร“โอเค แกจะไม่พูดสินะ? ถ้าอย่างนั้นอย่าโทษฉัน…..”หลินเฟิงมีวิธีเค้นให้สารภาพมากมาย และจ้าวเว่ยไม่ใช่คนธรรม
หลี่ฮุ่ยหรานขู่น้ำเสียงต่ำ“โอ้? ฉันรับผลที่ตามมาไม่ไหวเหรอ? รู้ไหมว่าใครหนุนหลังฉันอยู่? ฮ่า ๆ... ฉันกลัวว่า ถ้าพูดออกไป จะทำให้เป็นลมล้มพับกันทีเดียว”“แต่เรากลับเข้าประเด็นหลักกันดีกว่า”จ้าวเว่ยเม้มปากแล้วก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว บีบหลี่ฮุ่ยหรานจนมุม และเลียริมฝีปากตัวเองพร้อมพูดว่า“ประธานหลี่ มานอนกับฉันสักคืนหนึ่ง แล้วฉันจะคืนข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดให้ ฉันรับรองด้วยเกียรติของฉัน" "ไม่งั้น..."จ้าวเว่ยยิ้มและพูดว่า“พรุ่งนี้ เอกสารเหล่านี้จะปรากฏบนโต๊ะของบริษัทศัตรูในทุกรายละเอียด”"เป็นไง? แล้วคุณจะเลือกอะไร?"เมื่อฟังคำขู่ของจ้าวเว่ย หลี่ฮุ่ยหรานก็หลับตาและเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า“ผู้จัดการจ้าว ตอนนี้ฉันสามารถสรุปได้ว่าคุณกำลังข่มขู่ฉันอยู่ใช่ไหม?”“ถูกต้องแล้ว”จ้าวเว่ยเอนตัวเข้าไปใกล้หลี่ฮุ่ยหรานมากขึ้น หรี่ตาและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เขาดูภาคภูมิใจอย่างมาก รู้สึกชัดเจนว่าเขาควบคุมหลี่ฮุ่ยหรานได้แล้วในใจของเขา กำลังจินตนาการถึงสิ่งที่อยู่ใต้ชุดทำงานของเธอเมื่อคิดดูแล้ว เขาก็รู้สึกทันทีว่าเปลวไฟใต้ท้องน้อยได้ลุกโชนขึ้น และไม่สามารถควบคุมมันได้เลยเนื่องจากไม่สา
“อืม”จางซินพยักหน้าและจดจ่อกับของหวานบนโต๊ะอาหารในขณะเดียวกัน หลินเฟิงก็จับแขนของเขาและจ้องมองจ้าวเว่ยที่กำลังเดินไปที่ห้องน้ำ แววตาฉายความมืดหมนออกมา“เฮ้ นายมองอะไรอยู่ นายอิจฉาเหรอ?”เมื่อเห็นหลินเฟิงจ้องมองจ้าวเว่ยตลอดเวลา จางซินก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อยและพูดว่า“จ้าวเว่ยแตกต่างจากนาย เขาเป็นผู้จัดการแผนกที่รับผิดชอบตรวจสอบเอกสารการประมูลทั้งหมดของบริษัท รู้ไหมว่า มีคนกี่คนในเมืองเจิ้งเต๋อที่ต้องก้มหัวให้เขา?”“ไม่เหมือนนาย ที่ไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากการใช้กำลัง และเพียงแค่ประจบประแจงพี่ฉันอย่างหน้าไม่อาย ขอให้เธอช่วยนายหางานให้”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จางซินก็ทุบโต๊ะและหัวเราะอย่างสนุกสนาน:“หลินเฟิง นายก็โชคร้ายเช่นกัน นายคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในบริษัทเลยใช่ไหม?”“พี่ฉันได้ยกแผนกรักษาความปลอดภัยให้กับนายแล้ว... แผนกรักษาความปลอดภัยเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นเหรอ? มันตลกดีนะ เงินเดือนของนายเดือนละ 50,000 หรือเปล่า?”เมื่อได้ยินจางซินยังมีหน้ามาล้อเลียนตัวเอง หลินเฟิงก็ยิ้มเยาะและไม่สนใจที่จะคุยกับเธอด้วยซ้ำถ้าเธออยากพูด ก็ปล่อยให้เธอพูดไปตอนน
หลินเฟิงเงยหน้ามองคน ๆ นั้นอย่างเย็นชา และจู่ ๆ จ้าวเว่ยก็โกรธขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ถึงได้พกความมั่นใจออกมาจากบ้านมามากขนาดนี้ได้?“ฉันเชิญให้ประธานหลี่มานั่งที่นี่ เพราะฉันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องคุยกับประธานหลี่ แกเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถ้าแกทำให้การตกลงทางธุรกิจมีปัญหา แกจะชดเชยได้ไหม?!”จ้าวเว่ยพูดอย่างเย็นชา“ฉันมีคุณสมบัติเพียงพอ”หลินเฟิงแสร้งทำเป็นโง่และพยักหน้าตรง ๆ“แก….”เมื่อเห็นการปรากฏตัวของหลินเฟิง จ้าวเว่ยก็โกรธขึ้นมาทันที“ได้ ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานเอื้อมมือไปจัดกระโปรงสั้นของเธอให้เรียบร้อย นั่งลงข้าง ๆ หลินเฟิง และทำตัวเป็นคนกลางอย่างช่วยไม่ได้ มองไปที่จ้าวเว่ยแล้วพูดว่า“น้องฉันเอาโน้ตบุ๊คของฉันไปก่อนหน้านี้ ถ้ามันอยู่กับคุณ โปรดส่งคืนให้เจ้าของเดิมด้วย”นี่คือเรื่องที่หลี่ฮุ่ยหรานกังวลมากที่สุดในขณะนี้เพราะมีเอกสารลับที่เกี่ยวข้องกับหลี่ซื่อกรุ๊ปจำนวนมากในโน้ตบุ๊ค ซึ่งไม่ควรให้บุคคลภายนอกดูหากจ้าวเว่ยพบและขายเอกสารเหล่านี้ให้กับบริษัทคู่แข่ง หลี่ซื่อกรุ๊ปจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งบอร์ดบริหารคนก่อน ๆ