เพิ่งลงจากรถ ผู้ชายที่สะลึมสะลือเล็กน้อยก็คือหลินเฟิงนั่นเองหลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้โง่สักหน่อยดึกขนาดนี้ หลี่เยว่หรูโทรศัพท์หาเธอ อีกทั้งยังให้เธอรีบกลับมาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน เห็นได้ชัดว่ามีพิรุธถ้าหากคุณปู่หลี่ไห่เจียงเรียกหาเธอจริงๆ เช่นนั้นก็จะมีคุณลุงติดต่อเธออยู่แล้วแต่ว่าหลี่ฮุ่ยหรานก็ไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นหลังจากครุ่นคิดอย่างละเอียด ก็ตัดสินใจขับรถพาหลินเฟิงกลับมาตามนัดด้วยกันและเมื่อครู่ หลินเฟิงเกิดง่วงพอดี จึงนอนหลับที่อยู่ที่เบาะหลังครู่หนึ่ง ถึงได้ไม่โดนหลี่ก่วงเฉิงกับคนอื่นๆ เห็นเข้า ตอนนี้หลินเฟิงลงจากรถ ทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ นิ่งอึ้งครู่หนึ่งหลังจากตะลึงงันเสร็จ หลี่อิงเฉิงมองไปทางหลินเฟิง ใบหน้าเผยความเหน็บแนมออกมา“หลี่ฮุ่ยหราน นี่ก็คืออดีตสามีไร้ประโยชน์คนนั้นของเธอเหรอ?”“คนชั่ว? ขวางรถ?”หลินเฟิงตัวสั่นได้สติขึ้นมา แต่สิ่งแรกในนั้น คือได้ยินหลี่อิงเฉิงเยาะหยันเขาเขานิ่งอึ้งครู่หนึ่ง“อดีตสามีไร้ประโยชน์? คุณกำลังหมายถึงผมเหรอ?”หลินเฟิงชี้ตัวเองด้วยความงุนงง“พรวดฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”เห็นหลินเฟิงท่าทางแบบนี้ หลี่อิงเฉิงกับหลี่ก่วงเฉิงแม้แต่พวกสมุนที่อย
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ทั้งสองคนก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีก หลี่ก่วงเฉิงแสยะยิ้มพร้อมกับพูดว่า“เป็นเรื่องจริงที่พวกเราเผาโฮมสเตย์ไร้สาระของพวกเธอ ในเมื่อวันนี้พวกเธอจะต้องตายอยู่ที่นี่แน่นอนแล้ว งั้นฉันก็จะทำให้พวกเธอเป็นผีที่ได้รับรู้เรื่องราว!”“เป็นแบบนี้นี่เอง”หลินเฟิงหันกลับมามองรถของหลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะยิ้มให้กับหลี่ฮุ่ยหรานและพูดว่า “กล้องติดรถยังเปิดอยู่หรือเปล่า? คำพูดที่พวกเขาทั้งสองคนพูดถูกบันทึกไว้แล้วใช่ไหม?”“อืม”หลี่ฮุ่ยหรานที่ตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะฉลาดแกมโกงแบบนี้ จึงปิดปากและหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าในตอนนี้เธอไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยในเมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเคยได้เห็นถึงพละกำลังของหลินเฟิงแล้วแม้แต่อันธพาลและลูกน้องที่เมืองจิงก็ไม่สามารถรับมือหลินเฟิงได้โดยง่าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพื่อนเลวที่หลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงเรียกมาเลยเมื่อได้ยินว่าคำพูดของตัวเองถูกบันทึกไว้แล้ว หลี่ก่วงเฉิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าแปลกใจเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ฟื้นความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า“ต่อให้พวกเธอบันทึกไปแล้วจะทำอย่างไรล่ะ?”“ตร
เพียงแค่เห็นหลินเฟิงยืนอยู่กับที่ รอให้มีดของลูกน้องคนแรกที่อยู่ห่างแค่ปลายจมูกของตัวเองเพียงครึ่งนิ้ว จากนั้นก็ลงมือทันทีการลงมือนี้ เหมือนกับฟ้าผ่า หลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นได้ไม่ชัดว่าหลินเฟิงทำอะไรบ้าง แล้วลูกน้องที่ถือมีดก็ส่งเสียงร้อง ก่อนจะล้มลงไปกับพื้นและมีดในมือของเขา ก็ไปปรากฏอยู่ในมือของหลินเฟิงแทน“ไม่....ไม่!”เมื่อเห็นหลินเฟิงกำลังจะเข้ามาเตะลูกน้องที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับหอบอย่างหนัก และยังไม่ทันที่จะโต้ตอบ ก็ถูกหลินเฟิงเตะจนลองออกไปที่หน้าอกยุบและอาเจียนเป็นเลือดออกมาสามลิตร จนไม่สามารถส่งเสียงร้องได้อีก เห็นได้ชัดว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว“ฟึ่บ!”หลินเฟิงที่ยื่นมีดไปทางด้านหลังของตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ ได้สกัดกั้นการโจมตีจากด้านหลัง ก่อนจะหันหลังกลับและต่อยลูกน้องที่อยู่ด้านหลังจนศีรษะผิดรูป“ผัวะ!”ในช่วงเวลานี้ หลินเฟิงยังไม่ลืมที่จะเหยียบน่องของลูกน้องนอนอยู่ด้านเขา ก่อนจะขยี้น่องของเขาโดยตรง“อ่ะอ้าก_____!”พวกอันธพาลที่ถูกเหยียบขยี้น่องทิ้งอาวุธ แล้ววิ่งหนีพร้อมกับลากขาที่หักไปด้วย แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงโลหเจาะเข้าไปในเนื้อเขาก้าวไปพร้อมกับก้มลงมอ
หลี่อิงเฉิงมองชายคนนี้ที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยิ้มอยู่ แต่กลับทำให้เขาหวาดกลัวอย่างไม่มีสติ และมันไม่ได้ดีไปกว่าการได้เห็นรอยยิ้มของราชาพญายมเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะทำเรื่องปล้นและฆ่าแบบนี้มาไม่น้อยก็ตามแต่กลับไม่เคยเห็นการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียวเหมือนกับหลินเฟิงมาก่อนเลยสิ่งนี้ทิ้งเงามืดไว้ในจิตใจลึก ๆของหลี่อิงเฉิง“แก...อย่าเข้ามา!”ไม่รู้ว่าหลี่อิงเฉิงคว้ากริชจากที่ไหนออกมา ก่อนจะจับหลี่เยว่หรูให้มาอยู่ในมือของตัวเอง แล้วจ่อกริชไว้ที่ลำคอของเธอ“ถ้าแกเข้ามาอีก ฉันจะฆ่าเธอซะ!”กริชถูกกดลงที่ต้นคอของหลี่เยวหรูโดยตรง ก่อนที่เลือดจะค่อย ๆหยดลงมาจากเส้นเลือดที่ถูกตัดเมื่อได้คำขู่ที่อ่อนแอของหลี่อิงเฉิง หลินเฟิงก็ยกมือและพูดว่า“คุณคิดว่าผมจะสนใจความเป็นคามตายของเธอหรือเปล่าล่ะ?”หลี่เยว่หรูที่ถูกหลี่อิงเฉิงจับเป็นตัวเอาไว้ ก็รู้สึกหวาดกลัวจากจนใบหน้าขาวซีดและมีอาการสั่งเทา ก่อนจะร้องขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงเป็นระยะ ๆจนจาฟังไม่เข้าใจ“ช่วย...ช่วยฉันด้วย ขอร้อง หลิน...หลิน...”“เอ๊ะ คุณหลี่เยว่หรู อย่ามาขอร้องผมเลย เกรงว่าตัวคุณเองก็คงรู้ดีกว่าใคร ๆว่าก่
“ไม่...ไม่!”หลี่ก่วงเฉิงเดิมคิดว่าสามารถถือโอกาสหลบหนีไปได้ แต่คิดไม่ถึงว่าในตอนที่เขาจะปีนขึ้นรถสำเร็จ และหนีรอดไปได้ กลับถูกหลินเฟิงลากกลับไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่าความหวังที่จะรอดชีวิตห่างไกลตัวเองออกไป หลี่ก่วงเฉิงดิ้นรนเหมือนคุ้มคลั่งแต่นี่ไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดหลินเฟิงเหยียบแขนของเขาจนหัก ทำให้เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนอย่างหลี่อิงเฉิงทันใดนั้นเขาเหมือนกับหมาตาย ไม่มีแรงดิ้นรนอีกด้วยซ้ำ“ให้ผมดูหน่อย ควรจะจัดการพวกคุณอย่างไรดีนะ?”มองดูหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงสองพี่น้องที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้น หลินเฟิงหันไปมองหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ในรถอันที่จริงหลินเฟิงเป็นกังวลความรู้สึกของหลี่ฮุ่ยหรานถ้าหากตามปกติ สวะแบบนี้เขาไม่มีทางไว้ชีวิตอย่างแน่นอน ฆ่าทิ้งซะให้หมดเรื่องแต่ในเมื่อสองคนนี้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหลี่ฮุ่ยหราน ยิ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของนายท่านหลี่ไห่เจียงฆ่าพวกเขาทิ้งไปแบบนี้โดยตรง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ขอร้องคุณล่ะ คุณหลิน อ่อไม่ ท่านหลิน ขอร้องคุณไว้ชีวิตผมด้วย ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของหลี่ก่วงเฉิงนะครับ!”ตอนนี้หลี่อิงเฉิงไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องอีกแล้
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้...”ในตอนที่หลินเฟิงหันหน้ามองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน คิดว่าควรจะพาสองคนนี้ไปที่ตระกูลหลี่ได้อย่างไร ข้างๆ กลับมีเสียงกรีดร้องตะโกนที่แสบแก้วหูของหลี่เยว่หรู“ไปตายเถอะ!”“เอื้อกกกก!”หลินเฟิงหันหน้ามองไปพบอย่างกะทันหันว่าหลี่เยว่หรูไม่รู้เก็บมีดสปาต้ามาจากที่ไหน ถือโอกาสในตอนที่เขาหันหน้ากลับไป ในตอนที่ไม่ได้สังเกต เธอก็ฟันไปที่คอของหลี่อิงเฉิงโดยตรงมีดนี้ถูกฟันลงไปแบบนี้ แต่ทว่าหลี่อิงเฉิงไม่ทันได้ตั้งตัวในปากอมเลือดไว้ มองหลี่เยว่หรูที่หายใจหอบด้วยความเหลือเชื่อ สามในสี่ของรอบคอของเขาถูกหลี่เยว่หรูฟันขาดหลี่อิงเฉิงถลึงตาโตชักกระตุกดิ้นรน เห็นได้ชัดว่าไม่รอดแล้ว“เธอทำอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงเพิ่งตัดสินใจพาเดนมนุษย์สองคนนี้กลับไปที่ตระกูลหลี่ กลับพบว่าหลี่เยว่หรูแอบโจมตีหลี่อิงเฉิง ฟันศีรษะของเขาจนขาด“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก...”หลี่เยว่หรูถือมีดสปาต้าไว้ หายใจหอบนั่งทรุดลงบนพื้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“สมควร แกสวมควรแล้วล่ะ! แกแม่งหลอกฉัน! แกสมควรแล้ว!”หลี่เยว่หรูด่าทอเสียงดังใส่หลี่เยว่เฉิงที่ตายตาไม่หลับ ส่วนหลินเฟิงรู้สึกเงียบต่อภา
อันที่จริงจ้าวเทียนหวาก็ทุ่มเทให้กับฟาร์มนี้ไปไม่น้อยเลยการก่อสร้างโฮมสเตย์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจ้าวเทียนหวาเพื่อที่จะผลักดันโครงการนี้สร้างให้สำเร็จส่วนใหญ่จ้าวเทียนหวาใช้ทรัพยากรของบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนล และยังส่งทีมงานหลายสิบคนมาดำเนินการก่อสร้างในเวลาเดียวกันโชคดีที่คราวนี้หลี่ก่วงเฉิงและหลี่อิงเฉิงไม่ได้เผาอาคารกับวิลล่าที่พวกเขาสร้างขึ้นไม่อย่างนั้น จ้าวเทียนหวาคงจะนำคนส่วนของตัวเองพุ่งเข้าไปแล้วในขณะนี้เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านี้ถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้ว จ้าวเทียนหวาก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจและวางสายไปโดยที่ไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงตระกูลหลี่ หลินเฟิงก็มองเห็นนายท่านหลี่ไห่เจียงและผู้มีตำแหน่งสูงคนอื่น ๆที่รออยู่ตรงประตูใหญ่ รวมทั้งหลี่ก่วงเฉิงและผู้ตำแหน่งสูงของตระกูลหลี่หลี่หยวน หลี่ฟางและคนอื่น ๆต่างก็อยู่กันทั้งหมดแม้แต่หลิ่วเยว่ฟางกับโจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆก็ออกมาเหมือนกันแวบแรกที่เห็นพวกเขา หลินเฟิงก็เข้าใจว่า ทางด้านนี้หลี่ฮุ่ยหรานได้โทรมาหาพวกเขาล่วงหน้าแล้วโจวอวี้เฟิ่งในขณะนี้มีความกังวลราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟถ้าลูกสาวของเธอเป็นอะไรไป
“หลี่ฮุ่ยหรานบอกว่าเยว่หรูโทรบอกให้เธอมาที่นี่ เธอมีหลักฐานหรือเปล่า?!”“พ่อ กงเฉิง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะ!”“ใครบ้างไม่รู้ว่าหลินเฟิงสามารถต่อสู้ได้?”โจวอวี้เฟิ่งพูดคำพวกนี้ ก่อนจะมองไปทางหลี่ก่วงเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่กระตุกเขาไม่รู้จริง ๆนั้นแหละเพราะว่าเขาเคยถามเรื่องของหลินเฟิงกับโจวอวี้เฟิ่ง ก่อนจะประเมินและได้คำตอบเพียงสี่คำเท่านั้น“อดีตสามีที่ไร้ประโยชน์”คำนี้ก็เป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้หลี่ก่วงเฉิงเผชิญหน้ากับหลินเฟิงได้อย่างไร้ยางอายแบบนั้นแต่เขากลับไม่รู้ว่าอดีตสามีคนนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของโจวอวี้เฟิ่งที่มีต่อหลินเฟิงเท่านั้นมันไม่ได้หมายความว่าหลินเฟิงจะไร้ประโยชน์จริง ๆเรื่องนี้ จนกระทั่งตอนนี้เขามองดูโจวอวี้เฟิ่งถึงได้เข้าใจทันใดนั้นในใจก็รู้สึกเกลียดชังอย่างมากคำพูดของโจวอวี้เฟิ่งยังไม่จบ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบ ๆและพูดว่า“หลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นอะไรสำหรับพวกเรา? เป็นคนนอก!”“แม้ว่าพวกเราจะยอมรับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลี่เมืองเจียนหนาน คำพูดของคนนอกทั้งสองคนมัน
“อย่างน้อยเมื่อฉันตาย ก็ตายเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง”“ไม่ใช่ถูกทำเหมือนกับสุนัขตัวหนึ่ง”“......”เมื่อเห็นแบบนี้ หลินเฟิงก็ตกตะลึงไปชั่วครู่เมื่อทั้งสองคนเดินผ่านระเบียงทางเดิน แล้วผลักประตูห้องทำงานขนาดใหญ่ของโจวเจี้ยนโหลวให้เปิดออก ทันใดนั้นก็เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างใหญ่โตยี่สิบกว่าคนอยู่ภายในสำนักงานในจำนวนนั้นมียอดฝีมืออยู่มากมายพวกเขาทั้งหมดต่างก็ยืนเรียงกันอยู่ทั้งสองข้างโต๊ะของผู้ชายคนหนึ่ง ราวกับจงใจรอใครสักคนมา“หึหึ ยินดีต้อนรับ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป ได้ยินมาว่าคุณมีธุระกับผมงั้นเหรอ? ชายคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับโจวเซวียโหลวอยู่เล็กน้อย แต่ดูเด็กกว่าไม่กี่ปีอย่างเห็นได้ชัด กำลังนั่งอยู่ที่ด้านหลังโต๊ะเขามีกล้องยาสูบไม้อยู่ในปากพร้อมกับจ้องมองไปที่หลี่เหวินเชาและหลินเฟิงด้วยรอยยิ้มเยาะ“คุณก็คือโจวเจี้ยนโหลวงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวต่อการเผชิญหน้ากับเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กดดันอยู่รอบ ๆเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเดินไปช้า ๆที่ด้านหน้าโต๊ะของโจวเจี้ยนโหลวแทน“ใช่แล้ว ผมเอง”โจวเจี้ยนโหลวพยักหน้า“ที่ผมมาหาคุณวันน
“อ่อ?”เมื่อได้ยินแบบนี้ บอดี้การ์ดก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะสลับหันไปมองเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วทั้งคู่ต่างก็ประหลาดใจกันเล็กน้อย“คิดไม่ถึงเลยว่าหมาอย่างนายจะเก่งขนาดนี้!”พนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวชื่นชมว่า :“ดีมาก ดีมาก รองประธานโจวยังบอกพวกเราเป็นพิเศษว่า ถ้าถึงเวลาแล้ว ก็ไปเอาหัวหมาของนายได้เลย”“หาก คิดแบบนี้พวกเราก็ประหยัดแรงไปได้มากเลยทีเดียว”“หึหึ ยินดีครับ ยินดี”หลี่เหวินเชาพยักหน้าอย่างประจบสอพลอ“ได้ นายเข้าไปเถอะ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดทางให้ พร้อมกับชี้ไปที่ลิฟต์ที่ตกแต่งด้วยสีทองอร่าม ซึ่งอยู่ตรงห้องโถง“ขอบคุณมากพี่ชาย หึหึ...ขอบใจนะ ขอบใจ”หลี่เหวินเชาอ่อนน้อมอย่างมาก พร้อมกับก้มหัวและพยักหน้าขอบคุณไม่หยุด แต่ทว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับไม่ซาบซึ้ง ทั้งยังเยาะเย้ยว่า :“ใครเป็นพี่ชายกับแกว่ะ? แกก็เป็นแค่หมาพนันที่ถูกประธานโจวเลี้ยงเท่านั้น ยังจะเรียกพวกเราว่าพี่น้องอีก แกคู่ควรงั้นเหรอ?”“หึหึ....ไม่ ไม่คู่ควร ต้องขอโทษด้วย ขอโทษด้วยนะ...”หลี่เหวินเชายังคงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างไร้ศักดิ์ศรีอย่างไรก็ตาม เมื่อหลินเฟิงต้องการที
เขาจำได้ว่าจิ่วเทาเคยแนะนำตัวกับเขา คนของแก๊งทลายโลหิตน้อยที่สุด แต่แข็งแกร่งมากที่สุดมีนักบู๊จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะยังมีพี่น้องตระกูลหานแต่พี่น้องตระกูลหานถูกเขากำจัดไปแล้ว“ทำไมเหรอ? หัวหน้าหลิน คุณมีเรื่องกับแก๊งทลายโลหิตงั้นเหรอครับ?”ได้ยินคำถามลองเชิงของจิ่วเทาในโทรศัพท์ หลินเฟิงพูดอย่างมั่นใจว่า:“ถูกต้อง ฉันกำลังเตรียมตัวจะไปเจี้ยนหงกรุ๊ป ไปพบรองประธานของเจี้ยนหงกรุ๊ป นายบอกว่าที่นี่เป็นถิ่นของแก๊งทลายโลหิต งั้นนายก็พาคนมาที่นี่หน่อย”“ได้เลยครับ!”แทบจะไม่ลังเลเลยจิ่วเทาตอบรับได้เด็ดขาดอย่างมาก และก็ตะโกนเสียงดังในโทรศัพท์:“พรรคพวก มีงานมาแล้ว หัวหน้าหลินจะไปทำลายที่ซ่อนของแก๊งทลายโลหิต คนที่ขยับเขยื้อนได้ ตามฉันไป!”“ไม่ต้องระดมกำลัง”หลินเฟิงได้ยินการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของจิ่วเทา จึงรีบเอ่ยปากพูดว่า:“มาแค่ไม่กี่คนก็พอแล้ว”“อ๊ะ? ไปแค่ไม่กี่คน?”จิ่วเทาสงสัยเป็นอย่างมาก “หัวหน้าหลิน พวกเราพาคนไปไม่กี่คน นี่จะไม่เป็นการส่งของว่างให้พวกเขางั้นเหรอ?”“วางใจเถอะ ต่อกลอนกับแก๊งทลาโลหิต ฉันคนเดียวก็พอแล้ว สำหรับพวกนาย เป้าหมายก็คือมารับมือต่อถิ่นฐานของแก๊งทลายโลหิ
หลี่เหวินเชาตกใจจนล้มลงบนพื้น ถึงแม้เขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊ที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด แต่อาคารของเจี้ยนหงกรุ๊ปนั่นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยคนเก่งกาจ เป็นสำนักงานใหญ่ของแก๊งหมาป่าสีเลือดก่อนที่จะแบ่งแยกออกไปต่อให้พวกเขาจะไม่สามารถหาคนที่แข็งแกร่งกว่าพี่น้องตระกูลหานมาได้ แต่ในนั้นก็มีนักบู๊จำนวนไม่น้อยบวกกับอันธพาลและลูกสมุนรับจ้าง มีจำนวนเป็นร้อยเป็นพันคนนับจำนวนคน ก็สามารถทับถมเขากับหลินเฟิงจนตายได้หลี่เหวินเชากลืนน้ำลาย ไม่กล้าปฏิเสธหลินเฟิง ทำได้เพียงนั่งทรุดอยู่บนพื้นและส่ายหน้าอย่างรุนแรง แสดงออกว่าเขาไม่กล้า“หึ ในเมื่อเป็นแบบนี้ นายก็ไสหัวไปเถอะ”“เอาที่ดินไปไม่ได้ คิดว่าไม่ต้องให้ฉันลงมือ ชีวิตกระจอกๆ แบบนี้ก็คงมีคนจัดการอยู่แล้ว”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ หันหน้าจะเดินจากไปเมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟิง หลี่เหวินเชานิ่งอึ้งทันทีจู่ๆ เขาก็คิดถึงใบหน้าที่เหี้ยมโหดของโจวเจี้ยนโหลว จึงตัวสั่นเทาทันทีหลินเฟิงพูดถูกถ้าหากเอาที่ดินกลับไปไม่ได้ เช่นนั้นจุดจบของเขาแค่เดาก็รู้ได้ ต้องตายเพียงทางเดียวเท่านั้นไม่ได้คิดอะไรมาก หลี่เหวินเชารีบคลานไปตรงหน้าหลินเฟิง ขวางทาง
หวังว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนนิสัยของเธอได้ไม่ต้องเป็นแม่พระอะไร อย่างน้อยอย่าก่อปัญหาให้หลี่ฮุ่ยหราน ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีก็พอแล้ว“ผมจะทำนะครับ”หลินเฟิงพยักหน้าอย่างจนใจ“หึ”จางซินมีท่าทีหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นตามจางกุ้ยหลานที่เดินจากไปส่วนหลี่เหวินเชาอยากจะถือโอกาสนี้จากไป แต่กลับถูกหลินเฟิงดึงคอเสื้อเอาไว้“ฉันให้นายกลับไปแล้วเหรอ?”ได้ยินคำพูดเย็นชาของหลินเฟิง แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยแรงสังหารสีหน้าของหลี่เหวินเชาหลากหลายอารมณ์ เขากระวนกระวายก่อน จากนั้นหวาดกลัว สุดท้ายก็ฝืนยิ้มออกมา“พี่…”ยังไม่ทันพูดคำว่า “เขย” ออกมา หลินเฟิงกลับตบไปที่ใบหน้าของเขา ทำให้เขาหน้ามืดตาลาย กลิ้งล้มบนพื้นหลายตลบก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนพื้นไม่กี่วินาที ใบหน้าของหลี่เหวินเชาก็เกิดรอยช้ำขึ้นมา“พี่…พี่สะใภ้…ไม่ อย่า…”เมื่อตั้งสติได้ หลี่เหวินเชานั่งตาลายอยู่บนพื้น เห็นหลินเฟิงเดินมาทางเขาอีก เขาก็สีหน้ากระวนกระวาย หันหน้ากลับไปอยากจะคลานหนี แต่ก็ยังถูกหลินเฟิงจับเอาไว้ได้“หลี่เหวินเชา ก่อนหน้านี้ไม่ได้ข่าวของนายมาโดยตลอด ฉันยังคิดว่านายรู้จักฉลาดแล้ว ได้งานที่ดีกว่าที่ต่างถิ
“จางซิน เธอทำเป็นเสแสร้งอะไร? ความคิดนี้เธอเป็นคนแรกที่เสนอออกมาไม่ใช่เหรอ?”“ถ้าไม่ใช่เพราะเธออยากกอบโกยผลประโยชน์ และแก้แค้นหลี่ฮุ่ยหรานด้วย เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ตอนนี้เธออยากเอากลับไป? สายไปแล้ว!”หลี่เหวินเชาเห็นว่าจางซินกำลังจะหนีไป จึงคว้าเธอไว้ด้วยความโมโห และพูดว่า:“ทุกคน ดูเธอไว้ ความคิดนี้เธอเป็นคนเสนอออกมา เธอเป็นคนต้นคิด พวกเราถูกบีบบังคับ!”เมื่อเห็นว่าความโมโหของทุกคนเคลื่อนย้ายมาที่ตัวเธอ จางซินก็โมโห และพลิกมือตบหน้าหลี่เหวินเชา“แกมันสัตว์เดียรัจฉาน หลอกเงินของคุณป้าไปจนหมดก็หลบหนีไป ถ้าไม่ใช่เพราะนายเห็นว่าที่ดินผืนนี้มูลค่าเพิ่มขึ้น ถูกรองประธานเจี้ยนหงกรุ๊ปบีบคั้น นายจะกลับมาทำไม?”“ฉันบอกนายให้นะ ที่ดินผืนนี้พวกเราไม่เอา ก็ไม่เสียหายอะไรทั้งนั้น”“ส่วนนายถ้าเอาที่ดินผืนนี้ไปไม่ได้ ผ่านไปไม่กี่วันนายก็จะถูกพวกเขาฆ่าตาย!”“แกกล้าตบฉันเหรอ?!”หลี่เหวินเชากระโจนเข้าไปทันที เขาไม่สนใจเรื่องการถ่อมตัวกับผู้หญิงอะไรหรอก จึงตบตีกับจางซินต่อหน้าทุกคนทันทีส่วนจางซินก็ยื่นเล็บของตัวเองออกไป ข่วนหน้าของหลี่เหวินเชาจนเต็มไปด้วยรอยเลือด“พอแล้ว!”เมื่อเห็นคนใ
“อีกทั้งตอนนี้ฉันตัดขาดความสัมพันธ์กับหลี่ฮุ่ยหรานนังสารเลวนั่น ต่อไปฉันจะไม่ขอร้องเธออีก และก็ไม่ขอร้องพวกแกอีก!”“หญิงร้ายชายชั่ว พวกแกสมควรแล้วที่ถูกหลอก!”“ไสหัวไปซะ!”......บรรยากาศเงียบสงบจากนั้นหลินเฟิงนำโทรศัพท์ใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าช้าๆพนักงานทุกคนของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่อยู่ในเหตุการณ์ สีหน้าเปลี่ยนไปไม่ค่อยดีนัก ถึงขั้นที่รู้สึกอับอาย และรู้สึกผิดเพราะแค่บันทึกเสียงเมื่อครู่นี้พวกเขาก็รู้แล้วว่าจางกุ้ยหลานหลอกลวงพวกเขาเพราะจางกุ้ยหลานและคนอื่นๆ พูดว่าที่ดินผืนนั้น ถูกหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานแย่งชิงไปแต่ในบันทึกเสียงโทรศัพท์ พวกเขาขายที่ดินผืนนั้นให้หลินเฟิง ทั้งยังเห็นหลินเฟิงเป็นคนโง่อีกด้วย พูดฉีกหน้า และดูถูกต่างๆ นานาแต่หลินเฟิงก็ไม่ได้โมโห กลับยังพูดปากเปียกปากแฉะภายหลัง ก็เป็นคำด่าทอของจางกุ้ยหลานถึงขึ้นยังเรียกลูกสาวและลูกเขยว่าหญิงร้ายชายชั่วอีกด้วยหลักฐานแน่นหนาบันทึกเสียง มีประโยชน์มากกว่าพูดจนปากเปื่อย“ตุ่บ”พนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่โยนป้ายทำงานทิ้งเป็นคนแรกเมื่อครู่นี้คุกเข่าให้หลี่ฮุ่ยหรานทันที ริมฝีปากของเขาสั่นเทร ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้ม
ถ้าหากเอาที่ดินผืนนี้กลับมาไม่ได้ ต่อให้หลี่ฮุ่ยหรานถูกล้ม ถึงขั้นที่กลายเป็นขอทาน เขาหลี่เหวินเชาก็ไม่สามารถรอดชีวิตไปได้ดังนั้นตอนนี้คนที่ร้อนใจที่สุดก็คือเขา“หลินเฟิงเขา…”หลี่ฮุ่ยหรานยังคิดคำพูดหลีกเลี่ยงไม่ออกก็ได้ยินเสียงตวาดดังขึ้นมาจากจุดไกลๆ“พอแล้ว!”ชายหนุ่มที่ร่างกายสูงโปร่งเดินเข้ามาช้าๆ เขาขยับชิดข้างกายของหลี่ฮุ่ยหราน โอบหลี่ฮุ่ยหรานเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว และมองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยสายตาโกรธเคือง พูดเย็นชาว่า:“พวกคนโง่ ถูกคนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก!”“พวกคุณรู้ถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวไหม?”“ฟังแค่คำพูดของฝ่ายเดียว ก็ใจดำและใส่ร้ายเจ้านนายของตัวเองแบบนี้ ฉันดูแล้ว พวกคุณทั้งหมดเป็นแค่พวกไร้ประโยชน์!”“พวกไร้ประโยชน์แบบนี้ ถ้าหากอยากจะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป หลี่ซื่อกรุ๊ปของเราก็ไม่เก็บพวกคุณไว้!”“ไสหัวไปให้หมด!”คนที่พูด ก็คือหลินเฟิงนั่นเองคำพูดอันทรงพลังของหลินเฟิงในเวลานี้ ทำให้ ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงเงียบลงทันทีแต่ก็มีบางส่วนในนั้นที่ไม่ปฏิบัติตาม“หึ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ดูท่าคุณก็เป็นเหมือนกับที่คนอื่นพูด ทั
“ฉันคิดว่าเธอเป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เลื่อมใสเธอเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้!”“จริงด้วย คิดไม่ถึงว่าจะใช้ให้คนนอกมาตีแม่ของตัวเองเองอีกด้วย โหดเหี้ยมยิ่งกว่าสัตว์เดียรัจฉาน!”“ยังสู้กัวโหย่วคังก่อนหน้านี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”พนักงานอีกหลายคนที่มีอารมณ์รุนแรงกว่าก็ยืนออกมาเช่นกันพวกเขาดึงป้ายทำงานออก โยนลงกับพื้น“หึ ให้เธอเป็นเจ้านายของเรา ถูกพูดออกไป คนอื่นคงคิดว่าเราเป็นเหมือนเธอ เป็นคนเนรคุณคนแบบนี้!“ฉันไม่ทำแล้ว!”“ใช่ ฉันก็ไม่ทำแล้ว!”“ติดตามคนชั่วร้ายเช่นนี้ จะมีอนาคตอะไร?!”หลังจากที่คนแรกหันหลังเดินจากไป พนักงานคนอื่นๆ ก็พากันกระตือรือร้น ดึงป้ายพนักงานที่อยู่ตรงหน้าอกออก ประกาศตัดความสัมผันธ์กับหลี่ซื่อกรุ๊ป“ประธานหลี่ ประธานทางด้านนั้นก็มีการประชุมฉุกเฉิน:ในตอนนี้ เลขาของหลี่ฮุ่ยหรานก็วิ่งเข้ามา มองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความเป็นห่วงและการประชุมฉุกเฉินในตอนนี้ ความหมายก็ชัดเจนเป็นอย่างมากนั่นคือจะขับไล่หลี่ฮุ่ยหรานออกจากตำแหน่ง“ไม่ใช่ พวกคุณฟังฉันนะ ความจริงไม่ใช่แบบนี้…”การโต้เถียงที่ไร้เรี่ยวแรงของหลี่ฮุ่ยหรานทว่าเธอมีแ