จางเจียหนิงหมดคำบรรยาย เธอดูเวลาแล้วพูดขึ้น: “ในเมื่อมีคุณหลินอยู่ที่นี่ งั้นฉันก็สามารถวางใจกลับไปได้แล้ว”“เดี๋ยวฉันยังมีธุระอีก ต้องกลับก่อนนะคะ”หลินเฟิงพยักหน้า จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้จึงรีบเรียกเธอเอาไว้“คุณจาง”“มีอะไรเหรอคะ?”หลินเฟิงล้วงยากล่องหนึ่งออกมาแล้วพูดขึ้น: “ถ้าหากคุณจางมีเวลา รบกวนคุณช่วยไปส่งของให้ผมหน่อยครับ”“ไปส่งที่ไหนคะ? คุณหลินพูดมาได้เลย พรุ่งนี้เช้าฉันมีเวลาจะช่วยคุณไปส่งให้”จางเจียหนิงรับกล่องยาไป“ส่งไปที่ตระกูลหลี่ นี่เป็นครีมยาที่ลดรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ สามารถใช้รักษารอยมีดบนใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานได้”จางเจียหนิงมองหลินเฟิงอย่างลังเลใจเล็กน้อยตามหลักแล้วหลี่ฮุ่ยหรานคืออดีตภรรยาของเขา เขาเอาไปส่งให้จะเหมาะสมกว่าไม่ใช่เหรอ?“ทำไมคุณหลินไม่ไปส่งด้วยตัวเองคะ?”หลินเฟิงเกาหัวแล้วพูดอธิบาย: “ก่อนหน้านี้ผมกับตระกูลหลี่มีความบาดหมางกันนิดหน่อย แม่ของฮุ่ยหรานก็ไม่เชื่อว่าผมมีความสามารถนี้”“ดังนั้นผมคิดว่า ถ้าคุณจางเอาไปส่งให้ พวกเขาจะต้องเชื่อแน่นอน”จางเจียหนิงเข้าใจในทันที: “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”“งั้น ฉันไม่ต้องพูดว่าคุณเป็นคนมอบให้ใช่ไหมคะ?”
“ก่อนหน้านี้คุณโดนพิษ ฉินอิ๋งเรียกผมมาช่วยแก้พิษให้คุณ” หลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉยถังหว่านจึงได้นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เธอรู้สึกอกสั่นขวัญหายจริง ๆจากนั้นถามขึ้น: “ฉินอิ๋งล่ะ?”“เธอบอกว่าที่บ้านเธอมีธุระ จึงกลับไปก่อน ให้ผมอยู่ดูแลคุณที่นี่”ถังหว่านกัดฟัน: “ยัยเด็กคนนี้”โชคดีที่คนที่อยู่ดูแลคือหลินเฟิง ถ้าฝากตัวเองที่ไม่มีสติไว้กับคนจะได้อย่างไร?เธอหันหน้าไปมองหลินเฟิง และยิ้มสวยหยาดเยิ้ม: “คุณไม่ได้ทำอะไรฉันใช่ไหม?”หลินเฟิงส่ายหน้า: “คุณคิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้ทำอะไร”“เห้อ คุณสามารถอยู่ดูแลฉันได้ ฉันรู้สึกดีใจมาก ๆ”ถังหว่านยิ้มและพูด: “อันที่จริงถ้าคุณต้องการ ฉันก็ไม่ถือสา”ขณะพูดเธอก็ตั้งใจดึงชุดนอนลงหลินเฟิงสูดจมูกแล้วพูดขึ้น: “ตอนนี้คุณเป็นแบบนี้ ผมไม่มีอารมณ์จริง ๆ”ถังหว่านมุมปากกระตุก“นายเนี่ยนะ......ไสหัวออกไปซะ”กว่าตัวเองจะสร้างบรรยากาศโรแมนติกออกมาได้ ไอ้หมอนี่กลับทำลายด้วยประโยคเดียวไม่รู้จักความโรแมนติกสักนิดเลยหลินเฟิงยักไหล่ และช่วยปิดประตูห้องน้ำให้เธอผ่านไปครู่หนึ่งถังหว่านเปิดประตูออกอีกครั้งเธอห่อตัวด้วยผ้าเช็ดตัวแล้วเดิน
ในตอนที่ถังหว่านเตรียมจะดึงเสื้อผ้าของหลินเฟิงออกหลินเฟิงก็จับเธอเอาไว้ถังหว่านถลึงตาโต มองเขาด้วยความงุนงง“เล่นพอแล้วยัง?” หลินเฟิงขมวดคิ้วพูดถังหว่านลุกขึ้นด้วยความโมโห: “คุณเนี่ยนะจริง ๆ เลย จะเอาเปรียบจากตัวคุณไม่ได้สักนิดเลย”หลินเฟิงหมดคำพูด: “คุณจะเอาเปรียบบนตัวผมให้ได้เลยเหรอ?”“ใครใช้ให้คุณหลินดีเลิศขนาดนี้กันล่ะ?” ถังหว่านยิ้มแย้มพูดขึ้นหลินเฟิงมองดูเธอแล้วพูดขึ้น: “คู่หมั้นของคุณดีเลิศกว่าผมเยอะ”ถังหว่านได้ยินแบบนี้ สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที: “อย่าพูดถึงเขาให้ฉันได้ยิน”“ต่อให้ฉันตายไปก็ไม่มีทางแต่งงานเข้าตระกูลหรง”หลินเฟิงถามอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย: “เพราะอะไร?”“ตามหลักแล้ว ผู้หญิงอย่างพวกคุณชอบคุณชายตระกูลร่ำรวยแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานทำไมถึงได้หย่าร้างกับตัวเอง? ไม่ใช่เพราะภูมิหลังของเขาสู้หวางเส้าหลงไม่ได้หรอกเหรอ?ถังหว่านหันหน้ามองไปทางหลินเฟิงทันที: “หรือว่าคุณก็คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้น?”“บอกคุณตามตรงนะ ฉันไม่เคยคิดอยากจะเป็นนกคีรีบูนของตระกูลหรงเลย”“เรื่องที่ผู้ชายอย่างพวกคุณทำได้ ฉันถังหว่านก็ทำได้เช่นกัน”ถังหว่านสายตาแน่ว
ในเมื่อเมื่อวานหลินเฟิงฝากฝังเรื่องไว้กับเธอเธอไม่กล้าลืมหรอกเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ จางเจียหนิงรายงานชื่อของสำนักไป๋เกาในทันทีคนรับใช้ไม่กล้าเฉยเมย รีบเชิญจางเจียหนิงเข้าไปในคฤหาสน์เมื่อมาถึงห้องรับแขก คนรับใช้พูดอย่างสุภาพ: “คุณหนูจาง คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ ฉันไปรายงานนายท่านเดี๋ยวนี้ค่ะ”จางเจียหนิงพยักหน้าติดต่อกัน: “ค่ะ รบกวนคุณด้วยค่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ไห่ซานเดินค้ำไม้เท้าลงมาจากชั้นสองด้านหลังมีจางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาตามมาด้วย“คุณปู่ช้า ๆ หน่อยค่ะ”เมื่อคืนหลังจากที่จางกุ้ยหลานนัดเดทกับเพื่อนเก่าสมัยเรียน คนทั้งคนดูกะปรี้กะเปร่าอย่างมาก และอารมณ์ดีเป็นพิเศษมีความใจกว้างต่อคุณปู่เพิ่มขึ้นเยอะมากเดิมทีเธอยังอยากนอนต่ออีก แต่เมื่อได้ยินว่าคนที่มาคือหลานสาวของจางเต๋อหลิน เธอก็ไม่กล้าเฉยเมย จึงตามคุณปู่ลงมาชั้นล่างด้วยกันถึงขั้นที่เรียกลูกชายของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาจางเจียหนิงเห็นคนตระกูลหลี่ลงมาก็รีบลุกขึ้นยืน“คุณปู่ตระกูลหลี่ สวัสดีค่ะ ฉันคือจางเจียหนิงของสำนักไป๋เกา”“ไอหยา เจียหนิง รีบนั่ง รีบนั่ง มาที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของตัวเอง อย่าเกรงใจเด็ดขาด”
จางเจียหนิงตกใจอย่างมากคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะอารมณ์ขึ้นถึงขนาดนี้ในใจแอบคิดเอาเอง หลินเฟิงมีความแค้นอะไรกับเธอกันแน่นะ?จางกุ้ยหลานใบหน้าดุดัน ด่าเสร็จจึงนึกขึ้นได้ว่าจางเจียหนิงยังอยู่ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเธอหัวเราะแห้ง ๆ: “คุณหนูจาง ฉันไม่ได้ตะคอกใส่คุณนะคะ”“คุณไม่รู้หรอกค่ะ หลินเฟิงคนนั้นคืออดีตสามีของฮุ่ยหราน อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลหลี่ของเราสามปี”“ไม่หาเงินแม้แต่สตางค์เดียว มีแต่ฮุ่ยหรานของพวกเราเลี้ยงดูเขา เป็นคนไร้ค่าจริง ๆ เลย”จางเจียหนิงมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “คุณน้าวางใจได้ค่ะ ฉันไม่บอกเขาแน่นอน”ดูท่าหลินเฟิงคิดได้รอบคอบมาก โชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดว่ายานี้หลินเฟิงเป็นคนทำขึ้นมาไม่อย่างนั้นจางกุ้ยหลานคนนี้คงจะนำยาไปโยนทิ้งจริง ๆ ก็ได้ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่กระแอมขึ้นมา และถลึงตาใส่จางกุ้ยหลาน: “หลินเฟิงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเหมือนกับที่เธอพูด”“เอาเถอะ คุณปู่ คุณอย่าช่วยพูดจาแทนหลินเฟิงเลย หรือที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอคะ?” จางกุ้ยหลานกลอกตามองบนในตอนนี้หลี่เหวินเชาขยับเข้ามาใกล้ และมองจางเจียหนิงอย่างละลาบละล้วง: “คุณหนูจาง ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วยังครับ
“ฉันรีบร้อนอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นน่ะสิ ถ้าเขามีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของหลินเฟิง ฉันก็มีหน้าไปสู่ขอให้”หลี่เหวินเชาพูดอย่างไม่พอใจ: “คุณปู่ ในสายตาของคุณ ผมเทียบหลินเฟิงไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”“ฉันดูแล้วคุณปู่สมองเลอะเลือนแล้ว หน้าของหลานสาวคุณถูกคนเอามีดกรีดจนเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ใช่เพราะหลินเฟิงเหรอ” จางกุ้ยหลานก็ไม่พอใจคุณปู่ขมวดคิ้วพูด: “เรื่องนี้ทำไมถึงโทษหลินเฟิงได้ล่ะ? อีกอย่างหลินเฟิงไหว้หวานสำนักไป๋เกาให้ทำยารักษาฮุ่ยหรานแล้วไม่ใช่เหรอ”“ฮ่าฮ่าฮ่า......”จางกุ้ยหลานหัวเราะเสียงดัง: “คุณคิดอะไรอยู่น่ะ? หลินเฟิงมีคุณสมบัติอะไรให้จางเต๋อหลินทำยาให้?”“งั้นจางเต๋อหลินรู้ได้อย่างไรว่าฮุ่ยหรานได้รับบาดเจ็บ? หรือเป็นเพราะพวกเธอไปบอกจางเต๋อหลินเหรอ?”คุณปู่เชื่อมั่นว่าเบื้อหลังเรื่องนี้ ต้องเป็นเพราะหลินเฟิงได้ออกแรงแล้วจางกุ้ยหลานสองมือกอดอกพูดเย้ยหยัน: “นั่นเป็นเพราะเลี่ยวกั๋วต้งเพื่อนเก่าสมัยเรียนของฉันโทรศัพท์ไปหาจางเต๋อหลิน เขาถึงได้รับปากรักษาให้ฮุ่ยหราน”“เลี่ยวกั๋วต้ง ใครกัน?” คุณปู่ขมวดคิ้วถามจางกุ้ยหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ: “เพื่อนเก่าของฉันคนหนึ่ง ต
หลี่ฮุ่ยหรานมีความมั่นใจกลับมาเหมือนกับในอดีตทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง“พี่......ตอนนี้พี่เปลี่ยนไปสวยกว่าเมื่อก่อนอีก” หลี่เหวินเชาอดชื่นชมไม่ได้“จิ๊จิ๊ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกสาวของจางกุ้ยหลาน สวยหยาดเยิ้มโดยธรรมชาติ นี่ไม่สวยกว่านังจิ้งจอกถังหว่านคนนั้นเยอะเลยเหรอ” จางกุ้ยหลานพูดอย่างถือดีเลี่ยวกั๋วต้งที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าติดต่อกัน: “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ตอนที่คุณเป็นสาวเป็นถึงดาวโรงเรียนเชียวนะ ฮุ่ยหรานไม่มีทางแย่อยู่แล้ว”ในใจของเขาอดตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ในวิชาการแพทย์ของจางเต๋อหลินไม่ได้ และก็ยิ่งตกตะลึงกับความสวยของหลี่ฮุ่ยหรานน่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแต่ว่า......ก็ไม่บอกสักหน่อยว่าโคแก่กินหญ้าอ่อนไม่ได้นี่นา!จางกุ้ยหลานสะกิดลูกสาวที่ดื่มด่ำอยู่กับความสวยงาม: “ฮุ่ยหราน ลูกยังไม่รีบขอบคุณคุณลุงเลี่ยวอีก”“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณลุงเลี่ยวไหว้วานเส้นสายไปหาจางเต๋อหลิน หน้าของลูกไม่รู้ว่าจะหายดีตอนไหนด้วยซ้ำ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งคำนับและพูดขอบคุณ: “ขอบคุณค่ะลุงเลี่ยว”“จ้า ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ......เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง”เลี
หลินเฟิงกระแอมเสียงเบา: “ผมกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ในฐานะบอดี้การ์ดของคุณ แน่นอนว่าจะต้องปกป้องคุณ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”“คุณเนี่ยนะปากแข็งมากจริง ๆ” ถังหวั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดขึ้นไม่นานนัก หลินเฟิงลงมาถึงชั้นล่าง ถังหว่านกับฉินอิ๋งได้รอเป็นเวลานานเมื่อขึ้นรถ ถังหว่านก็ยิ้มพูด: “คุณว่าวันนี้หลี่ฮุ่ยหรานจะมาไหมนะ?”หลินเฟิงคำนวณเวลา เมื่อวานหลี่ฮุ่ยหรานน่าจะได้รับยาของตัวเองแล้วใบหน้าของเธอน่าจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิมแล้ว“น่าจะไปมั้ง”ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็มาถึงไซต์งานที่รกร้างตรงเขตซีเฉิงรอบด้านมีริบบิ้นสีแดงผูกอยู่เต็มไปหมด บนพื้นยังปูพรมแดงอีกด้วยเถ้าแก่หลายคนในเมืองเจียงโจวก็มาร่วมครึกครื้นที่รกร้างแห่งนี้ จึงคึกคักขึ้นมาหลังจากถังหว่านจอดรถก็มองหลินเฟิงผ่านกระจกมองหลังแล้วถามขึ้น: “อีกเดี๋ยวฉันจะไปคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่คนอื่น ๆ หน่อย คุณจะไปด้วยกันไหม?”“ช่างเถอะ ผมไม่ชอบพูดคุยเรื่อยเปื่อย ให้ฉินอิ๋งไปกับคุณเถอะ มีเรื่องอะไรคุณค่อยเรียกผม”ถังหว่านพยักหน้า: “ได้ งั้นคุณเดินเล่นตามสบาย มีอะไรฉันจะติดต่อคุณ”หลินเฟิงพยักหน้าเมื่อถังหว่านลงจากรถก็ถูกเถ้าแก่จำนวนหลายค
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ