หลังจากที่เซี่ยเชียนฮวันนึกออก สีหน้าของนางก็ยิ่งดูแปลกไปนางหยุดพูดไปชั่วขณะ“พูดต่อไปสิ” ฮ่องเต้เตือนนาง“เพคะ...ลูกสะใภ้ขอให้ทหารองค์รักษ์ของเสด็จพ่อแกล้งทำเป็นพวกอันธพาล ลักพาตัวเซวี่ยจวิ้นจากรถม้า และพานางไปยังสถานที่ที่เกิดเหตุ เพื่อให้นางได้สัมผัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นอีกครั้ง และกระตุ้นให้นางฟื้นความทรงจำขึ้นมา”เซี่ยเชียนฮวันอธิบายสถานการณ์ในหมู่บ้านอี้ให้แก่ฮ่องเต้อย่างคร่าว ๆฮ่องเต้พยักหน้าขณะฟัง ก่อนพูดพึมพำว่า “เดิมทีวิธีนี้ยังสามารถใช้รักษาโรคได้ สะใภ้เจ็ด เจ้ามีพฤติกรรมคล้ายหมอผีตั้งแต่อายุยังน้อย”“ลูกสะใภ้มิกล้าเปรียบเทียบ”เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกละอายใจนางเรียนรู้เพียงเล็กน้อย แล้วกล้าจะเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษหมอผีของนางได้อย่างไร?เซียวเย่หลันกลับขมวดคิ้วและถามว่า “ความหมายของเจ้าคือ แม้แต่ตอนที่เจ้าปลอมตัวเป็นสตรีผู้นั้น เซวี่ยจวิ้นก็ยังไม่สามารถฟื้นความทรงจำของนางได้อย่างเต็มที่ แล้วเหตุใด นางถึงกลายเป็นปกติหลังจากที่ข้ามา นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย”ฮ่องเต้กล่าว “อาจเป็นเพราะนางต้องการเวลาเพื่อสงบสติอารมณ์ก็ได้”“เสด็จพ่อพูดถูก แต่มีความเป็นไปได้อีกอย
“เจ้าเจ็ด ถึงแม้ว่าครั้งนี้เจ้าจะไม่ได้รับสาวงามกลับบ้าน แต่เจ้าก็ได้พบคนทรยศที่มีเจตนาชั่วร้ายแทนข้า ซึ่งถือได้ว่ามีผลงาน”ฮ่องเต้ครุ่นคิด บางทีอาจกำลังคิดว่าจะจัดการกับมหาดเล็กเซวี่ยอย่างไรในฐานะโอรสสวรรค์ สิ่งที่เขารังเกียจที่สุดคือผู้ใต้บัญชาที่มีความคิดที่ซับซ้อนมากเกินไป และรวมกลุ่มกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยเฉพาะครั้งนี้ มหาดเล็กเซวี่ยกล้าที่จะรวมตัวกับขุนนางคนอื่นๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่เซียวเย่หลันนั่นคือองค์ชายสิ่งที่เขาทำ ถือเป็นการละเมิดข้อห้ามของฮ่องเต้เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้วและพูดว่า “เสด็จพ่อ สิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปเป็นเพียงการคาดเดาของลูกสะใภ้เท่านั้น หากต้องการหาหลักฐานที่แท้จริง และค้นหาว่าใครสมรู้ร่วมคิดกับมหาดเล็กเซวี่ย เกรงว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะ”“ข้าจะจัดการกับเขาตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน”ฮ่องเต้พูดอย่างเย็นชาประโยคนี้ทำให้เซี่ยเชียนฮวันได้สติขึ้นมาในทันทีใช่แล้ว...ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ควบคุมความเป็นความตายของคนในใต้หล้า หากเขาต้องการจะจัดการกับใครสักคน แค่ขยับมือแล้วประทับตราเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานเลยนี่คืออำนาจของฮ่องเต
เซียวเย่หลันมองรถม้าที่เซี่ยเชียนฮวันนั่งเขาลังเลเล็กน้อยช่างเถอะ...อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นไม่มีเหตุผล พูดไปก็ไร้ประโยชน์พวกเขาต่างแยกย้ายกันกลับจวนหารู้ไม่ว่า เมื่อซูอวี้เออร์ที่อยู่ในจวนทราบข่าวว่าเซี่ยเชียนฮวันพ้นผิด นางก็โกรธจัดจนฉีกพัดออกเป็นชิ้นๆ“นางสารเลวนั่นช่างโชคดีจริงๆ ถูกขังในสำนักคุมประพฤติมาหลายวัน แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเด็กในท้องนางก็ไม่ได้ถูกทรมานเลยสักนิด”ซูอวี้เออร์ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหโอกาสฟ้าประทานเช่นนี้ แต่ไม่คาดคิดว่า สวรรค์จะไม่ช่วยนางมากกว่านี้อวิ๋นซีที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยปลอบว่า “นายหญิงไม่ต้องกังวล ท้องของพระชายาใหญ่ขนาดนั้น ยังมีเวลาเหลืออีกครึ่งปี บ่าวไม่เชื่อว่านางจะคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย”“ข้าแค่เกรงว่าทารกในครรภ์จะมั่นคง ข้าอยากให้นางเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด มิฉะนั้นมันจะยากขึ้นอย่างแน่นอน” ซูอวี้เออร์พูดอย่างเย็นชาอวิ๋นซีเกิดความคิดขึ้นมาว่า “นายหญิงสามารถทำตรงกันข้าม ให้อาหารเสริมแก่พระชายามากๆ เลี้ยงดูทารกในครรภ์ เมื่อถึงเวลาคลอดบุตร ทารกในครรภ์ก็จะใหญ่เกินกว่าจะคลอดได้โดยธรรมชาติ”“ด้วยวิธีนี้ นายหญิงจะได้รับชื่อเสียงที่ดี ส่วน
“ตอนนี้หนาวแล้ว เจ้าจะไปไหนล่ะ”เซียวเย่หลันรู้สึกประหลาดใจฤดูหนาวมาถึงแล้ว และวันส่งท้ายปีเก่าก็กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเป็นเวลาที่หนาวที่สุดของปีทุกคนล้วนอยู่ในบ้านรอบกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่น แต่อวี้เออร์กลับต้องการออกไปข้างนอกซูอวี้เออร์หน้านิ่งไม่เปลี่ยน น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวว่า “ได้ยินมาว่ามีสวนบ๊วยที่สวยงามแห่งหนึ่งในอำเภอถานใกล้เมืองหลวง ผู้รู้หนังสือหลายคนชอบไปที่นั่น เพื่อเพลิดเพลินกับดอกบ๊วยและดื่มชาในฤดูหนาว ข้าจึงอยากเห็นมันเหมือนกัน”“เจ้ายังคงสง่างาม”เซียวเย่หลันยิ้มน้อยๆ คิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเขาชื่นชมความอ่อนโยน มีคุณธรรม และพรสวรรค์ของซูอวี้เออร์สตรีที่สูงส่งมีความสามารถควรเป็นเหมือนซูอวี้เออร์แทนที่จะเป็นเหมือนผู้หญิงบางคนที่พึ่งพาทักษะแพทย์ที่ไม่ธรรมดา และภูมิใจมากจนตาไปแปะอยู่บนศีรษะ แม้แต่สามีของตัวเองก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์“ท่านอ๋องไปดูกับอวี้เออร์นะ”ซูอวี้เออร์จับแขนของเซียวเย่หลัน และแสดงท่าทีออดอ้อนเซียวเย่หลันพยักหน้า “ตกลง ช่วงนี้ข้าไม่ได้อยู่กับเจ้ามากนัก ข้าจะพาเจ้าไปชมดอกบ๊วยในอีกไม่กี่วัน”“เยี่ยมมาก”แผนการของซูอวี้เออร์ประสบค
เมื่อได้อยู่ในสถานที่อันหนาวเย็นและโดดเดี่ยวเช่นนั้นครั้งหนึ่ง ก็จะไม่อยากไปที่นั่นอีกเลยนางจำได้ว่าอาหารในคุกมีกลิ่นเหม็นแค่ไหนและยังจำได้ว่าถูกผู้คุมหยอกล้อและสร้างความอัปยศมากเพียงใด หลังจากโชคดีออกมาได้ ก็มาเห็นฉากที่เซียวเย่หลันถูกรายล้อมไปด้วยนางรำและกำลังดื่มสุราสิ่งเหล่านี้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ในใจของนางนางจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต“พั่บ——”ทันใดนั้นนกน้อยบนยอดไม้ก็กระพือปีกบินจากไป ทำลายความเงียบงันระหว่างทั้งสองคนเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกประหลาดใจ จึงยื่นมือออกแล้วตะโกนว่า “เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ!”“เมื่อครู่เจ้ากำลังคุยกับนกน้อยตัวนั้นอยู่หรือ...”เซียวเย่หลันลดสายตาลง น้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะแหบแห้งกว่าปกติ พร้อมกับมีอาการฝืดเคืองแต่เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของชายคนนั้น ทั้งยังพูดด้วยความโกรธว่า “ใช่ เพราะท่านอ๋องมา มันจึงตกใจกลัวจนหนีไป”“หากเจ้ามีคนอื่นที่ชอบ ก็สามารถบอกข้าได้ตามตรง ไม่จำเป็นต้องพูดกับนกก็ได้”เซียวเย่หลันถอนหายใจเขาอยากรู้ว่า ผู้ชายแบบไหนที่สามารถเปลี่ยนหัวใจของเซี่ยเชียนฮวันสตรีบ้าผู้ชายคนนี้ได้
“ไม่จำเป็น”เดิมทีเซียวเย่หลันคิดว่าอยากจะพูดกับเซี่ยเชียนฮวันหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้เสร็จแต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดออกไปความทุกข์ทรมานของเซี่ยเชียนฮวันตอนอยู่ในคุกไม่สามารถลบล้างได้ ไม่ว่าเขาจะอธิบายให้นางฟังมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นได้ยิ่งพยายามอธิบาย ก็ยิ่งกลายเป็นปกป้องตัวเองมากเท่านั้นแต่เย่ซิ่นคิดต่างออกไป เขาโน้มน้าวว่า “ที่ท่านอ๋องส่งทหารไปจับกุมตัวพระชายาเข้าสำนักคุมประพฤตินั้นเป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าหากท่านไม่ดำเนินการก่อน มหาดเล็กเซวี่ยจะรายงานต่อฝ่าบาท และให้ศาลต้าหลี่สอบปากคำ ถึงตอนนั้นพระชายาจะถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายมากขึ้นอย่างแน่นอน”“ภายนอก ท่านออกคำสั่งให้จับกุมพระชายา แต่จริงๆ แล้วท่านกำลังปกป้องนาง! ไม่ว่าสำนักคุมประพฤติจะเลวร้ายแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่าบาท ทว่าศาลต้าหลี่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอัครมหาเสนาบดีหลี่ หากพระชายาเข้าไป เกรงว่านางอาจจะไม่สามารถออกมาได้อย่างสมบูรณ์”ดังที่เย่ซิ่นกล่าวไว้ เส่าชิงคนปัจจุบันของศาลต้าหลี่เป็นลูกศิษย์ของอัครมหาเสนาบดีหลี่เป็นที่ทราบกันดีว่าอัครมหาเสนาบดีหลี่ไม่
“มันอยู่ด้านหลังห้องตำราของท่านอ๋อง ปกติไม่มีใครไปที่นั่น ท่านอ๋องไม่ชอบอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อน หากพระชายามีเวลา ก็สามารถลงไปแช่ตัวเพื่อกำจัดความเย็นในร่างกายของท่านได้”“อืม”น้ำพุร้อนหรือ ฟังดูไม่เลวเลยแต่วันนี้มันดึกมากแล้ว หลังจากที่เซี่ยเชียนฮวันเขียนใบสั่งยาเสร็จก็เตรียมตัวอาบน้ำนอน เรื่องแช่น้ำพุร้อนนะเอาไว้วันหลังแล้วกันนางสูดจมูก วางใบสั่งยาไว้ข้างๆ แล้วเดินไปที่ห้องด้านในเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนความสบายของผ้าห่มไหมผืนนี้เหนือจินตนาการของนางมากเมื่อเปรียบเทียบกับผ้าห่มขาดรุ่งริ่งในคุก เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ท่ามกลางเมฆนุ่มๆ ในตอนนี้ ไม่ช้านางก็หลับไปอย่างรวดเร็วเป็นค่ำคืนที่ไร้ความฝันวันรุ่งขึ้น เซี่ยเชียนฮวันเริ่มยุ่งเกี่ยวกับการเลือกยาและเตรียมขี้ผึ้ง จึงผ่านไปอีกหนึ่งวันโดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งตกเย็น ร่างของเซียวเย่หลันฃก็ปรากฏตัวต่อหน้านางเขากระแอมไอและพูดว่า “เสด็จพ่อถอดเซวี่ยฉีออกจากตำแหน่งราชการ และให้เขาเกษียณกลับบ้านเกิด”“จริงหรือ?” เซี่ยเชียนฮวันชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “พวกเขาจะจากไปเมื่อไหร่?”“ไม่นานนัก อีกประมาณแค่สองวัน”“ยังไม่สาย
เซียวเย่หลันตัดสินใจที่จะไม่โต้เถียงกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกต่อไปเขาจากไปด้วยความโกรธเย่ซิ่นซึ่งยืนอยู่นอกประตูหันกลับมาสบตากับเสี่ยวตงที่อยู่ข้างใน ก่อนที่สองพี่น้องจะพากันถอนหายใจความขัดแย้งระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาคราวนี้ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการคืนดี…เซียวเย่หลันยังคงทานอาหารเย็นที่เรือนจิ่นซิ่วคืนนี้เขาไม่เคยไปเยี่ยมเซี่ยเชียนฮวันอีกเลยสองวันผ่านไปเมื่อเซี่ยเชียนฮวันได้ยินว่าตระกูลเซวี่ยเตรียมรถม้าพร้อมออกจากเมืองหลวงแล้ว จึงเรียกเซี่ยเหยียนไปนั่งรอพวกเขาที่โรงน้ำชาใกล้ประตูเมือง“ฮวันฮวัน ตอนที่เจ้าถูกส่งไปยังสำนักคุมประพฤติ อาหารที่ส่งให้เจ้าล้วนเป็นพี่ชายเป็นคนซื้อให้ ตอนนี้เจ้าออกมาแล้ว ไม่ควรเชิญข้ามาทานอาหารดีๆ สักมื้อหรือ”เซี่ยเหยียนฉีกยิ้มกว้าง และสั่งชากับผลไม้ที่แพงที่สุดในโรงน้ำชา ขณะแสร้งทำเป็นถูกเซี่ยเชียนฮวันทำร้ายจิตใจเซี่ยเชียนฮวันจับคางแล้วมองไปที่ถนน “เจ้าจะซื้อเยอะไปทำไม สุดท้ายพอมาถึงมือข้าก็เหลือแค่ซาลาเปาไม่กี่ลูก”“ถูกต้อง ข้าเดาออกแต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้นข้าจึงซื้อของอย่างอื่นแบบส่งๆ มีเพียงซาลาเปาซึ่งข้าไปซื้อที่ร้านแม