ขอบอกตามตรงว่าเซี่ยเชียนฮวันไม่เคยเห็นกับคนที่แปลกเช่นนี้มาก่อน บัดนี้จึงทำให้นางรู้สึกตกตะลึงกับความคิดของท่านหญิงหยวนหลี่"ท่านหญิงข้าขอพูดอะไรกับเจ้าสักประโยคหนึ่ง”เซี่ยเชียนฮวันมองไปยังท่านหญิงหยวนหลี่ที่ทำท่าทีหยิ่งยโสท่านหญิงหยวนหลี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "งั้นหรือ? เชิญพระชายาอ๋องกล่าวมาเถิด""ผู้ที่มีจิตใจชั่วร้าย มองใครล้วนชั่วร้ายทั้งสิ้น" เซี่ยเชียนฮวันพยุงชายหนุ่มผู้นั้นให้ลุกขึ้นแล้วให้เขาแบกบิดาที่ป่วยหนักเดินทางออกมาจากถงซ่านถังท่านหญิงหยวนหลี่กำมือในแขนเสื้อเอาไว้แน่นบอกว่านางมีความคิดชั่วร้ายงั้นหรือ?เหอะๆ น่าขำยิ่งนักในความคิดของนาง พระชายาจ้านอ๋องกำลังจะได้ลงนรกแล้ว ยังกล้าทำมาปากดีตัวเองกำลังจะตายยังไม่รู้ตัว กล้ามาเยาะเย้ยนาง...เซี่ยเชียนฮวัน สำหรับเจ้าคงต้องใช้คำว่าโง่เง่ามาเปรียบเปรย"ท่านหมอเทวดาแล้วพ่อของข้าจะทำอย่างไรเล่า ท่านหญิงไม่ยอมขายยาให้กับเรา เช่นนั้นพ่อของข้าคงต้องนอนรอวันตายใช่หรือไม่”ชายหนุ่มผู้นั้นก็ทำตัวไม่ถูก เขาได้แต่เงยหน้าขึ้นมองดูเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันตบบ่าของเขาเบาๆ ถอนหายใจพูดว่า "เจ้าอย่าได้กังวลใจไป ข้าจะพยายา
"เมื่อครู่บ่าวแอบไปที่เรือนจิ่นซิ่วมา..."ท่าทีของเสี่ยวตง นอกจากความตึงเครียดแล้วยังดูตื่นเต้นเล็กน้อย นางแทบรอไม่ไหวที่จะบอกความลับนี้กับเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันหยิกแก้มน้อยๆ ของเสี่ยวตงแล้วตำหนิว่า "จู่ๆ เจ้าไปที่เรือนจิ่นซิ่วทำไมกัน ตอนนี้มือของเจ้าบาดเจ็บอยู่ หากซูอวี้เออร์หาเรื่องลงโทษเจ้าอีกละก็ คราวนี้มือของเจ้าคงใช้การไม่ได้อีกต่อไปแน่นอน""ขอโทษเพคะเหนียงเหนียง บ่าวผิดไปแล้ว" เสี่ยวตงก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดเซี่ยเชียนฮวันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วนางจึงได้ดึงเสี่ยวตงเข้าไปในห้อง กระซิบถามว่า "เจ้าได้ยินอะไรมา?""เหนียงเหนียงเพคะ ก่อนหน้านี้เหนียงเหนียงกล่าวว่าแม่นางซูและท่านหญิงหยวนหลี่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกันใช่หรือไม่ วันนี้บ่าวรู้สึกว่าไม่มีอะไรทำจึงได้เดินเที่ยวไปรอบๆ ปรากฏว่าเจอกับผู้ที่มาส่งจดหมายให้แม่นางสู้แทนท่านหญิงหยวนหลี่!"เสี่ยวตงกระซิบแล้วพูดขึ้นด้วยความสงสัย นางจึงแอบไปบริเวณใกล้เคียงกับเรือนจิ่นซิ่ว และได้ยินบทสนทนาของซูอวี้เออร์กับสาวรับใช้อวิ๋นซีเข้าพอดีหากไม่ได้แอบฟังคงไม่รู้ว่าที่แท้ซูอวี้เออร์และท่านหญิงหยวนหลี่แอบร่
ณ คืนนั้นในที่สุดเซี่ยเชียนฮวันก็เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวตงจึงรีบร้อนยืนกรานจะต้องไปขโมยสูตรกลั่นยาให้ได้ในคืนนี้ไม่เพียงเพราะวันที่ฮ่องเต้กำหนดไว้ใกล้ถึงแล้วแต่คืนนี้ ยังมีเทศกาลลอยโคมดอกไม้เป็นเอกลักษณ์ของต้าเซี่ย ซูอวี้เออร์และเซียวเย่หลันจะไปยังทะเลสาบชิงเหลียนด้วยกันแล้วนั่งเรือสำราญเพลิดเพลินกับการชมโคมดอกไม้เทศกาลอันสำคัญเช่นนี้ องค์ชายและชนชั้นสูงต่างจากพาครอบครัวของตนไปเที่ยวเล่น ชื่นชมโคมดอกไม้แล้วขอพรภาวนาให้บ้านของตนความปลอดภัย ประสบความราบรื่นเซี่ยเชียนฮวันนั่งอุ่นมืออยู่ในห้อง เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มดังขึ้นตรงบันไดไม้ด้านนอกประตูไม่ใช่แค่เซียวเย่หลันคนเดียวยังมีซูอวี้เออร์อยู่ข้างกายเขาด้วย"งานโคมดอกไม้คืนนี้ เจ้าจะเดินทางไปพร้อมกับข้าหรือไม่”เซียวเย่หลันเอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันพลิกฝ่ามือที่กำลังอุ่นอยู่ในไฟร้อน ตอบกลับอย่างใจเย็นโดยไม่หันหลังไปมองว่า "ไม่ไป"“ท่านพี่เหนื่อยกับเรื่องกาฬโรคมาตั้งหลายวันแล้ว ควรออกไปพักผ่อนก่อนเถิด"น้ำเสียงของซูอวี้เออร์ดูอ่อนโยน ราวกับว่านางกำลังครุ่นคิดแทนเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันไม่สนใจนักได้แต่หันไปหยิบหน้ากากอนา
ผ่านไปอีกไม่นาน อวิ๋นซีก็คงจะกลับมาเมื่อถึงเวลานั้นเซี่ยเชียนฮวันจะกลายเป็นเช่นสัตว์ที่ติดอยู่ในกรง ไม่อาจหนีออกไปได้และถูกจับคาหนังคาเขาทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในสมองของนาง แย่แล้วนี่คงไม่ใช่อุบายของซูอวี้เออร์?ตามที่นางคาดเดาไว้ก่อนหน้า ซูอวี้เออร์จงใจให้เสี่ยวตงได้ยินการสนทนานี้ ก่อนจะเอ่ยปากชวนเซียวเย่หลันให้เดินทางออกไปดูโคมดอกไม้ด้วยกัน เพื่อให้โอกาสผู้อื่นเข้ามาในเรือนจิ่นซิ่วหากว่าซูอวี้เออร์ได้ปรึกษาหารือกับอวิ๋นซีเอาไว้แล้ว ประเดี๋ยวพวกเขาเข้ามาพร้อมกัน เซี่ยเชียนฮวันก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งใดได้เมื่อกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เซี่ยเชียนฮวันจึงรู้ว่าไม่มีเวลาที่จะครุ่นคิดต่อไปแล้วนางลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจละทิ้งการเข้าค้นหาสูตรปรุงยาในครั้งนี้ แล้วพุ่งตรงออกไปตรงหน้าต่าง“พลุบ"ทันใดนั้น เซี่ยเชียนฮวันก็แทบจะลื่นล้มนางก้มหน้าลงมอง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจที่พื้นมีอิฐก้อนหนึ่งที่สามารถขยับได้ ด้านขวาของอิฐเผยอขึ้นเล็กน้อยเซี่ยเชียนฮวันโน้มกายลงมาแล้วใช้แรงยกอิฐก้อนนั้นขึ้นเต็มกำลัง พบว่าใต้อิฐเป็นช่องว่าง มีจดหมายลับอยู่หลายฉบับและกล่องซ
กุญแจถูกเปิดออกเสียงดัง “แกร๊ก" ด้านในไม่ได้เป็นดังที่เซี่ยเชียนฮวันคิดเอาไว้ว่าทันทีที่มันถูกเปิดออก อาจมีอาวุธลับบางอย่างเด้งออกมา "เหนียงเหนียงเป็นอะไรหรือไม่เพคะ?” เสี่ยวตงรีบเอ่ยถามเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าเมื่อคิดดูแล้ว ซูอวี้เออร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้จัดการกับนาง ไทเฮาเห็นนางเป็นเหมือนหลานสาวแท้ๆ หากมีคนลอบสังหารนางจนตาย คาดว่าฮ่องเต้คงจะสืบสวนอย่างถึงที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นซูอวี้เออร์แม้อยู่ในจวนอ๋องก็ยากที่จะหลบหนีได้ราบรื่นแต่ว่าเซี่ยเชียนฮวันยังคงรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติไปเมื่อครู่ตอนที่นางเดินถือกล่องกลับมา ข้างในกล่องดูเหมือนมีของบางอย่างกระแทกไปมา ข้างในคงไม่ได้มีเพียงใบเขียนสูตรกลั่นยา..."เหนียงเหนียงไม่ต้องกลัวไปเพคะ บ่าวจะเปิดดูก่อน"เสี่ยวตงเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันค่อนข้างลังเล นางจึงอาสาเอื้อมมือเข้าไปเปิดฝากล่องทันใดนั้นเมื่อฝากล่องถูกเปิดออกก็มีอะไรบางอย่างพุ่งชนออกมา!"ระวัง!"เซี่ยเชียนฮวันได้สติกลับคืนมาและพบว่าเสี่ยวตงกำลังยื่นมือออกไปจับ จึงรีบห้ามเอาไว้ชั่วพริบตาเดียว ร่างเล็กๆ สีดำก็พุ่งกายออกมา!มันดูโหดร้ายผิดปกติ และกัดเข้าไปที่แขนของ
ณ ทะเลสาบชิงเหลียน มีคู่รักมากมายโอบกอดกันอยู่บริเวณท่าเรือ บรรยากาศเต็มไปด้วยหวานชื่นในมือของพวกเขาเขียนคำอธิษฐานเอาไว้ ใส่ลงไปในโคมดอกไม้แล้วนำไปลอยในแม่น้ำ หนึ่งในนั้นคือเซียวเย่หลันและซูอวี้เออร์เซียวเย่หลันทำสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก เขาไม่ค่อยสนใจเทศกาลเกี่ยวกับความรักใคร่เช่นนี้ เมื่อเขานั่งอยู่บนเรือ ทำให้เรือรอบๆ ถอยห่างออกไป"ท่านอ๋องเพคะ ดูคำอธิษฐานของข้าน้อยสิ”ซูอวี้เออร์ยิ้มแล้วนำกระดาษที่ตนเขียนเอาไปให้เซียวเย่หลันดูเซียวเย่หลันเหลือบตามองกล่าวว่า "เขียนสวยดี" "ที่ข้าน้อยให้ดูไม่ใช่ตัวอักษรสักหน่อย แต่เป็นคำปรารถนาที่จะได้อยู่ร่วมไปทุกชาติกับท่าน"ซูอวี้เออร์วางข้อความลงแล้วถอนหายใจเงียบๆ เซียวเย่หลันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย "ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องไร้สาระถึงชีวิตหลังความตาย"คนเราเมื่อตายไปแล้วจะมีชาติหน้าอีกได้อย่างไร?เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดสตรีมักจินตนาการในสิ่งที่ไม่สมจริงเหล่านี้อยู่เสมอซูอวี้เออร์ไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้แต่เบ้ริมฝีปากแล้วเอ่ยท่าทางยั่วยวน "เทศกาลอันน่ายินดีเช่นนี้ท่านอ๋อง ช่างไร้ความรู้สึกเหลือเกิน เพื่อเป็นการลงโทษที่ท่านอ๋องเย็น
เซียวเย่หลันรีบพาคนของเขากลับไปที่จวนอ๋องอย่างรวดเร็ว"ท่านอ๋องเพคะ ในที่สุดก็กลับมาสักที เมื่อคืนนี้เหนียงเหนียง..."เสี่ยวตงวิ่งเข้าไปหาเซียวเย่หลันด้วยใบหน้าอันเศร้าหมอง เมื่อเห็นซูอวี้เออร์ยืนอยู่ข้างหลังเขา แววตาก็เปลี่ยนไปเป็นโมโห ชะงักคำพูดลงทันทีแต่เมื่อนึกถึงคำกำชับของเซี่ยเชียนฮวันท้ายที่สุดแล้วนางจึงไม่ได้กล่าวหาซูอวี้เออร์ ได้แต่กัดฟันพูดว่า "เมื่อคืนนี้ที่มีหนูตัวหนึ่งเข้ามาในจวนอ๋องแล้วกัดเหนียงเหนียงเข้า""โอ้สวรรค์ เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร!" ใบหน้าของซูอวี้เออร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ดวงตาเบิกกว้างยกมือขึ้นปิดปากของตนแต่ปากของนางนั้นแท้จริงแล้วยิ้มอยู่หรือไม่คงไม่มีใครเห็นเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเข้าหากัน "จวนอ๋องได้รับการดูแลคุ้มกันอย่างแน่นหนา แม้แต่แมลงวันสักตัวก็ไม่อาจบินเข้ามาได้ แล้วจะมีหนูได้อย่างไร”"เรื่องนี้บ่าวไม่รู้ อาจมีใครบางคนจงใจปล่อยให้มันเข้ามา" เสี่ยวตงเอ่ยขึ้นลอยๆ "ท่านอ๋องเพคะ ข้าน้อยกลัวยิ่งนัก สิ่งที่ข้าน้อยกลัวที่สุดในโลกก็คือหนู หากมันมากัดข้าน้อยล่ะก็ แล้ว...แล้วจะทำเช่นไร"ซูอวี้เออร์รีบหันมาโผเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวเย่หลัน
ตอนที่กำลังปล่อยโคมดอกไม้นางทั้งแสดงท่าทีไม่พอใจและถอนหายใจออกมา โวยวายอยู่สักพักกว่าจะทำให้เซียวเย่หลันยินยอมแต่บัดนี้เซียวเย่หลันกลับคิดแทนความรู้สึกของเซี่ยเชียนฮวันโดยมิต้องให้บอกซูอวี้เออร์หันหลังกลับไปอย่างไม่อาจควบคุมได้ มือกำแน่นอยู่ในแขนเสื้อ“พวกเจ้าออกไปก่อน"ทันใดนั้นเซียวเย่หลันก็ออกคำสั่งให้ทุกคนจากไปซูอวี้เออร์ไม่พอใจ นางหันมาพูดด้วยท่าทางน่าสงสารว่า “ท่านอ๋องเพคะ บัดนี้ท่านพี่ป่วยหนัก ข้าก็อยากอยู่ดูแลนางด้วย"“ไม่จำเป็น เจ้าโดนลมหนาวพัดโชยมาทั้งคืนแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”เซียวเย่หลันปฏิเสธโดยไม่คิดซูอวี้เออร์ไม่รู้จักทำเช่นไร เมื่อคืนนี้ด้วยกลัวว่าจะมีคนพาเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋องก่อน ต่อให้เซียวเย่หลันดื่มสุราจนเมามายแล้ว นางก็ยังคงไม่กล้าหลับ ได้แต่เฝ้าอยู่ข้างกายเขาตลอดทั้งคืนบัดนี้นางก็เหนื่อยล้าเช่นกัน"เช่นนั้นอวี้เออร์ขอตัวกลับก่อนเพคะ หากท่านอ๋องอยากจะกลับไปพักผ่อน เรียกข้าน้อยมาดูแลท่านพี่แทนได้ตลอดเวลา"ซูอวี้เออร์โค้งกายเล็กน้อยแล้วออกไปจากห้องภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่เซียวเย่หลันและเซี่ยเชียนฮวันเขาเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันเหงื่อออกไปทั่ว