เซียวเย่หลันหน้าเปลี่ยนสี เขายื่นมือออกไปประคองได้ทันเวลา “อวี้เออร์ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”“ข้า...ข้าเวียนหัวมาก...หนาว”ซูอวี้เออร์ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเซียวเย่หลันด้วยใบหน้าอ่อนแอ ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด ราวกับว่าอาการเจ็บป่วยบางอย่างประทุขึ้นมา“ยาเจ้าล่ะ?” เซียวเย่หลันถาม“อยู่ใน...ห้อง...”ซูอวี้เออร์ทำราวกับว่าแม้แต่การออกเสียงก็ยังลำบากเซียวเย่หลันเห็นนางเป็นเช่นนั้น ก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ในตอนแรกนางเป็นคณิกาที่มีความสามารถอันน่าทึ่ง แต่เพราะช่วยชีวิตเขาจึงกลายมาเป็นเช่นนี้ ร่างกายอ่อนแอเป็นระยะๆ ทำให้ไม่อาจหวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์เช่นอดีตได้เส้นเลือดบนหลังมือชายคนนั้นพลันนูนขึ้น ข้อต่อส่งเสียงดัง ‘กึกกึก’ เขาเงยหน้ามองเซี่ยเชียนฮวันด้วยความสิ้นหวัง และใช้น้ำเสียงเชิงออกคำสั่งว่า “เจ้าช่วยดูอวี้เออร์ที”“มีอะไรให้ดูล่ะ”เซี่ยเชียนฮวันพูดไม่ออก ได้แต่ส่งเสียงงึมงำเบาๆตอนนี้นางจับชีพจรของซูอวี้เออร์ ตรวจกี่ครั้งก็ไม่พบปัญหา แต่พูดออกไปแล้วเซียวเย่หลันจะเชื่อหรือไม่?คาดไม่ถึงว่า คำพูดของนางจะทำให้เซียวเย่หลันโมโหยิ่งขึ้น เขาดึงนางเข้ามา“เจ้าประคองอวี้เออร์เข้าไปในห้
“เพื่อช่วยชีวิตข้าอวี้เออร์จึงถูกพิษเย็น ทำให้ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอมาก บางครั้งก็มีอาการชัก นางไม่ได้ตั้งใจจะทําร้ายเจ้า อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองไปเลย”เซียวเย่หลันกล่าวขณะเดินไปตามริมแม่น้ำเซี่ยเชียนฮวันได้ยินดังนั้น ก็รู้ว่าในใจของเขามองซูอวี้เออร์เป็นคนใกล้ชิด และกลัวว่านางจะทำร้ายซูอวี้เออร์ ดังนั้นจึงบอกให้นาง “อย่าได้ถือโทษโกรธเคือง”นางคร้านจะตอบกลับทั้งสองเดินเคียงข้างกันข้ามสะพานไม้เล็กๆ ไปอย่างเงียบๆเซี่ยเชียนฮวันนึกถึงหลี่จิ้งหย่าที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา จึงเอ่ยถามว่า “เรื่องที่ฮองเฮาถูกวางยาพิษจะเป็นเช่นไร?”“ข้าหลวงคนนั้นคงยอมรับความผิดไว้เพียงผู้เดียว และจะถูกประหารชีวิต”“แล้วคนรักในวัยเด็กของท่านล่ะ?”ได้ยินเช่นนั้น เซียวเย่หลันก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเขาตอบว่า “เห็นแก่ที่หลี่จิ้งหย่านำยาแก้พิษมาส่งให้ เสด็จพ่อคงเลี่ยงโทษตายให้นาง ตัดนางออกจากวงศ์ตระกูล ลดสถานะเป็นคนธรรมดา ส่วนองค์ชายสองคงถูกปลดจากตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายบริหาร อัครมหาเสนาบดีหลี่จะถูกปรับเงินเดือนไปหลายปี ฐานอบรมบุตรสาวไม่เข้มงวด”“ดูเหมือนเสด็จพ่อจะไม่กล้าลงมือกับตระกูลหลี่เกินไปนัก”เซี่ยเชียนฮวันค
“เสด็จแม่ได้รับความตกใจมากเกินไป สูญเสียพลังจิตใจไปมาก ลูกสะใภ้จะทำใบสั่งยา และต้มยาให้ดื่มวันละสามครั้ง ไม่ถึงห้าวันอาการจะดีขึ้น”เซี่ยเชียนฮวันเงยหน้า ส่งสัญญาณทางสายตากับเซียวเย่หลันเซียวเย่หลันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็เดินไปอีกด้านหนึ่ง หยิบปากกาและกระดาษแล้วยื่นให้เซี่ยเชียนฮวันเมื่อก่อนไม่มีใครกล้าเรียกใช้เขาด้วยสายตาสตรีผู้นี้เป็นคนแรก...เวลานี้เซี่ยเชียนฮวันกําลังจดจ่ออยู่กับการเขียนใบสั่งยาเพื่อบรรเทาจิตใจ จึงไม่ได้สังเกตเห็นความโกรธภายในใจของเซียวเย่หลัน“สมุนไพรเหล่านี้มีผลในการทําให้จิตใจมั่นคง หลังจากดื่มเข้าไปแล้วจะรู้สึกสบายขึ้น”หลังจากเซี่ยเชียนฮวันเขียนเสร็จ ก็ถือใบสั่งยาด้วยสองนิ้ว แล้วค่อยๆ ขยับไปที่สนมหมิงแต่คาดไม่ถึงว่าสนมหมิงจะตอบอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่จำเป็นต้องให้ข้าอ่าน ข้าอ่านไม่ออก”“เอ๋?”เซี่ยเชียนฮวันตกตะลึงเล็กน้อยนางก้มมองตัวอักษรที่นางเขียน มันน่าเกลียดนิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นอ่านไม่ออกเลยเซียวเย่หลันก้มลงไปหยิบกระดาษขึ้นมาแล้วพูดอย่างเฉยเมย “พระสนมหมิงอ่านหนังสือไม่ออก”ประโยคนี้ทำให้เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกส
“ข้าคิดว่าท่านเรียกข้าออกมาเพื่ออะไรบางอย่าง ที่แท้ก็อยากจะเตือนข้านี่เอง”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะออกมาเซี่ยเหยียนมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าของเขาจริงจังมาก “ฮวันฮวัน เจ้าอย่าเพิ่งวางใจไป ตอนนี้องค์ชายรองเพียงสูญเสียอำนาจไปชั่วขณะหนึ่ง เบื้องหลังของเขายังมีเฉิงกุ้ยเฟย มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาที่เขาจะกลับมาอีกครั้ง”“พี่ชายของข้าเป็นคุณชายที่ไม่สนใจการเมืองมิใช่หรือ? แล้วทำไมวันนี้ถึงได้พูดเรื่องเหล่านี้อย่างมีเหตุผลได้”เซี่ยเชียนฮวันตบไหล่เซี่ยเหยียน ปล่อยให้เขานั่งทานอาหารอย่างสบายใจต่อเซี่ยเหยียนร้องหึออกมา แสร้งทำตัวสูงส่งลึกล้ำ “ที่ตอนนี้พี่ชายเจ้าเป็นคุณชายสำอาง นั่นก็เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาเปิดเผยโฉมหน้า”“พอเถอะ พวกเกาะพ่อเกาะแม่ทุกคนก็ชอบพูดแบบนี้”เซี่ยเชียนฮวันกลอกตาใส่เขาที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า ก็เพราะยังไม่ถึงเวลา หรือโชคไม่ดี...ผู้ชายมักจะชอบหาเหตุผลให้กับตัวเองเวลาไม่ได้รับความสนใจเมื่อเห็นท่าทางรังเกียจของน้องสาว เซี่ยเหยียนก็แค่หัวเราะฮิฮะ “เกาะพ่อเกาะแม่? ฮวันฮวัน คำพูดของเจ้าแปลกใหม่มาก พี่ชายชอบมันนะ”“ท่านก็ทราบดีว่าข้ารู้ขอบเขตตัวเองดี นอกจากนี้มี
เมื่อได้ยินคำว่า ‘หมอผี’ สองคำนี้ เซี่ยเชียนฮวันก็อดสะดุ้งด้วยความตกใจไม่ได้!หมอผีที่แท้ก็มีหมอผีอยู่ที่นี่?!“หมอผีที่ท่านพูดถึง ใช่คนที่ฝึกฝนเจ็ดตำราหมอผีหรือเปล่า?” เซี่ยเชียนฮวันถามนางไม่แน่ใจว่าหมอที่นี่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมอผีที่สอนนางเมื่อชาติก่อนหรือไม่บางทีพวกเขาอาจจะใช้ชื่อเดียวกันเซี่ยเหยียนส่ายหน้า “ข้าไม่เคยได้ยินเจ็ดตำราหมอผีที่เจ้าเอ่ยถึง แต่ได้ยินมาว่าท่านหญิงหยวนหลี่เชี่ยวชาญการใช้เข็มเงิน โดยเฉพาะสิบสองเข็มประตูผีอะไรนั่น มันดูเหมือนของเจ้ามาก”“สิบสามเข็มต่างหาก”เซี่ยเชียนฮวันลุกขึ้นทันที“ฮวันฮวัน เจ้าจะทำอะไร” เซี่ยเหยียนเงยหน้ามองนางด้วยความประหลาดใจ“ไปเยี่ยมคารวะเทพธิดาที่ท่านพูดถึง”คาดไม่ถึงว่า จะได้เจอเพื่อนร่วมชั้นที่นี่ดูเหมือนจะมีด้ายที่มองไม่เห็นชักใยนาง และเปลี่ยนชะตากรรมของนางถ้าหากท่านหญิงหยวนหลี่เป็นผู้สืบทอดของหมอผีจริงๆ ก็อาจจะได้เบาะแสอะไรบางอย่างจากท่านหญิงผู้นี้ ว่าเหตุใดนางถึงได้มายังต้าเซี่ย และจะกลับโลกเดิมอย่างไรถ้าหากโชคดี ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถหาตำราครึ่งหลังของเจ็ดตำราหมอผีที่หายสาปสูญไปนานแล้วพบก็ได้“เจ้ารอก่อน พี่
“ข้าพูดจาเรื่อยเปื่อย หรือว่ามีคนลวงโลก ตัวเจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ”เซี่ยเชียนฮวันไม่มีทีท่าสะทกสะท้านนี่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ที่ถูกเรียกว่า “เทพธิดา”ท่านหญิงหยวนหลี่ยกเปลือกตาขึ้นและมองมาที่นาง “ข้ารักษาคนมามากมาย แต่ท่านกลับบอกว่าข้าเป็นคนลวงโลก?”“ใช่แล้ว ทักษะแพทย์ของท่านหญิงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน สตรีเช่นเจ้าอย่ามาพูดจาไร้สาระ!”“พวกเจ้าเป็นคนของโรงหมออื่นที่ส่งมาก่อกวนใช่หรือไม่?”“มีโรงหมอมากมายในเมืองหลวง แต่มีแค่ถงซ่านถังเท่านั้นที่ไม่เก็บเงินคนยากไร้ ต้องมีคนคิดว่าท่านหญิงตัดเส้นทางทำเงินของพวกเขา!”“ช่างไม่กลัวบาปกรรมจริงๆ...”ผู้คนต่างชี้นิ้วมาที่เซี่ยเชียนฮวันราวกับว่านางได้ทําอะไรที่ชั่วร้ายยกเว้นชายขี้เมาที่ยืนกอดขวดน้ำเต้าอยู่หน้าทางเข้า ที่ทำเหมือนกำลังดูการแสดงดีดีดวงตาของเซี่ยเหยียนพลันมืดมิด พร้อมปรากฏแสงอันเย็นเยียบที่หาได้ยาก เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาซึ่งแตกต่างจากปกติโดยสิ้นเชิง “แต่ไหนแต่ไรมาน้องสาวของข้าไม่เคยพูดผิด พวกเจ้าต้องถูกหลอกอย่างแน่นอน”นิสัยปกป้องพวกพ้องของพี่ชายก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ช่างหาได้ยากยิ่งนัก“อ๊ะ ข้าจำได้แล้ว
“นี่ ถอดเสื้อของนายออกแล้วแสดงให้ทุกคนดูสิ”มีบางคนอดพูดไม่ได้ชายคนนั้นรีบโบกมือปฏิเสธ พูดจาตะกุกตะกักว่า “ข้า...ข้ามาที่นี่เพื่อให้ท่านหญิงช่วยรักษา พวกเจ้าอาศัยอะไรมาสั่งให้ข้าถอดเสื้อให้ดู...”เซี่ยเชียนฮวันเบะปาก “ชายร่างใหญ่ถอดเสื้อให้ดู มีอะไรต้องเขินอาย หรือว่าเจ้าไม่กล้า”เมื่อนางพูดอย่างนั้นทุกคนก็สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ !เพราะเมื่อดูจากท่าทางของผู้ชายคนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าร้อนตัวมาก เหมือนความลับถูกเปิดเผย“รีบถอดเสื้อให้พวกเราดู”“ใช่แล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของท่านหญิง ถ้าไม่มีผีในใจ แล้วทำไมถึงไม่ให้ดูล่ะ””“ดูซี่โครงของเขาสิ เหมือนมีอะไรยื่นออกมา...”ฝูงชนต่างเจ้าพูดคำข้าพูดคำ และค่อยๆ เข้าใกล้ชายคนนั้นมีบางคนเอื้อมมือไปดึงเสื้อของเขาสถานการณ์แทบจะคุมไม่ไหวแล้วในขณะที่ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ชายคนนั้น ไม่มีใครพบว่าใบหน้าของท่านหญิงหยวนหลี่แทบจะดูไม่ได้ สองมือของนางจิกกำโต๊ะแน่นเธอขยิบตาให้ชายคนนั้นชายคนนั้นเข้าใจ และตะโกนเสียงดังทันที “พอได้แล้ว ข้าไม่รักษาแล้ว!”จากนั้นเขาก็วิ่งหนีไปทันที!“เดี๋ยวก่อน! ทำไมถึงหนีไปล่ะ??”“โธ่เอ๊ย! ท่าทางดูแข
เซี่ยเชียนฮวันไม่สามารถเข้าใจชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ตอนที่อยู่ถงซ่านถังเมื่อครู่เขาดูเหมือนไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ถูกท่านหญิงหยวนหลี่หลอก มิหนำซ้ำยังยืนดูเรื่องตลกอยู่ข้างๆแต่เซี่ยเชียนฮวันแค่รู้สึกว่าเขาแปลกนิดหน่อยเท่านั้น นางตอบกลับอย่างง่ายๆ แบบไม่เสียเวลาคิด “ตอนเด็กๆ มีปู่คนหนึ่งเคยสอนเรื่องแพทย์ให้แก่ข้า และตอนนี้ชายชราก็เดินทางไกลแล้ว”คนขี้เมาไม่ใช่คนแรกที่ถามคําถามนี้ เซี่ยเชียนฮวันอธิบายด้วยเหตุผลตามปกติแต่ไม่คาดว่า ชายขี้เมาจะไม่ยอมรับเหมือนคนอื่นๆ เขายังถามต่อว่า “แซ่ของชายชราที่เจ้าพูดถึงคืออะไร อาศัยอยู่ที่ไหน มีลักษณะอย่างไร?”ความคิดของเขาทำให้เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆนางไม่ตอบ แต่ย้อนถามว่า “ข้าไม่รู้จักท่าน แล้วเหตุใดข้าต้องบอกท่านด้วย?”“เพราะข้าคิดว่าเจ้าไม่ได้พูดความจริง”ชายขี้เมาถือน้ำเต้า ยืนเอียงไหล่ข้างหนึ่งสูงข้างหนึ่งต่ำอย่างเกียจคร้าน พร้อมเปล่งเสียงหัวเราะแหบแห้งที่ฟังไม่เข้าหูเซี่ยเชียนฮวันสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อพูดอีกครั้งนางก็ไม่สุภาพอีกต่อไป “ไม่สู้ท่านพูดมาก่อนว่าท่านเป็นใคร แล้วข้าจะพิจารณาว่าควรจะบอกความจริงกับท่านหรือไม