ซูอินร้องไห้อย่างน่าสงสาร และจงใจไม่พูดเหตุผลซูจี้ไห่และซุนฉินถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ซูอินถึงได้เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกไปว่า“ดูเหมือนว่าคุณหญิงย่าลู่จะไม่ชอบฉัน ต้องโทษที่ฉันไม่ใช่พี่สาว ไม่สามารถสืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่ได้ ต่อให้จะแต่งกับพี่ซิวหนิง ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้อยู่ดี! ”ซูอินรู้สึกเสียใจมาก ราวกับว่าเธอถูกตระกูลลู่ทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมซุนฉินกอดซูอินอย่างเศร้าโศก และร้องไห้ไปตาม ๆ กัน“ต้องโทษที่แม่ไร้ความสามารถ เดิมทีลูกก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อลูก แต่หลายปีมานี้ลูกกลับถูกโลกภายนอกมองว่าเป็นแค่ลูกเลี้ยง นี่ขนาดลูกจะแต่งงานแล้วยังถูกทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมอยู่อีก แบบนี้จะทำยังไง? ไม่งั้นพวกเราก็ไม่ต้องแต่งมันแล้ว...... ”“แต่......แต่ว่าหนูหมั้นหมายกับพี่ซิวหนิงไปแล้วนะคะ ถ้าหากจะถอนหมั้น ความน่าเชื่อถือของตระกูลซูและพ่อก็จะถูกทำลายลงไปด้วยนะคะ”ซูอินร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมดวงตาของซูจี้ไห่มืดมนจนไม่อยากที่จะเอ่ยคำใดออกมาอินอินได้รับความทุกข์ทรมานมากเกินไป!ซิงหลานจิวเวลรี่คือสิ่งที่เย่ซิงหลานเหลือเอาไว้ให้ ทันทีที่ซูหรานแต่งงาน เธอก็จะได้เป็นผู้สืบทอดทันที!ก่อน
เด็กฝึกงานยังไม่ทันได้พูดอะไรหลินเยว่เยว่ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าภูมิใจ และส่งจดหมายลาออกให้กับซูหราน“พี่หรานหราน ยินดีด้วยนะคะ ที่พี่สืบทอดมรดกจากคุณแม่ได้สำเร็จ! ”“วันนี้ฉันตั้งใจมาที่นี่เป็นพิเศษ เห็นแก่มิตรภาพที่ยาวนานของพวกเรา ฉันก็เลยขอลาออกด้วยตนเอง! ”“อ่อ จริงสิ เมื่อกี้พี่ถามพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนไปไหนกันหมด? พี่ลองไปดูที่กล่องเมลบริษัทก็น่าจะรู้แล้วนะคะ! ”ซูหรานเปิดกล่องเมลดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแต่ละฉบับ ต่างก็เป็นจดหมายลาออกทั้งสิ้น“ตำแหน่งสำคัญของบริษัทต่างก็ลาออกกันหมด เหลือไว้แค่เด็กฝึกงานที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซูหราน เธอคิดว่าซิงหลานจิวเวลรี่ยังจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน? ฮึ ๆ ๆ ๆ ...... ”“เธอคิดว่าคุณลุงเต็มใจที่จะยกซิงหลานจิวเวลรี่ให้กับเธอจริง ๆ น่ะเหรอ? ”หลินเยว่เยว่หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อให้ซูหรานได้เป็นผู้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่จริง ๆ แล้วยังไง?ซิงหลานจิวเวลรี่ที่มีแค่เธอคนเดียว จะไปต่อได้สักกี่น้ำ?หลินเยว่เยว่หัวเราะด้วยความสะใจก่อนที่จะเดินออกไปในสำนักงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับว่างเปล่า เหลือเพียงแค่เด็กฝึกงานไม่กี่ค
บริษัทที่มีสมาชิกห้าคน ซูหรานได้ทำการประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มทันทีและในขณะเดียวกันนี้เอง ในอาคารสำนักงานที่อยู่ตรงข้ามกับตึกไป๋ลี่ ซูจี้ไห่ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานพื้นที่สำนักงานตรงชั้นหนึ่ง ต่างก็เป็นพนักงานหน้าเก่าที่เคยทำงานกับซิงหลานซูอินมองไปยังป้ายชื่อของบริษัท“อ้ายอินจิวเวลรี่” เป็นสามสี่คำที่ค่อนข้างเด่นชัดเป็นพิเศษซูอินเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่แท้พ่อของเธอก็ได้แอบจัดการเอาไว้ก่อนแล้ว เขาได้เปิดร้านจิวเวลรี่ขึ้นมา จากนั้นก็ดำเนินกิจการมาแบบเรียบง่ายและในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนที่ซื้อผ่านซิงหลานจิวเวลรี่ ถูกดำเนินการโดยพ่อของเธอ ดังนั้นของส่วนใหญ่ถึงมากองรวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว!ฮึ!ซูหรานได้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่แล้วยังไง?ในเวลานี้ ซิงหลานจิวเวลรี่ก็มีแค่เปลือกเท่านั้น!ซูอินอยากที่จะเห็นสภาพของซูหรานตอนนี้เสียจริง เธอเชื่อว่าการแสดงออกของเธอจะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ ๆ!แต่ในความเป็นจริง ซูอินยังคงดูกังวลเกี่ยวกับซูหรานมาก “พ่อคะ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนี้ล่ะคะ...... ”ไม่รอให้เธอพูดจบ ซูจี้ไห่ก็หัวเราะเยาะออกมาเพื่อตัดบทพูด
เมื่อคุณหญิงได้ยินดังนั้น เธอก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด“เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช่ของปลอม! ”ซูจี้ไห่บอกเธออย่างชัดเจน ว่าชุดเครื่องประดับที่มอบให้เธอนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่ซูจี้ไห่จะหลอกเธอ!ซูหรานเห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นในดวงตาของเธอ “ตกลงแล้วมันจริงหรือปลอม เราเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก็น่าจะกระจ่างแล้วนี่คะ? หรือว่าคุณกลัวการตรวจสอบ? ”“ใครกลัวกันล่ะ? จะตรวจก็ตรวจสิ! ”คุณหญิงเหลือบมองซูหรานอย่างมั่นใจราวกับกังวลว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อะไรอยู่ จากนั้นคุณหญิงจึงสั่งให้บอดี้การ์ดรวบรวมเครื่องประดับพวกนั้นพร้อมกับสัญญาสั่งทำขึ้นมาทันที“เอาแบบนี้นะคะ เพื่อความเป็นธรรม ทั้งคุณและฉันต่างฝ่ายต่างเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินมาด้วยตนเอง จากนั้นสองวันให้หลัง พวกเราเจอกันที่โรงแรมไห่เฉิง แล้วพวกเรามาตรวจสอบด้วยกันนะคะ! ” ซูหรานกล่าวเสนอแนะออกไปรอยยิ้มตรงมุมปากของเธอ ทำให้คุณหญิงรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูกแต่หลังจากที่คุณหญิงคิดไปคิดมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่“ได้”หลังจากที่คุณหญิงตอบตกลงแล้ว เธอก็เดินออกไปพร้อมเครื่องประดับเธอ
จี้เยี่ยนโจวเพิ่งกลับมาที่ไห่เฉิงจากการที่ต้องเดินทางไปทำธุรกิจ และสิ่งแรกที่เขาทำคือบังคับให้ทั้งสองไปดื่ม“มา ๆ ๆ ดื่ม ๆ ......วันนี้พวกเราสามคนไม่เมาไม่กลับ! ” จี้เยี่ยนโจวพยายามทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาทันทีที่ฟู่จิ้นหานเข้าไปในเย่หลินบาร์ เขาก็มีสีหน้าที่เย็นชา มีความรู้สึกขุ่นเคืองไปทั้งตัว เขาดื่มโดยไม่พูดอะไรสักคำสองวันแล้ว!สองวันแล้วที่เขาไม่ได้กลับเจินหลินย่วน ซูหรานกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่น้อย!ในใจรู้สึกหงุดหงิด ฟู่จิ้นหานเงยหน้าขึ้น และจิบไวน์รสเข้มเข้าไป แต่อาการหงุดหงิดของเขาก็ไม่ได้บรรเทาลงเลยเย่ถิงเซินจ้องมองไปทางฟู่จิ้นหาน และทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“ฉันขอออกไปรับสายหน่อยนะ”เย่ถิงเซินออกจากห้องส่วนตัวไปขณะที่ซูหรานกำลังคิดว่าเย่ถิงเซินน่าจะไม่รับสาย สายนั้นก็โทรติดทันที“สวัสดีค่ะ คุณชายใหญ่เย่......ฉันต้องขอโทษที่รบกวนคุณด้วยนะคะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณค่ะ ฉันต้องการวัสดุทำเครื่องประดับอย่างเร่งด่วน ทางฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย พอคิดไปคิดมา ทั่วทั้งไห่เฉิง ฉันทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากคุณเท่านั้นค่ะ...... ”ซูหรานและเย่ถิง
พอกลับไปถึงที่เจินหลินย่วน ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วแต่ซูหรานก็ยังไม่กลับมาฟู่จิ้นหานโทรหาซูหราน แต่โทรศัพท์กลับปิดเครื่องอยู่ในเวลานี้ ซูหรานกำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ เพื่อวาดร่างแบบชุดเครื่องประดับขึ้นมาใหม่จากหน่วยความจำของเธอ โดยไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าโทรศัพท์ตัวเองปิดอยู่รอจนถึงการออกแบบขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้น เธอก็พิมพ์มันออกมาเยว่เซียงมองดูภาพวาดการออกแบบด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “นี่......นี่มันภาพร่างของเครื่องประดับเมื่อกี้นี้นี่ค่ะ! ”เหตุการณ์เมื่อกี้เกิดความอลหม่านขนาดนั้นตัวเธอยังจำได้แค่จุดเด่นบางจุดของเครื่องประดับเท่านั้นแต่ประธานเสี่ยวซูถึงขั้นจดจำลักษณะของเครื่องประดับได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้นเยว่เซียงมองซูหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงทันใดนั้น ซูหรานก็มองไปยังเยว่เซียง “คุณทำขั้นตอนการเจียระไนและขัดมันได้ไหม? ”เยว่เซียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกผิดนิดหน่อย “เคยเรียนค่ะ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์ใช้วัสดุจริง ๆ เลยสักครั้ง! ”“ถ้างั้นอีกเดี๋ยวคุณก็มาลองทำดูก็แล้วกัน! ”ซูหรานมองเธอด้วยแววตาให้กำลั
เวลาเริ่มดึกขึ้นเรื่อย ๆภายใต้แสงไฟอันอบอุ่น ซูหรานยกมือขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอเธอจดจ่อกับมันมาก จนไม่ทันสังเกตว่าเย่ถิงเซินเฝ้ามองดูเธอจากตรงประตูมาพักใหญ่แล้วเย่ถิงเซินเคยเห็นผลงานของซูหรานมาก่อนงานฝีมือของสร้อยคอหยกจากการแข่งขันเครื่องประดับครั้งล่าสุด ต่อให้ฝึกมาเป็นสิบปีจนชำนาญ ก็ยากที่จะทำได้ประณีตขนาดนั้นซูหรานเพิ่งจะอายุ 20 นอกเหนือจากการฝึกฝนทักษะนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตัวเธอเองก็ต้องมีพรสวรรค์ด้วย“ว้าย...... ”จู่ ๆ ก็มีเสียงของความตกใจดังขึ้นทันทีที่ซูหรานได้ยินเสียง ก็มองไปทางเยว่เซียง จากนั้นก็เห็นว่ามือของเธอถูกเครื่องจักรทิ่มจนเกิดแผลซูหรานก้าวไปข้างหน้าทันที พอตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เธอถึงได้โล่งอกลงไปบ้างแต่มือนี้ไม่สามารถทำงานได้ต่อชั่วคราว“คุณไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวจะติดเชื้อเอาได้” ซูหรานรีบช่วยเยว่เซียงห้ามเลือดเอาไว้เยว่เซียงตำหนิตัวเองมากจนเกือบจะร้องไห้ “ฉันขอโทษนะคะ ประธานเสี่ยวซู เป็นฉันที่ไม่ระวังเอง นี่ฉันเพิ่มภาระให้คุณรึเปล่าคะ? ถ้าเกิดว่ามันเสร็จไม่ทันวันมะรืน...... ”“ทันสิ! เชื่อฉันเถอะ! ”ซูหราน
ซูหรานมองดูเปลวไฟบนอัญมณี และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเหมือนกับที่เธอวาดตามปกติ“คุณก็เคยเห็นแล้วนี่คะ เปลวไฟ”เมื่อนึกถึงตอนที่เย่ถิงเซินช่วยเธอเอาไว้ในการแข่งขันเครื่องประดับรอบชิงชนะเลิศวันนั้น ซูหรานก็ยังคงรู้สึกขอบคุณอยู่แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่เย่ถิงเซินต้องการเย่ถิงเซินยืนขึ้น และเดินไปทางซูหราน “ผมรู้ว่ามันคือเปลวไฟ แต่ทำไมคุณถึงทำเครื่องหมายแบบนี้ล่ะ? ”ซูหรานเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึงทำไมถึงทำเครื่องหมายแบบนี้กันล่ะ?ซูหรานคิดกลับไปกลับมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ “อาจจะเป็นนิสัยของฉันตั้งแต่เด็กมั้งคะ! ”ในความทรงจำ ทุกครั้งที่แม่ทำของชิ้นหนึ่งออกมา เธอก็มักจะเคยชินกับการที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ในจุดลับตาจนติดเป็นนิสัยซูหรานมองดูสีหน้าที่จริงจังของเย่ถิงเซิน รู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของเขา “นี่มันก็น่าจะปกติไม่ใช่เหรอคะ? ”ปกติงั้นเหรอ?เย่ถิงเซินเหลือบมองซูหรานตระกูลเย่เริ่มต้นจากการทำเครื่องประดับ และเกือบทุกคนในตระกูลเย่สามารถทำชิ้นงานขึ้นมาเองกับมือได้ หลังจากที่ทุกคนในตระกูลเย่ทำเครื่องประดับเสร็จ พวกเขาก็มักจะทำเครื่องหมายไว้ในจุดที่ลับตาคนและสิ่งที่ซูหราน
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว