ซูอินร้องไห้อย่างน่าสงสาร และจงใจไม่พูดเหตุผลซูจี้ไห่และซุนฉินถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ซูอินถึงได้เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกไปว่า“ดูเหมือนว่าคุณหญิงย่าลู่จะไม่ชอบฉัน ต้องโทษที่ฉันไม่ใช่พี่สาว ไม่สามารถสืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่ได้ ต่อให้จะแต่งกับพี่ซิวหนิง ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้อยู่ดี! ”ซูอินรู้สึกเสียใจมาก ราวกับว่าเธอถูกตระกูลลู่ทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมซุนฉินกอดซูอินอย่างเศร้าโศก และร้องไห้ไปตาม ๆ กัน“ต้องโทษที่แม่ไร้ความสามารถ เดิมทีลูกก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อลูก แต่หลายปีมานี้ลูกกลับถูกโลกภายนอกมองว่าเป็นแค่ลูกเลี้ยง นี่ขนาดลูกจะแต่งงานแล้วยังถูกทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมอยู่อีก แบบนี้จะทำยังไง? ไม่งั้นพวกเราก็ไม่ต้องแต่งมันแล้ว...... ”“แต่......แต่ว่าหนูหมั้นหมายกับพี่ซิวหนิงไปแล้วนะคะ ถ้าหากจะถอนหมั้น ความน่าเชื่อถือของตระกูลซูและพ่อก็จะถูกทำลายลงไปด้วยนะคะ”ซูอินร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมดวงตาของซูจี้ไห่มืดมนจนไม่อยากที่จะเอ่ยคำใดออกมาอินอินได้รับความทุกข์ทรมานมากเกินไป!ซิงหลานจิวเวลรี่คือสิ่งที่เย่ซิงหลานเหลือเอาไว้ให้ ทันทีที่ซูหรานแต่งงาน เธอก็จะได้เป็นผู้สืบทอดทันที!ก่อน
เด็กฝึกงานยังไม่ทันได้พูดอะไรหลินเยว่เยว่ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าภูมิใจ และส่งจดหมายลาออกให้กับซูหราน“พี่หรานหราน ยินดีด้วยนะคะ ที่พี่สืบทอดมรดกจากคุณแม่ได้สำเร็จ! ”“วันนี้ฉันตั้งใจมาที่นี่เป็นพิเศษ เห็นแก่มิตรภาพที่ยาวนานของพวกเรา ฉันก็เลยขอลาออกด้วยตนเอง! ”“อ่อ จริงสิ เมื่อกี้พี่ถามพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนไปไหนกันหมด? พี่ลองไปดูที่กล่องเมลบริษัทก็น่าจะรู้แล้วนะคะ! ”ซูหรานเปิดกล่องเมลดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแต่ละฉบับ ต่างก็เป็นจดหมายลาออกทั้งสิ้น“ตำแหน่งสำคัญของบริษัทต่างก็ลาออกกันหมด เหลือไว้แค่เด็กฝึกงานที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซูหราน เธอคิดว่าซิงหลานจิวเวลรี่ยังจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน? ฮึ ๆ ๆ ๆ ...... ”“เธอคิดว่าคุณลุงเต็มใจที่จะยกซิงหลานจิวเวลรี่ให้กับเธอจริง ๆ น่ะเหรอ? ”หลินเยว่เยว่หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อให้ซูหรานได้เป็นผู้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่จริง ๆ แล้วยังไง?ซิงหลานจิวเวลรี่ที่มีแค่เธอคนเดียว จะไปต่อได้สักกี่น้ำ?หลินเยว่เยว่หัวเราะด้วยความสะใจก่อนที่จะเดินออกไปในสำนักงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับว่างเปล่า เหลือเพียงแค่เด็กฝึกงานไม่กี่ค
บริษัทที่มีสมาชิกห้าคน ซูหรานได้ทำการประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มทันทีและในขณะเดียวกันนี้เอง ในอาคารสำนักงานที่อยู่ตรงข้ามกับตึกไป๋ลี่ ซูจี้ไห่ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานพื้นที่สำนักงานตรงชั้นหนึ่ง ต่างก็เป็นพนักงานหน้าเก่าที่เคยทำงานกับซิงหลานซูอินมองไปยังป้ายชื่อของบริษัท“อ้ายอินจิวเวลรี่” เป็นสามสี่คำที่ค่อนข้างเด่นชัดเป็นพิเศษซูอินเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่แท้พ่อของเธอก็ได้แอบจัดการเอาไว้ก่อนแล้ว เขาได้เปิดร้านจิวเวลรี่ขึ้นมา จากนั้นก็ดำเนินกิจการมาแบบเรียบง่ายและในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนที่ซื้อผ่านซิงหลานจิวเวลรี่ ถูกดำเนินการโดยพ่อของเธอ ดังนั้นของส่วนใหญ่ถึงมากองรวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว!ฮึ!ซูหรานได้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่แล้วยังไง?ในเวลานี้ ซิงหลานจิวเวลรี่ก็มีแค่เปลือกเท่านั้น!ซูอินอยากที่จะเห็นสภาพของซูหรานตอนนี้เสียจริง เธอเชื่อว่าการแสดงออกของเธอจะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ ๆ!แต่ในความเป็นจริง ซูอินยังคงดูกังวลเกี่ยวกับซูหรานมาก “พ่อคะ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนี้ล่ะคะ...... ”ไม่รอให้เธอพูดจบ ซูจี้ไห่ก็หัวเราะเยาะออกมาเพื่อตัดบทพูด
เมื่อคุณหญิงได้ยินดังนั้น เธอก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด“เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช่ของปลอม! ”ซูจี้ไห่บอกเธออย่างชัดเจน ว่าชุดเครื่องประดับที่มอบให้เธอนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่ซูจี้ไห่จะหลอกเธอ!ซูหรานเห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นในดวงตาของเธอ “ตกลงแล้วมันจริงหรือปลอม เราเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก็น่าจะกระจ่างแล้วนี่คะ? หรือว่าคุณกลัวการตรวจสอบ? ”“ใครกลัวกันล่ะ? จะตรวจก็ตรวจสิ! ”คุณหญิงเหลือบมองซูหรานอย่างมั่นใจราวกับกังวลว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อะไรอยู่ จากนั้นคุณหญิงจึงสั่งให้บอดี้การ์ดรวบรวมเครื่องประดับพวกนั้นพร้อมกับสัญญาสั่งทำขึ้นมาทันที“เอาแบบนี้นะคะ เพื่อความเป็นธรรม ทั้งคุณและฉันต่างฝ่ายต่างเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินมาด้วยตนเอง จากนั้นสองวันให้หลัง พวกเราเจอกันที่โรงแรมไห่เฉิง แล้วพวกเรามาตรวจสอบด้วยกันนะคะ! ” ซูหรานกล่าวเสนอแนะออกไปรอยยิ้มตรงมุมปากของเธอ ทำให้คุณหญิงรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูกแต่หลังจากที่คุณหญิงคิดไปคิดมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่“ได้”หลังจากที่คุณหญิงตอบตกลงแล้ว เธอก็เดินออกไปพร้อมเครื่องประดับเธอ
จี้เยี่ยนโจวเพิ่งกลับมาที่ไห่เฉิงจากการที่ต้องเดินทางไปทำธุรกิจ และสิ่งแรกที่เขาทำคือบังคับให้ทั้งสองไปดื่ม“มา ๆ ๆ ดื่ม ๆ ......วันนี้พวกเราสามคนไม่เมาไม่กลับ! ” จี้เยี่ยนโจวพยายามทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาทันทีที่ฟู่จิ้นหานเข้าไปในเย่หลินบาร์ เขาก็มีสีหน้าที่เย็นชา มีความรู้สึกขุ่นเคืองไปทั้งตัว เขาดื่มโดยไม่พูดอะไรสักคำสองวันแล้ว!สองวันแล้วที่เขาไม่ได้กลับเจินหลินย่วน ซูหรานกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่น้อย!ในใจรู้สึกหงุดหงิด ฟู่จิ้นหานเงยหน้าขึ้น และจิบไวน์รสเข้มเข้าไป แต่อาการหงุดหงิดของเขาก็ไม่ได้บรรเทาลงเลยเย่ถิงเซินจ้องมองไปทางฟู่จิ้นหาน และทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“ฉันขอออกไปรับสายหน่อยนะ”เย่ถิงเซินออกจากห้องส่วนตัวไปขณะที่ซูหรานกำลังคิดว่าเย่ถิงเซินน่าจะไม่รับสาย สายนั้นก็โทรติดทันที“สวัสดีค่ะ คุณชายใหญ่เย่......ฉันต้องขอโทษที่รบกวนคุณด้วยนะคะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณค่ะ ฉันต้องการวัสดุทำเครื่องประดับอย่างเร่งด่วน ทางฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย พอคิดไปคิดมา ทั่วทั้งไห่เฉิง ฉันทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากคุณเท่านั้นค่ะ...... ”ซูหรานและเย่ถิง
พอกลับไปถึงที่เจินหลินย่วน ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วแต่ซูหรานก็ยังไม่กลับมาฟู่จิ้นหานโทรหาซูหราน แต่โทรศัพท์กลับปิดเครื่องอยู่ในเวลานี้ ซูหรานกำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ เพื่อวาดร่างแบบชุดเครื่องประดับขึ้นมาใหม่จากหน่วยความจำของเธอ โดยไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าโทรศัพท์ตัวเองปิดอยู่รอจนถึงการออกแบบขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้น เธอก็พิมพ์มันออกมาเยว่เซียงมองดูภาพวาดการออกแบบด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “นี่......นี่มันภาพร่างของเครื่องประดับเมื่อกี้นี้นี่ค่ะ! ”เหตุการณ์เมื่อกี้เกิดความอลหม่านขนาดนั้นตัวเธอยังจำได้แค่จุดเด่นบางจุดของเครื่องประดับเท่านั้นแต่ประธานเสี่ยวซูถึงขั้นจดจำลักษณะของเครื่องประดับได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้นเยว่เซียงมองซูหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงทันใดนั้น ซูหรานก็มองไปยังเยว่เซียง “คุณทำขั้นตอนการเจียระไนและขัดมันได้ไหม? ”เยว่เซียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกผิดนิดหน่อย “เคยเรียนค่ะ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์ใช้วัสดุจริง ๆ เลยสักครั้ง! ”“ถ้างั้นอีกเดี๋ยวคุณก็มาลองทำดูก็แล้วกัน! ”ซูหรานมองเธอด้วยแววตาให้กำลั
เวลาเริ่มดึกขึ้นเรื่อย ๆภายใต้แสงไฟอันอบอุ่น ซูหรานยกมือขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอเธอจดจ่อกับมันมาก จนไม่ทันสังเกตว่าเย่ถิงเซินเฝ้ามองดูเธอจากตรงประตูมาพักใหญ่แล้วเย่ถิงเซินเคยเห็นผลงานของซูหรานมาก่อนงานฝีมือของสร้อยคอหยกจากการแข่งขันเครื่องประดับครั้งล่าสุด ต่อให้ฝึกมาเป็นสิบปีจนชำนาญ ก็ยากที่จะทำได้ประณีตขนาดนั้นซูหรานเพิ่งจะอายุ 20 นอกเหนือจากการฝึกฝนทักษะนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตัวเธอเองก็ต้องมีพรสวรรค์ด้วย“ว้าย...... ”จู่ ๆ ก็มีเสียงของความตกใจดังขึ้นทันทีที่ซูหรานได้ยินเสียง ก็มองไปทางเยว่เซียง จากนั้นก็เห็นว่ามือของเธอถูกเครื่องจักรทิ่มจนเกิดแผลซูหรานก้าวไปข้างหน้าทันที พอตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เธอถึงได้โล่งอกลงไปบ้างแต่มือนี้ไม่สามารถทำงานได้ต่อชั่วคราว“คุณไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวจะติดเชื้อเอาได้” ซูหรานรีบช่วยเยว่เซียงห้ามเลือดเอาไว้เยว่เซียงตำหนิตัวเองมากจนเกือบจะร้องไห้ “ฉันขอโทษนะคะ ประธานเสี่ยวซู เป็นฉันที่ไม่ระวังเอง นี่ฉันเพิ่มภาระให้คุณรึเปล่าคะ? ถ้าเกิดว่ามันเสร็จไม่ทันวันมะรืน...... ”“ทันสิ! เชื่อฉันเถอะ! ”ซูหราน
ซูหรานมองดูเปลวไฟบนอัญมณี และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเหมือนกับที่เธอวาดตามปกติ“คุณก็เคยเห็นแล้วนี่คะ เปลวไฟ”เมื่อนึกถึงตอนที่เย่ถิงเซินช่วยเธอเอาไว้ในการแข่งขันเครื่องประดับรอบชิงชนะเลิศวันนั้น ซูหรานก็ยังคงรู้สึกขอบคุณอยู่แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่เย่ถิงเซินต้องการเย่ถิงเซินยืนขึ้น และเดินไปทางซูหราน “ผมรู้ว่ามันคือเปลวไฟ แต่ทำไมคุณถึงทำเครื่องหมายแบบนี้ล่ะ? ”ซูหรานเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึงทำไมถึงทำเครื่องหมายแบบนี้กันล่ะ?ซูหรานคิดกลับไปกลับมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ “อาจจะเป็นนิสัยของฉันตั้งแต่เด็กมั้งคะ! ”ในความทรงจำ ทุกครั้งที่แม่ทำของชิ้นหนึ่งออกมา เธอก็มักจะเคยชินกับการที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ในจุดลับตาจนติดเป็นนิสัยซูหรานมองดูสีหน้าที่จริงจังของเย่ถิงเซิน รู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของเขา “นี่มันก็น่าจะปกติไม่ใช่เหรอคะ? ”ปกติงั้นเหรอ?เย่ถิงเซินเหลือบมองซูหรานตระกูลเย่เริ่มต้นจากการทำเครื่องประดับ และเกือบทุกคนในตระกูลเย่สามารถทำชิ้นงานขึ้นมาเองกับมือได้ หลังจากที่ทุกคนในตระกูลเย่ทำเครื่องประดับเสร็จ พวกเขาก็มักจะทำเครื่องหมายไว้ในจุดที่ลับตาคนและสิ่งที่ซูหราน