จี้เยี่ยนโจวเพิ่งกลับมาที่ไห่เฉิงจากการที่ต้องเดินทางไปทำธุรกิจ และสิ่งแรกที่เขาทำคือบังคับให้ทั้งสองไปดื่ม“มา ๆ ๆ ดื่ม ๆ ......วันนี้พวกเราสามคนไม่เมาไม่กลับ! ” จี้เยี่ยนโจวพยายามทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาทันทีที่ฟู่จิ้นหานเข้าไปในเย่หลินบาร์ เขาก็มีสีหน้าที่เย็นชา มีความรู้สึกขุ่นเคืองไปทั้งตัว เขาดื่มโดยไม่พูดอะไรสักคำสองวันแล้ว!สองวันแล้วที่เขาไม่ได้กลับเจินหลินย่วน ซูหรานกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่น้อย!ในใจรู้สึกหงุดหงิด ฟู่จิ้นหานเงยหน้าขึ้น และจิบไวน์รสเข้มเข้าไป แต่อาการหงุดหงิดของเขาก็ไม่ได้บรรเทาลงเลยเย่ถิงเซินจ้องมองไปทางฟู่จิ้นหาน และทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“ฉันขอออกไปรับสายหน่อยนะ”เย่ถิงเซินออกจากห้องส่วนตัวไปขณะที่ซูหรานกำลังคิดว่าเย่ถิงเซินน่าจะไม่รับสาย สายนั้นก็โทรติดทันที“สวัสดีค่ะ คุณชายใหญ่เย่......ฉันต้องขอโทษที่รบกวนคุณด้วยนะคะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณค่ะ ฉันต้องการวัสดุทำเครื่องประดับอย่างเร่งด่วน ทางฉันเกิดเรื่องนิดหน่อย พอคิดไปคิดมา ทั่วทั้งไห่เฉิง ฉันทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากคุณเท่านั้นค่ะ...... ”ซูหรานและเย่ถิง
พอกลับไปถึงที่เจินหลินย่วน ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วแต่ซูหรานก็ยังไม่กลับมาฟู่จิ้นหานโทรหาซูหราน แต่โทรศัพท์กลับปิดเครื่องอยู่ในเวลานี้ ซูหรานกำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ เพื่อวาดร่างแบบชุดเครื่องประดับขึ้นมาใหม่จากหน่วยความจำของเธอ โดยไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าโทรศัพท์ตัวเองปิดอยู่รอจนถึงการออกแบบขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้น เธอก็พิมพ์มันออกมาเยว่เซียงมองดูภาพวาดการออกแบบด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “นี่......นี่มันภาพร่างของเครื่องประดับเมื่อกี้นี้นี่ค่ะ! ”เหตุการณ์เมื่อกี้เกิดความอลหม่านขนาดนั้นตัวเธอยังจำได้แค่จุดเด่นบางจุดของเครื่องประดับเท่านั้นแต่ประธานเสี่ยวซูถึงขั้นจดจำลักษณะของเครื่องประดับได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันสั้นเยว่เซียงมองซูหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงทันใดนั้น ซูหรานก็มองไปยังเยว่เซียง “คุณทำขั้นตอนการเจียระไนและขัดมันได้ไหม? ”เยว่เซียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกผิดนิดหน่อย “เคยเรียนค่ะ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์ใช้วัสดุจริง ๆ เลยสักครั้ง! ”“ถ้างั้นอีกเดี๋ยวคุณก็มาลองทำดูก็แล้วกัน! ”ซูหรานมองเธอด้วยแววตาให้กำลั
เวลาเริ่มดึกขึ้นเรื่อย ๆภายใต้แสงไฟอันอบอุ่น ซูหรานยกมือขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเธอเธอจดจ่อกับมันมาก จนไม่ทันสังเกตว่าเย่ถิงเซินเฝ้ามองดูเธอจากตรงประตูมาพักใหญ่แล้วเย่ถิงเซินเคยเห็นผลงานของซูหรานมาก่อนงานฝีมือของสร้อยคอหยกจากการแข่งขันเครื่องประดับครั้งล่าสุด ต่อให้ฝึกมาเป็นสิบปีจนชำนาญ ก็ยากที่จะทำได้ประณีตขนาดนั้นซูหรานเพิ่งจะอายุ 20 นอกเหนือจากการฝึกฝนทักษะนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตัวเธอเองก็ต้องมีพรสวรรค์ด้วย“ว้าย...... ”จู่ ๆ ก็มีเสียงของความตกใจดังขึ้นทันทีที่ซูหรานได้ยินเสียง ก็มองไปทางเยว่เซียง จากนั้นก็เห็นว่ามือของเธอถูกเครื่องจักรทิ่มจนเกิดแผลซูหรานก้าวไปข้างหน้าทันที พอตรวจสอบแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เธอถึงได้โล่งอกลงไปบ้างแต่มือนี้ไม่สามารถทำงานได้ต่อชั่วคราว“คุณไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวจะติดเชื้อเอาได้” ซูหรานรีบช่วยเยว่เซียงห้ามเลือดเอาไว้เยว่เซียงตำหนิตัวเองมากจนเกือบจะร้องไห้ “ฉันขอโทษนะคะ ประธานเสี่ยวซู เป็นฉันที่ไม่ระวังเอง นี่ฉันเพิ่มภาระให้คุณรึเปล่าคะ? ถ้าเกิดว่ามันเสร็จไม่ทันวันมะรืน...... ”“ทันสิ! เชื่อฉันเถอะ! ”ซูหราน
ซูหรานมองดูเปลวไฟบนอัญมณี และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเหมือนกับที่เธอวาดตามปกติ“คุณก็เคยเห็นแล้วนี่คะ เปลวไฟ”เมื่อนึกถึงตอนที่เย่ถิงเซินช่วยเธอเอาไว้ในการแข่งขันเครื่องประดับรอบชิงชนะเลิศวันนั้น ซูหรานก็ยังคงรู้สึกขอบคุณอยู่แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่เย่ถิงเซินต้องการเย่ถิงเซินยืนขึ้น และเดินไปทางซูหราน “ผมรู้ว่ามันคือเปลวไฟ แต่ทำไมคุณถึงทำเครื่องหมายแบบนี้ล่ะ? ”ซูหรานเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึงทำไมถึงทำเครื่องหมายแบบนี้กันล่ะ?ซูหรานคิดกลับไปกลับมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ “อาจจะเป็นนิสัยของฉันตั้งแต่เด็กมั้งคะ! ”ในความทรงจำ ทุกครั้งที่แม่ทำของชิ้นหนึ่งออกมา เธอก็มักจะเคยชินกับการที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ในจุดลับตาจนติดเป็นนิสัยซูหรานมองดูสีหน้าที่จริงจังของเย่ถิงเซิน รู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของเขา “นี่มันก็น่าจะปกติไม่ใช่เหรอคะ? ”ปกติงั้นเหรอ?เย่ถิงเซินเหลือบมองซูหรานตระกูลเย่เริ่มต้นจากการทำเครื่องประดับ และเกือบทุกคนในตระกูลเย่สามารถทำชิ้นงานขึ้นมาเองกับมือได้ หลังจากที่ทุกคนในตระกูลเย่ทำเครื่องประดับเสร็จ พวกเขาก็มักจะทำเครื่องหมายไว้ในจุดที่ลับตาคนและสิ่งที่ซูหราน
ซูหรานถูกนาฬิกาปลุกปลุกให้ตื่น เมื่อมองดูนาฬิกา เวลาก็ปาไปแปดโมงแล้วพอนึกถึงเวลาที่นัดกันเอาไว้ในวันนี้ ซูหรานก็รีบลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจเธอคว้าโทรศัพท์มือถือที่ถูกชาร์จจนเต็มบนโต๊ะข้างเตียง แล้วโทรหาเยว่เซียงทันที “คนของอีกฝ่ายถึงหรือยัง? ผู้เชี่ยวชาญที่ให้โจวหมิงอวี้เชิญมาถึงไหนแล้ว? แล้วก็ยังมีเครื่องประดับที่เพิ่งทำเสร็จนั่นอีก...... ”“ประธานเสี่ยวซูไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”เครื่องประดับเหล่านั้น สามีของประธานเสี่ยวซูเอาไปแล้วค่ะซูหราน “......”จัดเตรียมเอาไว้แล้วงั้นเหรอ?หากต้องการสับเปลี่ยนเครื่องประดับ ก็จะต้องเตรียมการพิเศษบางอย่างเอาไว้ด้วยสิเธอต้องไปด้วยตัวเอง!ขณะที่กำลังจะลงจากเตียง เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นฟู่จิ้นหานยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าประตูฟู่จิ้นหานเหลือบมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณแน่ใจนะว่าจะออกไปในสภาพนี้? ”ซูหรานตกใจนิดหน่อย พอก้มมองดูตัวเองก็เห็นว่าตัวเองสวมชุดนอนที่ทำจากผ้าไหม วัสดุค่อนข้างบาง บางจนถึงขั้นสามารถมองเห็นเรือนร่างที่เร่าร้อนภายในได้อย่างชัดเจนพอเงยหน้าขึ้น เธอก็พบกับแววตาของฟู่จิ้นหานที่กำลังจ้องมอ
ฟู่จิ้นหานเหลือบมองไปยังซูหรานดวงตาของทั้งสองสบกัน ชุดนอนเซ็กซี่ที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าก็แวบขึ้นมาในหัวของซูหราน แก้มของเธอก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นมา“เขามาที่นี่ทำไม? ”“ประธานเสี่ยวซูคะ นี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินที่เชิญมาค่ะ แล้วก็เครื่องประดับเหล่านั้นฉันได้มอบให้คุณผู้ชายแล้วค่ะ”ซูหราน ! ! !เยว่เซียงเรียกเขาว่าคุณผู้ชาย ราวกับว่าเขาต่างหากที่เป็นบอสใหญ่จริง ๆ !นอกจากนี้ ทำไมจึงมอบเครื่องประดับให้เขากันล่ะ?ถ้าอิงตามแผนการที่วางแผนเอาไว้ อีกสักพักก็จะเกิดเรื่องชุลมุนวุ่นวายขึ้น จากนั้นโจวหมิงอวี้ก็จะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้เพื่อสับเปลี่ยนเครื่องประดับ ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนแต่ในเวลานี้ ซูหรานกลับเริ่มไม่แน่ใจนิดหน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินที่ได้รับเชิญจากทั้งสองฝ่าย คุณหญิงคนนั้นเปิดตู้เซฟออก จากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินที่คุณหญิงคนนั้นพามาก็ได้เริ่มประเมินเครื่องประดับที่อยู่ในตู้นิรภัยไปครึ่งหนึ่งแล้ว......แต่ความวุ่นวายที่คาดหวังยังไม่เกิดขึ้นซูหรานเหลือบมองโจวหมิงอวี้ เธออยากที่จะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นแต่โจวหมิงอวี้กลับไม่ได้
การมาถึงของตำรวจ ออกจะอยู่นอกเหนือความคาดหมายของซูหรานไปสักหน่อยตำรวจล้อมบรรดาบอดี้การ์ดคุณหญิงเอาไว้ก่อนผู้หมวดหลินจะเดินมาตรงหน้าซูหราน “คุณชายฟู่ไม่เป็นอะไรนะครับ?”ฟู่จิ้นหานทำหน้าขรึมถ้าเมื่อกี้เขาไม่ออกตัวเร็วกว่านี้ อีกฝ่ายคงทำร้ายซูหรานไปแล้ว!ฟู่จิ้นหานมองไปทางบอดี้การ์ดที่ถูกเขาถีบกระเด็นไปอีกทาง “เขา...ทำร้ายภรรยาของฉัน!”ผู้หมวดหลินเหงื่อไหลออกมาตามขมับก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมงตอนที่เขาได้รับแจ้งเหตุว่าโรงแรมใหญ่ในเมืองไห่เฉิงจะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทเขาก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก แต่ดีที่มีคนเห็นว่าคนแจ้งความคือคุณชายสามฟู่คำว่า “คุณชายสามฟู่” คำนี้ คนในประเทศคนไหนไม่รู้จักบ้าง?เขาเป็นถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลฟู่เชียวนะผู้หมวดหลินเองก็ไม่รอช้ารีบพาคนออกมาทันทีผู้หมวดหลินมองไปทางผู้หญิงที่นอนร้องโอดโอยบนพื้นหนึ่งที ในใจคิดว่าคนนี้ต่างหากที่ถูกทำร้าย!“คุณชายฟู่...”“ฉันแค่ป้องกันตัว!” ฟู่จิ้นหานไม่เปิดโอกาสให้ผู้หมวดหลินได้พูดอะไรถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะเป็นการเปิดเผยตัวตน เขาไม่มีทางให้ตำรวจเข้ามายุ่งแน่ ๆคนอย่างฉินฟั่งใช้แค่คนเดี
ซูจี้ไห่ได้ยินว่าเหตุการณ์ข้างในเปลี่ยนไปก็รีบวิ่งหนีแต่ในตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถก็ถูกฉินฟั่งดักเอาไว้ ไม่นานก็ถูกตำรวจตามจนเจอซูหรานในฐานะเจ้าทุกข์ก็ไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจด้วย“คุณ....”ผู้หมวดหลินเดินเข้ามาในตอนที่อีกฝ่ายกำลังจะพูดว่า ‘คุณชายสาม‘ ฟู่จิ้นหานก็มองไปรอบห้องอย่างหวั่นใจเมื่อเห็นว่าซูหรานยังไม่ได้ออกมาก็ดึงสายตากลับมา “ภรรยาของฉันไม่ชอบให้ใครเรียกฉันว่าคุณชายสาม ต่อจากนี้เรียกแค่คุณฟู่ก็พอ โดยเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าภรรยาฉัน เข้าใจไหม?”ผู้หมวดหลินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนคำเรียก “ครับ ผมจะจำไว้ครับ! คะ...คุณชายฟู่!”ซูอินเพิ่งจะมาถึงที่ประตูก็ได้ยินที่ฟู่จิ้นหานพูด [ภรรยาของฉันไม่ชอบให้ใครเรียกฉันว่าคุณชายสาม...]ในตอนแรกที่ตั้งใจจะเดินเข้าไปก็หยุดเท้าลงเธอไม่คิดว่าคุณชายฟู่จะสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ ถ้าคุณชายฟู่เห็นเธอก็จะต้องสงสัยเรื่องการสร้างเรื่องเพชรปลอมมาทำร้ายซูหรานแน่ ๆซูอินกุมท้องไว้ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “แม่คะ หนูไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แม่เข้าไปจัดการเรื่องพ่อเถอะ”ซุนฉินรู้ว่าเธอท้องอยู่ก็ไม่ได้พูดอะไรแต่เดินเข้าไปด้านในคนเดียวซูหรานให้ปากคำ