ซูหรานตกใจกับเสียงนั้น จู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืน และหันหลังกลับตามเสียงทันทีแต่ด้านหลังของเธอกลับมีฉากกั้นขั้นเอาไว้อยู่ ซูหรานมองผ่านฉากกั้นนั้น แต่ก็เห็นแค่เงาราง ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมดขณะที่เธอกำลังจะเดินไปหา เสียงของคุณชายสามฟูก็ดังขึ้นอีกครั้ง:“คุณซู กรุณานั่งลงครับ”เสียงทุ้มต่ำที่มาพร้อมกับแรงกดดันซูหรานขมวดคิ้วกรุณานั่งงั้นเหรอ? นั่งตรงนี้ได้เลยใช่ไหม?ดูเหมือนซูหรานจะรู้สึกโล่งใจมาก หากไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับคุณชายสามฟู่ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี“ขอบคุณค่ะ คุณชายสามฟู่”ซูหรานนั่งลง และขอบคุณที่เขาจัดที่นั่งเอาไว้แบบนี้ ทำให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีระยะห่างเพื่อความปลอดภัยอยู่ ต่อให้เขาต้องการที่จะทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรขึ้นมา เธอก็ยังพอมีเวลาให้โต้ตอบอยู่บ้างฟู่จิ้นหานไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้เขาเหลือบมองการจัดการโดยรอบด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบดอกไม้ชมพู ๆ หวาน ๆ แบบนี้ก็เถอะ แต่ซูหรานจะต้องชอบเป็นแน่แล้วก็ยังมีนักไวโอลินนั่นอีก......ฟู่จิ้นหานดีดนิ้ว เสียงไวโอลินอันไพเราะก็ดังขึ
ถ้าคุณชายสามฟู่ไม่ได้บ้า เขาก็คงไม่พูดอะไรแบบนี้!พอสามีตัวพ่อพูดถึงงานแต่งงานขึ้นมา ในใจเธอก็เริ่มคาดหวัง แต่พอเป็นคุณชายสามฟู่เป็นคนพูดเรื่องงานแต่ง เธอกลับรู้สึกเหมือถูกปีศาจหมายหัวเอาไว้อยู่ซูหรานกลืนน้ำลาย แล้วมองดูโรงแรมที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่กล้าแม้แต่จะอยู่ต่ออีกสักวินาทีเดียว เธอหันหลังกลับแล้วเรียกรถทันที เตรียมกลับเจินหลินย่วนและในขณะเดียวกัน ภายในร้านอาหาร รอยยิ้มที่เดิมทีอยู่บนใบหน้าของฟู่จิ้นหานก็แข็งทื่อทันทีเมื่อกี้ซูหรานวิ่งเร็วมาก กระทั่งเขายังคิดเลยว่าตัวเองเป็นเหมือนปีศาจด้วยซ้ำเขาอยากจะจัดงานแต่งงานให้เธอในฐานะคุณผู้หญิงฟู่ สำหรับเธอแล้ว มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?ดอกไม้ที่อยู่รอบ ๆ ยังคงสร้างบรรยากาศโรแมนติก แต่ความเย็นชากลับค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วบรรยากาศ ทำให้ทั้งนักไวโอลินและพนักงานเสิร์ฟแทบสั่นสะท้านหลังจากที่ซูหรานจากไปแล้ว ฉินฟั่งก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ฟู่จิ้นหานมากเกินไป“คุณชายครับ ให้ไปตามคุณผู้หญิงกลับมาไหมครับ?”ในความเป็นจริงฉินฟั่งอยากจะถามว่า คุณชายพูดอะไรออกไปกันแน่ ตอนที่เขามองเห็นคุณผู้หญิงวิ่งออกมาจากที่ไกล ๆ สีหน้าขอ
สัญชาตญาณบอกกับซูหรานว่า การที่ซูจี้ไห่ไปที่ตำบลหลิว จะต้องไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจแน่นอน......นับตั้งแต่ซูหรานหนีออกมาจากร้านอาหารในคืนนั้น ฟู่จิ้นหานก็คิดถึงแต่คำแนะนำของฉินฟั่งขณะที่หัวใจของเขากำลังสั่นคลอน เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง จนทำให้ต้องรีบกลับจิงเฉิงกว่าจะจัดการเรื่องในจิงเฉิงเสร็จ เวลาก็ผ่านไปแล้วห้าวันตอนที่ฟู่จิ้นหานกลับมาที่ไห่เฉิง เวลาก็ดึกมากแล้ว ทันทีที่ลงเครื่อง เขาก็ตรงกลับไปที่เจินหลินย่วนทันที เขาอยากที่จะเจอหน้าซูหรานหลายวันมานี้ เขาพยายามระงับความปรารถนาที่มีต่อเธอเอาไว้ตลอด เดิมทีงานสำหรับหนึ่งเดือน เขากลับอดหลับอดนอน ทำจนเสร็จภายในห้าวัน เพื่อที่จะได้กลับมาพบซูหรานที่ไห่เฉิงโดยเร็วที่สุดฟู่จิ้นหานกลับมาที่บ้าน พร้อมกับมื้อดึกในมือที่ซูหรานชอบทานมากที่สุด แต่ในห้องกลับมืดสนิทกระทั่งห้องของซูหรานเองก็ไม่เห็นวี่แววของคนเช่นกัน บรรยากาศรอบ ๆ มีเพียงความหนาวเย็น ราวกับว่าสองสามวันนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่ซูหรานไปไหนกันนะ?ฟู่จิ้นหานรีบกดเบอร์โทรหาซูหรานทันที แต่โทรศัพท์กลับแจ้งเตือนว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องอยู่พยายามโทรติดต่อกันหลายครั้ง จนตอนนี้ฟู่จิ้
"ฉันจะซื้อคุณหนึ่งคืน ราคาแล้วแต่คุณจะคิดเลย"ที่เย่หลินบาร์ ซูหรานถูกวางยาเสียแล้ว!เนื้อตัวของเธอร้อนวูบวาบไปหมด ก่อนที่เธอจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่และทำเรื่องโง่ๆต่อหน้าสาธารณะเหล่านั้นลงไป เธอก็สบสายตาไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอแล้วในตอนนี้เย่หลินบาร์เป็นคลับบาร์ผู้ชายที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองไห่เฉิง เหล่าบรรดาชายหนุ่มพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ลูกค้าผู้หญิงที่อยู่รอบข้างพอใจ แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่นั่งอยู่ในบูธตรงมุมห้องเขาสวมเสื้อเชิ้ตผ้าซาตินสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาและดูสูงส่ง มันช่างเป็นออร่าที่ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบเลยแม้แต่น้อยโดยแววตาที่เขามองมายังเธอนั้น ดูเหมือนจะแฝงไปด้วยความไม่พอใจอยู่เขากำลังหนักใจว่าเธอจะไม่มีปัญญาจ่ายใช่ไหม?"ไม่ต้องห่วง ฉันรวยมาก" ซูหรานต้องการหยิบบัตรในกระเป๋าออกมา เพื่อพิสูจน์สภาพทางการเงินของตัวเองแต่แล้วจู่ๆ เท้าของเธอก็อ่อนลง และเธอก็ล้มไปที่ตัวของชายหนุ่มคนนั้นอย่างเต็มแรงดวงตาของฟู่จิ้นหานฉายประกายความเย็นชาออกมา และคิดว่าเธอก็คงจะเหมือนหญิงสาวเหล่านั้นที่ต่างก็พากันกระโจนเข้ามาในอ้อมแขนของเขาเขาเพิ่งจะมาถึงเมืองไห่เฉิง และคนพวก
หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง ฟู่จิ้นหานก็ตื่นขึ้นมาภายใต้ผ้าห่ม นอกจากเสื้อผ้าที่แนบเนื้อแล้วก็ไม่มีอะไรอยู่เลย!ไม่เพียงเท่านั้น หญิงสาวคนนั้น ยังขโมยเสื้อผ้าของเขาไปอีกด้วย!ใบหน้าหล่อเหลาของฟู่จิ้นหานมืดมนทันทีที่จี้เยี่ยนโจวเดินเข้าประตูมา เขาก็เห็นฟู่จิ้นหานนอนอยู่บนเตียงที่ยุ่งเหยิงด้วยใบหน้าที่มืดมน โดยที่บนพื้นยังมีกระโปรงสีแดงที่ฉีกขาดตกอยู่ และเขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น"นี่นาย... เปลี่ยนเพศแล้วงั้นเหรอ?"ทุกคนรู้ดีว่าคุณชายสามฟู่ไม่ใช่ผู้ชายที่เจ้าชู้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ ก็ยังมีหญิงสาวมากมายนับไม่ถ้วนที่อยากจะปีนขึ้นเตียงของเขาฟู่จิ้นหานเฉยเมยและไร้ความเมตตาต่อผู้หญิง อีกทั้งไม่เคยยอมปล่อยให้ผู้หญิงคนไหนได้บรรลุเป้าหมายเลยสักคนแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา มันดูเร่าร้อนอย่างเห็นได้ชัด!ในตอนที่เขาได้รับสายจากฟู่จิ้นหานเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เป็นเวลาที่เขากำลังเมาหยำเปอยู่นั่นเอง จนกระทั่งเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ เขาก็จำได้ว่า ฟู่จิ้นหานขอให้เขาหาหมอส่วนตัวให้หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฟู่จิ้นหานได้จัดบ้านหลังอื่นๆ ของตระกูลฟู่ และกลายเป็นผู้กุมอำนาจคนใหม่ของมหาเศรษฐีตระกูลฟู่
ภาพถ่ายของบาร์เมื่อคืนนี้!ใครเป็นคนถ่ายอย่างนั้นเหรอ?ในหัวของซูหรานมีแต่เสียงหึ่งๆ เต็มไปหมด"คุณพ่อคะ คุณพ่ออย่าโกรธจนเป็นผลเสียต่อสุขภาพไปเลยนะคะ ที่พี่สาวทำแบบนั้นก็คงเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นนะคะ ยังดีที่พี่ซิวหนิงได้ซื้อรูปภาพเหล่านั้นเอาไว้แล้ว ไม่งั้นหากรูปภาพเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกมา มันคงมีผลกระทบต่อหุ้นของซิงหลานจิวเวลรี่อย่างแน่นอน"ซูอินที่อยู่ข้างๆ พูดปลอบโยนเบาๆ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของคนอื่นแบบสุดๆเมื่อคืนเธอขอให้หลินเยว่เยว่หลอกล่อซูหรานให้ไปที่เย่หลินบาร์ โดยที่เธอได้จัดเตรียมผู้ชายที่แข็งแกร่งสองสามคนเอาไว้ให้ เดิมทีเธอต้องการถ่ายภาพซูหรานที่กำลังทำตัวน่าขายหน้าขายตาท่ามกลางฝูงชนแต่คิดไม่ถึงเลยว่า ในตอนที่หลินเยว่เยว่กลับมานั้น ซูหรานกลับถูกชายคนหนึ่งพาตัวไปแล้วหลินเยว่เยว่สามารถถ่ายรูปได้เพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นแต่ด้วยภาพถ่ายเพียงไม่กี่ใบนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับซิ่วหนิงที่จะยกเลิกการหมั้นกับซูหรานซูอินจ้องมองซูหรานด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสาราวกับดอกไม้ที่แสนจะบริสุทธิ์ ทันใดนั้น เธอก็สังเกตเห็นเสื้อเชิ้ตของผู้ชายบนตัวของเธอ "พี่คะ เสื้อของพี่..
"โอเค งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปพบลุงสามก็แล้วกัน ผู้ใหญ่น่ะ ต้องเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่อยู่แล้ว คุณวางใจได้ ฉันจะทำให้ดีที่สุด"…หลังจากที่ลู่ซิวหนิงจากไปแล้ว ซูหรานก็เข้ามาหยิบรูปถ่ายบนพื้นขึ้นมา จากนั้นก็เหลือบมองไปที่หลินเยว่เยว่อย่างเย็นชา "รูปน่ะถ่ายได้ดี แต่น่าเสียดายอย่างเดียวว่า ไม่ได้ถ่ายเห็นหน้าของเขาด้วยน่ะสิ"หน้าตาของชายหนุ่มเมื่อวานนี้ ไม่แพ้ดาราหนุ่มเหล่านั้นเลยจริงๆหลินเยว่เยว่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอรู้ว่าซูหรานจะต้องสงสัยเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างแน่นอนในขณะที่เธอกำลังจะอธิบาย ซูหรานกลับมองไปที่ซูอินเสียนี่ซูอินเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา อ่อนโยนและไร้พิษภัยราวกับดอกไม้สีขาวเล็กๆตลอดเวลา แต่ในใจกลับมีแต่ความเกลียดชังอย่างเต็มเปี่ยมเธอคิดไม่ถึงเลยว่า ขนาดจับได้ว่าซูหรานได้ไปยั่วยวนและพัวพันกับผู้ชายแบบนั้นแล้ว แต่ลู่ซิวหนิงกับไม่ยอมถอนการหมั้นหมายแต่อย่างใดเธอไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ และกำลังคิดที่จะอาศัยโอกาสนี้ให้พ่อไล่ซูหรานออกจากวิลล่าไป แต่ซูหรานกลับกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมา และพูดคำที่เสียดแทงหัวใจของซูอินอย่างจังขึ้นมาว่า"คืนพรุ่งนี้จะเป็นงาน
รอยยิ้มที่เยาะเย้ยของฟู่จิ้นหานแข็งค้างอยู่บนใบหน้า และแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองหลังจากเวลาผ่านไปนานราวกับหนึ่งศตวรรษ ฟู่จิ้นหานก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "คุณ...พูดว่าอะไรนะ พูดอีกครั้งซิ!"ซูหรานกะพริบตาปริบๆ และพูดด้วยความจริงใจว่า "เราแต่งงานกันเถอะ!"เธอสามารถจ่ายได้!เธอคิดทบทวนดีแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ต้องมีใจ ไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกันทั้งนั้น เธอจ่ายเงิน เขารับเงิน และผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้านี้ อาชีพของเขาพิเศษ และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!หลังจากที่ฟู่จิ้นหานสามารถย่อยเรื่องราวได้ ดวงตาของเขาก็มีความรังเกียจและไม่แยแสเพิ่มเข้ามาเขาเข้าใจเจตนาของเธอแล้ว!เหอะ……แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้จักตัวตนของเขา แต่เธอก็คงเห็นเขาที่มีเงินมากมายอย่างนั้นน่ะสิดังนั้นเธอจึงกลับไปคิดทบทวน และก็มาหาเขาอีกครั้ง เพื่อต้องการที่จะปีนป่ายสามีที่ร่ำรวย? หรือแค่ต้องการเงินสักก้อน?เมื่อคิดถึงรอยแดงบนผ้าปูที่นอนในตอนเช้า ร่องรอยความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจของฟู่จิ้นหานก็หายไปทันทีเพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อคืนวานเขาได้ตัวของเธอ และเขาก