ในตอนแรกเขาไม่พอใจนิดหน่อย แต่ในไม่ช้า มุมปากของฟู่จิ้นหานก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเธอน่าจะเหนื่อยจากเมื่อคืนบางทีเมื่อกี้เธออาจจะแค่กำลังนอนอยู่ พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ไม่ทันดูว่าเป็นใคร ก็กดตัดสายไป จากนั้นก็นอนหลับต่อฉากที่เขาคิดปรากฏอยู่ในหัวของฟู่จิ้นหาน ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจฟู่จิ้นหานมองดูเวลาครู่หนึ่ง และตัดสินใจรอจนกว่าเธอจะนอนจนเต็มที่ แล้วค่อยสั่งอาหารส่งไปให้เธอระหว่างทาง ฟู่จิ้นหานก็ดูสดชื่นขึ้นเย่ซือเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ เขา ในใจของเธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกดทับเอาไว้อยู่ต้องบอกว่าเมื่อกี้เธอเองก็เพิ่งจะโดนเตือนมา ในเวลานี้การที่เธอเห็นว่าฟู่จิ้นหานหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นค่อนข้างที่จะรับมือได้ยากเย่ซือเหยียนเองก็ไม่ได้รบกวนอะไรฟู่จิ้นหานอีกเธอขอให้จี้เยี่ยนโจวพาเธอมาส่งจนถึงโรงแรมไห่เฉิง จากนั้นเธอก็ลงรถแล้วเดินจากไปฟู่จิ้นหานได้รับสายโทรศัพท์กะทันหันจากบริษัทแห่งหนึ่ง ช่วงนี้เขาทำงานที่ซิงหลานจิวเวลรี่มาโดยตลอด น้อยมากที่จะเข้าตึกฟู่ซือกรุ๊ปไม่ว่าจะมีเอกสารอะไร
ก่อนที่ฉินฟั่งจะทันได้พูดจบ ฟู่จิ้นหานก็เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา“พรุ่งนี้ค่อยคุย!” ฟู่จิ้นหานก้าวเท้ายาว ๆ ไปข้างหน้าจะมีเรื่องอะไรสำคัญไปมากกว่าการไปส่งข้าวให้ซูหรานกัน?“แต่......” แต่ถ้าจะให้พูดในวันพรุ่งนี้ เกรงว่ามันจะสายเกินไป!ฉินฟั่งมองตามหลังท่าทางที่มีความสุขของคุณชายที่กำลังจะหายไปจากสายตา จากนั้นก็ตกอยู่ในความรู้สึกสงสัยเห็นได้ชัดว่าเขาในเมื่อวานราวกับคนที่เพิ่งจะอกหักมา อารมณ์ค่อนข้างหดหู่ และต้องการที่จะอยู่ห่างจากโลกภายนอก แต่ผ่านไปแค่คืนเดียว ก็ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ฉินฟั่งคิดว่า บางทีคุณซูอาจจะไม่ได้สำคัญสำหรับคุณชายขนาดนั้นก็ได้ ไม่เช่นนั้น เขาที่เพิ่งจะอกหัก จะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่แตกสลายได้ไวขนาดนั้นได้ยังไง?และข่าวที่เขาเพิ่งจะได้รับเมื่อครู่......ฉินฟั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะลืมมันไปในขณะเดียวกันนี้เอง ซูหรานก็ได้จัดการกับเรื่องในบริษัทจนเสร็จ เธอมองดูเวลา ตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงสิบนาทีแล้วเป็นเวลาที่เหมาะที่จะออกไปทานอาหารกลางวันซูหรานเก็บข้าวของอย่างลวก ๆ จากนั้นก็หยิบกระเป๋
ฟู่จิ้นหาน? ? ?“อะไรที่บอกว่าตอนเช้าเธออยู่ที่บริษัท ตอนนี้น่าจะไม่อยู่แล้ว?”ตอนเช้าซูหรานน่าจะนอนชดเชยจากเมื่อคืนไม่ใช่รึไง?เปลือกตาของฉินฟั่งดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจจากเสียงคำรามของเขา น้ำเสียงของเขาดูเศร้าเล็กน้อย “ตอนที่คุณกำลังจะออกไปเมื่อกี้ ผมก็พยายามบอกแล้ว ว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกคุณ แต่คุณกลับบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุย......”แม้ว่าเขาจะคุยกับอีกฝ่ายผ่านโทรศัพท์ แต่ฉินฟั่งก็ยังคงรู้สึกสั่นกลัวอยู่ดี“พูด!” ฟู่จิ้นหานเปิดปากพูดอย่างเย็นชา“คุณชายใหญ่เย่รอคุณซูอยู่ที่แผนกต้อนรับของซิงหลานจิวเวลรี่มาทั้งเช้าครับ ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาน่าจะออกไปข้างนอกด้วยกันแล้วครับ ในเวลานี้......”ทั้งสองก็น่าจะกำลังทานอาหารมื้ออร่อยด้วยกันอยู่ฉินฟั่งไม่กล้าพูดประโยคสุดท้ายอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็เงียบลงทันทีอีกนิดเดียวฉินฟั่งคงคิดว่าสายถูกตัดไปแล้ว เขาจึงลองเอ่ยปากพูดเพื่อเช็คสถานการณ์ “คุณชายครับ?”ในที่สุดก็มีเสียงตอบกลับจากคนในสาย“รีบค้นหาว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนเดี๋ยวนี้ แล้วก็......ต่อไปก็ให้นายเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง!”ฟู่จิ้นหานกดวางสายโทรศัพท์ฉินฟั่งรู้สึกสับสน “......”ค
“ขอบคุณค่ะ คุณชายใหญ่เย่......” ซูหรานที่เพิ่งจะตกใจก็ค่อย ๆ สงบลง และรีบกล่าวขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วเย่ถิงเซินส่งยิ้มให้ด้วยความอ่อนโยน “นี่ผมถึงขั้นเรียกคุณว่าซูหรานแล้วนะ แต่คุณยังเรียกผมว่าคุณชายใหญ่เย่อยู่เลย แบบนี้มันห่างเหินเกินไปรึเปล่าครับ?”ซูหราน “......”ถ้าไม่ให้เรียกว่าคุณชายใหญ่เย่ แล้วจะให้เรียกเขาว่าอะไรกันล่ะ? เย่ถิงเซินงั้นเหรอ? นั่นมัน......ไม่ค่อยสุภาพไปหน่อยมั้ง!“พี่ใหญ่เย่ เรียกผมว่าพี่ใหญ่เย่ก็ได้ครับ!” แววตาของเย่ถิงเซินมาพร้อมกับความรู้สึกเอ็นดู“ค่ะ พี่ใหญ่เย่!”ชื่อเรียกนี้ ไม่ห่างเหินเกินไป แล้วก็ไม่ล้ำเส้นเกินไป กำลังดีเลย!ไม่ไกลจากตรงนั้น ฟู่จิ้นหานเองก็เดินเข้ามาในสวนสนุกด้วยเช่นกันพอเห็นท่าทีพูดคุยและหัวเราะด้วยกันของพวกเขาทั้งสอง แววตาของเขาก็ดูเหมือนว่าต้องการที่จะสังหารใครสักคนคุณชายสามฟู่ผู้สง่างามอย่างเขา ในตอนที่เขาจัดระเบียบฟู่ซือกรุ๊ปใหม่ เขาคือผู้ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด แถมยังเป็นคนที่เด็ดเดี่ยว แต่เมื่อถึงตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับซูหราน เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉินฟั่งที่อยู่ข้าง ๆ เองก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมาเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่า
เย่ถิงเซินรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ทำไมครั้งนี้ฟู่จิ้นหานถึงเอาแต่เฝ้าดูอย่างระมัดระวังอยู่ข้าง ๆ เขากลับไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้เลยด้วยซ้ำยังไงก็ตาม ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีกเย่ถิงเซินพาซูหรานเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ฟู่จิ้นหานเองก็ลงจากรถแล้วตามไป เขาเดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ แต่เมื่อเขาจะเดินเข้าไปในประตู เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วก็ขวางเอาไว้“ขออภัยด้วยครับคุณผู้ชาย ไม่มีตั๋ว ก็เข้าไปไม่ได้ครับ รบกวนหลีกทางด้วยครับ เชิญสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่มีตั๋วเข้ามาได้ครับ” คนที่ตรวจตั๋วเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งบนใบหน้าเขามีรอยยิ้มที่เป็นมาตรฐาน และมีทัศนคติที่เป็นมิตรแต่สายตานั้นที่เขามองดูฟู่จิ้นหาน กลับเผยให้เห็นความคิดที่อยู่ภายในของเขาผู้ชายคนนี้เป็นคนที่หล่อ แถมยังแต่งตัวดีอีกต่างหาก แต่กลับคิดที่จะเข้างานฟรี ๆ ทั้งที่ไม่มีตั๋วฮึ......มีเขาเป็นผู้ตรวจตั๋ว ขอแค่ไม่มีตั๋ว ต่อให้จะเป็นยุงก็อย่าคิดที่จะผ่านเข้าไปได้ฟู่จิ้นหานถอยหลังออกมา ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขามืดมนจนไม่สามารถมืดมนได้มากกว่านี้อีกแล้วไม่เคยมีใครไล่เขาออกมาแบบนี้มาก่อนฉินฟั่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะ
ซูหรานและเย่ถิงเซินหันกลับไปมองพร้อมกันทันทีที่เห็นว่าใครอยู่ด้านหลัง สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนทันทีผู้ที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเย่ซือเหยียนเย่ถิงเซินขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง ในเวลาแบบนี้เขากลับไม่อยากให้เย่ซือเหยียนเข้ามารบกวนแต่ก็น้อยมากที่เย่ซือเหยียนจะเห็นเย่ถิงเซินอยู่กับผู้หญิงคนไหนสักครั้ง และผู้หญิงคนนี้......สายตาของเย่ซือเหยียนค่อย ๆ ไล่ขึ้นไปบนหน้าของซูหรานในตอนที่ซูหรานเห็นเธอ ร่างกายของซูหรานก็แข็งทื่อ ต่อให้เธอจะสวมแว่นกันแดด แต่ซูหรานก็ยังจำเธอได้!เธอคือผู้สนับสนุนคนใหม่ของสามีตัวพ่อของเธอคิดไม่ถึง ว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่แล้วสามีตัวพ่อของเธอล่ะ? เขาเองก็มาด้วยเหรอ?ซูหรานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว พอไม่เห็นเงาของสามีตัวพ่อของเธอ เธอถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่ครู่ต่อมา เธอถึงได้ค้นพบว่า เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อยหากต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาในตอนที่ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันอีกครั้งโดยเฉพาะหลังจากเมื่อคืนนี้ เธอเองก็รู้สึกอึดอัดอยู่นิดหน่อยเย่ถิงเซินสังเกตเห็นว่าสีหน้าของซูหรานไม่ค่อยดี เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วง “ซูหราน คุณโอเคใช่ไหม?”จากข้อมูลที่เขามี
สีหน้าของเย่ถิงเซินมืดมนจนถึงขีดสุดฟู่จิ้นหานที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินประโยคนี้ด้วยเช่นกันฟู่จิ้นหานก้าวเท้ายาว ๆ หยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ถิงเซิน “ซูหรานไม่มีทางชอบนายหรอก!”เย่ถิงเซินเหลือบมองฟู่จิ้นหานเมื่อสักครู่นี้ เขายังกังวลอยู่เลยว่าเย่ซือเหยียนจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้าซูหราน แล้วทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ในเวลานี้ เขากลับหวังลึก ๆ ว่าเย่ซือเหยียนจะพูดเรื่องที่เขารู้สึกดีกับซูหรานออกไป“แล้วนายคิดว่าเธอจะชอบนายรึไง?” เย่ถิงเซินยิ้มเยาะอย่างไม่ใส่ใจ“แน่นอน ฉันกับเธอ......” ฟู่จิ้นหานเกือบจะเปิดเผยความจริงที่ว่าเขากับซูหรานเคยแต่งงานกันแล้วออกไปแต่ไม่นานเขาก็หยุดคำพูดลงข้อตกลงการหย่าร้างยังอยู่ในมือของเขา และความรู้สึกที่ซูหรานมีต่อ “คุณชายสามฟู่” ก็ยังมาติดลบอีกเขายิ่งไม่ควรให้เย่ถิงเซินรับรู้เรื่องที่ซูหรานยังไม่รู้ตัวตนของเขา ไม่อย่างนั้น คนอย่างเย่ถิงเซินจะต้องเลือกเปิดเผยเรื่องทั้งหมดอย่างแน่นอน!จู่ ๆ ฟู่จิ้นหานก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมากะทันหันและในขณะเดียวกันนี้เอง ภายในห้องน้ำหน้าอ่างล้างมือตัวหนึ่ง เย่ซือเหยียนมองดูซูหรานที่มีท่าทีงุนงงผ่านกระจกซูหรานเงยหน้าขึ
ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสามต่างก็พยายามฉุดรั้งซูหรานเอาไว้ซูหรานรู้สึกว่าหลินเยว่เยว่และซูอินเป็นเหมือนกับกาวหนังสุนัขวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์มีงานนิทรรศการจัดแสดงโบราณวัตถุ เธอไม่อยากที่จะทะเลาะวิวาท กลัวจะทำให้เสียบรรยากาศในขณะที่เธอกำลังจะผลักทั้งสามคนออกไป แล้วเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาลากทั้งสามคนนี้ออกไปอยู่นั้น แต่เธอยังไม่ทันได้เริ่มทำอะไร จู่ ๆ หลินเยว่เยว่ก็สะดุดเท้าของเธอทันที“โอ้ย......”หลินเยว่เยว่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และไม่สามารถประคองตัวเองเอาไว้ได้ในขณะที่ร่างของเธอกำลังจะล้มลง ก็ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการรักษาความมั่นคงของร่างกายเอาไว้ดังนั้นเธอจึงปล่อยมือที่ก่อนหน้านี้คว้าเสื้อผ้าของซูหรานเอาไว้ออก แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อไม่มีจุดศูนย์ถ่วง ร่างกายของเธอก็ยิ่งไม่มั่นคงมากยิ่งขึ้นท่ามกลางความเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ หลินเยว่เยว่จึงทำได้เพียงแค่คว้าผมของคนข้าง ๆ เอาไว้“อ๊าก......” ผมของซูอินถูกคว้าเอาไว้ จนทำให้เธอเจ็บหนังศีรษะและแค่เธอคนเดียวก็ไม่สามารถรับน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้ได้ในขณะที่หลินเยว่เยว่ล้มลงกับพื้น ซูอินเองก็ร่วงลงไปกระแทกพื้
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว