ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ไห่ถงได้รับเงิน 250,000 บาทที่ถูกโอนจากจ้านหยินกลัวว่าเธอจะไม่รับเงิน เขาจึงส่งข้อความมา“ถงถง ถ้าคุณไม่รับเงินที่ฉันให้คุณ คุณก็ไม่ได้มองฉันว่าสามีของคุณ เพราะสามีหาเงินมาให้ภรรยาของเขาใช้”ไห่ถงอ่านข้อความของเขา ก็ยิ้มออกมาจ้านหยินยังได้เรียนรู้เรื่องการปฎิบัติต่อภรรยาเธอไม่รีบร้อนที่จะตรวจสอบเงิน 250,000 บาท เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาล เพื่อเจาะเลือดร่วมกับคุณนายซางทดสอบ DNA เธอก็ได้ตรวจสอบ 250,000 บาทที่จ้านหยินโอนมาให้เมื่อสามีของเธอให้เงิน 250,000 บาท ไห่ถงจึงเชิญคุณนายซางและลูกสาวไปรับประทานอาหารที่โรงแรมระดับ 5 ดาวโรงแรมห้าดาวในกวนเฉิง ไห่ถงคุ้นเคยกับโรงแรมกวนเฉิงมากที่สุดโรงแรมกวนเฉิงเป็นโรงแรมในเครือจ้านซื่อกรุ๊ป จ้านซื่อกรุ๊ปและซางซื่อกรุ๊ปไม่สามารถเป็นมิตรกันได้เป็นได้แค่คู่แข่งกันเท่านั้น เมื่อไห่ถง พาแม่และลูกสาวไปที่โรงแรมกวนเฉิง จึงเพิ่งนึกเรื่องนี้ได้ทันใดนั้น ก็ขอโทษคุณนายซางว่า "ป้าคะ เอางี้ไหม พวกเราไปร้านอื่นกันค่ะ?”คุณนายซางเข้าใจความหมายของไห่ถงและยิ้ม “ไม่เป็นไรจ้ะ เมื่อก่อนตอนที่ฉันบริหารงานบริษัท ฉันมักจะมาพูดคุยเรื่องธุรกิจ
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปทำงานเถอะ”จ้านอี้เฉินเดินตามกลุ่มมาอย่างรวดเร็วและเดินประชิดพี่ชายของเขาแล้วกระซิบว่า "พี่ใหญ่ ผู้จัดการโจ บอกว่าเขาเห็นพี่สะใภ้พาสองแม่ลูกตระกูลซางมาที่นี่เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว และพวกเขาเลือกห้องอาการดีลักซ์"ห้องนั้นหรูหราที่สุดในโรงแรมในกวนเฉิง และฃคนที่มีกระเป๋าสตางค์แบนฃก็ไม่กล้าเลือกห้องแบบนั้นแน่นอนแต่ถ้าพี่สะใภ้ชวนคุณนายซางมาทานอาหาร เธอจะต้องเลือกหรูอย่างแน่นอน"เข้าใจแล้ว"จ้านหยินไม่แปลกใจกับเรื่องนี้“รถไฟไม่ชนกันแน่”เสียงทุ้มต่ำของจ้านหยินดังขึ้นเขามักจะเชิญลูกค้าไปที่ห้องสวีทที่ชั้นบนสุด ซึ่งแตกต่างจากห้องที่อยู่ชั้นอื่น เพราะเขามีลิฟต์เฉพาะ และแขกของในโรงแรมไม่สามารถเห็นเขาได้และใช้ลิฟต์ตัวนั้นไม่ได้เว้นแต่สองสามีภรรยาจะพบกันที่หน้าลิฟต์ก็จะทำให้เจอกันได้จ้านอี้เฉินหยุดพูด เมื่อเห็นถึงความมั่นใจของพี่ชายยังไงก็ตามตัวเอกที่แกล้งจนก็คือพี่ใหญ่ ถ้าเขาเจอกับพี่สะใภ้จริงๆ และบอกให้เธอรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา นั่นเป็นเรื่องของพี่ใหญ่ พวกเขาแค่คนรอดูละครจ้านหยินและกลุ่มของเขาไม่ได้เจอหน้ากับไห่ถงและแม่ลูกตระกูลซาง แต่เมื่อจ้านหยิ
"“ถ้าสามีของเธอมีความสัมพันธ์กับนายน้อยอย่างตระกูลจ้าน คุณคิดว่าพวกเราจะอยู่อย่างปกติอยู่ไหม? เธอต้องใช้อำนาจของนายน้อยจ้าน มาทำให้กลั่นแกล้งพวกเราแล้วค่ะ"โจวหงหลินคิดถึงสิ่งนั้น ก็ทำให้รู้สึกว่าคำพูดของเย่เจียนีสมเหตุสมผลมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลถึงเรื่องนี้อีกต่อไปฐานะของนายน้อยจ้านคืออะไร? แม้ว่าไห่ถงจะเกิดอีกกี่ชาติ เธอก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับนายน้อยจ้าน และได้เป็นนายหญิงแน่พวกเขาทั้งสองดินออกจากโรงแรมอย่างสองสนิทสนมกัน แต่กลับเห็นไห่หลิงที่ทางเข้าไห่หลิงคนเดียยวเธอฉวยโอกาสที่หยางหยางหลับ ให้ป้าเหลียงอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลหยางหยาง และมารอโจวหงหลินและเย่เจียนีเธอมาที่นี่เพื่อรอ จากข้อมูลและหลักฐานที่ได้รับจากจ้านหยิน เธอคำนวณดูแล้วว่าโจวหงหลินชอบพาเย่เจียนี ไปที่โรงแรมกวนเฉิงเพื่อเสียเงินแม้ว่าทั้งคู่สองสามีภรรยาจะแตกหักกันแล้ว แต่คิดถึงตอนที่แต่งงานกับโจวหงหลินและมีลูกให้เขา ดูแลบ้านและบ่อยครั้งต้องรับใช้พ่อแม่และครอบครัวพี่สาวเขาด้วย และชอบว่าเธอไม่มีรายได้ ใช้จ่ายเงินสุร่ยสุร่ายและอยู่บ้านเฉยๆ ไปวันๆแต่การดูแลลูกมักจะได้ไห่ถช่วยเหลือ ตำหนิว่าเธอทำอะไรไม่ได้นอกจากกิ
เย่เจียนีดึงโจวหงหลินมา แล้วถามเขาว่า "นังอ้วนนั้นต้องการคุยกับพวกเราเรื่องอะไรคะ?"“เธอไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงการหย่าร้างที่ฉันเสนอคราวก่อน ดังนั้นเธอคงอยากคุยกับฉันเรื่องนั้นอีกครั้ง”การฟ้องหย่าต้องใช้ระยะเวลาบางทีอาจเพราะหยางหยาง จึงทำให้ไห่หลิงไม่อยากจะอีกต่อไปโจวหงหลินพาเย่เจียนีไปที่รถของเขา หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นรถแล้ว เขาก็โน้มตัวไปจับใบหน้าของเย่เจียนีด้วยความเสียใจ "เจ็บไหม?""คุณเจ็บไหม?"โจวหงลินแตะหน้าตัวเองอีกครั้งแล้ว "เจ็บมาก เรื่องของหยางหยางอาจทำให้เธอโกรธมาก โดนเธอตบนั้นทำให้เธอสามารถระบายความโกรธออกมา ฉันอดทนได้"เย่เจียนีลูบหน้าที่ถูกตบของเธอและพูดว่า "หงหลิน เพราะเธอต้องการที่จะรีบหย่า ดังนั้นคุณสามารถแก้ข้อตกลงการหย่าปรับเปลี่ยนให้รัดกุมมากขึ้นได้นะคะ จะเป็นการดีที่สุดถ้าคุณเตะเธอออกจากบ้านตัวเปล่า"“ถ้าเธอไม่ยอมรับก็ให้เธอฟ้องหย่ามา พวกเราก็จ่ายเลี้ยงดูได้ค่ะ”โจวหงหลินพูดว่า "ตามเธอไป ดูว่าต้องการจะพูดเรื่องอะไรกันแน่"ทั้งคู่รู้สึกว่าไห่หลิงกำลังรีบที่จะหย่าในตอนนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้กดดันเธอและบังคับให้เธอออกจากบ้านแบบไม่มีอะไรติดตัวไปเลยเมื่อค
ไม่สนใจว่าฉันจะได้สิ่งเหล่านี้มาได้อย่างไร โจวหงหลิน ถ้าฉันเปิดโปงเรื่องเงินใต้โต๊ะของคุณให้เจ้านายของคุณฟัง คุณคิดว่าคุณยังสามารถทำงานอยู่ที่เว่ยห่าวในฐานะผู้จัดการได้หรือไม่?ไห่ถงเตือนพี่สาวว่า อย่าแสดงหลักฐานการเรื่องเงินใต้โต๊ะให้โจวหงหลินดู ให้ใช้คำพูดขู่เขาแทนไห่หลิงรู้จักโจวหงหลินดี และรู้สึกว่าถ้าไม่มีหลักฐานมาแสดงจะไม่ทำให้เขากลัว ดังนั้นเธอจึงทำสำเนาหลักฐานที่เพื่อนของจ้านหยินรวบรวมไว้ให้เธอมาแม้ว่าโจวหงหลินจะฉีกมัน แต่เธอก็ยังสามารถทำสำเนาได้มากมายด้วยหลักฐานดังกล่าว โจวหงหลินยินดีที่จะประนีประนอมและหารือเรื่องการหย่ากับเธอ เพื่อรักษางานของเขาเอาไว้แต่เธอไม่รู้ว่าจ้านหยินได้สั่งให้ซูหนานดำเนินการรวบกิจการของบริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์ และกำลังรอโจวหงหลินและเย่เจียนีอยู่ จะทำให้พวกเขาต้องตกงานไปสีหน้าของโจวหงหลินน่าเกลียดมากเขาจ้องไปที่วิไห่หลิงอย่างจะกินเลือกกินเนื้อไห่หลิงเคยทำงานที่ บริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์ และยังดำรงตำแหน่งกรรมการอีกด้วย ในเวลานั้นเธอตำแหน่งสูงกว่าเขาเขาไม่อาจยอมรับว่าในเวลานั้นเขากดดันมาก เพราะรู้สึกด้อยกว่าไห่หลิง ทำให้ความภาคภู
ความอ้วนทำลายทุกสิ่งความงามของเธอถูกทำลายจากเขาเอง"ไห่หลิงจะเอายังไง?"โจวหงหลินพูดดอย่าวอบอุ่นและถามเธอว่า "ถ้าคุณเสนอข้อเรียกร้องมา ฉันจะทำตาม จากนั้นพวกเราจะจากกันด้วยดี ส่วนเอกสารพวกนี้ ก็ช่วยมอบสำเนาต้นฉบับให้ฉันด้วย"ตอนนี้เขามีทรัพย์สินเกือบสิบล้านแต่ถ้าเขาไม่หารือกับไห่หลิงให้ดี ไห่หลิงก็จะฟ้องหย่า ในมือเธอถือหลักฐานทั้งหมดไว้ในมือ ซึ่งเป็นมันเป็นประโยชน์ต่อเธอมาก เขาเสียเปรียบ และศาลก็ตัดสินตามจริงว่าเขายังต้องการแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งที่มีให้ไห่หลิงหากไห่หลิงเอาหลักฐานการเงินใต้โต๊ะให้ประธาน อาจไม่โดนไล่ออก แต่ต้องถูกลดตำแหน่งผู้จัดการอย่างแน่นอนอีกอย่างเขารับเงินใต้โต๊ะมาจากลูกค้า การเอาเงินไปแล้วก็มีต้องรับกรรมเแทน ช่วยลูกค้าทําให้บริษัทเสียหาย เมื่อประธานสั่งตรวจสอบก็จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และด้วยความโกรธเขาก็คงรักษางานไว้ไม่ได้ไม่แน่ว่า บางทีประธานอาจจะแพร่กระจายพฤติกรรมของเขาทำให้หางานได้ยากในอนาคตนี่มันเกี่ยวข้องกับอนาคตเกี่ยวข้องกับอนาคตและผลประโยชน์ของตัวเขาเอง แม้ว่าโจวหงหลินอยากจะบีบคอไห่หลิงตอนนี้ แต่เขาต้องลดท่าทีและหารือเรื่องการหย่ากับไห่หล
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โจวหงหลินก็พูดว่า "ไห่หลิง ถ้าฉันเห็นด้วยกับเงื่อนไขของคุณในการแบ่งทรัพย์สิน คุณจะมอบหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในมือให้ฉันจริงๆ ใช่ไหม? และสัญญาว่าจะไม่รายงานเรื่องฉันต่อประธาน"“หากฉันได้รับสิ่งที่ฉันสมควรได้รับมันแล้ว ฉันก็รับประกันได้ว่าฉันจะไม่ล้างแค้นกับแกต่อเป็นการส่วนตัวอีก”ส่วนน้องสาวหรือน้องเขยเธอจะทำอะไรนั้น เธอไม่สามารถรับประกันได้หลังจากโจวหงหลินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดว่า "ฉันยอมรับเงื่อนไขในการแบ่งทรัพย์สินได้ แต่ฉันไม่สามารถให้สิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางแก่คุณได้ ยังไงหยางหยางก็เป็นเนื้อเชื้อไขของครอบครัวโจว และพ่อแม่ของฉันก็ให้ความสำคัญกับหยางหยางในฐานะหลานชาย”“ฉันไม่สามารถยกสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางให้ได้”โจวหงหลินกลัวที่จะยกสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางให้กับไห่หลิง และเมื่อเขากลับบ้านถูกพ่อแม่ดุด่าจนตายยิ่งไปกว่านั้น หยางหยางยังเป็นลูกชายของเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เพราะในปัจจุบันเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เขาเลยไม่ยอมแพ้กับหยางหยางไห่หลิงยกมือขึ้นและสาดน้ำผลไม้ที่ยังดื่มไม่หมดใส่หน้าของโจวหงหลิน“โจวหงหลิน แกยังมีกะจิตกะใจมาแย่งฉันเรื่อง
โจวหงหลินไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าทันทีที่เขาออกมา ไห่หลิงจะใช้ความรุนแรงกับเย่เจียนีในคืนที่ไห่หลิงจับเขาและเย่เจียนีได้ที่โรงแรม ได้ตีเย่เจียนีอย่างความกล้าหาญและไร้ความปราณี ซึ่งทำให้เขารู้สึกขาอ่อน เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นไห่หลิงพูดอย่างเย็นชา “ฉันตบเธอ ยังรู้สึกขยะแขยงที่มือด้วยซ้ำ ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เธอเป็นแบบไหน อีกสักพักฉันจะคืนเธอให้แกแบบเดิม”“ไห่หลิง นี่คือเรื่องระหว่างพวกเราสองคน ฉันไม่ฟังไม่ได้เหรอ?”โจวหงหลินยังคงกังวลอยู่ไห่หลิงตอบกลับต่อความรุนแรงในครอบครัวของเขาตอนนั้น กล้าใช้มีดไล่ล่านเขาไปตามถนนถึงห้าช่วงตึก ทำให้เขาตระหนักว่าความโกรธของไห่หลิง สามารถลงมือทำอะไรก็ได้“นี่คือเรื่องระหว่างเมียหลวงกับเมียน้อย แกไอ้สารเลวไสหัวไปซะ”โจวหงหลิน "..."เขาจ้องไห่หลิงอย่างดุเดือด ก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจแล้วเดินออกไปหลังจากที่โจวหงหลินจากไปแล้ว เย่เจียนียกมือขึ้นเอานิ้วม้วนผมก่อนจะถามไห่หลิงว่า "พูดมา แกต้องการคุยกับฉันเรื่องอะไร?"“ไห่หลิง คนที่หงลินรักตอนนี้คือฉัน หากแกไม่ต้องการทำสิ่งที่น่าเกลียดเกินไป ฉันแนะนำให้คุณหย่ากับหงหลินโดยเร็วที่สุด”