ใครจะคิดว่าบ้านของพวกเขามีอาคารให้เช่ามากมาย และเก็บค่าเช่าแบบผ่อนปรนให้กับคนเช่า?ตระกูลเซินเป็นคนพื้นที่“งั้นให้เสี่ยวจวินกับประธานซูพัฒนาความรู้สึกกันเถอะ ฉันคิดว่าเธอสามารถจุดประกายได้เมื่อเธอได้รู้จักกับประธานซู”หลังจากฟังเรื่องของซูหนานจากเสี่ยวเฟยแล้ว ไห่ถงก็รู้สึกว่าซูหนานและเซินเสี่ยวจวินเป็นคนประเภทเดียวกัน ทั้งคู่ชอบเรื่องสนุกสนานและตื่นเต้น และยังข่าววงในมากมายที่ซูหนานมีอีก“ฉันถามประธานซูแล้ว เขาก็ประทับใจคุณเซินมาก ให้เวลาเขาหน่อยนะ เขาจะลงมือทำแน่ ตอนนี้ใกล้ปีใหม่จีนแล้ว บริษัทกำลังยุ่งกันมากตั้งแต่ระดับเล็กยันใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีตำแหน่งอย่างประธานซู แค่ยุ่งจนถึงก่อนวันหยุดยาวตรุษจีน แล้วเขาก็จะมีเวลาจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง”ในระหว่างที่เขาเดินทางไปทำงานต่างเมือง ซูหนานต้องอยู่ที่บริษัทกับอี้เฉิน ดังนั้นเขาจึงยุ่งมากไห่ถงไม่ต้องการให้เสี่ยวจวินไปแต่งงานไกลๆ ถ้าเสี่ยวจวินได้อยู่กับประธานซู มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับจ้านหยินเช่นกัน และสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวเล็กๆ ของพวกเขาด้วยอืม เธอเหมือนกับขายเพื่อนกินเพื่อความมั่งคั่งสองสามีภรรยาคุยกันเรื่
“ฉันไม่ได้ความจำแย่ขนาดนั้น และยังไม่ใช่ตอนที่ฉันได้รับใบจดทะเบียนสมรสครั้งแรกอีก”ไห่ถงหาว "จ้านยิน ไปนอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณจะไปต่างเมืองอีก ดังนั้นต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ"เธอเงยหน้าขึ้น โน้มตัวลงมาและจูบริมฝีปากของเขาเบาๆ"ที่รัก ฝันดี"จู่ๆ จ้านหยินก็จ้องอยากลึกซึ้ง และเขาก็กอดเอวของไห่ถงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนีเขาไปหลังจากจูบเขาดวงตาสีดำลุกเป็นไฟ ขณะที่จ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธอปกติเธอไม่แต่งหน้า แต่เธอก็ดูแลผิวได้ดีมาก ใบหน้าของเธอให้ความรู้สึกเรียบเนียนเมื่อสัมผัสความงามของเธอเป็นความงามที่เป็นธรรมชาติมากเมื่อจ้านหยินเห็นเธอครั้งแรก เขาก็ยอมรับถึงความสวยองเธอเขาเจอหญิงสาวสวยๆ มาไม่น้อย ดังนั้นเมื่อพบเธอครั้งแรก เขาจึงไม่รู้สึกอะไรมาก"ถงถง เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าอะไรนะ?"เขาเรียกเธอว่าครั้งแรก เธอก็ไม่ค่อยมีปฎิริยาตอบสนองเท่าไหร่จ้านหยินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้คิดว่าคงเป็นเพราะตอนที่ตัวเองโทรหาภรรยา น้ำเสียงที่สื่อออกไปไม่รุนแรงพอและอารมณ์ยังไม่ลึกพอ จึงเรียกไปสองครั้งแล้วก็หยุดเมื่อเธอเรียกเขาว่าที่รัก น้ำเสียงของเธอก็ไหลผ่านหัวใจของเขาร
“ไห่ถง พี่เธออยู่ไหน? บอกให้พี่เธอมารับโทรศัพท์!”แม่โจวเสียงแข็ง แค่ได้ยินก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธ“มีเรื่องอะไรกับพี่ฉ้น? ฉันจำได้ว่าพี่ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวคุณอีกแล้วนะ พูดมามีเรื่องอะไร?”ไห่ถงเบื่อหน่ายเดาว่าแม่โจวมาจากบ้านเกิดและพบว่าบ้านถูกทำลาย เธอจึงโกรธและต้องการด่ากับพี่สาวปฏิกิริยาตอบกลับนั้นถือว่าช้ามากไม่แปลกใจเลยที่แม่โจวเพิ่งรู้เรื่องตอนนี้วันนั้น ไห่หลิงและโจวหงหลินไปหย่ากัน หลังจากดำเนินการหย่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาสูงอายุก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านตัวเองวางแผนไว้ว่าจะย้ายเข้าอยู่ในอีกวันรุ่งขึ้นลูกๆ ของโจวหงอิงไปโรงเรียนเพิ่มอีกหนึ่งวัน เพื่อรับใบคะแนนสอบวันนี้โรงเรียนประถมศึกษาปิดเทอมอย่างเป็นทางการแล้วพ่อและแม่โจวพาลูกของสาวทั้งคนโตและเล็ก เข้าเมืองด้วยรถยนต์ 2 คัน พร้อมกับเอากระเป๋าใบทใหญ่และเล็กมาด้วย โดยที่ตั้งใจจะอยู่ในเมืองช่วงวันตรุษจีนทำไมจึงออกเดินทางแต่เช้าตรู่ เพราะแม่โจวยังมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจอยากจะมาตั้งแต่เช้าๆ เพื่อจะได้ให้เย่เจียนี ทำอาหารเช้าให้กับพวกเขาเย่เจียนีรับช่วงต่อไม่คาดคิด หลังจากขนกระเป๋าใบใหญ่ใบเ
ไห่ถงหัวเราะหึๆ แล้วพูดว่า “โจวหงอิง ไปห้องน้ำนะ แล้วหากะละมังมารองน้ำเอาสิ อ๋อ ไม่สิ ไม่มีก๊อกน้ำแล้ว ตอนนี้พี่ฉันจ่ายเงินค่าทำห้องน้ำไป พวกเราก็เลยทุบมันออมาหมด งั้นคุณช่วยไปฉี่และส่องหน้าตัวเองนะ ว่าหน้าตัวเองด้านแค่ไหน”“พี่ฉันกับน้องชายคุณหย่ากันแล้ว ตอนนี้ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณยังมีหน้ามาขอให้พี่ฉันหาบ้านให้พวกคุณอยู่ทำไมอีก? พี่ฉันทำให้คุณไม่มีบ้านอยู่เหรอ? กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง”“ถ้าตกลงกันได้ และชดเชยเงินให้พี่ฉัน พวกคุณตอนนี้ก็มีที่อยู่แล้ว เฮ้อ วันนี้อากาศหนาวจริงๆ นอนในบ้านที่มีช่องระบายอากาศทั้งสี่ด้าน ฉันสงสัยว่าพวกคุณจะนอนกันยังไง?”"แต่พวกคุณก็หน้าหนากันมากนิ แถมยังมากันหลายคน นอนเบียดๆ กันก็สามารถทนต้านลมหนาวได้แล้ว"“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะวางสายล่ะ ผ้าห่มอุ่นมากฉันคงต้องไปนอนต่อแล้ว ลาก่อน”ไห่ถงพูดจบก็วางสายจากนั้น ก็บล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของแม่โจวเพื่อพวกเขาไม่ยอมแพ้ แล้วยังโทรมาวอแวกับเธออีกหลังจากถูกไห่ถงงตัดสาย โจวหงหยิงก็ด่าสาปด้วยความโกรธ “ไห่ถง ทำให้ฉันโกรธจนอยากจะเป็นบ้า ปากปลาร้าอย่างเธอ ผู้ชายคนนั้นทนเธอได้ยังไง? แม่ จะทำยังไ
พ่อโจวจ้องมองภรรยาด้วยใบหน้าที่มืดมนและถามเธอ "เธอไปหาปู่คนไหนช่วยพูดให้?"“จะมีใครอีกล่ะ ก็ปู่แท้ๆ ของไห่หลิงไง ส่วนย่าของเธอเข้าโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันยังไปเยี่ยมพวกเขาที่โรงพยาบาลแล้วขอร้อง ด้วย หลังจากนั้นผู้เฒ่าไห่ก็พูดขึ้นมา และให้ฉันให้เงินเขา 500,000 บาท แต่ฉันปฏิเสธ หลังจากเจรจาต่อรองแล้วไปแล้ว เขาก็ต้องการเงินเขา 300,000 บาท”“เขารับปากกับฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะพยายามโน้มน้าวใจไห่ถงได้อย่างแน่นอน แต่ไห่ถงไม่ได้บอกกับไห่หลิงไม่ให้หย่า และพวกเขาก็เอาเงินไปแบบฟรีๆ เลย”ทันทีที่แม่โจวพูดจบ พ่อโจวก็ตบเธอและบีบแขนเธออย่างแรง“เธอโง่มากเลยเหรอ คนจากบ้านเกิดของไห่หลิงไว้ใจได้งั้นเหรอ? เรื่องความขัดแย้งระหว่างไห่หลิงกับคนพวกนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ หาใครไม่ไปหาดันไปหาคนพวกนั้น ใช้หัวคิดบ้างหน่อย ต้องบ้าขนาดไหนถึงไปหาคนพวกนั้น”“3 แสน เธอใช้เงินแบบไม่ได้อะไรไปต้อง 3 แสน!”พ่อโจวโกรธภรรยามากจนตาจะถลนออกมาจากเบ้า และถอยากจะเป็นลมแม่โจวพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “แค่คิดว่าไห่ถงพูดด้วยยาก ก็อยากให้ครอบครัวไห่ถงออกหน้าทะเลาะแทน ฉันไม่ต้องทนรับความโกรธของไห่ทง เลยไปหาพวกเขา ผู้เฒ่าไห่บ
โจวหงอิงโทรหาน้องชาย"พี่ ฉันกำลังไป"โจวหงหลินรู้ว่าพ่อแม่แลพี่อยู่ที่นั้นกันหมด เขาจึงรีบตื่นและปลุกเย่เจียนี หลังจากอาบน้ำ ทั้งสองคนก็รีบไปที่หมู่บ้านกวางหมิง"หงหลิน พวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย""พี่ ฉันออกมาแล้ว เดี๋ยวพาไปกินข้าวเช้า"โจวหงอิงพูดว่า "แกไม่ได้อยู่กับเย่เจียนีเหรอ? แกก็ให้เธอเตรียมอาหารเช้าให้พวกเราไม่ได้เหรอ? ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันหลายๆ คน ค่าข้าวคงจะหลายพันนะ"“พี่ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงแรมและยังไม่มีเวลาหาบ้านเลย ที่บ้านฉันตอนนี้มีแต่โครง และก็ทำอาหารเองไม่ได้”ไห่หลิงใช้วิธีการของตัวเองในการเอาค่าปรับปรุงบ้านคืน ตอนนี้ไม่มีทั้งน้ำและไฟฟ้าในบ้านโจวหงหลิน และห้องครัวก็ว่างเปล่า แม้ว่าเย่เจียนีจะเต็มใจทำอาหารให้พวกเขา แต่ก็ไม่มีทางที่จะเอาไปใช้ได้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โจวหงหยิงก็พูดว่า “ไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์พวกเราทุกคนไปหมดแล้ว แกจะติดต่อเธอยังไง หากพวกเราอยากเจอหยางหยางก็เจอไม่ได้?”"หยางหยางมักจะไปอยู่ที่ร้านของไห่ถง สามารถไปหาหยางหยางที่นั่นได้ โดยไม่ต้องติดต่อไห่หลิง"โจวหงหลินไม่สนใจ เรื่องที่จะถูกไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์แม้ว่าไห่หลิงทุบบ
คุณยายจ้านพูดกับตัวเองว่า “ควรเริ่มจากเจ้าสองหรือสาม?”จ้านหยินไม่ตอบ เพื่อไม่ให้คุณยายบอกน้องชายว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้"เจ้าสองแล้วกัน เจ้าสามจะจับคู่กับใครดี?"จ้านหยินยังคงเงียบเขารู้จักหญิงสาวเพียงไม่กี่คน และหากต้องการให้เขาหาภรรยาให้กับอี้เฉิน อี้เฉินไปบวชน่าจะง่ายกว่าคุณยายจ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่า จ้านหยินจะช่วยหาคู่ให้"เข้าไปกัน"จ้านหยินมองไปที่คุณยาย สีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามคุณยายจ้านมีสีหน้าไม่พอใจ “แกกำลังจะเดินทางไปทำงาน ทำไมคุณไม่เข้าไปพูดกับไห่ถงดีๆ หน่อยล่ะ”จะทำอะไรต้องให้เธอบอกก่อนตอนปีนั้น ต้องสอนทุกเรื่องให้กับเจ้าหลานคนนี้ ยกเว้นเรื่องรัก พวกเขาไม่ได้สอน จึงส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคุณยายจ้านคิดว่า การรักใครสักคนเป็นเรื่องสัญชาตญาณและไม่จำเป็นต้องสอนอะไรเธอมีความคิดที่ไร้เดียงสาเกินไปหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า "คุณยายไม่เห็นเหรอว่า เธอช่วยฉันจัดกระเป๋าอยู่?"คุณยายจ้าน "..."หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ไห่ถงก็ตรวจสอบอีกครั้งและตรวจดูให้แน่ใจว่า จ้านหยินมีสิ่งของจำ
หลังอาหารเช้า จ้านหยินได้โอนเงินไปให้ไห่ถง 250,000 บาทไห่ถงเห็นเงินที่เขาโอนมาจึงพูดว่า: "ฉันมีเงินอยู่ค่ะ"บัตร ATM ที่เขามอบให้เธอยังคงมีเงินอยู่“ฉันไปทำงานต่างเมือง ไม่ได้อยู่บ้าน แล้วไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ใกล้ตรุษจีนแล้ว ต้องซื้อของขวัญปีใหญ่อีก ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เงิน ให้เงินคุณไว้หลายๆ แสน เพื่อเอาไปซื้อของขวัญตรุษจีน” เหตุผลของจ้านหยินนั้นหนักแน่นพอ“วันที่ 28 ตามปฏิทินจันทรคติ พวกเราจะกลับบ้านเกิดเพื่อฉลองตรุษจีน ที่บ้านเกิดมีญาติพี่น้องหลายคน และพวกเราต้องให้ของขวัญกับคนที่เด็กกว่า คุณสามารถถามคุณยายว่าจะให้ของขวัญเป็นอะไรและซื้อไว้ล่วงหน้าได้เลย หากเงิน 250,000 บาทนี้ไม่พอ ก็บอกฉันนะ และฉันจะโอนเงินให้คุณอีก”เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ไห่ถงก็ต้องยอมรับเงิน 250,000 จากเขาหลังจากได้รับใบจดทะเบียนสมรสมาเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดถึงการพาเธอกลับไปบ้านเกิดของเขาก่อนหน้านี้ ตอนที่เจอพ่อแม่ของเขา เขาบอกให้พวกเขาแวะมาหาดวงตาของคุณยายจ้านเป็นประกายวูบวาบ เมื่อได้ยินเขาพูดออกมา แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มเมื่อไห่ถงไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ำดอกไม้ คุณ