หลังอาหารเช้า จ้านหยินได้โอนเงินไปให้ไห่ถง 250,000 บาทไห่ถงเห็นเงินที่เขาโอนมาจึงพูดว่า: "ฉันมีเงินอยู่ค่ะ"บัตร ATM ที่เขามอบให้เธอยังคงมีเงินอยู่“ฉันไปทำงานต่างเมือง ไม่ได้อยู่บ้าน แล้วไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ใกล้ตรุษจีนแล้ว ต้องซื้อของขวัญปีใหญ่อีก ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เงิน ให้เงินคุณไว้หลายๆ แสน เพื่อเอาไปซื้อของขวัญตรุษจีน” เหตุผลของจ้านหยินนั้นหนักแน่นพอ“วันที่ 28 ตามปฏิทินจันทรคติ พวกเราจะกลับบ้านเกิดเพื่อฉลองตรุษจีน ที่บ้านเกิดมีญาติพี่น้องหลายคน และพวกเราต้องให้ของขวัญกับคนที่เด็กกว่า คุณสามารถถามคุณยายว่าจะให้ของขวัญเป็นอะไรและซื้อไว้ล่วงหน้าได้เลย หากเงิน 250,000 บาทนี้ไม่พอ ก็บอกฉันนะ และฉันจะโอนเงินให้คุณอีก”เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ไห่ถงก็ต้องยอมรับเงิน 250,000 จากเขาหลังจากได้รับใบจดทะเบียนสมรสมาเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดถึงการพาเธอกลับไปบ้านเกิดของเขาก่อนหน้านี้ ตอนที่เจอพ่อแม่ของเขา เขาบอกให้พวกเขาแวะมาหาดวงตาของคุณยายจ้านเป็นประกายวูบวาบ เมื่อได้ยินเขาพูดออกมา แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มเมื่อไห่ถงไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ำดอกไม้ คุณ
เมื่อมองเขาสักครู่หนึ่ง ไห่ถงก็โอบคอเขาอย่างช่วยไม่ได้ ดึงหัวลงแล้ว จูบบนริมฝีปากสีแดงหลังจากที่ได้รับการจูบจากภรรยา จ้านหยินก็มีความสุขมาก มือข้างหนึ่งจับกระเป๋าเดินทางและอีกมือหนึ่งจับมือของไห่ถง สองสามีภรรยาก็ออกไปด้วยกันคุณยายจ้านกำลังรอสองสามีภรรยายู่ชั้นล่างคนที่พูดคุยกับคุณยายจ้านคืออาชีวันนั้นเขาช่วยไห่หลิงย้ายบ้าน หลังจากที่ถูกไห่ถงจำได้ อาชีเลยบอกว่าตราบใดที่มีเงินจ้าง เขาสามารถทำงานอะไรก็ได้ ถ้าเขาเจอไห่ถงอีก อาชีไม่ลุกลี้ลุลนแล้วรู้สึกเหมือนเขาได้ผ่านทางที่ยากรำบากมาแล้ว"คุณจ้าน คุณหนูไห่ สวัสดีครับ"อาชีทักทายไห่ถงยิ้มตอบ และถามว่า "คุณแช่อะไรคะ? วันนั้นฉันลืมขอนามบัตรของคุณค่ะ"อาชีเหลือบมองนายน้อยอย่างรวดเร็ว และเห็นว่าสีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง จึงตอบอย่างกล้าหาญว่า "ชื่ออาชีครับ"จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ ไห่ถง จากนั้นพุดว่า "ฉันเพิ่งรู้เมื่อกลับถึงบ้านว่านามบัตรหมดและยังไม่ได้พิมพ์ครับ ฉันจึงเขียนเบอร์โทรศัพท์ของฉันบนกระดาษแทน”ไห่ถงรับเบอร์โทรศัพท์ของเขามา แล้วพูดกับชายที่อยู่ข้างๆ “อาชีบอกว่าเขาทำงานอะไรก็ได้ ฉัน
หลังจากวางสายแล้วจ้านหยินก็สั่งอาชีว่า "ดูแลนายหญิงให้ดีในขณะที่ฉันไม่อยู่บ้าน"“ไม่ต้องห่วงครับ นายน้อย ฉันจะดูแลนายหญิงเป็นอย่างดีแน่นอน”นายหญิงมีทักษะไม่ได้ธรรมดา การปกป้องเธอนั้น เป็นงานที่ง่ายเกินไปโบนัสสองเท่า!อาชีคิดถึงเรื่องนี้ก็มีความสุขแล้วนี่คือข้อดีของการเกาะขาของนายหญิง!“เมื่อนายหญิงประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ ก็ให้บอกคุณยาย เธอจะจัดการให้เอง ไม่ก็บอกนายน้อยสอง”“ไม่ต้องกังวลครับ นายน้อย เมื่อใดก็ตามที่นายหญิงกำลังเผชิญกับเรื่องยากลำบาก คุณยายจ้านจะรู้อย่างแน่นอน”คุณยายจ้านคือเทพเซียน และแม้แต่พวกหลานๆ ก็ไม่สามารถปีนหลุดรอดไปจากสายตาของเธอได้จ้านหยินคิดถึงความสามารถของคุณยายแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกต่อไปเรื่องทำให้จ้านหยินต้องประหลาดใจ เขาเห็นซางเสี่ยวเฟยอยู่ที่ประตูบริษัทซึ่งไม่ได้มารอเขาเป็นระยะสักพักหนึ่งแล้วเธอยืนพิงรถสปอร์ตสีแดงและมองขบวนรถพิเศษของเขาที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้อย่างช้าๆคนขับถามว่า "นายน้อย คุณหนูซางกลับมาอีกแล้วครับ"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็สั่งคนขับว่า "จอดรถข้างหน้าคุณหนูซาง"คนขับและอาชีต่างก็ประหลาดใจมากแม้ว่าคุณหนู
ซางเสี่ยวเฟยยิ้ม แต่ก็ยกมือขึ้นเพื่อมาเช็ดน้ำตาออกจากหางตา และไม่หันกลับจากที่ไกลๆ ก่อนจะที่หันกลับมา เพื่อเผชิญหน้ากับ จ้านหยินอีกครั้ง เธอมีสีหน้าสงบและยิ้มว่า "จ้านหยิน ฉันแค่ได้รับคำนี้จากคุณ ซึ่งมันก็ไม่ไร้ประโยชน์เลยที่ฉันหลงรักคุณมาหลายปีแล้ว"เธอยื่นมือออกมา จ้านหยินก็ยืนมือมาจับมือของเธออ“จ้านหยิน ฉันขอให้คุณและภรรยามีความสุขและรักกันยืนย่ว”“ขอบคุณครับ คุณหนูซาง”“ฉันหวังว่าจะได้เข้าร่วมงานแต่งงานของคุณในอนาคต”หลังจากที่จ้านหยินปล่อยมือออก เขาก็พูดอย่างใจเย็นว่า "เมื่อฉันเลือกวันที่จัดงานแต่งงานกับภรรยาได้ ฉันจะส่งคำเชิญไปให้ประธานซางกับคุณหนูซางอย่างแน่นอน"“ฉันจะรอดื่มไวน์อวยพรในงานแต่งงานของคุณค่ะ”ซางเสี่ยวเฟยยิ้ม "นายน้อยจ้านงานยุ่งมาก ฉันจะไม่รบกวนเวลาอันมีค่าของคุณแล้วค่ะ ลาก่อน"เธอโบกมือให้จ้านหยิน แล้วหันหลังกลับเข้าไปในรถสปอร์ตของเธอจากนั้นขับออกจากจ้านซื่อกรุ๊ปอย่างรวดเร็วลาก่อนชายคนแรกเธอรักอย่างสุดหัวใจในอนาคตเธอจะไม่มาที่นี่อีกหลังจากที่เธอรักษาแผลในใจแล้ว เธอก็อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จ้านหยินกลับมาที่รถ คนขับจึงขับไปอย่างรวดเร็วคนขับคิดว่าทั
“ใช่ เสี่ยวเฟยมีศักดิ์ศรีเช่นกัน ลูกสาวตระกูลซางไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งงาน”คุณนายซางคุ้นเคยกับลูกสาวดีเสี่ยวเฟยบอกว่าจะตัดใจ เธอจะต้องตัดใจได้อย่างแน่นอนเสียงรถดังมาจากข้างนอกหลานจิงยืนขึ้นและเดินออกไป แล้วพูดว่า "ต้องเป็นเสี่ยวเฟยกลับมาแล้วแน่"เธอเดินออกจากบ้านและเห็นน้องสะใภ้ซางเสี่ยวเฟยลงจากรถแล้วเดินไปหาพี่สะใภ้พร้อมรอยยิ้มที่สดใส เธอพูดว่า "พี่ แม่ยังอยู่บ้านหรือเปล่า?"เมื่อเห็นน้องสะใภ้ยิ้มกว้าง หลานจิงก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธออยากเห็นน้องสะใภ้ร้องไห้มากกว่ายิ้มหน้าบานแบบนี้ ยิ่งรอยยิ้มของเสี่ยวเฟยสดใสเท่าไร หัวใจของเสี่ยวเฟยก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้นเห้อการตกหลุมรักผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเองนั้นเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่การที่รู้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งแต่งงานไป กลับยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นอีก“คุณแม่ยังอยู่ในบ้าน เสี่ยวเฟยโอเคไหม?”“พี่มองว่าฉันเป็นคนยังไง? ไม่ต้องห่วง ฉันสบายดี แค่ไปบอกลาอดีต”ซางเสี่ยวเฟยพูดเบา ๆ เธอไม่ต้องการพูดถึจ้านหยินมากเกินไป เธอจับแขนพี่สะใภ้อย่างขี้เล่น แล้วพูดว่า "พี่เข้าไปข้างในกันเถอะ"ทันทีที่ซางเสี่ยวเฟยกลับมา คุณนายซางก็ยิ่งกระสับกระส่ายมาก
ไห่ถงยิ้ม "เหมือนที่เสี่ยวเฟยพูด ประธานซูมาจากตระกูลข่าวกรอง เมื่ออยู่กับเขา เธอจะได้รับรู้ข่าววงในก่อนใคร ชีวิตก็จะชีวา ฉันคิดว่า ประธานซูกับเธอเกิดมาคู่กัน และพวกเธอสองคนเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ”เซินเสี่ยวจวิน “......”เธอกำลังมองหาแฟนที่จะแต่งงานหรือเรื่องซุบซิบ?“เธอบอกว่าครอบครัวอดีตแม่สามีของพี่เธอมาที่นี่อีกแล้วเหรอ?”เซินเสี่ยวจวินเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วไม่ต้องการให้เพื่อนพูดซุบซิบ“พี่ฉันและไอ้บ้าโจวหย่ากันแล้ว และบ้านก็เหลือแต่โครง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้พวกเขาต้องเช่าบ้าน หรือพักในโรงแรม ไม่ก็กลับบ้านตัวเองไป แต่จากความเข้าใจของฉันน่ะ ครอบครัวของพวกเขาจะต้องอยู่ในเมืองในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจะไม่กลับไปที่บ้านของพวกเขา”ครอบครัวโจวต้องป่าวประกาศในบ้านเกิดว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปเมืองนี้ในช่วงตรุษจีนดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีบ้านให้อยู่อาศัย แต่ครอบครัวของพวกเขาก็ยังคงเช่าบ้านอยู่ในเมืองในช่วงตรุษจีนแน่นอนไห่ถงอยากเป็นซุนหงอคงจริงๆ จะได้ดึงผมของตัวเองออกมา แล้วแปลงร่างเป็นร่างโคลน เพื่อนั่งยองๆ ที่บ้านของตระกูลโจว และรอดูเรื่องสนุกๆ ของ
“ผู้เฒ่าไห่ เห็นชัดๆ ว่าแกเอาเงินฉันไป 3 แสน สิ่งที่ฉันให้แกเป็นเงินสด ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวที่ฉันเก็บไว้เป็นเวลานาน ตอนที่แกเอาเงินของฉันไป แกบอกว่าแกจะไปพูดกับไห่ถงให้ แต่แกไม่ได้ทำอะไรเลย แถมลูกชายของฉันยังหย่ากับไห่หลิงอีก”“ช่วยคืนเงินให้ฉันด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”แม่โจวหน้าซีดด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าไห่ไม่ยอมรับความผิดของเขาผู้เฒ่าไห่สีหน้าเย็นชาพูดว่า “ถ้าจะแจ้งตำรวจก็แจ้งตำรวจเลย แกจะไปแจ้งตำรวจ ก็อย่าหาว่าฉันไม่ได้รับเงินของแกนะ รับเงินมาแล้วยังไง? นี่คือเงินสินสอดที่แกมอบให้พวกเรา เมื่อหลานสาวฉันแต่งงานกับลูกชายแก พวกเราไม่ได้เงินค่าสินสอดสักบาทเดียว”“แกให้เงินสินสอดจำนวนหลายแสนบาทกับพวกเรา และลดให้พวกแกไปเยอะแล้ว สะใภ้ แกมีลูกสาวด้วยนิ ตอนที่ลูกสาวแกแต่งงาน พวกแกคงไม่ได้เอาเงินสินสอดสักบาท จะยินดียกลูกสาวให้กับลูกเขยไปแบบฟรีๆ?”แม่โจวพูดด้วยความโกรธว่า "สินสอดห่าเหวอะไร แกเคยเลี้ยงไห่หลิงมาไหม? คุณมีคุณสมบัติที่อะไรต้องได้สินสอดด้วย พวกเขาหย่ากันแล้ว คือฉันต้องโง่และให้เงินสินสอดกับพวกแกเหรอ เอาเงินคืนมาให้ไว!”“ไม่มีเงิน มีแต่ตัว อยากได้ก็เอาไป”ผู้
รถหรูหลายคันขับมาจากไกลๆ ข้ามทางเข้าวงเวียนของโรงเรียนมัธยมต้นกวนเฉิง แล้วมาจอดที่ทางเข้าร้านหนังสือของไห่ถงคุณยายจ้านที่กำลังคุยกับลุงเจิ้งข้างร้านอยู่ และหันหน้าไปเห็นรถหรูสองสามคัน เธอจึงรีบหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วและจงใจก้มศีรษะลง เพราะเกรงว่าคนที่ลงจากรถเหล่านั้นจะเห็นเธอ“ไห่ถง ไห่ถง”ทันทีที่ซางเสี่ยวเฟยลงจากรถ เธอก็ตะโกนชื่อไห่ถงและวิ่งเข้าไปในร้านไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณยายจ้านที่นั่งคุยกันอยู่ข้างนอกร้านใกล้ๆคุณท่านซางซึ่งลงจากรถด้านหลังได้ช่วยภรรยาที่ร้องไห้เดินตามลูกสาวเข้าไปในร้าน หลานจิงสั่งให้บอดี้การ์ดเฝ้าประตูก่อนที่จะหันหลังกลับและเข้าไปในร้านนกอินทรีที่ไห่ถงกำลังถักได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้น เมื่อเธอได้ยินเสียงของซางเสี่ยวเฟย เธอก็หยุดงานที่กำทำอยู่และเงยหน้าขึ้นมองที่ซางเสี่ยวเฟย"เสี่ยวเฟยมาแล้วเหรอ กินข้าวหรือยัง? ถ้ายัง..."เมื่อเห็นคุณนายซางได้รับการพยุงมาโดยคุณท่านซาง และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ไห่ถงก็เข้าใจคุณนายซางได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอแล้วเมื่อพิจารณาจากสีหน้าของคุณนายซาง ไม่จำเป็นต้องถามว่าเธอกับคุณนายซางมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันหรือไ