“ผู้เฒ่าไห่ เห็นชัดๆ ว่าแกเอาเงินฉันไป 3 แสน สิ่งที่ฉันให้แกเป็นเงินสด ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวที่ฉันเก็บไว้เป็นเวลานาน ตอนที่แกเอาเงินของฉันไป แกบอกว่าแกจะไปพูดกับไห่ถงให้ แต่แกไม่ได้ทำอะไรเลย แถมลูกชายของฉันยังหย่ากับไห่หลิงอีก”“ช่วยคืนเงินให้ฉันด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”แม่โจวหน้าซีดด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าไห่ไม่ยอมรับความผิดของเขาผู้เฒ่าไห่สีหน้าเย็นชาพูดว่า “ถ้าจะแจ้งตำรวจก็แจ้งตำรวจเลย แกจะไปแจ้งตำรวจ ก็อย่าหาว่าฉันไม่ได้รับเงินของแกนะ รับเงินมาแล้วยังไง? นี่คือเงินสินสอดที่แกมอบให้พวกเรา เมื่อหลานสาวฉันแต่งงานกับลูกชายแก พวกเราไม่ได้เงินค่าสินสอดสักบาทเดียว”“แกให้เงินสินสอดจำนวนหลายแสนบาทกับพวกเรา และลดให้พวกแกไปเยอะแล้ว สะใภ้ แกมีลูกสาวด้วยนิ ตอนที่ลูกสาวแกแต่งงาน พวกแกคงไม่ได้เอาเงินสินสอดสักบาท จะยินดียกลูกสาวให้กับลูกเขยไปแบบฟรีๆ?”แม่โจวพูดด้วยความโกรธว่า "สินสอดห่าเหวอะไร แกเคยเลี้ยงไห่หลิงมาไหม? คุณมีคุณสมบัติที่อะไรต้องได้สินสอดด้วย พวกเขาหย่ากันแล้ว คือฉันต้องโง่และให้เงินสินสอดกับพวกแกเหรอ เอาเงินคืนมาให้ไว!”“ไม่มีเงิน มีแต่ตัว อยากได้ก็เอาไป”ผู้
รถหรูหลายคันขับมาจากไกลๆ ข้ามทางเข้าวงเวียนของโรงเรียนมัธยมต้นกวนเฉิง แล้วมาจอดที่ทางเข้าร้านหนังสือของไห่ถงคุณยายจ้านที่กำลังคุยกับลุงเจิ้งข้างร้านอยู่ และหันหน้าไปเห็นรถหรูสองสามคัน เธอจึงรีบหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็วและจงใจก้มศีรษะลง เพราะเกรงว่าคนที่ลงจากรถเหล่านั้นจะเห็นเธอ“ไห่ถง ไห่ถง”ทันทีที่ซางเสี่ยวเฟยลงจากรถ เธอก็ตะโกนชื่อไห่ถงและวิ่งเข้าไปในร้านไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณยายจ้านที่นั่งคุยกันอยู่ข้างนอกร้านใกล้ๆคุณท่านซางซึ่งลงจากรถด้านหลังได้ช่วยภรรยาที่ร้องไห้เดินตามลูกสาวเข้าไปในร้าน หลานจิงสั่งให้บอดี้การ์ดเฝ้าประตูก่อนที่จะหันหลังกลับและเข้าไปในร้านนกอินทรีที่ไห่ถงกำลังถักได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้น เมื่อเธอได้ยินเสียงของซางเสี่ยวเฟย เธอก็หยุดงานที่กำทำอยู่และเงยหน้าขึ้นมองที่ซางเสี่ยวเฟย"เสี่ยวเฟยมาแล้วเหรอ กินข้าวหรือยัง? ถ้ายัง..."เมื่อเห็นคุณนายซางได้รับการพยุงมาโดยคุณท่านซาง และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ไห่ถงก็เข้าใจคุณนายซางได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอแล้วเมื่อพิจารณาจากสีหน้าของคุณนายซาง ไม่จำเป็นต้องถามว่าเธอกับคุณนายซางมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันหรือไ
คุณท่านซางและลูกสาวกังวลเกี่ยวกับคุณนายซาง และมีเพียงหลานจิงเท่านั้นที่เอาผลตรวจกลับมาหลานจิงมอบผลตรวจให้กับไห่ถง และได้หยิบผลตรวจดูหลังจากอ่านผลลัพธ์แล้ว เธอก็เงียบไปสักพักก่อนที่จะวางผลตรวจลงบนโต๊ะ“ไห่ถง เธอเป็นหลานสาวของฉัน เรียกฉันว่า 'ป้า' ก็ได้นะ”ชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้เจอน้องสาวอีกแล้ว แต่การได้เจอหลานสาวทั้งสองคนก็ทำให้คุณนายซางสบายใจได้เช่นกันเธอจับมือไห่ถงและขอให้เรียกเธอว่าป้า“ไห่หลิงอยู่ที่ไหน? และหยางหยางล่ะ?”คุณนายซางยังจำหลานสาวอีกคนได้“พี่ฉันจะไม่กลับมาตอนเที่ยง เธอจะไม่กลับมาหลังจากเลิกงานเวลา 5.30 น.”ไห่ถงอธิบายและมองไปที่เซินเสี่ยวจวิน เธออุ้มหยางหยางมาให้ไห่ถง“คุณป้า...”ขณะที่ไห่ถงพูด คุณนายซางก็พูดว่า "ถงถง เรียกฉันว่าป้านะ ป้าฝันที่จะตามหาพวกเธอมาโดยตลอด และในที่สุดก็พบแล้ว อย่าตำหนิป้าเบย"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ไห่ถงก็เปลี่ยนน้ำเสียงและเรียกเธอว่าป้าผลตรวจ DNA ได้พิสูจน์ได้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณนายซางซึ่งเป็นป้าของเธอมันน่าทึ่งเกินไปคุณนายซางได้ยินเธอเรียกว่าคุณป้า และดวงตาของเธอก็แดงก่ำ ซางเสี่ยวเฟยรีบพูดว่า "แม่ อย่าร
เธอเพิ่งตระหนักได้ในภายหลังว่าเธอพลาดเรื่องสนุกๆ ไปเธอบ่นเซินเสี่ยวจวินและ Hai Tongเซินเสี่ยวจวินบอกว่า ได้บอกไห่ถงแล้ว แต่เป็นเพราะไห่ถงคิดว่าเธอเป็นลูกคุณหนู เลยไม่อยากให้เธอเห็นภาพที่น่ากลัวซางเสี่ยวเฟย: เธอมาจากตระกูลเศรษฐีก็ไม่ผิด แต่เธอคือซางเสี่ยวเฟย ชื่อเสียงของเธอในสังคมชนชั้นสูงของกวนเฉิงนั้นไม่ดี และคนอื่น ๆ บอกว่าเธอหยาบคายและไร้เหตุผล ดังนั้นเธอกลัวภาพหยาบแบบไหน?เมื่อเธออารมณ์ไม่ดี ก็สร้างภาพที่หยาบคายได้ด้วยเหมือนกัน“พี่ฉันได้รับทุกสิ่งที่เธอสมควรได้รับแล้ว ซึ่งก็คือค่าตกแต่งบ้านที่พวกตระกูลโจวปฏิเสธที่จะคืนเงิน พี่ฉันจึงขอให้ฉันช่วยเธอหาคนมาทุบบ้านเอาค่าตกแต่งบ้านคืนค่ะ”คุณนายซางอุทานด้วยความชื่นชม "ถูกต้อง จะเสียเปรีบพวกตระกูลโจวไม่ได้"และยังอุทานด้วยความตกใจว่า "ถ้าป้ารู้มาก่อนนะ ป้าจะพาคนกลุ่มหนึ่งมาช่วยพี่เธอเอาค่าตกแต่งบ้านคืน นี่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง"ทันใดนั้นไห่ถงก็รู้สึกว่านิสัยของซางเสี่ยวเฟยได้มาจากแม่ของเธอโดยสมบูรณ์“ถงถง อีกสักพักปิดร้านแล้วกลับบ้านกับพวกเรานะ พวกเราจะไปกินข้าวด้วยกัน แล้วสามีคุณว่างไหม โทรหาเขาด้วย”ไห่ถงพูดว่า “วันนี้สามีข
คนแก่จำนวนมากมีความคิดที่ว่ามรดกมีไว้สำหรับลูกหลานของตัวเอง หากลูกสาวได้แต่งงานออกไป เธอจะกลายเป็นคนของครอบครัวอื่น และไม่ได้รับอนุญาตให้รับมรดกทรัพย์สินของครอบครัวในครอบครัวที่ไม่มีลูกชาย พวกญาติในหมู่บ้านจะคอยดูทรัพย์สินของตระกูลตัวเองรอจนกว่าจะได้ครอบครองหลายคนไม่ต้องการให้ธุรกิจที่หามาอย่างยากลำบาก ส่งต่อให้กับจากบคนนอก ดังนั้นพวกเขาจึงอยากมีลูกชายอย่างยิ่ง“ลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของเธอคือ ไห่จื้อเหวิน?”คุณนายซางประทับใจต่อไห่จื้อเหวิน สาเหตุหลักมาจากครั้งหนึ่งเขาเคยทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงในสาขาของตนเอง ซึ่งทำรายได้นับล้านต่อปีได้รับเงินเดือนสูงจากเธอ แต่ยังรังแกหลานสาวของเธออีก และตั้งใจที่จะยึดทรัพย์สินของน้องสาวของเธอ ความประทับใจของนางซางที่มีต่อไห่จื้อเหวินก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะต้องทำให้ลูกชายคนโปรดอย่างไห่จื้อเหวินตายอย่างเขียด ทำให้เขาแม้แต่จะเป็นขอทานบนถนนก็ยากด้วยซ้ำ“ใช่ค่ะ ปู่ย่าฉันรักเขามากที่สุด พวกเขาคิดว่าเขาประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาหลานๆ พวกเขาจึงให้เขาเข้ามาครอบครองห้องบ้าน เพื่อที่เขาจะได้สืบรับมรดกที่พ่อแม่ของฉันทิ้งไว้”“ตรุษจีนนี้ ฉันกับพี่ก
“ป้ารู้ว่าพวกเธอไม่ใช่คนอันธพาล ก็เลยอยากจะช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องสาวของฉันเอง”ไห่ถงหยุดพูดป้าหลานชายคุยกันตลอดบ่ายเวลา 17.00 น. คุณนายซางยืนกรานที่จะตามไห่ถงไปรับไห่หลิงที่ลู่ซื่อกรุ๊ปไห่ถงทำได้เพียงปล่อยตามใจเธอดังนั้นไห่ถงจึงขับรถอุ้มหยางหยางเอาไว้ และพาคุณนายซางไปที่ลู่ซื่อกรุ๊ปเซินเสี่ยวจวินและป้าเหลียงไม่ได้มาด้วยเมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางของรถ ไห่ถงก็นึกถึงคุณยายจ้านได้เหมือนไม่ได้เจอคุณยายตลอดทั้งบ่ายเลยไห่ถงรีบโทรหาคุณยายจ้านเมื่อคุณยายจ้านรับสาย ไห่ถงก็ถามว่า "บ่ายวันนี้คุณยายหายไปไหนมาคะ?"“ฉันแค่เดินเล่นเฉยๆ เธอจะกลับบ้านจากที่ทำงานหรือเปล่า ตอนนี้ฉันนั่งรถกลับบ้านแล้ว”จริงๆ แล้วคุณยายจ้านอยู่ร้านลุงเจิ้งมาแต่ตลอดแต่ไม่กล้าโผล่หน้าออกไปเพราะกลัวคุณนายซางจะเห็นเข้า“คุณยาย ผลตรวจ DNA ของคุณนายซางและฉันออกมาแล้ว เรามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดกันค่ะ ป้าฉันอยากให้ฉันและพี่ไปทานอาหารที่บ้านของเธอ ตอนนี้ฉันกำลังพาหยางหยางไปรับพี่ คุณยายกับป้าเหลียงจะกลับบ้านก่อนเลยนะคะ”“ถงถง ยินดีด้วยที่ได้พบคุณป้า”คุณยายจ้านแสดงความยินดีกับไห่ถงก่อน และพู
ไห่หลิงไม่จำเป็นต้องมอง ก็อีกฝ่ายก็รู้ว่าเป็นใครเสียงนั้นเธอคุ้นเคยเกินไปนั่นคือโจวหงอิงอดีตพี่สะใภ้สุดแสบของเธอแม่และลูกสาวโจวมาถึงลู่ซื่อกรุ๊ป แต่ไห่หลิงไม่ได้กลับบ้านตอนกลางเพื่อทานอาหาร เพราะอาหารกลางวันมีจัดอยู่ในโรงอาหารของบริษัท และเธอก็นอนบนโต๊ะทำงานในออฟฟิศช่วงพัก และตอนบ่ายเธอทำงานต่อ ซึ่งไม่ออกจากบริษัทเลยแม่และลูกสาวทำได้แค่หลบอยู่ที่ประตูบริษัท โดยนั่งยองๆ ตลอดช่วงบ่ายนั่งยองๆ ด้วยความโกรธมาเป็นเวลานานหลังจากที่เห็นไห่หลิงออกมาในที่สุด ความโกรธของโจวหงอิงก็พุ่งไปสู่จุดสูงสุด โดยไม่สนใจผู้คนที่เข้าออกเป็นจำนวนมาก และตะโกนอย่างเสียงดัง ทำให้ดึงดูดสายตาด้านรอบข้างของผู้คนนับไม่ถ้วนเรื่องแบบนี้มักดึงดูดสายตาอย่างตื่นเต้นแม้ว่าไห่หลิงจะเป็นเพียงเสมียนเล็กๆ ในแผนกการเงิน แต่ก็ถูกคัดเลือกโดยประธานลู่ และมีชื่อเสียงในบริษัทผู้อำนวยการฝ่ายการเงินกังวลเกี่ยวกับสถานะที่ไม่มั่นคงได้ยินมาว่าไห่หลิงเคยทำงานเป็นรองกรรมมาการมาก่อนด้วยเจ้านายของเธอต้องคอยระวังเธอนอกจากนี้ ไห่หลิงยังได้รับคัดเลือกจากประธานลู่เป็นการส่วนตัว และเจ้านายของเธอก็ระวังเธอมากยิ่งขึ้น อาจกล่
มีคนอดไม่ได้ที่จะตอบกลับโจวหงอิง“พอแค่นั้นแหละ ตัวเองก็ยังเป็นผู้หญิง แล้วยังจะพูดแบบนั้นกับไห่หลิงอีก ไห่หลิงทำได้ดีมาก ไห่หลิง พวกเราอยู่ข้างเธอ!”“พี่สะใภ้นิสัยแย่แบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายที่นอกใจ แม้ว่าเขาจะไม่นอกใจ แต่ก็ยังต้องอยู่ห่างจากพวกคนนิสัยแย่แบบนี้”ทุกคนชี้หน้ากล่าวโทษโจวหงอิงทีละคน ทำให้ใบหน้าของเธอแดงด้วยความโกรธคิดว่าจะเป็นไห่หลิงที่ลำบากใจทันใดนั้นเธอก็ผลักมอเตอร์ไซค์ไห่หลิงอย่างแรงยางรถแบน และไห่หลิงพบว่ามันยากที่จะเข็นรถไป ทันใดนั้นโจวหงอิงก็ผลักออก ทำให้ไห่หลิงไม่สามารถยึดรถให้มั่นคงได้ ทำให้ทั้งคนขับและรถล้มลงกับพื้น“เอาเงินคืนมา ปู่ของแกเอาเงินจากแม่ฉันไปและไม่ยอมรับ หลานสาวแบบแกต้องใช้หนี้แทนปู่ เอาคืนเงินให้แม่ของฉันด้วย”โจวหงอิงผลักไห่หลิงและรถลงไปที่พื้น แต่ก็ยังไม่สามารถระบายความโกรธได้ ยังเหวี่ยงกระเป๋าที่เธอถืออยู่และตบไห่หลิง เตะเขาอย่างดุเดือดโดยไม่หยุดไห่หลิงทิ้งรถ ลุกขึ้นมากระชากกระเป๋าของโจวหงอิง แล้วตบโจวหงอิงเธอเก็บกดความไม่พอใจต่อโจวหงอิงมากเกินไป แต่เดิมหย่าไปแล้ว และไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลโจวอีก เธอต้องการลืมครอบครัว โจวที่