โจวหงอิงโทรหาน้องชาย"พี่ ฉันกำลังไป"โจวหงหลินรู้ว่าพ่อแม่แลพี่อยู่ที่นั้นกันหมด เขาจึงรีบตื่นและปลุกเย่เจียนี หลังจากอาบน้ำ ทั้งสองคนก็รีบไปที่หมู่บ้านกวางหมิง"หงหลิน พวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย""พี่ ฉันออกมาแล้ว เดี๋ยวพาไปกินข้าวเช้า"โจวหงอิงพูดว่า "แกไม่ได้อยู่กับเย่เจียนีเหรอ? แกก็ให้เธอเตรียมอาหารเช้าให้พวกเราไม่ได้เหรอ? ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันหลายๆ คน ค่าข้าวคงจะหลายพันนะ"“พี่ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงแรมและยังไม่มีเวลาหาบ้านเลย ที่บ้านฉันตอนนี้มีแต่โครง และก็ทำอาหารเองไม่ได้”ไห่หลิงใช้วิธีการของตัวเองในการเอาค่าปรับปรุงบ้านคืน ตอนนี้ไม่มีทั้งน้ำและไฟฟ้าในบ้านโจวหงหลิน และห้องครัวก็ว่างเปล่า แม้ว่าเย่เจียนีจะเต็มใจทำอาหารให้พวกเขา แต่ก็ไม่มีทางที่จะเอาไปใช้ได้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โจวหงหยิงก็พูดว่า “ไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์พวกเราทุกคนไปหมดแล้ว แกจะติดต่อเธอยังไง หากพวกเราอยากเจอหยางหยางก็เจอไม่ได้?”"หยางหยางมักจะไปอยู่ที่ร้านของไห่ถง สามารถไปหาหยางหยางที่นั่นได้ โดยไม่ต้องติดต่อไห่หลิง"โจวหงหลินไม่สนใจ เรื่องที่จะถูกไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์แม้ว่าไห่หลิงทุบบ
คุณยายจ้านพูดกับตัวเองว่า “ควรเริ่มจากเจ้าสองหรือสาม?”จ้านหยินไม่ตอบ เพื่อไม่ให้คุณยายบอกน้องชายว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้"เจ้าสองแล้วกัน เจ้าสามจะจับคู่กับใครดี?"จ้านหยินยังคงเงียบเขารู้จักหญิงสาวเพียงไม่กี่คน และหากต้องการให้เขาหาภรรยาให้กับอี้เฉิน อี้เฉินไปบวชน่าจะง่ายกว่าคุณยายจ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่า จ้านหยินจะช่วยหาคู่ให้"เข้าไปกัน"จ้านหยินมองไปที่คุณยาย สีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามคุณยายจ้านมีสีหน้าไม่พอใจ “แกกำลังจะเดินทางไปทำงาน ทำไมคุณไม่เข้าไปพูดกับไห่ถงดีๆ หน่อยล่ะ”จะทำอะไรต้องให้เธอบอกก่อนตอนปีนั้น ต้องสอนทุกเรื่องให้กับเจ้าหลานคนนี้ ยกเว้นเรื่องรัก พวกเขาไม่ได้สอน จึงส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคุณยายจ้านคิดว่า การรักใครสักคนเป็นเรื่องสัญชาตญาณและไม่จำเป็นต้องสอนอะไรเธอมีความคิดที่ไร้เดียงสาเกินไปหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า "คุณยายไม่เห็นเหรอว่า เธอช่วยฉันจัดกระเป๋าอยู่?"คุณยายจ้าน "..."หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ไห่ถงก็ตรวจสอบอีกครั้งและตรวจดูให้แน่ใจว่า จ้านหยินมีสิ่งของจำ
หลังอาหารเช้า จ้านหยินได้โอนเงินไปให้ไห่ถง 250,000 บาทไห่ถงเห็นเงินที่เขาโอนมาจึงพูดว่า: "ฉันมีเงินอยู่ค่ะ"บัตร ATM ที่เขามอบให้เธอยังคงมีเงินอยู่“ฉันไปทำงานต่างเมือง ไม่ได้อยู่บ้าน แล้วไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ใกล้ตรุษจีนแล้ว ต้องซื้อของขวัญปีใหญ่อีก ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เงิน ให้เงินคุณไว้หลายๆ แสน เพื่อเอาไปซื้อของขวัญตรุษจีน” เหตุผลของจ้านหยินนั้นหนักแน่นพอ“วันที่ 28 ตามปฏิทินจันทรคติ พวกเราจะกลับบ้านเกิดเพื่อฉลองตรุษจีน ที่บ้านเกิดมีญาติพี่น้องหลายคน และพวกเราต้องให้ของขวัญกับคนที่เด็กกว่า คุณสามารถถามคุณยายว่าจะให้ของขวัญเป็นอะไรและซื้อไว้ล่วงหน้าได้เลย หากเงิน 250,000 บาทนี้ไม่พอ ก็บอกฉันนะ และฉันจะโอนเงินให้คุณอีก”เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ไห่ถงก็ต้องยอมรับเงิน 250,000 จากเขาหลังจากได้รับใบจดทะเบียนสมรสมาเป็นเวลานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดถึงการพาเธอกลับไปบ้านเกิดของเขาก่อนหน้านี้ ตอนที่เจอพ่อแม่ของเขา เขาบอกให้พวกเขาแวะมาหาดวงตาของคุณยายจ้านเป็นประกายวูบวาบ เมื่อได้ยินเขาพูดออกมา แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มเมื่อไห่ถงไปที่ระเบียงเพื่อรดน้ำดอกไม้ คุณ
เมื่อมองเขาสักครู่หนึ่ง ไห่ถงก็โอบคอเขาอย่างช่วยไม่ได้ ดึงหัวลงแล้ว จูบบนริมฝีปากสีแดงหลังจากที่ได้รับการจูบจากภรรยา จ้านหยินก็มีความสุขมาก มือข้างหนึ่งจับกระเป๋าเดินทางและอีกมือหนึ่งจับมือของไห่ถง สองสามีภรรยาก็ออกไปด้วยกันคุณยายจ้านกำลังรอสองสามีภรรยายู่ชั้นล่างคนที่พูดคุยกับคุณยายจ้านคืออาชีวันนั้นเขาช่วยไห่หลิงย้ายบ้าน หลังจากที่ถูกไห่ถงจำได้ อาชีเลยบอกว่าตราบใดที่มีเงินจ้าง เขาสามารถทำงานอะไรก็ได้ ถ้าเขาเจอไห่ถงอีก อาชีไม่ลุกลี้ลุลนแล้วรู้สึกเหมือนเขาได้ผ่านทางที่ยากรำบากมาแล้ว"คุณจ้าน คุณหนูไห่ สวัสดีครับ"อาชีทักทายไห่ถงยิ้มตอบ และถามว่า "คุณแช่อะไรคะ? วันนั้นฉันลืมขอนามบัตรของคุณค่ะ"อาชีเหลือบมองนายน้อยอย่างรวดเร็ว และเห็นว่าสีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง จึงตอบอย่างกล้าหาญว่า "ชื่ออาชีครับ"จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ ไห่ถง จากนั้นพุดว่า "ฉันเพิ่งรู้เมื่อกลับถึงบ้านว่านามบัตรหมดและยังไม่ได้พิมพ์ครับ ฉันจึงเขียนเบอร์โทรศัพท์ของฉันบนกระดาษแทน”ไห่ถงรับเบอร์โทรศัพท์ของเขามา แล้วพูดกับชายที่อยู่ข้างๆ “อาชีบอกว่าเขาทำงานอะไรก็ได้ ฉัน
หลังจากวางสายแล้วจ้านหยินก็สั่งอาชีว่า "ดูแลนายหญิงให้ดีในขณะที่ฉันไม่อยู่บ้าน"“ไม่ต้องห่วงครับ นายน้อย ฉันจะดูแลนายหญิงเป็นอย่างดีแน่นอน”นายหญิงมีทักษะไม่ได้ธรรมดา การปกป้องเธอนั้น เป็นงานที่ง่ายเกินไปโบนัสสองเท่า!อาชีคิดถึงเรื่องนี้ก็มีความสุขแล้วนี่คือข้อดีของการเกาะขาของนายหญิง!“เมื่อนายหญิงประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ ก็ให้บอกคุณยาย เธอจะจัดการให้เอง ไม่ก็บอกนายน้อยสอง”“ไม่ต้องกังวลครับ นายน้อย เมื่อใดก็ตามที่นายหญิงกำลังเผชิญกับเรื่องยากลำบาก คุณยายจ้านจะรู้อย่างแน่นอน”คุณยายจ้านคือเทพเซียน และแม้แต่พวกหลานๆ ก็ไม่สามารถปีนหลุดรอดไปจากสายตาของเธอได้จ้านหยินคิดถึงความสามารถของคุณยายแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกต่อไปเรื่องทำให้จ้านหยินต้องประหลาดใจ เขาเห็นซางเสี่ยวเฟยอยู่ที่ประตูบริษัทซึ่งไม่ได้มารอเขาเป็นระยะสักพักหนึ่งแล้วเธอยืนพิงรถสปอร์ตสีแดงและมองขบวนรถพิเศษของเขาที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้อย่างช้าๆคนขับถามว่า "นายน้อย คุณหนูซางกลับมาอีกแล้วครับ"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็สั่งคนขับว่า "จอดรถข้างหน้าคุณหนูซาง"คนขับและอาชีต่างก็ประหลาดใจมากแม้ว่าคุณหนู
ซางเสี่ยวเฟยยิ้ม แต่ก็ยกมือขึ้นเพื่อมาเช็ดน้ำตาออกจากหางตา และไม่หันกลับจากที่ไกลๆ ก่อนจะที่หันกลับมา เพื่อเผชิญหน้ากับ จ้านหยินอีกครั้ง เธอมีสีหน้าสงบและยิ้มว่า "จ้านหยิน ฉันแค่ได้รับคำนี้จากคุณ ซึ่งมันก็ไม่ไร้ประโยชน์เลยที่ฉันหลงรักคุณมาหลายปีแล้ว"เธอยื่นมือออกมา จ้านหยินก็ยืนมือมาจับมือของเธออ“จ้านหยิน ฉันขอให้คุณและภรรยามีความสุขและรักกันยืนย่ว”“ขอบคุณครับ คุณหนูซาง”“ฉันหวังว่าจะได้เข้าร่วมงานแต่งงานของคุณในอนาคต”หลังจากที่จ้านหยินปล่อยมือออก เขาก็พูดอย่างใจเย็นว่า "เมื่อฉันเลือกวันที่จัดงานแต่งงานกับภรรยาได้ ฉันจะส่งคำเชิญไปให้ประธานซางกับคุณหนูซางอย่างแน่นอน"“ฉันจะรอดื่มไวน์อวยพรในงานแต่งงานของคุณค่ะ”ซางเสี่ยวเฟยยิ้ม "นายน้อยจ้านงานยุ่งมาก ฉันจะไม่รบกวนเวลาอันมีค่าของคุณแล้วค่ะ ลาก่อน"เธอโบกมือให้จ้านหยิน แล้วหันหลังกลับเข้าไปในรถสปอร์ตของเธอจากนั้นขับออกจากจ้านซื่อกรุ๊ปอย่างรวดเร็วลาก่อนชายคนแรกเธอรักอย่างสุดหัวใจในอนาคตเธอจะไม่มาที่นี่อีกหลังจากที่เธอรักษาแผลในใจแล้ว เธอก็อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จ้านหยินกลับมาที่รถ คนขับจึงขับไปอย่างรวดเร็วคนขับคิดว่าทั
“ใช่ เสี่ยวเฟยมีศักดิ์ศรีเช่นกัน ลูกสาวตระกูลซางไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งงาน”คุณนายซางคุ้นเคยกับลูกสาวดีเสี่ยวเฟยบอกว่าจะตัดใจ เธอจะต้องตัดใจได้อย่างแน่นอนเสียงรถดังมาจากข้างนอกหลานจิงยืนขึ้นและเดินออกไป แล้วพูดว่า "ต้องเป็นเสี่ยวเฟยกลับมาแล้วแน่"เธอเดินออกจากบ้านและเห็นน้องสะใภ้ซางเสี่ยวเฟยลงจากรถแล้วเดินไปหาพี่สะใภ้พร้อมรอยยิ้มที่สดใส เธอพูดว่า "พี่ แม่ยังอยู่บ้านหรือเปล่า?"เมื่อเห็นน้องสะใภ้ยิ้มกว้าง หลานจิงก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธออยากเห็นน้องสะใภ้ร้องไห้มากกว่ายิ้มหน้าบานแบบนี้ ยิ่งรอยยิ้มของเสี่ยวเฟยสดใสเท่าไร หัวใจของเสี่ยวเฟยก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้นเห้อการตกหลุมรักผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเองนั้นเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่การที่รู้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งแต่งงานไป กลับยิ่งเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นอีก“คุณแม่ยังอยู่ในบ้าน เสี่ยวเฟยโอเคไหม?”“พี่มองว่าฉันเป็นคนยังไง? ไม่ต้องห่วง ฉันสบายดี แค่ไปบอกลาอดีต”ซางเสี่ยวเฟยพูดเบา ๆ เธอไม่ต้องการพูดถึจ้านหยินมากเกินไป เธอจับแขนพี่สะใภ้อย่างขี้เล่น แล้วพูดว่า "พี่เข้าไปข้างในกันเถอะ"ทันทีที่ซางเสี่ยวเฟยกลับมา คุณนายซางก็ยิ่งกระสับกระส่ายมาก
ไห่ถงยิ้ม "เหมือนที่เสี่ยวเฟยพูด ประธานซูมาจากตระกูลข่าวกรอง เมื่ออยู่กับเขา เธอจะได้รับรู้ข่าววงในก่อนใคร ชีวิตก็จะชีวา ฉันคิดว่า ประธานซูกับเธอเกิดมาคู่กัน และพวกเธอสองคนเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ”เซินเสี่ยวจวิน “......”เธอกำลังมองหาแฟนที่จะแต่งงานหรือเรื่องซุบซิบ?“เธอบอกว่าครอบครัวอดีตแม่สามีของพี่เธอมาที่นี่อีกแล้วเหรอ?”เซินเสี่ยวจวินเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วไม่ต้องการให้เพื่อนพูดซุบซิบ“พี่ฉันและไอ้บ้าโจวหย่ากันแล้ว และบ้านก็เหลือแต่โครง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้พวกเขาต้องเช่าบ้าน หรือพักในโรงแรม ไม่ก็กลับบ้านตัวเองไป แต่จากความเข้าใจของฉันน่ะ ครอบครัวของพวกเขาจะต้องอยู่ในเมืองในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจะไม่กลับไปที่บ้านของพวกเขา”ครอบครัวโจวต้องป่าวประกาศในบ้านเกิดว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปเมืองนี้ในช่วงตรุษจีนดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีบ้านให้อยู่อาศัย แต่ครอบครัวของพวกเขาก็ยังคงเช่าบ้านอยู่ในเมืองในช่วงตรุษจีนแน่นอนไห่ถงอยากเป็นซุนหงอคงจริงๆ จะได้ดึงผมของตัวเองออกมา แล้วแปลงร่างเป็นร่างโคลน เพื่อนั่งยองๆ ที่บ้านของตระกูลโจว และรอดูเรื่องสนุกๆ ของ