“ถงถง ผลทดสอบ DNA ของคุณกับคุณนายซางจะใกล้จะรู้แล้วไหม?”จ้านหยินเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนา และไม่อยากฟังเรื่องซุบซิบของตัวเองอีกเขาเพิ่งแสดงความรักและประกาศลงในโซเชียลมีเดียว่าเขาแต่งงานแล้ว เขาไม่คิดว่าจะทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขนาดนี้ และส่งผลให้ทำให้ภรรยาฟังเรื่องซุบซิบของเขาทั้งวัน"เสี่ยวเฟยจะไปเอาผลแลปพรุ่งนี้"จ้านหยินถอนหายใจแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า "หากผลออกมาว่าคุณและคุณนายซางมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน คุณก็จะต้องได้พบเจอกันอีกแน่นอน ฉันอาจจะไม่สามารถไปตระกูลซางเป็นเพื่อนคุณได้ เพราะพรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานต่างเมือง”ไห่ถงเงยหน้าขึ้นมองเขา "ฉันคิดว่าคุณไม่ไปต่างเมืองแล้ว"จ้านหยินมองเธออย่างเงียบ ๆรู้ว่าเธอหวังให้เขาจากไปอย่างรวดเร็วกลัวมากเธอจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครเมื่อกลับมาจากทำงานต่างเมือง“คุณซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว? เที่ยวบินกี่โมง? ฉันจะไปส่งคุณที่สนามบินค่ะ”“พรุ่งนี้ฉันจะตื่นแต่เช้า มาเพื่อช่วยคุณจัดข้าวของ”ไห่ถงคิดว่าเธอมีน้ำใจมากต่อสามีที่กำลังเดินทางไปทำงาน เธอจึงจัดกระเป๋าเดินทางและพาเขาไปส่งสนามบิน“เที่ยวบินเวลา 10.35 น. ไม่ต้องไปส่งฉันที่สนามบิน ตอนเช้านี้ฉัน
ใครจะคิดว่าบ้านของพวกเขามีอาคารให้เช่ามากมาย และเก็บค่าเช่าแบบผ่อนปรนให้กับคนเช่า?ตระกูลเซินเป็นคนพื้นที่“งั้นให้เสี่ยวจวินกับประธานซูพัฒนาความรู้สึกกันเถอะ ฉันคิดว่าเธอสามารถจุดประกายได้เมื่อเธอได้รู้จักกับประธานซู”หลังจากฟังเรื่องของซูหนานจากเสี่ยวเฟยแล้ว ไห่ถงก็รู้สึกว่าซูหนานและเซินเสี่ยวจวินเป็นคนประเภทเดียวกัน ทั้งคู่ชอบเรื่องสนุกสนานและตื่นเต้น และยังข่าววงในมากมายที่ซูหนานมีอีก“ฉันถามประธานซูแล้ว เขาก็ประทับใจคุณเซินมาก ให้เวลาเขาหน่อยนะ เขาจะลงมือทำแน่ ตอนนี้ใกล้ปีใหม่จีนแล้ว บริษัทกำลังยุ่งกันมากตั้งแต่ระดับเล็กยันใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีตำแหน่งอย่างประธานซู แค่ยุ่งจนถึงก่อนวันหยุดยาวตรุษจีน แล้วเขาก็จะมีเวลาจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง”ในระหว่างที่เขาเดินทางไปทำงานต่างเมือง ซูหนานต้องอยู่ที่บริษัทกับอี้เฉิน ดังนั้นเขาจึงยุ่งมากไห่ถงไม่ต้องการให้เสี่ยวจวินไปแต่งงานไกลๆ ถ้าเสี่ยวจวินได้อยู่กับประธานซู มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับจ้านหยินเช่นกัน และสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวเล็กๆ ของพวกเขาด้วยอืม เธอเหมือนกับขายเพื่อนกินเพื่อความมั่งคั่งสองสามีภรรยาคุยกันเรื่
“ฉันไม่ได้ความจำแย่ขนาดนั้น และยังไม่ใช่ตอนที่ฉันได้รับใบจดทะเบียนสมรสครั้งแรกอีก”ไห่ถงหาว "จ้านยิน ไปนอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณจะไปต่างเมืองอีก ดังนั้นต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ"เธอเงยหน้าขึ้น โน้มตัวลงมาและจูบริมฝีปากของเขาเบาๆ"ที่รัก ฝันดี"จู่ๆ จ้านหยินก็จ้องอยากลึกซึ้ง และเขาก็กอดเอวของไห่ถงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนีเขาไปหลังจากจูบเขาดวงตาสีดำลุกเป็นไฟ ขณะที่จ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธอปกติเธอไม่แต่งหน้า แต่เธอก็ดูแลผิวได้ดีมาก ใบหน้าของเธอให้ความรู้สึกเรียบเนียนเมื่อสัมผัสความงามของเธอเป็นความงามที่เป็นธรรมชาติมากเมื่อจ้านหยินเห็นเธอครั้งแรก เขาก็ยอมรับถึงความสวยองเธอเขาเจอหญิงสาวสวยๆ มาไม่น้อย ดังนั้นเมื่อพบเธอครั้งแรก เขาจึงไม่รู้สึกอะไรมาก"ถงถง เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าอะไรนะ?"เขาเรียกเธอว่าครั้งแรก เธอก็ไม่ค่อยมีปฎิริยาตอบสนองเท่าไหร่จ้านหยินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้คิดว่าคงเป็นเพราะตอนที่ตัวเองโทรหาภรรยา น้ำเสียงที่สื่อออกไปไม่รุนแรงพอและอารมณ์ยังไม่ลึกพอ จึงเรียกไปสองครั้งแล้วก็หยุดเมื่อเธอเรียกเขาว่าที่รัก น้ำเสียงของเธอก็ไหลผ่านหัวใจของเขาร
“ไห่ถง พี่เธออยู่ไหน? บอกให้พี่เธอมารับโทรศัพท์!”แม่โจวเสียงแข็ง แค่ได้ยินก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธ“มีเรื่องอะไรกับพี่ฉ้น? ฉันจำได้ว่าพี่ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวคุณอีกแล้วนะ พูดมามีเรื่องอะไร?”ไห่ถงเบื่อหน่ายเดาว่าแม่โจวมาจากบ้านเกิดและพบว่าบ้านถูกทำลาย เธอจึงโกรธและต้องการด่ากับพี่สาวปฏิกิริยาตอบกลับนั้นถือว่าช้ามากไม่แปลกใจเลยที่แม่โจวเพิ่งรู้เรื่องตอนนี้วันนั้น ไห่หลิงและโจวหงหลินไปหย่ากัน หลังจากดำเนินการหย่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาสูงอายุก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านตัวเองวางแผนไว้ว่าจะย้ายเข้าอยู่ในอีกวันรุ่งขึ้นลูกๆ ของโจวหงอิงไปโรงเรียนเพิ่มอีกหนึ่งวัน เพื่อรับใบคะแนนสอบวันนี้โรงเรียนประถมศึกษาปิดเทอมอย่างเป็นทางการแล้วพ่อและแม่โจวพาลูกของสาวทั้งคนโตและเล็ก เข้าเมืองด้วยรถยนต์ 2 คัน พร้อมกับเอากระเป๋าใบทใหญ่และเล็กมาด้วย โดยที่ตั้งใจจะอยู่ในเมืองช่วงวันตรุษจีนทำไมจึงออกเดินทางแต่เช้าตรู่ เพราะแม่โจวยังมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจอยากจะมาตั้งแต่เช้าๆ เพื่อจะได้ให้เย่เจียนี ทำอาหารเช้าให้กับพวกเขาเย่เจียนีรับช่วงต่อไม่คาดคิด หลังจากขนกระเป๋าใบใหญ่ใบเ
ไห่ถงหัวเราะหึๆ แล้วพูดว่า “โจวหงอิง ไปห้องน้ำนะ แล้วหากะละมังมารองน้ำเอาสิ อ๋อ ไม่สิ ไม่มีก๊อกน้ำแล้ว ตอนนี้พี่ฉันจ่ายเงินค่าทำห้องน้ำไป พวกเราก็เลยทุบมันออมาหมด งั้นคุณช่วยไปฉี่และส่องหน้าตัวเองนะ ว่าหน้าตัวเองด้านแค่ไหน”“พี่ฉันกับน้องชายคุณหย่ากันแล้ว ตอนนี้ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณยังมีหน้ามาขอให้พี่ฉันหาบ้านให้พวกคุณอยู่ทำไมอีก? พี่ฉันทำให้คุณไม่มีบ้านอยู่เหรอ? กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง”“ถ้าตกลงกันได้ และชดเชยเงินให้พี่ฉัน พวกคุณตอนนี้ก็มีที่อยู่แล้ว เฮ้อ วันนี้อากาศหนาวจริงๆ นอนในบ้านที่มีช่องระบายอากาศทั้งสี่ด้าน ฉันสงสัยว่าพวกคุณจะนอนกันยังไง?”"แต่พวกคุณก็หน้าหนากันมากนิ แถมยังมากันหลายคน นอนเบียดๆ กันก็สามารถทนต้านลมหนาวได้แล้ว"“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะวางสายล่ะ ผ้าห่มอุ่นมากฉันคงต้องไปนอนต่อแล้ว ลาก่อน”ไห่ถงพูดจบก็วางสายจากนั้น ก็บล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของแม่โจวเพื่อพวกเขาไม่ยอมแพ้ แล้วยังโทรมาวอแวกับเธออีกหลังจากถูกไห่ถงงตัดสาย โจวหงหยิงก็ด่าสาปด้วยความโกรธ “ไห่ถง ทำให้ฉันโกรธจนอยากจะเป็นบ้า ปากปลาร้าอย่างเธอ ผู้ชายคนนั้นทนเธอได้ยังไง? แม่ จะทำยังไ
พ่อโจวจ้องมองภรรยาด้วยใบหน้าที่มืดมนและถามเธอ "เธอไปหาปู่คนไหนช่วยพูดให้?"“จะมีใครอีกล่ะ ก็ปู่แท้ๆ ของไห่หลิงไง ส่วนย่าของเธอเข้าโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันยังไปเยี่ยมพวกเขาที่โรงพยาบาลแล้วขอร้อง ด้วย หลังจากนั้นผู้เฒ่าไห่ก็พูดขึ้นมา และให้ฉันให้เงินเขา 500,000 บาท แต่ฉันปฏิเสธ หลังจากเจรจาต่อรองแล้วไปแล้ว เขาก็ต้องการเงินเขา 300,000 บาท”“เขารับปากกับฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะพยายามโน้มน้าวใจไห่ถงได้อย่างแน่นอน แต่ไห่ถงไม่ได้บอกกับไห่หลิงไม่ให้หย่า และพวกเขาก็เอาเงินไปแบบฟรีๆ เลย”ทันทีที่แม่โจวพูดจบ พ่อโจวก็ตบเธอและบีบแขนเธออย่างแรง“เธอโง่มากเลยเหรอ คนจากบ้านเกิดของไห่หลิงไว้ใจได้งั้นเหรอ? เรื่องความขัดแย้งระหว่างไห่หลิงกับคนพวกนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ หาใครไม่ไปหาดันไปหาคนพวกนั้น ใช้หัวคิดบ้างหน่อย ต้องบ้าขนาดไหนถึงไปหาคนพวกนั้น”“3 แสน เธอใช้เงินแบบไม่ได้อะไรไปต้อง 3 แสน!”พ่อโจวโกรธภรรยามากจนตาจะถลนออกมาจากเบ้า และถอยากจะเป็นลมแม่โจวพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “แค่คิดว่าไห่ถงพูดด้วยยาก ก็อยากให้ครอบครัวไห่ถงออกหน้าทะเลาะแทน ฉันไม่ต้องทนรับความโกรธของไห่ทง เลยไปหาพวกเขา ผู้เฒ่าไห่บ
โจวหงอิงโทรหาน้องชาย"พี่ ฉันกำลังไป"โจวหงหลินรู้ว่าพ่อแม่แลพี่อยู่ที่นั้นกันหมด เขาจึงรีบตื่นและปลุกเย่เจียนี หลังจากอาบน้ำ ทั้งสองคนก็รีบไปที่หมู่บ้านกวางหมิง"หงหลิน พวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย""พี่ ฉันออกมาแล้ว เดี๋ยวพาไปกินข้าวเช้า"โจวหงอิงพูดว่า "แกไม่ได้อยู่กับเย่เจียนีเหรอ? แกก็ให้เธอเตรียมอาหารเช้าให้พวกเราไม่ได้เหรอ? ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันหลายๆ คน ค่าข้าวคงจะหลายพันนะ"“พี่ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงแรมและยังไม่มีเวลาหาบ้านเลย ที่บ้านฉันตอนนี้มีแต่โครง และก็ทำอาหารเองไม่ได้”ไห่หลิงใช้วิธีการของตัวเองในการเอาค่าปรับปรุงบ้านคืน ตอนนี้ไม่มีทั้งน้ำและไฟฟ้าในบ้านโจวหงหลิน และห้องครัวก็ว่างเปล่า แม้ว่าเย่เจียนีจะเต็มใจทำอาหารให้พวกเขา แต่ก็ไม่มีทางที่จะเอาไปใช้ได้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โจวหงหยิงก็พูดว่า “ไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์พวกเราทุกคนไปหมดแล้ว แกจะติดต่อเธอยังไง หากพวกเราอยากเจอหยางหยางก็เจอไม่ได้?”"หยางหยางมักจะไปอยู่ที่ร้านของไห่ถง สามารถไปหาหยางหยางที่นั่นได้ โดยไม่ต้องติดต่อไห่หลิง"โจวหงหลินไม่สนใจ เรื่องที่จะถูกไห่หลิงบล็อกเบอร์โทรศัพท์แม้ว่าไห่หลิงทุบบ
คุณยายจ้านพูดกับตัวเองว่า “ควรเริ่มจากเจ้าสองหรือสาม?”จ้านหยินไม่ตอบ เพื่อไม่ให้คุณยายบอกน้องชายว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้"เจ้าสองแล้วกัน เจ้าสามจะจับคู่กับใครดี?"จ้านหยินยังคงเงียบเขารู้จักหญิงสาวเพียงไม่กี่คน และหากต้องการให้เขาหาภรรยาให้กับอี้เฉิน อี้เฉินไปบวชน่าจะง่ายกว่าคุณยายจ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่า จ้านหยินจะช่วยหาคู่ให้"เข้าไปกัน"จ้านหยินมองไปที่คุณยาย สีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามคุณยายจ้านมีสีหน้าไม่พอใจ “แกกำลังจะเดินทางไปทำงาน ทำไมคุณไม่เข้าไปพูดกับไห่ถงดีๆ หน่อยล่ะ”จะทำอะไรต้องให้เธอบอกก่อนตอนปีนั้น ต้องสอนทุกเรื่องให้กับเจ้าหลานคนนี้ ยกเว้นเรื่องรัก พวกเขาไม่ได้สอน จึงส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคุณยายจ้านคิดว่า การรักใครสักคนเป็นเรื่องสัญชาตญาณและไม่จำเป็นต้องสอนอะไรเธอมีความคิดที่ไร้เดียงสาเกินไปหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า "คุณยายไม่เห็นเหรอว่า เธอช่วยฉันจัดกระเป๋าอยู่?"คุณยายจ้าน "..."หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ไห่ถงก็ตรวจสอบอีกครั้งและตรวจดูให้แน่ใจว่า จ้านหยินมีสิ่งของจำ
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้