ไห่ถงชี้ไปที่ประตู แล้วพูดเสียงเย็น "ปู่ ประตูร้านอยู่ตรงนั้น กรุณาลุกขึ้น หันกลับแล้วเดินออกไป!""เรื่องของพี่ฉัน ไม่ต้องให้พวกปู่มายุ่ง!""อีกอย่างพวกเขามาหาฉันตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ฉันพูดอะไรไป พวกเขาก็เข้าใจดี ไม่อยากขอโทษด้วยใจจริง แล้วยังเล่นตุกติกด้วยการให้ฉันคืนดีกับพวกปู่ สรุปแล้วใครกันแน่ที่ผิด?"ชายชราไห่เห็นว่าไห่ถงไม่ฟังคำโน้มน้าว ก็พูดกับจ้านหยินอย่างโมโห "ไอ้หนุ่ม เห็นแล้วใช่ไหม มันไม่ให้ครอบครัวช่วยหนุนหลัง ถ้านายอยากจะรังแกเธอยังไงก็ตาม ไม่ต้องห่วงว่าพวกเราจะมาคิดบัญชีกับนาย"จ้านหยินอยากจะจับตาแก่คนนี้โยนออกไปซะจริงไม่เคยเห็นคนเป็นปู่แบบนี้เลยต่อให้จะไม่ชอบหลานสาวตัวเอง ก็ไม่น่าจะพูดจาแบบนี้เขาพูดเสียงเย็น "ผมขอเธอเป็นเมียเพราะอยากจะพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี ไม่ใช่ขอแต่งเข้าบ้านไปรังแก ผู้ชายที่ข่มเหงเมียตัวเองจะเรียกว่าเป็นผู้ชายอยู่หรือไง?""พวกปู่จะกลับไปเองหรือให้ฉันใช้ไม้กวาดไล่ออกไป?"ไห่ถงเองก็โมโหปู่จนเดือดปุดๆแล้วคนพวกนี้มักจะพูดเพียงลมปากว่าอยากคืนดีกับเธอ แต่สิ่งที่ทำ กับคำพูดที่พูดออกมา กลับไม่มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย ก็ยังคิดว่าเธอเป็นฝ
"ทำไมพวกเขาถึงมาพูดแทนพวกสารเลวโจวได้?" เซินเสี่ยวจวินพูดด้วยความสงสัย "ครอบครัวโจวให้ผลประโยชน์กับพวกเขาหรอ?"ไห่ถงแค่นหัวเราะ "พี่ฉันกับโจวหงหลินเซ็นสัญญาหย่ากันใหม่แล้ว อ้างอิงจากข้อตกลงการหย่า โจวหงหลินต้องให้พี่สาวฉันห้าล้านกว่าบาท คิดๆดูแม่โจวคงจะหวงเงินมากล่ะสิ ถึงได้คิดแผนการที่จะให้ปู่ฉันมาช่วยพูดให้"ถึงยังไงถ้าว่ากันในนาม ครอบครัวนั้นก็เป็นญาติแท้ๆของพวกเธอสองพี่น้อง"ไม่รู้ว่าแม่โจวให้เงินปู่ฉันเท่าไหร่? แต่เงินก้อนนั้นก็เหมือนเอาไปทิ้งฟรีๆ ทีปกติเวลารังแกพี่สาวฉันล่ะ ฉลาดเป็นกรด แต่กลับทำเรื่องโง่เง่าแบบนี้ออกมาได้ คงจะร้อนรนจนเสียสติไปแล้วล่ะมั้ง"ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นจะทำแบบนั้นทำไม?"จ้านหยิน ไม่มีอะไรแล้วล่ะ คุณรีบไปทำงานเถอะ"เมื่อพวกปู่กลับ ไห่ถงก็เร่งให้สามีของเธอไปทำงานทันทีจ้านหยินมาที่นี่เป็นเพื่อน ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไห่ถงของเขามีทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ โดยปกติแล้วเขาไม่เคยต้องเสียแรงนายน้อยท่าหนึ่ง หลังจากถูกเมียไล่ จึงออกไปด้วยท่าทางฟึดฟัดจ้านหยินที่กลับมาที่บริษัท ก็โทรหาอาชีเมื่ออาชีดรับสาย เขาก็ออกคำสั่งเสียงต่ำ "อาชี ตอนบ่ายนายเรียกใ
ไห่ถงอุ้มหลานชายที่กำลังหลับสนิท ถามพี่สาวว่า "พี่ กินข้าวมาหรือยัง?""ยัง พอป้อนหยางหยางสร็จ พี่ก็มาเลย ของของพี่ก็เก็บมาเกือบหมดแล้ว หนังสือหย่าได้มาเมื่อไหร่ ถงถง พี่รบกวนเธอขับรถไปช่วยพี่ย้ายของทีนะ""ช่วงเช้าพี่ไปหาบ้านเช่ามาแล้ว อยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอ เดินทางก็สะดวก แค่ยังไม่ได้เก็บกวาดความสะอาด รอพี่ดำเนินเรื่องเสร็จ ค่อยมาทำก็แล้วกัน"ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือทำเอาหนังสือหย่ามาให้ได้ก่อนเดี๋ยวจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นซะก่อน"พี่อยู่กินข้าวที่ร้านฉันก่อน พักสักหน่อย แล้วฉันจะไปส่งพี่ที่ธนาคารรอโจวหงหลิน ฉันไปเป็นเพื่อน รอจนกว่าเขาจะโอนเงินเป็นชื่อพี่ก่อน แล้วฉันค่อยกลับ"ไห่หลิงยังอยากปฏิเสธ แต่คุณยายจ้านพูดว่า "ไห่หลิง ให้ถงถงไปเป็นเพื่อนหนูเถอะ หนูไปคนเดียว พวกเราก็ไม่สบายใจ ครอบครัวนั้นหน้าด้านยิ่งกว่าอะไร ใครจะรู้ว่าจะเล่นตุกติกอะไรอีก"คุณยายจ้านพูดกับไห่ถงอีกว่า "ถงถง รอให้พี่สาวของหนูได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินแล้ว หนูก็ขับรถไปส่งพี่ที่สำนักทะเบียน ป้องกันไอ้แซ่โจวนั่น คนบางคนน่ะมันจิตใจโหดเหี้ยม ขนาดจะหย่าแล้ว ก็ยังทำเรื่องรุนแรงได้อยู่""หนูเป็นมวย ตามไปด้วย หนูสบายใ
คุณยายจ้านเกือบจะสำลักข้าวในปากตายยัยเสี่ยวจวินคนนี้จะให้แม่พริกขี้หนูตระกูลชางออกโรงทำไม?ถ้าซางเสี่ยวเฟยมา แม้แต่หญิงชราอย่างเธอก็ไปร่วมวงด้วยไม่ได้แล้วอีกทั้ง คนที่จ้านหยินส่งมาจะต้องเป็นทีมบอดี้การ์ดของเขาแน่ ซางเสี่ยวเฟยที่เป็นติ่งอันดับหนึ่งของจ้านหยิน ไม่ได้เหมือนไห่ถงที่จะจำหน้าบอดี้การ์ดไม่ได้ ซางเสี่ยวเฟยจำได้แน่ถึงตอนนั้นสถานการณ์คงจบไม่สวยแต่โชคดีที่ คำพูดของไห่ถงทำให้คุณยายจ้านสบายใจได้ไห่ถงว่า "เรื่องหยาบคายแบบนี้ ไม่เรียกเสี่ยวเฟยจะดีกว่า เธอเป็นคุณหนูมีชาติตระกูล คงจะไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ กลัวว่าจะทำเธอตกใจเอา"ซางเสี่ยวเฟย "...คนอย่าซางเสี่ยวเฟยยังมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่เคยเจอ? ฉันใจกล้าบ้าบิ่นมากนะ!"น่าเสียดายที่ลูกพี่ลูกน้องสาวปัดเธอออกไป ไม่ให้เธอเข้าร่วมวงด้วย"ฉันว่าให้มีกันแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ"ไห่ถงพูดแบบนี้ก็เพราะไม่อยากรบกวนพวกพี่น้องของเพื่อนสนิท"ต้องทำเร็วๆ ถ้าช้าเกินไปล่ะก็ คืนนี้คงไม่สามารถรื้อของทุกอย่างไปได้ ถงถง เราสองคนเป็นอะไรกัน เธอไม่ต้องมาเกรงใจฉันหรอก ฉันจะโทรหาญาติพี่ชายฉันเดี๋ยวนี้ พี่ชายฉันรับเหมาก่อสร้าง คนงานพวกนั้นของเขานั่น
ไห่หลิงรู้ว่าน้องสาวหัวเราะอะไร เธอว่า "ไม่ต้องสนใจหรอกว่าพวกนั้นจะเข้ากันได้หรือเปล่า หย่ากันแล้ว พี่กับโจวหงหลินก็ไม่เกี่ยวข้องกันอีก"เงียบไปชั่วอึดใจ เธอก็พูด "พี่เดาว่าคงอยู่กันไม่สงบสุข""แบบนั้นสิดี สมน้ำหน้า!"ไห่ถงยอมรับว่าตัวเองในตอนนี้ใจร้ายนิดหน่อย ตั้งตารอหลังจากที่โจวหงหลินหย่าแล้ว ครอบครัวพวกเขาก็อยู่กันอย่างไม่เป็นสุขหวังว่าเย่เจียนีจะแผลงฤทธิ์ให้เต็มที่หน่อย สร้างความวุ่นวายให้ครอบครัวโจว จัดการกับโจวหงอิงให้ตายไปข้างไห่หลิงไม่ได้รับสายจองโจวหงอิง โจวหงอิงจึงเปลี่ยนมาส่งsmsหาไห่หลิง เพราะในไลน์นั้น ไห่หลิงบล็อคพวกเขาไปหมดแล้ว เหลือไว้แค่โจวหงหลินสำหรับคุยเรื่องหย่าเท่านั้นขอแค่ได้หนังสือหย่ามาเมื่อไหร่ ไลน์ของโจวหงหลินก็จะถูกไห่หลิงบล็อคเข้าบัญชีดำไปร้อยปีไห่หลิงได้รับsmsที่โจวหงอิงส่งมา แล้วก็ลบทิ้งไปทั้งที่ยังไม่ได้อ่านจากนั้นจึงบล็อคเบอร์โทรศัพท์ของโจวหงอิง ไม่อยากได้รับสายโทรเข้าหรือข้อความจากพี่สามีคนนี้อีกอีกไม่นาน โจวหงอิงก็จะไม่ใช่พี่สามีของเธออีกแล้วโทรศัพท์ของไห่ถงก็ดังขึ้นเช่นกัน เธอนึกว่าครอบครัวโจวสารเลวนั่นเห็นว่าพี่สาวไม่รับสาย ก็เลยหันม
แม้นายน้อยท่านหนึ่งจะเคยพูดว่าได้รับการสั่งสอนเรื่องงานบ้านงานเรือนเพื่อการดำรงชีวิต แต่ก็ไม่เคยรับบทเป็นพนักงานทำความสะอาดมาก่อนเมื่อถูกคนเป็นเมียสั่งงาน นอกจากเขาจะไม่โกรธแล้ว ยังเต็มใจอีกด้วย"ได้ ผมเลิกงานแล้วจะไป ถึงตอนนั้นคุณส่งโลเคชั่นบ้านพี่สาวให้ผม อย่าลืมทำอาหารเผื่อผมด้วยล่ะ""อืม""จ้านหยิน ขอบคุณนะคะ"ไห่หลิงขอบคุณต่อน้องเขยถ้าไม่ใช่เพราะมีน้องสาวกับน้องเขยคอยซัพพอร์ตเธออยู่เบื้องหลัง เธอก็คงไม่อาจบรรลุฉันทามติกับโจวหงหลินได้ในระยะเวลาสั้นๆ และหย่าอย่างสันติ"พี่ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจครับ"ถึงอย่างนั้นไห่หลิงก็ตื้นตันมากอยู่ดีพอวางสายไปแล้ว เธอก็พูดตามแพทเทิร์นประจำ "ถงถง จ้านหยินเป็นผู้ชายที่ดีมาก เธอต้องทำดีกับเขานะ""พี่ หูฉันชาจนเหน็บกินแล้ว เลิกพูดซะทีเถอะ"ได้ยินแต่ประโยคนี้ทุกรอบไห่หลิงก็หัวเราะเธอก็แค่พูดไปตามความเคยชินสิบนาทีต่อมา ก็ถึงหน้าธนาคารที่โจวหงหลินบอกโจวหงหลินกับพ่อแม่ของเขาก็อยู่ด้วยคงเพราะโจวหงอิงลางานไม่ได้มั้ง ก็เลยไม่ได้มาเมื่อเห็นไห่หลิงมาถึง แม่โจวก็ยิ้มแย้มต้อนรับราวกับกำลังต้อนรับลูกสะใภ้คนใหม่ก็ไม่ปาน ท
ไม่รู้ว่าเพื่อรักษาเงินห้าล้านกว่าบาทที่ต้องแบ่งให้เธอ แม่โจวควักเงินกี่หมื่นให้ปู่เป็นค่ามาช่วยพูด?ต่ำกว่าแสนห้า เดาว่าปู่ของเธอคงไม่รับปากหรอกมั้งคนพวกนี้ สมควรแล้วไห่ถงยังตั้งตารออย่างชั่วร้ายว่าแม่โจวจะไปเอาเงินคืนจากปู่ จากนั้นทั้งสองครอบครัวบัดซบก็ทำการแหกกันเองอืม เธอร้ายขึ้นเรื่อยๆ คุณจ้านจะรังเกียจเธอไหมนะ?จ้านหยิน "ผมไม่รังเกียจเลย ผมชอบที่คุณเป็นแบบนี้นี่แหละ!""แม่"โจวหงหลินสาวเท้าเข้ามารวดเร็ว ดึงผู้เป็นแม่ออกมา แล้วหันหน้าไปพูดกับพ่อว่า "พ่อ ดูแม่ดีๆหน่อย"แม่โจวสะบัดมือของเขาออก วินาทีต่อมากลับหยิกแขนของเขา ทั้งหยิกทั้งด่า "เพราะแกนั่นแหละไอ้ลูกบ้า ทำลายครอบครัวดีๆจนบ้านแตกสาแหรกขาดหมด"จากนั้น เธอก็หย่อนก้นนั่งลงบนพื้น ทั้งทุบทั้งตีกระเบื้อง และแหกปากร้องไห้ตำหนิลูกชายจนโจวหงหลินยังรู้สึกเอือมระอาที่แม่ของเขาน่าขายหน้าแบบนี้สีหน้าของเขาตอนนี้ดูไม่ได้ทั้งเขียวทั้งแดงพ่อโจวเดินมาประคองภรรยาขึ้น สีหน้าก็ดูไม่ได้เช่นกัน แล้วกล่อมภรรยาว่า "คุณ เลิกโวยวายเถอะ เรื่องนี้มันไม่มีทางย้อนกลับไปได้แล้ว"แล้วเขาก็หันมาพูดกับไห่หลิงซึ่งมองภาพตรงหน้าด้วยความเรี
"ต่อไปถ้าพวกคุณอยากเจอหยางหยาง ก็โทรหาฉัน ฉันจะพาหยางหยางไปส่งที่บ้านพ่อแม่คุณ แต่พวกคุณต้องพาหยางหยางลับมาส่งให้ตรงเวลา"นี่เป็นสิ่งที่ไห่หลิงรับปากกับเย่เจียนีไว้ ว่าจะไม่ใช้เด็กมาเป็นเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ของเย่เจียนีับโจวหงหลินและจะพยายามไม่มาเจอโจวหงหลินหลังจากที่หย่ากันแล้ว"ได้"โจวหงหลินไม่มีข้อโต้แย้ง"ตอนนี้พวกเราไปจัดการเรื่องที่สำนักทะเบียน ฉันลางานมา หลังจากดำเนินงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องกลับบริษัทไปทำงานต่อ"ตอนนี้ในใจของโจวหงหลินก็สงบเช่นกันไห่หลิงกลับมาที่รถของน้องสาว จากนั้นมุ่งหน้าไปที่สำนักทะเบียนพร้อมน้องส่วนโจวหงหลินได้พาพ่อกับแม่มาด้วย โดยขับรถตามหลังรถของไห่ถงตอนอยู่ในรถแม่โจวยังร้องไห้อยู่สักพักซึ่งโดนสามีตำหนิชุดใหญ่ จึงตระหนักได้ว่าไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว แม่โจวก็เช็ดน้ำตา แล้วพูดกับลูกชายว่า "อีกเดี๋ยวพอจัดการเรื่องหย่าเสร็จ แกก็ให้ไห่หลิงกลับไปเก็บข้าวของ แล้วย้ายออกไปซะ อย่าให้อยู่ต่ออีกแม้ต่คืนเดียว""ฉันกับพ่อแกจะกลับบ้านนอกเมืองก่อน เพราะต้องกลับไปเก็บของเหมือนกัน แล้วจะย้ายเข้ามาอยู่กับแก ปีนี้พวกเราอยู่ฉลองตรุษจีนในเม
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้