ไห่ถงเยาะเย้ยอยู่ในใจ กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนองกรรมของปู่กับย่ากำลังจะได้รับแล้ว“ไม่ว่าพวกเขาจะมีเจตนาอะไร พวกเราจะไปกับคุณที่นั่น จะทะเลาะกันก็ต้องผู้ช่วยนะ”คุณยายจ้านยืนกรานที่จะตามไห่ถงไปด้วยไห่ถงอยากจะบอกว่าตัวเธอต่อสู้เก่งมากเช่นกัน แต่เมื่อเธอนึกถึงพวกนิสัยเสียจากบ้านเกิดของเธอที่รวมตัวกันหน้าร้าน ก็ต้องมีการปะทะกัน เธอมีคนน้อยเกินไปที่จะสู้กลับ ดังนั้นเธอจึงไม่ห้ามให้คุณยายจ้านไปกับเธอด้วยเธอได้ยินพี่บอกว่าคุณยายจ้านเก่งมากหลังจากที่ทั้งสามคนกินบะหมี่เสร็จแล้ว ไห่ถงกำลังเก็บชามอยู่ คุณยายจ้านหลือบมองหลานชาย และ จ้านหยินก็ยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ เขาหยิบชามจากมือไห่ถงไปล้างในห้องครัว“ถงถง อย่าทำให้อาจ้านเสียนิสัยเกินไป”คุณยายจ้านสอนไห่ถงว่า "ต้องให้เขาช่วยทำงานบ้าน ครอบครัวนี้เป็นของพวกหลาน และจำเป็นต้องทำงานบ้านด้วยกัน เขาจะเหนื่อยจากงาน หลานก็เหนื่อยเหมือนกีน ออกไปทำงานหาเงินไม่เหนื่อยเหรอ?”“อย่าปล่อยให้เขาเป็นนายท่านตอนอยู่บ้าน หลานควรสั่งให้เขาทำอะไรสักอย่าง เพื่อที่ตัวเองจะได้ผ่อนคลายในอนาคต”“คุณยาย จ้านหยินเก่งมากแล้ว เขาช่วยทำงานบ้านด้วย”พี่เขยของเธ
การพูดคุยจิปาถะของทั้งสองคน จ้านหยินที่อยู่ในห้องครัวก็ยังได้ยินอย่างแจ่มชัดจ้านหยินรู้สึกชินตั้งนานแล้ว กับการที่คุณยายลำเอียงรักไห่ถงมากกว่าคุณยายตั้งตารอคอยหลานสาว รอจนผมขาวไปหมดทั้งหัวแต่สุดท้ายก็ได้แต่หลานชายถึงเก้าคนคุณยายถูกชะตากับไห่ถงมาก หญิงชราเห็นไห่ถงเปรียบเสมือนหลานสาวคนนึงมาตั้งแต่แรก แต่หลังจากนั้นเมื่อคิดได้ว่าถ้าเป็นหลานสาวก็ต้องแต่งให้คนอื่น หญิงชราจึงเปลี่ยนความคิดพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ไห่ถงกลายเป็นหลานสะใภ้ของตัวเอง แบบนี้ก็จะสามารถอยู่ในตระกูลจ้านของพวกเขาได้ตลอดไปจ้านหยินล้างจานชามจนสะอาด แล้วเช็ดเตาแก๊สรอบนึง จนบริเวณเตาแก๊สสะอาดเอี่ยม จากนั้นเขาใช้น้ำยาล้างจานซักผ้าขนหนู แล้วจึงล้างมืออีกหลายรอบ ถึงเดินออกจากห้องครัวไห่ถงลุกขึ้นไปหยิบสูท เสื้อโค้ท และเนคไทให้เขาถึงจะบอกว่าเธอยังช่วยผูกเนคไทให้เขาไม่เป็นนัก แต่ความกระตือรือร้นของเธอ ทำให้จ้านหยินรู้สึกอิ่มใจล้างจานเสร็จ ก็ได้รับการตอบแทนจากสาวงาม จ้านหยินรู้สึกว่ามันคุ้มซะจริงคุณยายจ้านเองก็พอใจกับความกระตือรือร้นที่จะตอบแทนจ้านหยินของไห่ถง แบบนั้นจ้านหยินต้องเสร็จเธอจนราบคาบแน่สองสามีภรร
"ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงและไห่จื้อเหวินเดินเข้ามาพร้อมคุณปู่คนอื่นๆยังอยู่ข้างนอก"นี่น่ะหรอสามีของแก?"ชายชราไห่มองสำรวจจ้านหยินอยู่สักครู่ รู้สึกว่าสามีของไห่ถงดีกว่าสามีของไห่หลิงในขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนที่หลานสาวทั้งสองคนแต่งงานไม่ได้ให้สินสอดกับพวกเขา ต้องเลี้ยงเสียข้าวสุกจนโตแล้วยกให้คนอื่นถ้าลูกชายคนที่สามที่อยู่ในปรโลกรู้เข้า คงโมโหตายพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว แต่พวกเขาที่เป็นปู่กับย่ายังอยู่ สิดสอดก็ต้องมอบให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สองพี่น้องไห่หลิง ยอมทำตามฝั่งบ้านสามี โดยไม่ให้สินสอดเลยสักบาท"หลานเขยของปู่นั่นแหละ เป็นไง? หล่อล่ะสิ?"ไห่ถงเดินไปข้างกายจ้านหยิน มือข้างนึงวางลงบนไหล่ของเขา จงใจถามปู่ว่า "พวกเราสองสามีภรรยาเหมาะสมกันมากใช่ไหมล่ะ"ชายชราไห่ "..."เขาถามคุณยายจ้านขึนอีก "เธอคือ?""ครอบครัวฝั่งเจ้าบ่าว"ที่แท้ก็เป็นคนจากบ้านฝั่งผู้ชายชายชราไห่ถือมอระกู่อยู่ในมือ ก็หยิบยาสูบออกมา จุดไฟสูบสองทีแล้วพูดว่า "ไห่ถงแต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ไม่ได้บอกพวกเรา พวกเราไม่รู้ความเป็นอยู่ของครอบครัวสามีด้วยซ้ำ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน""ได้ยินว่าไห่ถง
ไห่ถงชี้ไปที่ประตู แล้วพูดเสียงเย็น "ปู่ ประตูร้านอยู่ตรงนั้น กรุณาลุกขึ้น หันกลับแล้วเดินออกไป!""เรื่องของพี่ฉัน ไม่ต้องให้พวกปู่มายุ่ง!""อีกอย่างพวกเขามาหาฉันตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ฉันพูดอะไรไป พวกเขาก็เข้าใจดี ไม่อยากขอโทษด้วยใจจริง แล้วยังเล่นตุกติกด้วยการให้ฉันคืนดีกับพวกปู่ สรุปแล้วใครกันแน่ที่ผิด?"ชายชราไห่เห็นว่าไห่ถงไม่ฟังคำโน้มน้าว ก็พูดกับจ้านหยินอย่างโมโห "ไอ้หนุ่ม เห็นแล้วใช่ไหม มันไม่ให้ครอบครัวช่วยหนุนหลัง ถ้านายอยากจะรังแกเธอยังไงก็ตาม ไม่ต้องห่วงว่าพวกเราจะมาคิดบัญชีกับนาย"จ้านหยินอยากจะจับตาแก่คนนี้โยนออกไปซะจริงไม่เคยเห็นคนเป็นปู่แบบนี้เลยต่อให้จะไม่ชอบหลานสาวตัวเอง ก็ไม่น่าจะพูดจาแบบนี้เขาพูดเสียงเย็น "ผมขอเธอเป็นเมียเพราะอยากจะพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี ไม่ใช่ขอแต่งเข้าบ้านไปรังแก ผู้ชายที่ข่มเหงเมียตัวเองจะเรียกว่าเป็นผู้ชายอยู่หรือไง?""พวกปู่จะกลับไปเองหรือให้ฉันใช้ไม้กวาดไล่ออกไป?"ไห่ถงเองก็โมโหปู่จนเดือดปุดๆแล้วคนพวกนี้มักจะพูดเพียงลมปากว่าอยากคืนดีกับเธอ แต่สิ่งที่ทำ กับคำพูดที่พูดออกมา กลับไม่มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย ก็ยังคิดว่าเธอเป็นฝ
"ทำไมพวกเขาถึงมาพูดแทนพวกสารเลวโจวได้?" เซินเสี่ยวจวินพูดด้วยความสงสัย "ครอบครัวโจวให้ผลประโยชน์กับพวกเขาหรอ?"ไห่ถงแค่นหัวเราะ "พี่ฉันกับโจวหงหลินเซ็นสัญญาหย่ากันใหม่แล้ว อ้างอิงจากข้อตกลงการหย่า โจวหงหลินต้องให้พี่สาวฉันห้าล้านกว่าบาท คิดๆดูแม่โจวคงจะหวงเงินมากล่ะสิ ถึงได้คิดแผนการที่จะให้ปู่ฉันมาช่วยพูดให้"ถึงยังไงถ้าว่ากันในนาม ครอบครัวนั้นก็เป็นญาติแท้ๆของพวกเธอสองพี่น้อง"ไม่รู้ว่าแม่โจวให้เงินปู่ฉันเท่าไหร่? แต่เงินก้อนนั้นก็เหมือนเอาไปทิ้งฟรีๆ ทีปกติเวลารังแกพี่สาวฉันล่ะ ฉลาดเป็นกรด แต่กลับทำเรื่องโง่เง่าแบบนี้ออกมาได้ คงจะร้อนรนจนเสียสติไปแล้วล่ะมั้ง"ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นจะทำแบบนั้นทำไม?"จ้านหยิน ไม่มีอะไรแล้วล่ะ คุณรีบไปทำงานเถอะ"เมื่อพวกปู่กลับ ไห่ถงก็เร่งให้สามีของเธอไปทำงานทันทีจ้านหยินมาที่นี่เป็นเพื่อน ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไห่ถงของเขามีทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ โดยปกติแล้วเขาไม่เคยต้องเสียแรงนายน้อยท่าหนึ่ง หลังจากถูกเมียไล่ จึงออกไปด้วยท่าทางฟึดฟัดจ้านหยินที่กลับมาที่บริษัท ก็โทรหาอาชีเมื่ออาชีดรับสาย เขาก็ออกคำสั่งเสียงต่ำ "อาชี ตอนบ่ายนายเรียกใ
ไห่ถงอุ้มหลานชายที่กำลังหลับสนิท ถามพี่สาวว่า "พี่ กินข้าวมาหรือยัง?""ยัง พอป้อนหยางหยางสร็จ พี่ก็มาเลย ของของพี่ก็เก็บมาเกือบหมดแล้ว หนังสือหย่าได้มาเมื่อไหร่ ถงถง พี่รบกวนเธอขับรถไปช่วยพี่ย้ายของทีนะ""ช่วงเช้าพี่ไปหาบ้านเช่ามาแล้ว อยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอ เดินทางก็สะดวก แค่ยังไม่ได้เก็บกวาดความสะอาด รอพี่ดำเนินเรื่องเสร็จ ค่อยมาทำก็แล้วกัน"ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือทำเอาหนังสือหย่ามาให้ได้ก่อนเดี๋ยวจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นซะก่อน"พี่อยู่กินข้าวที่ร้านฉันก่อน พักสักหน่อย แล้วฉันจะไปส่งพี่ที่ธนาคารรอโจวหงหลิน ฉันไปเป็นเพื่อน รอจนกว่าเขาจะโอนเงินเป็นชื่อพี่ก่อน แล้วฉันค่อยกลับ"ไห่หลิงยังอยากปฏิเสธ แต่คุณยายจ้านพูดว่า "ไห่หลิง ให้ถงถงไปเป็นเพื่อนหนูเถอะ หนูไปคนเดียว พวกเราก็ไม่สบายใจ ครอบครัวนั้นหน้าด้านยิ่งกว่าอะไร ใครจะรู้ว่าจะเล่นตุกติกอะไรอีก"คุณยายจ้านพูดกับไห่ถงอีกว่า "ถงถง รอให้พี่สาวของหนูได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินแล้ว หนูก็ขับรถไปส่งพี่ที่สำนักทะเบียน ป้องกันไอ้แซ่โจวนั่น คนบางคนน่ะมันจิตใจโหดเหี้ยม ขนาดจะหย่าแล้ว ก็ยังทำเรื่องรุนแรงได้อยู่""หนูเป็นมวย ตามไปด้วย หนูสบายใ
คุณยายจ้านเกือบจะสำลักข้าวในปากตายยัยเสี่ยวจวินคนนี้จะให้แม่พริกขี้หนูตระกูลชางออกโรงทำไม?ถ้าซางเสี่ยวเฟยมา แม้แต่หญิงชราอย่างเธอก็ไปร่วมวงด้วยไม่ได้แล้วอีกทั้ง คนที่จ้านหยินส่งมาจะต้องเป็นทีมบอดี้การ์ดของเขาแน่ ซางเสี่ยวเฟยที่เป็นติ่งอันดับหนึ่งของจ้านหยิน ไม่ได้เหมือนไห่ถงที่จะจำหน้าบอดี้การ์ดไม่ได้ ซางเสี่ยวเฟยจำได้แน่ถึงตอนนั้นสถานการณ์คงจบไม่สวยแต่โชคดีที่ คำพูดของไห่ถงทำให้คุณยายจ้านสบายใจได้ไห่ถงว่า "เรื่องหยาบคายแบบนี้ ไม่เรียกเสี่ยวเฟยจะดีกว่า เธอเป็นคุณหนูมีชาติตระกูล คงจะไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ กลัวว่าจะทำเธอตกใจเอา"ซางเสี่ยวเฟย "...คนอย่าซางเสี่ยวเฟยยังมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่เคยเจอ? ฉันใจกล้าบ้าบิ่นมากนะ!"น่าเสียดายที่ลูกพี่ลูกน้องสาวปัดเธอออกไป ไม่ให้เธอเข้าร่วมวงด้วย"ฉันว่าให้มีกันแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ"ไห่ถงพูดแบบนี้ก็เพราะไม่อยากรบกวนพวกพี่น้องของเพื่อนสนิท"ต้องทำเร็วๆ ถ้าช้าเกินไปล่ะก็ คืนนี้คงไม่สามารถรื้อของทุกอย่างไปได้ ถงถง เราสองคนเป็นอะไรกัน เธอไม่ต้องมาเกรงใจฉันหรอก ฉันจะโทรหาญาติพี่ชายฉันเดี๋ยวนี้ พี่ชายฉันรับเหมาก่อสร้าง คนงานพวกนั้นของเขานั่น
ไห่หลิงรู้ว่าน้องสาวหัวเราะอะไร เธอว่า "ไม่ต้องสนใจหรอกว่าพวกนั้นจะเข้ากันได้หรือเปล่า หย่ากันแล้ว พี่กับโจวหงหลินก็ไม่เกี่ยวข้องกันอีก"เงียบไปชั่วอึดใจ เธอก็พูด "พี่เดาว่าคงอยู่กันไม่สงบสุข""แบบนั้นสิดี สมน้ำหน้า!"ไห่ถงยอมรับว่าตัวเองในตอนนี้ใจร้ายนิดหน่อย ตั้งตารอหลังจากที่โจวหงหลินหย่าแล้ว ครอบครัวพวกเขาก็อยู่กันอย่างไม่เป็นสุขหวังว่าเย่เจียนีจะแผลงฤทธิ์ให้เต็มที่หน่อย สร้างความวุ่นวายให้ครอบครัวโจว จัดการกับโจวหงอิงให้ตายไปข้างไห่หลิงไม่ได้รับสายจองโจวหงอิง โจวหงอิงจึงเปลี่ยนมาส่งsmsหาไห่หลิง เพราะในไลน์นั้น ไห่หลิงบล็อคพวกเขาไปหมดแล้ว เหลือไว้แค่โจวหงหลินสำหรับคุยเรื่องหย่าเท่านั้นขอแค่ได้หนังสือหย่ามาเมื่อไหร่ ไลน์ของโจวหงหลินก็จะถูกไห่หลิงบล็อคเข้าบัญชีดำไปร้อยปีไห่หลิงได้รับsmsที่โจวหงอิงส่งมา แล้วก็ลบทิ้งไปทั้งที่ยังไม่ได้อ่านจากนั้นจึงบล็อคเบอร์โทรศัพท์ของโจวหงอิง ไม่อยากได้รับสายโทรเข้าหรือข้อความจากพี่สามีคนนี้อีกอีกไม่นาน โจวหงอิงก็จะไม่ใช่พี่สามีของเธออีกแล้วโทรศัพท์ของไห่ถงก็ดังขึ้นเช่นกัน เธอนึกว่าครอบครัวโจวสารเลวนั่นเห็นว่าพี่สาวไม่รับสาย ก็เลยหันม