ทั้งคู่หยอกล้อเล่นกันระหว่างรับประทานอาหารเย็น จ้านหยินเองก็ให้ความสำคัญกับไห่ถงมากไห่ถงค่อนข้างตะลึงเมื่อเขาเอาใจเธอมากขนาดนี้ขณะเดียวกัน เธอก็คิดกับตัวเอง: สามีที่ดีจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจากมือของตัวเองจริงๆเธอหวังว่าสามีที่เธอฝึกมาจะไม่ถูกคนอื่นแย่งไปหลังอาหารเย็น ทั้งคู่ไปเยี่ยมบ้านพี่สาวเธอหยางหยางตื่นขึ้นมาแต่ยังคงเกาะแม่ของเขาเหมือนกาว ไม่ยอมเล่นด้วยตัวเองนอกจากไห่ถงแล้ว แม้แต่ป้าเหลียงก็เขาไม่ยอมให้จับเลย“พี่ พรุ่งนี้พี่จะไปทำงานไหม?”ไห่ถงอุ้มหลานชายของเธอแล้วถามพี่สาวไห่หลิงมองไปที่หยางหยาง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมา: "ถงถง ฉันอยากจะลาออกและเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง"ตอนนี้หยางหยางเป็นแบบนี้ และไห่หลิงก็เริ่มกังวลมาก แต่ถ้าเธอลางาน พนักงานใหม่อย่างเธออาจจะตกงานได้หลังจากคิดมาหนึ่งวัน ไห่หลิงก็ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจกับลูกชายของเธอ“พี่ได้คิดแล้วหรือยังว่าจะทำอะไร?”ไห่หลิงพูดอย่างไม่มั่นใจ: “ฉันอยากเปิดร้านอาหารเช้า คิดว่าไหวไหม? นอกจากทำงานกับบริษัทแล้ว ฉันมีทักษะในการทำอาหารอย่างเดียวที่พอใช้ได้ เลยอยากเปิดร้านอาหารเช้า เพราะจะได้ยุ่งแค่เรื่อง
“ถงถง พรุ่งนี้เธอควรไปทำงานและเปิดร้าน เธอไม่จำเป็นต้องมาหรอก ฉันดูแลหยางหยางได้”ไห่ถงไม่สบายใจ“ฉันจะให้ป้าเหลียงมาอยู่ที่นี่”การจ้างป้าเหลียงเดิมทีให้เธอดูแลหยางหยางในระหว่างวัน และดูแลทำความสะอาดบ้านให้เธอและจ้านหยินด้วยไห่หลิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยป้าเหลียงเป็นแม่บ้านที่ได้รับการว่าจ้างจากน้องเขยให้มาช่วยน้องสาว แต่กลับต้องมากลายมาคอยช่วยเรื่องเธอตลอด"พี่ พวกเราเป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยกัน"ไห่ถงไม่ต้องการให้พี่รู้สึกเป็นภาระ "ตราบใดที่พี่กับหยางหยางสบายดี นั่นก็สำคัญกว่าทุกอย่าง"“สำหรับเงินเดือนของป้าเหลียง ตอนนี้เธอจ่ายไปก่อน แล้วฉันจะจ่ายคืนให้เธอเมื่อฉันตั้งตัวได้แล้ว” ไห่หลิงรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากน้องสาว แต่เธอก็รับไม่ได้จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "พี่ พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้ ถงถงกับผมมีรายได้ดี พวกเรายังไม่มีลูก และไม่ต้องรัดเข็มขัด พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเดือนป้าเหลียง พวกเราจะไม่เอาเปรียบเธอ”ไห่หลิงพอใจกับจ้านหยิน น้องเขยของเธอมากขึ้นไปอีกน้องสาวโชคดีกว่าเธอเล็กน้อยจ้านหยินเป็นคนมีความรับผิดชอบหลังสามทุ่ม สองสา
หลังจากปลอบไห่ถงแล้ว คุณยายจ้านก็หาวนอน จึงวางรีโมททีวีลง ยืนขึ้นแล้วพูดกับสองสามีภรรยา: "ฉันจะกลับห้องไปพักผ่อนก่อน ฉันแก่แล้ว อยู่จนดึกดื่นไม่ไหว”หลังจากเดินไปได้สองสามก้าว เธอก็หยุดอีกครั้งและหันหน้าไปถามไห่ตง "ถงถง เธออยากจะเอาหมอนของตัวเองไหม?"ไห่ถงยิ้มและพูด "ไม่ต้องหรอกค่ะ มีหมอนอยู่ในห้องแล้ว"คุณยายจ้านเหลือบมองหลานชายของเธอสองครั้ง โดยไม่พูดอะไร แล้วกลับเข้าไปในห้องเมื่อไห่ถงเข้าไปอาบน้ำ คุณยายก็หลับสนิทแล้ว แถมยังมีเสียงกรนก็ดังจนปวดหูไห่ถง "..."10 นาทีต่อมาไห่ถงสวมชุดนอนเดินออกมาจากห้อง ทันทีที่เธอปิดประตู เธอเห็นสามีสวมชุดนอนโดยเอามือกอดหน้าอกแล้วพิงประตูห้องนอน“ยังไม่นอนอีกเหรอคะ? พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”ไห่ถงแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าล้อเล่นกับเขาและพูดคำหนึ่งอย่างส่งๆไป จากนั้นเดินผ่านเขาและเดินไปที่ห้องพักแขกเมื่อเธอผลักประตูห้องรับรองแขกก็ถึงกับผงะไม่มีผ้าปูที่นอนผ้าห่มหายไปหมอนก็หายไปเหมือนกันเธอซื้อผ้าปูที่นอนมาครบชุดแล้วทำไมมันถึงหายไป?มีขโมยงั้นเหรอ?แต่ขโมยกลับขโมยแค่เครื่องนอนเท่านั้นเธอหันไปมองผู้ชายที่ทำหน้าหยิ่งที่ยืนอยู่ข้างกำแพงอยู่
เธอปีนขึ้นไปบนเตียงของเขา นอนลงอย่างสบาย ๆ แล้วพูดว่า “หลังจากนอนบนเตียงของคุณครั้งหนึ่ง มันจะรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษเสมอ บางทีมันอาจเป็นเพียงจินตนาการของฉันก็ได้”ไห่ถงยิ้มและดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองแล้วพูดว่า "จ้านหยิน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ"ดวงตาสีดำของจ้านหยินกะพริบและจ้องมองเธอเป็นเวลานาน ทันใดนั้น เขาก็ดึงผ้าห่มบนตัวของเธอ และกำลังจะหน้าอกทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วลุกจากเตียง สวมรองเท้าแตะแล้วจากไป"ไห่ถง"จ้านหยินเอื้อมมือออกไปจับเธอ“คือฉัน ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ”ท้องไส้เธออาจจะทำลายบรรยากาศชายหนุ่มพูดอย่างงุนงง: “ห้องนอนของฉันก็มีห้องน้ำ”"แต่ห้องของคุณขาดอะไรบางอย่าง ฉันจะกลับมานอนที่บนเตียงของคุณค่ะ หลังจากใช้ห้องน้ำ ยังไงก็ตาม ฉันยังนอนกับคุณไม่ได้ในตอนนี้"ไห่ถงพูดด้วยความตกใจขณะที่เขาบีบหน้า "รอให้อ้วนอีกหน่อยเถอะ"แม้จ้านหยินจะโง่เขลา แต่ก็เข้าใจจนได้ เขาค่อยๆ ปล่อยมือ ปล่อยให้เธอกลับห้องของเธอหลังจากนั้นไม่นาน ไห่ถงก็แอบกลับเข้าไปในห้องของเขาเธอเห็นจ้านหยินนอนหันหลังให้เธอ กอดหมอน ดูเหมือนหน้าบูดบึ้งไห่ถงลังเล: เธอควรเปลี่ยนไปนอนห้องอื่นหรือเปล่า?ช่า
คุณนายซางรับทิชชู่จากสามีอ เช็ดน้ำตา และในที่สุดก็เริ่มพูด: "หยางหยางคล้ายกับน้องสาวของฉัน แม่ของเขาชื่อไห่หลิง จะดูเหมือนน้องสาวมากกว่าถ้าเธอผอมลงกว่านี้เล็กน้อย""เสี่ยวเฟยรู้สึกใกล้ชิดกับไห่ถงเมื่อแรกพบ ฉันรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อได้พบกับไห่หลิงและลูกชายของเธอ"“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด”“อาเหิง คราวนี้ฉันอาจจะได้พบน้องสาวแล้วจริงๆ...”คุณนายซางนึกถึงน้องสาวที่พลัดพรากไป แล้วจึงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง“แต่เธอไม่อยู่อีกแล้ว เธอตายไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันตามหามานานและไม่พบเธอ เธอไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ฉันจะหาเธอเจอได้อย่างไร?”คุณท่านซางปลอบเธอ “มันก็แค่ความรู้สึกนะ โชคชะตาระหว่างผู้คนมันแปลกประหลาด อย่าเพิ่งร้องไห้เลย พวกเรามาตรวจ DNA กันก่อนเถอะ”หากน้องภรรยาที่หายไปนานของคุณนายซางเสียชีวิตจริง นายท่านซางก็รู้สึกสูญเสียอย่างสุดซึ้งเมื่อเขาพบกับภรรยาของเขาครั้งแรก เธอเป็นเพียงพนักงานของซางซื่อกรุ๊ป และเดิมทีเธอก็ตามหาน้องสาวอยู่แล้วหลายสิบผ่านไปและเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ เธอยังให้ลูกๆ ของเธอช่วยหาน้องสาวต่อไปความพากเพียรและความเชื่อตลอดห
ฉันไม่อยากอาหารน่ะ"“ตลอดทั้งวันไม่ได้กินหรือดื่มน้ำสักนิดเลย คุณไม่รู้เหรอว่าฉันห่วงคุณมากแค่ไหน ลูกๆ ต่างก็เป็นห่วง เจ้าสองรู้ว่าคุณรู้สึกแย่ จึงรีบวิ่งแจ้นกลับบ้านมานิ ”พวกเขามีลูกสามคน คนโตนั้นเป็นผู้ใหญ่และอารมณ์มั่นคง คนที่สองเป็นไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน และคนท้องเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวน ก่อนหน้านี้โลกของเจ้าสามหมุนรอบจ้านหยิน แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้สติกลับคืนมาแล้ว"ถือว่าลดความอ้วนแล้วกัน"คุณนายซางนอนอยู่บนเตียงแล้วพูดว่า "ฉันจะนอนแล้ว"คุณท่านซางปล่อยให้เธออยู่คนเดียวเธอไม่อยากกิน แม้เขาจะป้อนเธอก็ไม่อยากกินนิสัยของเธอหัวรั้นมากลูกสาวก็นิสัยเหมือนเธอแอบชอบจ้านหยินมาหลายปีแล้ว แม้หลายคนจะแนะนำให้ยอมแพ้ แต่เสี่ยวเฟยก็ไม่ตัดใจ ต้องทำให้ถึงที่สุดจนหมดหนทางก่อนเป็นอีกคืนที่ไม่ได้คุยกันวันรุ่งขึ้น เทวดาเสกให้มีฝนตกปรอยๆ ลงมา ทำให้ตอนเช้าเดิมทีที่อากาศเย็นอยู่แล้วกลายเป็นหนาวลงมากกว่าเดิมจ้านหยินตื่นก่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขารู้สึกหนาวตอนดึกมากๆ เธอก็เลยคลานเข้าไปในอ้อมแขนของเขาโดยไม่รู้ตัวและทำเหมือนเขาเป็นฮีทเตอร์ให้ความอบอุ่นเมื่อก้มหน้ามองลงมาข้างๆ กายเข
จ้านหยินถืออาหารเช้าที่อาชีห่อกลับมา เดินมาที่หน้าโต๊ะแล้ววางลง หลักจากครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เดินเข้าครัวไปอีกครั้งเขาต้มน้ำขิงพุทราจีนให่ไห่ถงถ้วยนึง"ฉันก็นึกว่าอาหารเช้าแกเป็นคนทำเองซะอีก ที่ก็แท้ห่อกลับมา"น้ำเสียงกึ่งเย้ยหยันดังขึ้น จ้านหยินไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นคุณยายของเขาเขาไม่หันกลับไป และไม่ต่อปาก"กำลังต้มอะไรอยู่? กลิ่นขิงแรงมาก"คุณยายจ้านเดินเข้ามาในครัว เดินเบียดเข้ามาใกล้หม้อที่แง้มฝาเอาไว้ แล้วปิดฝาให้สนิท"นึกว่าจะพัฒนาฝีมือแล้วซะอีก"หญิงชราบ่นประโยคนึง พร้อมทั้งเหล่มองหลานชายด้วยสายตายี้ แล้วหมุนตัวเดินไปจ้านหยินหน้านิ่วคิ้วขมวด อดแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ "ผมก็พยายามมากแล้ว"เดิมทีเมื่อคืนก็มีโอกาสแท้ๆ ใครจะคิดว่าสวรรค์จะกลั่นแกล้งเขา"เอาชนะใจ เอาชนะใจ สิ่งที่แกต้องเอาชนะก่อนก็คือหัวใจ ไม่เห็นหรอว่าสิบนิ้วของถงถงยังว่างหรองแหรงอยู่?"จ้านหยิน "..."เขาก็พยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจอยู่แหวนน่ะ เขาซื้อเอาไว้สองวงตั้งนานแล้ว วงที่เป็นของเขา ยังใส่อยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ใส่ไว้เพื่อให้ซางเสี่ยวเฟยตัดใจส่วนวงที่เป็นของไห่ถง ก็ยังเก็บเอาไว้ที่เขาอยู่ ยังไ
นายน้อยจ้านโตจนป่านนี้ ยังไม่เคยถูกใครหยิกมาก่อนเลยนะเจ็บชะมัด!"คุณยายตื่นหรือยัง?"ไห่ถงหมุนตัวลงจากเตียงพร้อมถามเขาเธออยากใช้ตอนที่คุณยายยังไม่ตื่น เผ่นกลับห้องตัวเอง"ตื่นแล้ว""ทำไมเช้าขนาดนี้?"ไห่ถงที่เตรียมจะวิ่งก็ชะงักขาทันที "งั้นถ้าฉันออกไปแบบนี้ แล้วคุณยายเห็น...""เราเป็นสามีภรรยากัน"จ้านหยินไม่ชอบที่เธอทำลับๆล่อๆไห่ถงยิ้ม "ก็จริง เราเป็นสามีภรรยากันอย่างเปิดเผยนี่เนอะ คุณยายเห็นก็มีแต่จะดีใจ คนแก่แบบท่านรู้ว่าหลังแต่งงานแล้วเราก็เอาแต่แยกห้องกันมาตลอด ท่านก็เลยเอาแต่คอยพร่ำสอนให้ฉันทำอย่างนั้นอย่างนี้กับคุณ"จ้านหยินมองหน้าเธออย่างหมดคำพูดส่วนคุณยายของเขาเองนั้น เขาก็หมดคำพูดเช่นเดียวกันแน่นอนว่า ความรู้สึกในตอนนี้ส่วนใหญ่คือความซึ้งใจมากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณยายคอยพร่ำบ่น เขาก็คงไม่ขอไห่ถงแต่งงาน"ฉันกลับห้องตัวเองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน วันนี้คุณอยากกินอะไร? เดี๋ยวฉันทำให้""ผมซื้ออาหารเช้ามาแล้ว ไม่ต้องทำ"ไห่ถงมองเขาอีกสองสามที แล้วเดินไปจ้านหยินหน้าบึ้ง ก่อนเธอจะออกไปมีการมองเขาต่ออีกสองสามทีนั่นมันหมายความว่ายังไง?การที่เขาซื้ออาหารเช้าให้เธอ