คุณนายซางงุนงงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "จ้านหยินมีเจ้าของแล้ว?"“เขาแต่งงานแล้วและปฏิบัติต่อภรรยาเป็นอย่างดี เอาใจใส่และปกป้องเธอ พี่ชายเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภรรยาของเขาคือใคร”คุณนายซาง "....ถ้าเข้ามีเจ้าของแล้ว ลูกก็ตัดใจนะ เขาไม่ได้เป็นของลูก แต่มันเป็นความปรารถนาของลูกเองมาโดยตลอด"คุณนายซางชื่นชมจ้านหยินมาก และเธอก็รู้ว่าจ้านหยินไม่ชอบลูกสาวเธอลูกสาวอยากลองดูหากหลังชนกำแพงแล้วก็จะยอมแพ้"คุณแม่ หนูมีข่าวดี"ซางเสี่ยวเฟยไม่ต้องการพูดถึงจ้านหยินกับแม่อีก แค่พูดถึงหนึ่งครั้งก็ทำให้ใจเธอปวดร้าวหนึ่งครั้งชายที่รักมาหลายปี จู่ๆ ก็รู้ว่าเขาก็แต่งงานแล้ว และเธอก็เกือบจะกลายเป็นเมียน้อย และที่เธอปล่อยมือ แล้วบอกว่าไม่เจ็บก็โกหกตอนนี้เธอพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่พูดถึงจ้านหยิน เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวด“เรื่องอะไร? แม่จะถึงบ้านแล้ว รอแม่ถึงบ้านก่อนค่อยคุยกัน?”“หนูคิดว่าสิ่งที่แม่มีความสุขที่ได้ยินตอนนี้ เพราะนี่คือเบาะแสใหม่เกี่ยวกับน้า”แน่นอนว่าสีหน้าของคุณนายซางตึงเครียดขึ้น และถามอย่างประหลาดใจ "เสี่ยวเฟย ลูกเจอเบาะแส? ตอนนี้น้าอยู่ที่ไหน?"“ไห่ถงเพื่อนของหนู ซึ่งเคยข
ถ้าไห่ถงและพี่สาวเป็นหลานสาวของเธอจริงๆ....เมื่อคิดถึงตรงนี้คุณนายซางรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง ที่หลานสาวทั้งสองของเธอต้องทนทุกข์ทรมาน“แม่ใกล้ถึงกลับบ้านแล้ว รอแม่ก่อนนะ แม่จะไปเยี่ยมหยางหยางด้วย”นี่เป็นเบาะแสที่น่าจะมีหวังที่สุด เธอต้องไปดูเด็กคนนั้นว่าเหมือนน้องสาวไหมอย่างเป็นการส่วนตัว......ครอบครัวเริ่น“พ่อแม่ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะไม่เรียกร้องค่าทำขวัญจากไห่ถงแล้ว โอเคไหม?”โจวหงอิงยังคอยกันไม่ให้พ่อแม่ย้ายออกจากบ้านของพวกเขาเมื่อวานนี้ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอกลับมาก็เริ่มเก็บข้าวของ แต่ด้วยเห็นใจเธอที่หลั่งน้ำตาออกมา พวกเขาจึงพักค้างคืนอย่างไม่เต็มใจหลังจากผ่านไปคืนหนึ่ง เธอคิดว่าพ่อแม่ใจเย็นลงแล้วคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังพูดว่าจะย้ายออกอยู่สาเหตุหลักมาจากพ่อโกรธมากเหรินฮุยยังชักชวนอีกว่า "พ่อแม่ หงหยิงพูดถูก แม้ว่าพวกคุณจะย้ายกลับไปก็ไม่มีใครดูแล แล้วพวกเราจะมั่นใจได้อย่างไร? ในฐานะครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน พวกก็มีสนุกสนานได้ครับ "“พ่อ เหรินหมิงรู้ว่าเขาผิด อีกสักพักหงหยิงกับฉันจะพาเขาไปขอโทษหยางหยาง เมื่อวานฉันก็สอนบทเรียนเหรินหมิงแล้ว”พ่อโจวนั่งสูบบุหรี
"พวกแกมาทำไม?"โจวหงอิงถามเธอต้องการหยุดไห่ถงและคนอื่น ๆ ไว้ที่นอกบ้าน แต่น่าเสียดายที่เธออ่อนแอเกินไป จึงไม่สามารถขวางพวกเขาได้สามีของเธอมีท่าทีแตกต่างจากเธอ และเชิญไห่ถงและพรรคพวกเข้าไปในบ้านอย่างสุภาพทันทีที่เหรินหมิงเห็นไห่ถงและพรรคพวก เขาก็จ้องมองด้วยความโกรธแค้นเมื่อพ่อของเขาเห็น เขาก็แข็งไปทั้งตัว“อีกสักจะไปขอโทษอย่างจริงใจ”เหรินฮุยกระซิบกับลูกชาย“คนเหล่านี้ไม่ง่ายเลยที่จะท้าทาย”ถ้าทุบบ้านพวกเขา ก็จะปลอดภัยและไม่เสียหายเมื่อวานเจ้าหน้าที่ของสถานีตํารวจ ไม่ได้เข้าข้างพวกเขาเลยเหรินฮุยกังวลว่าตระกูลจ้านจะมีคนหนุนหลัง เขาจึงยอมรับและเตือนลูกชายให้ขอโทษอย่างจริงใจอันที่จริงแล้ว เหรินฮุยคิดมากไปเอง เจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว และรู้สึกว่าเหรินหมิงโหดเหี้ยมเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่ครอบครัวเหรินถูกทุบตีคุณทำลูกคนอื่นต้องเข้าโรงพยาบาล และยังไม่อยากให้พวกเขาอารมณ์เสียอีก?คนที่ไม่มีลูกอาจไม่รู้สึกโกรธและเสียใจกับพ่อแม่ ในขณะที่คนที่มีลูกจะโกรธเมื่อดูวิดีโอนั้นเหรินหมิงเม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบเหรินหมิงไ
แม่โจวโวยวายออกมา ขยี้ตาเธอ และด่าเหรินหมิง “เหรินหมิง หยางหยางเป็นญาติแก แกกล้าจะตีหยางหยางแรงๆ จะเอาให้ตายเหรอ”“แม่ เหรินหมิงรู้ว่าตัวว่าผิด เขายังเด็กจะเข้าใจอะไรไหม?”โจวหงอิงปกป้องลูกชายและพูดกับไห่ถงว่า "ไห่ถง ที่เหรินหมิงตีหยางหยาง มันเป็นความผิดของเขาจริงๆ เมื่อวานนี้พ่อของเขายังได้ให้บทเรียนกับเขแล้ว และเขาก็รู้ว่ามันผิด อีกสักพักฉันจะพาเขาไปซื้อผลไม้ไปมาเยี่ยมหยางหยางและขอโทษเขา”“ยังไงก็ยังเป็นญาติกัน เรื่องนี้พวกเราจะไม่ถือที่พวกคุณต้องรับผิดชอบที่ทำลายข้าวของในบ้านฉันมากมายขนาดนี้ พวกคุณอย่าถามหาความรับผิดชอบผิดจากลูกชายฉันอีกเลย มันเป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะเล่นกัน แต่ถ้าพวกเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่เข้ามาแทรกแซงจะไม่ดี”“นอกจากนี้ เสี่ยวเป่ายังบอกว่าเป็นหยางหยางที่ตีเขา ดังนั้นเหรินหมิงซึ่งเป็นพี่ชายก็ต้องปกป้องน้องชายของเขาตามสัญชาตญาณ เช่นเดียวกับที่คุณกำลังปกป้องพี่คุณตอนนี้”ไห่ตงเยาะเย้ยและพูดว่า "โจวหงอิง หล่อนตาบอดเหรอ? ใครคือคนที่ลงมือก่อน กล้องวงจรปิดของหล่อนบันทึกภาพไว้หมดแล้ว และมันเห็นความจริงชัดเจน"โจวหงหยิงอึกอักไม่มีประโยชน์ที่จะด่าสาปสามีอีกครั้งในใจ ที่ไม่ไ
เมื่อถูกพ่อของเธอจ้อง เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่ขยิบตาให้น้องชายของเธออย่างสิ้นหวังโจวหงหลินได้รับสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่สาว จึงกระแอมในลำคอ และพูดกับไห่ถงว่า"ไห่ถง แค่ให้พี่ฉันพาเหรินหมิงไปขอโทษก็พอแล้ว ฉันก็เป็นพ่อของหยางหยาง และเป็นหนึ่งในผู้ปกครองของเขา และฉันคิดว่าฉันก็มีอำนาจตัดสินใจด้วย”ไห่ถงโต้กลับ “คุณยังจำได้เหรอว่าคุณเป็นพ่อของหยางหยาง? พ่อของคนอื่น เมื่อรู้ว่าลูกชายของตัวเองถูกรังแก ก็คว้าไม้หน้าไปไปหาอีกฝ่ายเพื่อล้างแค้น”“คุณคนเป็นพ่อยังสงบสติอารมณ์ได้ขนาดนี้ คุณสนิทกับหลานชายมากกว่าลูกชายของคุณใช่ไหม?”หลังจากพูดจบ ไห่ถงพูดกับเหรินฮุยว่า "หยางหยางได้รับการรักษาแล้วจากโรงพยาบาลและได้รับการตรวจร่างกายทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท ฉันได้นำใบเสร็จชำระเงินของโรงพยาบาลมาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้พวกคุณบอกว่าฉันชุบมือเปิบ "“วันนี้ที่ฉันมา เรื่องแรกต้องการให้พวกคุณพาลูกไปขอโทษและสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้หยางหยางอีกในอนาคต เรื่องที่สอง เรื่องค่าทำขวัญจิตใจของหยางหยางได้รับความบอบช้ำ และฉันไม่รู้จะต้องใช้เงินเท่าไหร่เพื่อรักษาบาดแผลทางใจของเขาในอนาคต”“นั่นเป็นเงินที่ยั
เห็นไห่ถงก็โอนเงินให้ลูกสะใภ้ของเขาทันที และพ่อโจวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเงินนั้นมอบให้กับลูกสะใภ้ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ของหลานชาย ไม่ใช่เพื่อคนนอกหากมอบมันให้กับลูกชายเขา มันก็คงจะไปอยู่ในกระเป๋าของลูกสาวเขาแทนหลังจากออกจากบ้านครอบครัวเริ่นแล้ว จ้านเยี่ยนก็ยืนกรานที่จะนั่งรถของพี่ใหญ่หลังจากขึ้นมาในรถแล้ว เขาพูดกับไห่ถง "พี่สะใภ้ เมื่อวานพวกคุณมีเรื่องกันทำไมไม่โทรหาผม? จากพี่น้องทั้งหมดเก้าคน ทำไมผมถึงถูกทิ้งไว้คนเดียว"ไห่ถงหันหน้าไปมองหน้าน้องสามีคนสุดท้องแล้วพูดว่า "เธอยังเป็นเด็ก พวกเราต้องปกป้อเด็กน่ะสิ"".....อันที่จริง ผมก็เป็นเด็กและเหรินหมิงก็เป็นเด็กด้วย ถ้าพวกเราสองคนทะเลาะกัน ก็เป็นเรื่องของเด็กสองคนที่ทะเลาะกัน"“พวกเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซง แค่ปล่อยให้พ่อของเขาลงโทษเขาเอง เธอไม่ได้ยินสิ่งที่ยัยคนไร้สาระคนนั้นพูดออกมาเหรอ เธอยังอยากให้พวกเราจ่ายค่าทำขวัญเขา เแต่เพราะถูกพ่อของเขาตีเอง โจวหงอิงจึงไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยจากพวกเราได้""คุณยายบอกว่า เอาผมแค่มาเพิ่มจำนวนคน"จ้านเยี่ยนเม้มปาก: "ผมเป็นแค่ตัวเสริมจริงๆ"จ้านหยินถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ: "นายต้อ
ไห่ถงรู้สึกหดหู่เมื่อย้อนกลับไปตอนที่เธอยังเป็นนักเรียนมัธยม เธอต้องเรียนหนักเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีในทางกลับกัน พี่น้องของจ้านหยินสามารถเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้อย่างง่ายดาย และสอบเทียบข้ามชั้นเรียนได้หลายปีกอีกด้วย"พี่สะใภ้ อย่าเพิ่งทำหน้าหดหู่เหมือนกำลังสงสัยชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิตสิครับ คนที่ควรจะรู้สึกหดหู่มากที่สุดต้องเป็นผมต่างหาก"ไห่ถงคิดแล้วก็ยอมรับ ตอนนี้จ้านเยี่ยนน่าสงสารที่สุด "จ้านเยี่ยน เธอนี่ช่างน่าสงสารริงๆ อย่าท้อแท้ไปเลยนะ ฉันเชื่อว่าเธอก็สามารถเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้เหมือนกัน สู้ๆ นะ!"“ผมจะต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่พี่ชายเคยเรียนมาก่อน ถ้าทำไม่ได้ ผมจะต้องเรียน... ซ้ำชั้น”ตอนแรกเขาอยากจะบอกว่าถ้าสอบเข้าไม่ได้ เขาจะตบตัวเองสองครั้ง แต่หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะพูดเรื่องทำร้ายตัวเองให้น้อยลงและเปลี่ยนแปลงคำพูดของเขาจ้านหยินหันหน้าไปมองน้องชาย แล้วขับรถต่อไปอย่างตั้งใจ "ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็อย่าเรียกตัวเองว่าน้องชายของฉัน"จ้านเยี่ยน: "......""จ้านหยิน อย่ากดดันจ้านเยี่ยนมากเกินไปสิ""เด็กคนนี้ชอบเล่นวิดีโอเกมและไม่มีความ
คุณยายจ้านปฏิเสธว่าตัวเธอสนุกกับสถานการณ์นี้ไห่ถงนอนไม่หลับทั้งคืนและดื่มกาแฟหนึ่งแก้วไปในตอนเช้า แต่ตอนนี้ก็รู้สึกง่วงนอนเธอพูด: "ฉันจะโทรหาพี่ว่าหยางหยางเป็นยังไงบ้าง?"เมื่อเธอต่อสายโทรศัพท์ เธอก็รู้ว่าซางเสี่ยวเฟยและแม่ของเธอไปเยี่ยมหยางหยางพร้อมของขวัญ แต่ไห่ถงรู้จุดประสงค์หลักของพวกเขา"พี่สาว คุณนายซางพูดอะไรหรือเปล่า?"ไห่ถงยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่สาวของเธอเลย"เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แค่รู้สึกเสียใจกับความโชคร้ายของหยางหยาง เสี่ยวเฟยด่าครอบครอบครัวเริ่นเเกือบครึงชั่วโมง"เพื่อนและครอบครัวสามีของน้องสาวเธอให้การสนับสนุนมากกว่าสามีของเธอและครอบครัวของเขาเอง และนั่นทำให้ไห่หลิงยิ่งรู้สึกเสียใจเธอเสียใจที่หน้ามืดตามัวไปแต่งงานกับโจวหงหลิน ไอ้คนสารเลวคนอย่างโจวหงหลินและเป็นพ่อแบบนี้ จะมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยาง?เมื่อคดีหย่าร้างขึ้นศาล เธอจะแสดงรูปถ่ายให้ผู้พิพากษาเห็นว่าหยางหยางถูกทารุณกรรม โดยมั่นใจว่าผู้พิพากษาจะมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้เธอเพื่อประโยชน์ของหยางหยาง"คุณนายซางดูเหมือน...จะไม่สบาย ใบหน้าของเธอซีดจนน่ากลัว และพวกเขาก็อยู่ได้ไม่นา