เห็นไห่ถงก็โอนเงินให้ลูกสะใภ้ของเขาทันที และพ่อโจวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเงินนั้นมอบให้กับลูกสะใภ้ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ของหลานชาย ไม่ใช่เพื่อคนนอกหากมอบมันให้กับลูกชายเขา มันก็คงจะไปอยู่ในกระเป๋าของลูกสาวเขาแทนหลังจากออกจากบ้านครอบครัวเริ่นแล้ว จ้านเยี่ยนก็ยืนกรานที่จะนั่งรถของพี่ใหญ่หลังจากขึ้นมาในรถแล้ว เขาพูดกับไห่ถง "พี่สะใภ้ เมื่อวานพวกคุณมีเรื่องกันทำไมไม่โทรหาผม? จากพี่น้องทั้งหมดเก้าคน ทำไมผมถึงถูกทิ้งไว้คนเดียว"ไห่ถงหันหน้าไปมองหน้าน้องสามีคนสุดท้องแล้วพูดว่า "เธอยังเป็นเด็ก พวกเราต้องปกป้อเด็กน่ะสิ"".....อันที่จริง ผมก็เป็นเด็กและเหรินหมิงก็เป็นเด็กด้วย ถ้าพวกเราสองคนทะเลาะกัน ก็เป็นเรื่องของเด็กสองคนที่ทะเลาะกัน"“พวกเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซง แค่ปล่อยให้พ่อของเขาลงโทษเขาเอง เธอไม่ได้ยินสิ่งที่ยัยคนไร้สาระคนนั้นพูดออกมาเหรอ เธอยังอยากให้พวกเราจ่ายค่าทำขวัญเขา เแต่เพราะถูกพ่อของเขาตีเอง โจวหงอิงจึงไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยจากพวกเราได้""คุณยายบอกว่า เอาผมแค่มาเพิ่มจำนวนคน"จ้านเยี่ยนเม้มปาก: "ผมเป็นแค่ตัวเสริมจริงๆ"จ้านหยินถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ: "นายต้อ
ไห่ถงรู้สึกหดหู่เมื่อย้อนกลับไปตอนที่เธอยังเป็นนักเรียนมัธยม เธอต้องเรียนหนักเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีในทางกลับกัน พี่น้องของจ้านหยินสามารถเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้อย่างง่ายดาย และสอบเทียบข้ามชั้นเรียนได้หลายปีกอีกด้วย"พี่สะใภ้ อย่าเพิ่งทำหน้าหดหู่เหมือนกำลังสงสัยชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิตสิครับ คนที่ควรจะรู้สึกหดหู่มากที่สุดต้องเป็นผมต่างหาก"ไห่ถงคิดแล้วก็ยอมรับ ตอนนี้จ้านเยี่ยนน่าสงสารที่สุด "จ้านเยี่ยน เธอนี่ช่างน่าสงสารริงๆ อย่าท้อแท้ไปเลยนะ ฉันเชื่อว่าเธอก็สามารถเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้เหมือนกัน สู้ๆ นะ!"“ผมจะต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่พี่ชายเคยเรียนมาก่อน ถ้าทำไม่ได้ ผมจะต้องเรียน... ซ้ำชั้น”ตอนแรกเขาอยากจะบอกว่าถ้าสอบเข้าไม่ได้ เขาจะตบตัวเองสองครั้ง แต่หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะพูดเรื่องทำร้ายตัวเองให้น้อยลงและเปลี่ยนแปลงคำพูดของเขาจ้านหยินหันหน้าไปมองน้องชาย แล้วขับรถต่อไปอย่างตั้งใจ "ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็อย่าเรียกตัวเองว่าน้องชายของฉัน"จ้านเยี่ยน: "......""จ้านหยิน อย่ากดดันจ้านเยี่ยนมากเกินไปสิ""เด็กคนนี้ชอบเล่นวิดีโอเกมและไม่มีความ
คุณยายจ้านปฏิเสธว่าตัวเธอสนุกกับสถานการณ์นี้ไห่ถงนอนไม่หลับทั้งคืนและดื่มกาแฟหนึ่งแก้วไปในตอนเช้า แต่ตอนนี้ก็รู้สึกง่วงนอนเธอพูด: "ฉันจะโทรหาพี่ว่าหยางหยางเป็นยังไงบ้าง?"เมื่อเธอต่อสายโทรศัพท์ เธอก็รู้ว่าซางเสี่ยวเฟยและแม่ของเธอไปเยี่ยมหยางหยางพร้อมของขวัญ แต่ไห่ถงรู้จุดประสงค์หลักของพวกเขา"พี่สาว คุณนายซางพูดอะไรหรือเปล่า?"ไห่ถงยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่สาวของเธอเลย"เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แค่รู้สึกเสียใจกับความโชคร้ายของหยางหยาง เสี่ยวเฟยด่าครอบครอบครัวเริ่นเเกือบครึงชั่วโมง"เพื่อนและครอบครัวสามีของน้องสาวเธอให้การสนับสนุนมากกว่าสามีของเธอและครอบครัวของเขาเอง และนั่นทำให้ไห่หลิงยิ่งรู้สึกเสียใจเธอเสียใจที่หน้ามืดตามัวไปแต่งงานกับโจวหงหลิน ไอ้คนสารเลวคนอย่างโจวหงหลินและเป็นพ่อแบบนี้ จะมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยาง?เมื่อคดีหย่าร้างขึ้นศาล เธอจะแสดงรูปถ่ายให้ผู้พิพากษาเห็นว่าหยางหยางถูกทารุณกรรม โดยมั่นใจว่าผู้พิพากษาจะมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้เธอเพื่อประโยชน์ของหยางหยาง"คุณนายซางดูเหมือน...จะไม่สบาย ใบหน้าของเธอซีดจนน่ากลัว และพวกเขาก็อยู่ได้ไม่นา
จ้านหยินอุ้มไห่ถงกลับมาที่บ้านของพวกเขาทันทีที่ประตูเปิด สุนัขที่เลี้ยงไว้ก็รีบวิ่งเข้ามา"หลีกไป!"จ้านหยินตะโกนออกมาเบาๆ และเจ้าตัวน้อยก็นอนอยู่บนพื้นอย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าเข้าใกล้อีกมันรู้ว่าเจ้านายผู้ชายไม่ชอบมันโชคดีที่ไม่ถูกทำร้าย และอาหารและน้ำก็ไม่ขาดแคลน"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."มือถือของจ้านหยินดังขึ้นเขายังคงอุ้มไห่ถงอยู่และไม่สามารถปล่อยมือเพื่อรับสายได้อีกฝ่ายวางสายไปอย่างรวดเร็วคงเป็นซูหนานที่ทำตามคำสั่งของเขาให้โทรหาทุก ๆ 10 นาที ทำให้เขามีข้ออ้างที่จะออกไปแต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วคุณนายซางและลูกสาวของเธอออกจากบ้านของไห่หลิงไปแล้วเขาอุ้มไห่ถงกลับไปที่ห้องของเธอ วางเธอลง ห่มผ้าให้เธอ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาซูหนาน แล้วพูดเบาๆ: “ซูหนาน ไม่ต้องโทรแล้ว”ไม่ต้องโทรแล้วเหรอ ฉันแค่คิดนายว่าจะใช้ 'ไม้กันหน้า'ซะอีก"ริมฝีปากของจ้านหยินกระตุก“กินข้าวหรือยัง? อยากไปหาอะไรกินด้วยกันไหม?”"ไม่จำเป็น คุณจะไม่ชวนคุณเซินไปทานอาหารเย็นเหรอ?"ซูหนานตอบว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอไม่ตอบรับคำเชิญของฉันล่ะ? นั่นคงจะน่าอายเป็นบ้า พวกเราได้แลกเปลี่ยนไลน์กันแล้ว แต่เธอยังไม่ติดต่
จ้านหยินตอบอย่างดื้อรั้นว่า "ไม่!""ไม่จริงเหรอ?""ไม่!"ไห่ถงยืดหลังตรง พร้อมกับสีหน้าผิดหวัง “ฉันคิดว่าถ้าคุณจะทนไม่ได้ ฉันจะได้ให้ป้าเหลียงไปอยู่บ้านพี่สาวเป็นเพื่อนกับเธอ แล้วฉันจะกลับมาอยู่กับคุณ ในเมื่อคุณไม่ต้องการ ฉันก็จะไปอยู่กับพี่”“อากาศเริ่มหนาวขึ้น ให้ความรู้หมือนหน้าหนาว การที่นอนคนเดียวก็ไม่อุ่น เฮ้อ”จ้านหยิน "..."เธอกำลังบอกเป็นนัยกับเขาหรือเปล่าว่าสิ่งเดียวที่เขาต้องพูดคือเขาทนไม่ได้ที่เธอไม่อยู่ แล้วเธอก็จะนำหมอนและผ้าห่มมาผูกขาดเตียงของเขาหรือเปล่า?ไห่ถงยังคงแสดงสีหน้าผิดหวัง โดยลูบไล้ใบหน้าของจ้านหยินเบา ๆ เลื่อนมือของเธอลงไปที่คอของเขา และในที่สุดก็วางมือไปที่หน้าอก และกอดเขาอีกครั้ง เมื่อจ้านหยินจ้องมองลงไปและมองเธออย่างตั้งใจ เธอก็ดึงมืออันอวดดีของเธอออก“ฉันหิวแล้ว ออกไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะค่ะ มาดูกันว่าสามีจะทำอาหารให้ฉันทานจะอร่อยแค่ไหน”หลังจากหยอกล้อเสร็จ ไห่ถงก็จากไปเธอเดินผ่านจ้านหยินทันใดนั้นจ้านหยินก็หันกลับมาและกอดเอวของเธอจากด้านหลัง“แกล้งฉันแล้วจะหนีไปเหรอ?”เสียงของเขาแหบแห้ง และแขนของเขาที่โอบรอบเอวของเธอก็แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แม้
ทั้งคู่หยอกล้อเล่นกันระหว่างรับประทานอาหารเย็น จ้านหยินเองก็ให้ความสำคัญกับไห่ถงมากไห่ถงค่อนข้างตะลึงเมื่อเขาเอาใจเธอมากขนาดนี้ขณะเดียวกัน เธอก็คิดกับตัวเอง: สามีที่ดีจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจากมือของตัวเองจริงๆเธอหวังว่าสามีที่เธอฝึกมาจะไม่ถูกคนอื่นแย่งไปหลังอาหารเย็น ทั้งคู่ไปเยี่ยมบ้านพี่สาวเธอหยางหยางตื่นขึ้นมาแต่ยังคงเกาะแม่ของเขาเหมือนกาว ไม่ยอมเล่นด้วยตัวเองนอกจากไห่ถงแล้ว แม้แต่ป้าเหลียงก็เขาไม่ยอมให้จับเลย“พี่ พรุ่งนี้พี่จะไปทำงานไหม?”ไห่ถงอุ้มหลานชายของเธอแล้วถามพี่สาวไห่หลิงมองไปที่หยางหยาง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมา: "ถงถง ฉันอยากจะลาออกและเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง"ตอนนี้หยางหยางเป็นแบบนี้ และไห่หลิงก็เริ่มกังวลมาก แต่ถ้าเธอลางาน พนักงานใหม่อย่างเธออาจจะตกงานได้หลังจากคิดมาหนึ่งวัน ไห่หลิงก็ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจกับลูกชายของเธอ“พี่ได้คิดแล้วหรือยังว่าจะทำอะไร?”ไห่หลิงพูดอย่างไม่มั่นใจ: “ฉันอยากเปิดร้านอาหารเช้า คิดว่าไหวไหม? นอกจากทำงานกับบริษัทแล้ว ฉันมีทักษะในการทำอาหารอย่างเดียวที่พอใช้ได้ เลยอยากเปิดร้านอาหารเช้า เพราะจะได้ยุ่งแค่เรื่อง
“ถงถง พรุ่งนี้เธอควรไปทำงานและเปิดร้าน เธอไม่จำเป็นต้องมาหรอก ฉันดูแลหยางหยางได้”ไห่ถงไม่สบายใจ“ฉันจะให้ป้าเหลียงมาอยู่ที่นี่”การจ้างป้าเหลียงเดิมทีให้เธอดูแลหยางหยางในระหว่างวัน และดูแลทำความสะอาดบ้านให้เธอและจ้านหยินด้วยไห่หลิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยป้าเหลียงเป็นแม่บ้านที่ได้รับการว่าจ้างจากน้องเขยให้มาช่วยน้องสาว แต่กลับต้องมากลายมาคอยช่วยเรื่องเธอตลอด"พี่ พวกเราเป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยกัน"ไห่ถงไม่ต้องการให้พี่รู้สึกเป็นภาระ "ตราบใดที่พี่กับหยางหยางสบายดี นั่นก็สำคัญกว่าทุกอย่าง"“สำหรับเงินเดือนของป้าเหลียง ตอนนี้เธอจ่ายไปก่อน แล้วฉันจะจ่ายคืนให้เธอเมื่อฉันตั้งตัวได้แล้ว” ไห่หลิงรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากน้องสาว แต่เธอก็รับไม่ได้จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "พี่ พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้ ถงถงกับผมมีรายได้ดี พวกเรายังไม่มีลูก และไม่ต้องรัดเข็มขัด พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเดือนป้าเหลียง พวกเราจะไม่เอาเปรียบเธอ”ไห่หลิงพอใจกับจ้านหยิน น้องเขยของเธอมากขึ้นไปอีกน้องสาวโชคดีกว่าเธอเล็กน้อยจ้านหยินเป็นคนมีความรับผิดชอบหลังสามทุ่ม สองสา
หลังจากปลอบไห่ถงแล้ว คุณยายจ้านก็หาวนอน จึงวางรีโมททีวีลง ยืนขึ้นแล้วพูดกับสองสามีภรรยา: "ฉันจะกลับห้องไปพักผ่อนก่อน ฉันแก่แล้ว อยู่จนดึกดื่นไม่ไหว”หลังจากเดินไปได้สองสามก้าว เธอก็หยุดอีกครั้งและหันหน้าไปถามไห่ตง "ถงถง เธออยากจะเอาหมอนของตัวเองไหม?"ไห่ถงยิ้มและพูด "ไม่ต้องหรอกค่ะ มีหมอนอยู่ในห้องแล้ว"คุณยายจ้านเหลือบมองหลานชายของเธอสองครั้ง โดยไม่พูดอะไร แล้วกลับเข้าไปในห้องเมื่อไห่ถงเข้าไปอาบน้ำ คุณยายก็หลับสนิทแล้ว แถมยังมีเสียงกรนก็ดังจนปวดหูไห่ถง "..."10 นาทีต่อมาไห่ถงสวมชุดนอนเดินออกมาจากห้อง ทันทีที่เธอปิดประตู เธอเห็นสามีสวมชุดนอนโดยเอามือกอดหน้าอกแล้วพิงประตูห้องนอน“ยังไม่นอนอีกเหรอคะ? พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”ไห่ถงแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าล้อเล่นกับเขาและพูดคำหนึ่งอย่างส่งๆไป จากนั้นเดินผ่านเขาและเดินไปที่ห้องพักแขกเมื่อเธอผลักประตูห้องรับรองแขกก็ถึงกับผงะไม่มีผ้าปูที่นอนผ้าห่มหายไปหมอนก็หายไปเหมือนกันเธอซื้อผ้าปูที่นอนมาครบชุดแล้วทำไมมันถึงหายไป?มีขโมยงั้นเหรอ?แต่ขโมยกลับขโมยแค่เครื่องนอนเท่านั้นเธอหันไปมองผู้ชายที่ทำหน้าหยิ่งที่ยืนอยู่ข้างกำแพงอยู่