แชร์

บทที่ 3

ผู้แต่ง: กู่หลิงเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
"คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ"

ไห่ถงตอบกลับแบบปัดๆ

ถึงแม้ว่าคุณยายจ้านจะดูแลเธอดี แต่ทว่าจ้านหยินเป็นหลานแท้ๆ เธอเป็นเพียงแค่หลานสะใภ้ หากเราทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันจริงๆ ครอบครัวจ้านจะเข้าข้างเธอหรือไม่?

ไม่ใช่ว่าไห่ถงไม่เชื่อ

แต่อาจเหมือนกับพ่อแม่สามีของพี่สาวเธอ

ก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีดูแลพี่สาวดีมาก ดีมากจนทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขาอิจฉาริษยา

หลังจากแต่งงานพวกเขากลับกลายเป็นคนละคน ทุกครั้งที่พี่สาวกับสามีมีปัญหาขัดแข้งกัน แม่สามีจะตั้งใจกล่าวหาว่าเป็นเพราะพี่สาวทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดี

สุดท้ายแล้วลูกชายยังไงก็คือลูกในไส้ของพวกเขา แต่ลูกสะใภ้ก็ยังเป็นคนนอกวันยันค่ำ

"หลานทำงานไปก่อนนะ ยายไม่รบกวนล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นยายจะเรียกอาหยินมารับหลานมาบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน"

"คุณยายคะ หนูปิดร้านดึก น่าจะไม่สะดวกไปทานข้าวเย็นด้วยค่ะ แต่ถ้าเลื่อนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นี้แทนได้ไหมคะ?"

เพราะว่าโรงเรียนจะหยุดสุดสัปดาห์ ร้านหนังสือของพวกเขาต้องพึ่งพาโรงเรียนในการทำรายได้ เมื่อโรงเรียนหยุด ธุรกิจของพวกเขาก็จะซบเซา แล้วบางครั้งอาจจะไม่เปิดร้านเลย เธอจึงมีเวลาว่าง

"ได้จ้ะ"

คุณยายจ้านพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ "งั้นวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ค่อยคุยกันใหม่ หนูรีบไปทำงานเถอะจ้ะ"

หญิงชราวางสายโทรศัพท์ก่อน

ทว่าไห่ถงไม่ได้มุ่งหน้าไปยังร้านขายหนังสือทันที แต่เธอส่งข้อความให้เพื่อนรักเซินเสี่ยวจวิน ว่าเธอจะรีบกลับไปที่ร้านก่อนที่นักเรียนจะเลิกเรียนตอนเที่ยงวัน

หลังจากได้ทำเรื่องสำคัญในชีวิต เธอจำเป็นต้องกลับไปบอกพี่สาวแล้วจึงย้ายออกจากบ้านพี่สาว

10 นาทีต่อมา

ไห่ถงก็มาถึงบ้านพี่สาว

พี่เขยออกไปทำงานแล้ว ส่วนพี่สาวอยู่ที่ระเบียงกำลังตากผ้า เธอเห็นไห่ถงกลับมาบ้านจึงถามด้วยความเป็นห่วง "ถงถงทำไมกลับบ้านมาแล้วล่ะ วันนี้ไม่ไปเปิดร้านเหรอ?"

"เดี๋ยวค่อยกลับไปอีกทีตอนเที่ยงค่ะ ตอนบ่ายร้านยุ่ง หยางหยางยังไม่ตื่นเหรอ?"

โจวหยางเป็นหลานชายของไห่ถง เพิ่งจะอายุ 2 ขวบและเป็นวัยกำลังซุกซน

"ยังไม่ตื่น ถ้าตื่นแล้วบ้านคงไม่เงียบแบบนี้หรอก"

ไห่ถงช่วยพี่สาวตากผ้า และถามถึงเรื่องเมื่อคืน

"ถงถง พี่เขยไม่ใช่อยากให้เธอรีบย้ายออกจากบ้าน ช่วงนี้พี่เขามีเรื่องเครียดหลายเรื่อง และตัวพี่เองก็ไม่มีรายได้"

ไห่หลิงอธิบายแทนสามี

ไห่ถงไม่พูดตอบโต้ ถ้าจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพี่เขยคงใช้วิธีนี้ไล่เธอออกไป

พี่เขยของเธอเป็นผู้จัดการในบริษัทรายได้สูง พี่สาวกับเขาเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยและทำงานในบริษัทเดียวกัน หลังจากแต่งงานพี่เขยพูดกับพี่สาวด้วยความรักว่า "ต่อไปฉันจะดูแลเธอ ให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์"

พี่สาวรู้สึกว่าเธอแต่งงานกับผู้ชายที่เหมาะสมแล้วจึงลาออกจากงานและกลายเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัว หลังจากแต่งงานได้ 1 ปีเธอก็ให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วนใหญ่ เธอต้องเลี้ยงลูกและดูแลงานบ้าน ทำให้พี่สาวยุ่งยากจนไม่มีเวลาแต่งตัวหรือดูแลรูปร่าง และไม่สามารถกลับไปทำงานได้

3 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว พี่สาวของเธอได้เปลี่ยนจากสาวสวยหุ่นดีกลายเป็นสาวรูปร่างอ้วนท้วมและไม่ชอบแต่งตัว

ไห่ถงอายุห่างจากพี่สาว 5 ปี เมื่อเธออายุ 10 ขวบ พ่อและแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอจึงได้อาศัยอยู่กับเพียงพี่สาวสองคน

เงินประกันหลังเกิดอุบัติเหตุรถชนพ่อแม่นั้นเพียงพอให้สองพี่น้องเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แต่ปู่กับย่าและตากับยายแย่งเอาเงินประกันนั้นไปส่วนหนึ่ง ทำให้เงินประกันที่เหลืออยู่ต้องใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์จนถึงเรียนจบมหาวิทยาลัย

เพราะบ้านที่บ้านเกิดถูกปู่กับย่ายึดไว้ ไห่ถงกับพี่สาวต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ จนกระทั่งพี่สาวแต่งงาน ทั้งสองพี่น้องก็ไม่ต้องเช่าบ้านอยู่อีกต่อไปได้

พี่สาวรักไห่ถงมาก เธอตกลงกับพี่เขยก่อนแต่งงานว่าเธอจะให้ไห่ถงอาศัยอยู่กับเธอหลังแต่งงาน แน่นอนว่าพี่เขยตอบตกลงทันที แต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่ชอบที่เธออาศัยอยู่ที่นี่

"พี่คะ หนูขอโทษที่ทำให้พี่ไม่สบายใจ"

"ไม่ใช่แบบนั้น ถงถงอย่าคิดแบบนั้นสิ พ่อแม่ด่วนจากเราเร็วเกินไป พี่คือคนที่เธอพึ่งพาได้"

ไห่ถงรู้สึกซาบซึ้งใจ ในวัยเด็กพี่สาวเป็นที่พึ่งพาของเธอ แต่ตอนนี้เธอต้องการเป็นที่พึ่งพาของพี่สาวบ้าง

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็หยิบใบทะเบียนสมรสออกมา แล้วส่งให้พี่สาวพร้อมพูดว่า "พี่คะ ฉันแต่งงานแล้วและเพิ่งไปรับใบทะเบียนสมรสมา ฉันกลับบ้านมาเพื่อบอกพี่ค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักก็จะไปเก็บของแล้วย้ายของออกจากบ้านหลังนี้ค่ะ"

"เธอแต่งงานแล้ว?"

เสียงของไห่หลิงสูงขึ้นหลายสิบเดซิเบล แทบจะกลายเป็นการกรีดร้องแทน

เธอมองน้องสาวอย่างไม่เชื่อแล้วรีบคว้าใบทะเบียนสมรสมาเปิดดู พบว่าเป็นรูปแต่งงานของน้องสาวกับชายแปลกหน้าจริงๆ

"ไห่ถง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนนี่นา?"

ผู้ชายในทะเบียนสมรสหน้าตาดี แต่ดวงตาคมกริบและสีหน้าเย็นชาเกินไป เมื่อมองแวบแรก เขาไม่น่าจะคนที่เข้ากับใครได้ง่ายๆ

ไห่ถงได้เตรียมบทพูดไว้แล้วในระหว่างทางกลับบ้าน โดยพูดทันทีว่า "พี่คะ ฉันมีแฟนและคบกับมานาน เขาชื่อจ้านหยิน แต่งานเขายุ่งมากๆ ทำให้เขาเลยไม่มีเวลากลับบ้านมาหาพี่พร้อมกับฉัน"

"เขาขอฉันแต่งงาน ฉันตกลงทันที พวกเราจึงเดินทางไปสำนักทะเบียนเพื่อจดทะเบียนสมรสกัน เขาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมและดีกับฉันมากจริงๆ พี่สบายใจได้เลยชีวิตหลังแต่งงานต้องมีความสุขแน่นอนค่ะ"

ไห่หลิงยังทำใจยอมรับไม่ได้

ไม่คิดมาก่อนว่าน้องสาวที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ตอนนี้กลับแต่งงานแล้ว

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันกับสามีเมื่อคืน น้องสาวคงได้ยินเข้า ทันทีที่ไห่หลิงนึกถึงมันเธอรู้สึกเจ็บใจจนตาแดง เธอพูดกับน้องสาว "ถงถง พี่บอกสามีว่าเธอได้ช่วยออกเงินค่าอาหาร ดังนั้นเธอสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ"

"ไม่จำเป็นต้องรีบแต่งงาน และไม่ต้องรีบย้ายออกจากบ้าน"

เธอกล้าพูดว่าน้องสาวเธอรู้จักกับแฟนไม่นานนี้ ไม่เช่นนั้นน้องต้องบอกเธอก่อนแล้ว

วันนี้จู่ๆ ก็ไปจดทะเบียนสมรส ไม่ใช่เพราะสามีของเธอไม่พอใจที่น้องสาวอยู่ที่นี่นานเกินไป และเพื่อไม่ให้ชีวิตแต่งงานของเธอมีปัญหา น้องสาวเลยต้องการที่จะรีบร้อนแต่งงาน เพื่อย้ายออกจากบ้าน

ไห่ถงยิ้มปลอบพี่สาว "พี่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่จริงๆ ฉันกับจ้านหยินรักกันจริงๆ และฉันมีความสุขมากๆ พี่ควรมีความสุขมากกว่าฉันสิถึงจะถูกต้อง"

ไห่หลิงกลับน้ำตาไหลไม่หยุด

ไห่ถงทำได้แค่กอดปลอบพี่สาว รอจนพี่สาวหยุดร้องไห้และสงบลง เธอสัญญากับพี่สาวว่า "พี่คะ ฉันจะกลับมาหาบ่อยๆ บ้านที่จ้านหยินซื้อไว้อยู่ที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น ไม่ไกลจากที่นี่ ขี่จักรยานไฟฟ้ามาแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว"

"ฐานะทางบ้านเขาเป็นยังไง"

ทะเบียนสมรสก็จดกันไปแล้ว ไห่หลิงทำได้เพียงแค่ยอมรับและถามถึงสถานการณ์ทางบ้านของน้องเขย

ไห่ถงไม่ค่อยรู้เรื่องบ้านของจ้านหยินเท่าไร แม้ว่าเธอรู้จักกับคุณยายจ้านมา 3 เดือนแล้ว แต่ไม่เคยถามเรื่องเกี่ยวกับทางบ้านเลย บางครั้งคุณยายจ้านก็เล่าให้ฟัง เธอแค่ฟังอย่างผ่านๆ รู้เพียงว่าจ้านหยินเป็นหลานคนโต และมีน้องๆ อีก (รวมลูกพี่ลูกน้อง)

จ้านหยินทำงานให้กับกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกวนเฉิง เขามีรถยนต์มีบ้าน ฐานะทางบ้านไม่ได้แย่ ไห่ถงบอกสิ่งที่เธอรู้แก่พี่สาว

เมื่อพี่สาวได้ฟังว่าน้องเขยซื้อบ้านด้วยเงินสด ไห่หลิงพูดว่า "นั่นคือทรัพย์สินก่อนสมรสของเขา ถงถง เธอขอให้เขาเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินได้ไหม"

หากใบครอบครองทรัพย์สินก็มีชื่อน้องสาว อย่างน้อยก็เป็นหลักประกันได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 4

    "พี่คะ แบบนั้นไม่ได้นะ นั้นเป็นทรัพทย์สินของเขาก่อนแต่งงาน ฉันไม่ได้ออกเงินช่วยซื้อสักบาท แล้วจะให้เขาเพิ่มในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกันอีกได้อย่างไร เรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกนะคะ"เมื่อได้รับใบทะเบียนสมรสมา จ้านหยินก็มอบกุญแจบ้านให้ ทำให้เธอสามารถย้ายเข้าบ้านนั้นได้ทันที ปัญหาเรื่องบ้านก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย แค่นี้ก็ดีมากแล้วเธอจะไม่ขอให้จ้านหยินเพิ่มชื่อเธอในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน ถ้าเขาต้องการเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินเอง เธอก็จะไม่ปฏิเสธในฐานะสามีภรรยาที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไห่หลิงแค่พูดแบบไปนั้น เพราะรู้ว่าน้องสาวพึ่งพาตนเองก่อนและไม่โลภมาก เธอจึงหยุดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้หลังจากที่ถูกพี่สาวสอบถามทุกเรื่องแล้ว ไห่ถงจึงสามารถย้ายออกจากบ้านพี่สาวได้สำเร็จพี่สาวต้องการไปส่งเธอที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่ทันใดนั้นหลานชายโจวหยางตื่นขึ้นพอดี เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้และมองหาแม่ของเขา"พี่คะ พี่ไปดูแลหยางหยางก่อน สัมภาระของฉันไม่เยอะ ฉันไปคนเดียวได้"ไห่หลิงต้องป้อนข้าวลูกชาย เมื่อป้อนข้าวเสร็จแล้วก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันต่อ เพราะสามีตอนเที่ยง

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 5

    จ้านหยินพูดอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ประชุมต่อไป"คนที่สนิทกับเขามากที่สุดคือลูกพี่ลูกน้องคนโตของเขา และเป็นนายน้อยคนที่สองของตระกูลจ้าน ชื่อ จ้านอี้เฉินจ้านอี้เฉินเข้ามา กระซิบถามว่า "พี่ใหญ่ ผมได้ยินที่คุณยายพูดกับพี่แล้ว พี่แต่งงานกับคนที่ชื่อถงอะไรสักอย่างจริงๆ เหรอ"จ้านหยินมองเขาตาขวางจ้านอี้เฉินลูบจมูกและนั่งตัวตรง โดยไม่กล้าถามต่ออีกแต่ก็ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจถึงพี่ชายคนโตอย่างมากแม้ว่าลูกชายหลานชายของตระกูลจ้านไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อยกระดับฐานะของตน แต่พี่ชายคนโตและพี่สะใภ้ไม่ได้มาจากครอบครัวที่ฐานะเหมาะสมกัน เพียงเพราะคุณยายชอบผู้หญิงที่ชื่อไห่ถง จึงต้องการให้พี่ชายคนโตแต่งงาน พี่ชายคนโตน่าสงสารจริง ๆจ้านอี้เฉินยังคงส่งความเห็นอกเห็นใจแก่พี่ชายคนโตอีกครั้งโชคดีที่เขาไม่ใช่หลายชายคนโต มิฉะนั้นคนที่แต่งงานกับผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของคุณยายก็เป็นเขาแล้วไห่ถงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เธอต้องถามให้ชัดเจนว่าบ้านใหม่ของเธออยู่ที่ชั้นไหน และเธอลากกระเป๋าเดินทางและหาบ้านใหม่จนเจอหลังจากเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เธอพบว่าบ้านค่อนข้างใหญ่ ใหญ่กว่าบ้านพี่สาวของเธอและตกแต่งอ

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 6

    ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "ลูกพี่ลูกน้องของเธอมีแฟนแล้ว จะให้ฉันติดต่อเขาด้วยฐานะอะไร? ทะเบียนสมรสก็ได้มาแล้ว เสียใจตอนนี้ก็คงไม่ทัน เธอทำได้แค่ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่าให้พี่สาวฉันรู้ความจริง ฉันกลัวว่าพี่จะเสียใจ"เซินเสี่ยวจวิน “......”เพื่อนสนิทของเธอนั้นช่างกล้าหาญมากจริง ๆ"นางเอกในนิยายล้วนแต่งงานสายไฟแลบกับมหาเศรษฐี ถงถง เธอก็แต่งงานฟ้าสายฟ้าแลบกับมหาเศรษฐีด้วยใช่ไหม?"ทันทีที่พูดจบ ไห่ถงเขกหัวเพื่อนรักแล้วพูดว่า "เธออ่านนิยายในร้านเแล้วเก็บมาฝันกลางวันแล้วล่ะ คิดว่าอยู่ดี ๆ ก็แต่งงานสายฟ้าแลบกับมหาเศรษฐีได้แล้ว เธอคิดว่ามหาเศรษฐีพบได้ทั่วไปเหรอ?"เซินเสี่ยวจวินลูบบริเวณที่โดนเขกหัวและคิดว่าสิ่งที่เพื่อนพูดก็ถูก เธอถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นถามขึ้นว่า "บ้านที่สามีของเธอซื้อไว้อยู่ที่ไหน?""หยวนหมิงฮวา การ์เด้น""ที่นั่นไม่เลวนะ สภาพแวดล้อมที่นั่นดีการคมนาคมก็สะดวกแถมไม่ไกลจากร้านเราด้วย สามีของเธอทํางานบริษัทไหน สามารถซื้อบ้านที่ในเครือกวนเฉิงได้ แล้วยังเป็นที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นอีก แถบนั้นเป็นย่านพักอาศัยของคนรวย รายได้ของเขาสูงมากแน่นอน มีรายได้ต่อเดือนเท่าไร? เธอต้อง

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 7

    หลังจากจ้านหยินขึ้นโรลส์-รอยซ์แล้ว ก็สั่งด้วยทุ้มต่ําว่า "รถตงเฟิงที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่คันนั้น จําได้ให้ช่วยขับไปจอดให้ด้วย"รถคันนั้นเอาไว้หลอกภรรยา แต่ภรรยาเขาชื่ออะไรนะ?"ใช่แล้ว นายหญิงของพวกนายชื่ออะไรนะ?"จ้านหยินขี้เกียจที่จะหยิบใบทะเบียนสมรสออกมาดู โอ้ใช่แล้ว ใบทะเบียนสมรสเขามอบให้คุณยายดูนี่ แต่ดูเหมือนว่าคุณยายยังไม่ได้คืนให้เขา อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่ตัวเขาไม่มีใบทะเบียนสมรสนั้นบอดี้การ์ด "... นายหญิงแซ่ไห่ มีชื่อพยางค์เดียวคือถง ปีนี้อายุ 25 ปี นายน้อยต้องจําให้ได้นะครับ"นายน้อยของพวกเขามีความจําที่ดีเป็นพิเศษ แต่คนที่เขาไม่อยากใส่ใจจํา กลับจําอะไรไม่ได้เลยโดยเฉพาะผู้หญิง เจอกันทุกวันแต่นายน้อยจำว่าใครเป็นใครไม่ได้ด้วยซ้ำ"อืม จำได้แล้ว"จ้านหยินตอบแบบส่ง ๆบอดี้การ์ดฟังได้จากน้ำเสียงที่เขาพูด ครั้งหน้านายน้อยของพวกเขายังจําชื่อนายหญิงไม่ได้แน่นอนจ้านหยินไม่ต้องการให้เรื่องของไห่ถงทำให้เสียสมาธิ ดังนั้นเขาจึงเอนตัวลงบนเบาะรถและหลับตาลงเพื่อพักผ่อนโรงแรมกวนเฉิงอยู่ห่างจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้นขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้นรถหรูจอดเรียงกันอยู่ที่ประตูหน้าของหมิงหยวน

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 8

    จ้านหยินใส่ใจรูปร่างของตัวเองมากและเข้มงวดกับอาหาร เขาจะไม่กินอาหารตามใจปากจนทำให้อ้วนเพราะการลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องง่ายไห่ถงยิ้ม "รูปร่างของคุณดีมากค่ะ คุณจ้าน""งั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนนะคะ"จ้านหยินตอบกลับแค่อืม"ราตรีสวัสดิ์"ไห่ถงบอกราตรีสวัสดิ์กับเขา หันหลังกลับเดินจากไป"รอสักครู่ครับ ไห่ ไห่ถง"จ้านหยินเรียกเธอไว้ไห่ถงหยุด หันหน้ากลับและถามเขาว่า "ยังมีอะไรเหรอคะ?"จ้านหยินมองเธอและพูดว่า "ต่อไปอย่าใส่ชุดนอนออกมา"เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในใต้ชุดนอน เขาสายตาดีเกินไป สิ่งที่ควรดูหรือไม่นั้นก็เห็นหมดแล้วพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ถ้าตัวเขานั้นมองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นล่ะ?เขาไม่อยากให้ร่างกายของภรรยาตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นมองทะลุปุโปร่งไห่ถงหน้าแดงก่ำ รีบวิ่งกลับห้องปิดประตูดังสนั่นจ้านหยิน "..."เขาไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย เธอกลับเขินอายแทนหลังจากนั่งไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็กลับไปที่ห้องนอนหลัก บ้านหลังนี้ถูกซื้อมาแบบกระทันหัน โดยที่เขาได้ซื้อบ้านตัวอย่าง ดังนั้งเพียงแค่ถือกระเป๋าเข้ามาก็พร้อมอยู่แต่เนื่องจากความเร่งรีบ ห้องของเขาก็ยังไม่ได้ทําความสะอาดให้เรี

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 9

    หลังจากทานอิ่มแล้ว จ้านหยินก็หยิบกระเป๋าเงินออกมา เมื่อเปิดดูพบว่าไม่มีเงินสดมากนัก เขาจึงดึงบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาและวางบัตรธนาคารใบนั้นไว้ตรงหน้าไห่ถงไห่ถงเลิกคิ้วมองเขา"คุณจะซื้อของต้องใช้เงิน บัตรธนาคารใบนี้ให้คุณใช้ครับ รหัสผ่านคือ..."เขาหาปากกาและกระดาษมา เขียนรหัสผ่านบนกระดาษแล้วส่งให้ไห่ถง"ต่อไปเงินในบัตรใบนี้จะให้คุณใช้จ่ายในบ้าน ผมก็จะโอนเงินเข้าบัญชีนี้ทุกเดือนพอเงินเดือนออก แต่ต่อไปถ้าคุณซื้ออะไรก็จดลงบัญชีไว้ ผมไม่สนใจว่าคุณใช้เงินเท่าไร แต่ผมต้องทราบว่าคุณจะนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้างครับ"ตอนไปจดทะเบียนสมรสครั้งแรก ไห่ถงเคยถามเขาว่าสามีภรรยาต้องการระบบหารกันหรือไม่ เขาปฏิเสธในเมื่อแต่งงานแล้วเป็นสามีภรรยากันก็เป็นครอบครัวเดียวกัน เขาให้เงินเธอเล็กน้อยเพื่อใช้จ่าย เขาไม่ใส่ใจรื่องเงินเท่าไรยังไงเขาก็มีเงินเยอะจนแม้แต่ตัวเขาเองก็นับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าเขามีทรัพย์สินสุทธิจริง ๆ เท่าไร ปกติงานที่บริษัทยุ่งมาก เขาใช้เงินก็น้อย ดังนั้นการเลี้ยงดูภรรยาก็เท่ากับช่วยเขาใช้เงินได้นิดหน่อยแต่เขาไม่ยอมถูกเอารัดเอาเปรียบ ในความคิดของเขาไห่ถงยังเป็นเหมือนสาวเจ้าเล่ห์ ดังนั้นแน่น

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 10

    ไห่ถงได้เดินทางไปที่บ้านพี่สาวเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในบ้านพบว่าพี่สาวตื่นอยู่ กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัว"พี่คะ""ถงถง มาแล้วเหรอ"ไห่หลิงออกมาจากห้องครัวและเมื่อเห็นน้องสาวจึงความสุขมาก "เธอกินข้าวหรือยัง? พี่กำลังลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ เดี๋ยวตักใส่ชามให้นะ""ไม่ต้องค่ะ ฉันกินมาแล้ว พี่ลวกก๋วยเตี๋ยวหรือยัง ถ้ายังไม่ต้องลวกแล้ว ฉันห่ออาหารเช้ามาให้พี่กับหยางหยางด้วย""ยังจ้ะ เมื่อวานหยางหยางเป็นไข้เมื่อคืนเลยไม่ค่อยได้นอน ตื่นมาตอนเช้าก็สายแล้ว พี่เขยออกไปกินอาหารเช้าข้างนอก แถมยังด่าก่อนออกไปว่าฉันอยู่บ้านทั้งวันไม่ทําอะไรเลยแค่เลี้ยงลูก ไม่มีหัวคิดตื่นมาทำอาหารเช้าให้เขา"ไห่หลิงรู้สึกน้อยใจไห่ถงได้ยินถึงกับโมโห "หยางหยางเป็นไข้ได้ยังไง? ถึงไข้จะลดลงแล้วก็เถอะ พี่ต้องพาไปหาหมอเพื่อป้องกันไว้ก่อนนะ พี่เขยก็เกินไป ลูกป่วยเขาไม่ช่วยแถมยังต้องด่าอีก""พี่ ฉันย้ายออกแล้ว พี่เขยยังยืนยันใช้ระบบหารค่าใช้จ่ายกับพี่อยู่ไหม?"ไห่หลิงนั่งลงบนโซฟา เปิดถ้วยก๋วยเตี๋ยวถางเหอที่น้องสาวเอามาให้ กินไปพลางพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะพาหยางหยางไปหาหมอ เขายังคงยืนยันที่จะใช้ระบบหารค่าใช้จ่ายอยู่ โ

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 11

    "ออกรถ"จ้านหยินด่าไห่ถงในใจเรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรและไม่คิดที่ทำอะไรไห่ถงเป็นภรรยาของเขาแค่ในนาม แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาสองคนไม่แตกต่างจากคนแปลกหน้าคนขับไม่กล้าพูดต่อและได้ขับรถออกไปไห่ถงไม่รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเกือบจะชนรถหรูของสามีเธอแล้ว เธอขี่รถจักรยานไฟฟ้าต่อเพื่อจะได้กลับไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว บ้านของเซินเสี่ยวจวินอยู่ใกล้ ๆ เธอมักจะมาถึงร้านก่อนไห่ถงหนึ่งก้าวเสมอ"ถงถง"หลังจากเสร็จงานแล้ว เสี่ยวจวินมักจะทานอาหารเช้า เมื่อเธอกำลังทานอาหารเช้าอยู่นั้นก็เห็นเพื่อนมาถึง จึงยิ้มและถามว่า "เธอกินข้าวหรือยัง?""กินแล้ว"เสี่ยวจวินส่งเสียงตอบรับและทานอาหารเช้าของเธอต่อ"ฉันซื้อขนมมาฝากเธอสองกล่อง อร่อยมาก เธอลองชิมสิ"เสี่ยวจวินดึงถุงที่บรรจุขนมขึ้นมาหนึ่งถุงและวางไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงินพร้อมพูดกับเพื่อนไห่ถงวางกุญแจรถของรถจักรยานไฟฟ้าไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงิน แล้วนั่งลงทันทีเธอดึงถุงที่บรรจุขนมสองกล่องอย่างไม่เกรงใจ "ขอแค่เป็นของหวาน ฉันก็รู้สึกอร่อยแล้ว เสี่ยวจวิน ระหว่างทางฉันมาทํางาน ฉันเห็นโรลส์-รอยซ์คันหนึ่ง"เซินเสี่ยวจวินร้องโอ้โห "เป็นเรื่องปกติที่จะเห

บทล่าสุด

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1263

    นับตั้งแต่ชีวิตของอดีตสามีของเธอพังทลายหลังการหย่าร้าง ไห่หลิงก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเขาเลยชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ของเธอมีความสุขมากประมาณตีสี่ เธอกลับไปที่ร้านกินได้ไม่อั้นพร้อมกับลูกชายของเธอซึ่งเธอเป็นคนปลุกจากนั้นก็เริ่มวันอันแสนวุ่นวายหยางหยางยังเด็ก ก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งระหว่างทางหลังจากกลับมาที่ร้าน ไห่หลิงก็วางเก้าอี้สองตัวไว้ด้วยกันและให้ลูกชายของเธอนอนบนเก้าอี้พวกนั้น โดยมีเก้าอี้หลายตัววางอยู่ข้างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้หยางหยางพลิกตัวและล้มลงกับพื้นผู้ช่วยร้านสองคนที่เธอจ้างมาจะยังไม่มาทำงานจนกระทั่งหกโมงเช้าโดยปกติแล้ว 6.30 ถึง 9.30 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดไห่ถงมารับหลานชายของเธอประมาณตีห้าขณะนี้ หยางหยางตื่นแล้วเด็กน้อยเชื่อฟังมาก และเมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็ไม่ร้องไห้หรือส่งเสียงใดๆ เขานั่งอยู่ที่แคชเชียร์และเล่นบล็อกตัวต่อที่ยังประกอบไม่เสร็จ"พี่"ไห่ถงเดินเข้ามาและเรียกพี่สาวของเธอ เมื่อเห็นว่าร้านเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศแล้ว เธอจึงช่วยพี่สาวของเธอ"น้องเขยของฉันไปทำงานแล้วเหรอ?"ไห่ถงถอนหายใจ แขกคนหนึ่งขอเกี๊ยวซ่าสองเข้ง ไห่ทงรีบหยิบเกี๊ยวสองเข้ง"พี่

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1262

    โจวหงหลินตะโกนเสียงดังผ่านประตู "พี่หุบปากแล้วกลับไปบ้านซะ! ถ้าไม่มีอะไรจะทำในอนาคตก็มาที่นี่ให้น้อยลง! พี่เป็นแค่ตัวปัญหา"ไห่หลิงโหดร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเธอต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว โดยไล่ตามเขาไปหลายถนนด้วยมีดทำครัวพี่สาวของเขาลืมเรื่องทั้งหมดนั้นไปแล้วเหรอ?ด้วยความโกรธที่ถูกเรียกว่าตัวปัญหา โจวหงอิงก็ตอบกลับไปว่า "ใช่ ฉันเป็นตัวปัญหา! ฉันทนสายตาของนังนั่นไม่ไหวแล้ว ที่นี่ก็เป็นบ้านของพ่อแม่ฉันด้วย ฉันสามารถเข้าออกได้ตามต้องการ แต่ฉันไม่กินหรืออาศัยอยู่ในบ้านของเธอ ถ้าเธอมีความสามารถ เธอจะซื้อบ้านด้วยเงินของเธอเอง และฉันสาบานว่าฉันจะไม่ก้าวเข้าไปในนั้น!"เป้าหมายของเธอ คือทำให้ชีวิตของเย่เจียนีน่าสังเวชเย่เจียนีทรุดตัวลงบนพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างขมขื่นตั้งแต่ครั้งที่ไห่หลิงจับว่าเธอเป็นชู้และทุบตีเธอ เธอก็ไม่เคยรู้สึกละอายใจและพ่ายแพ้ขนาดนี้เลยเธอเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ รู้สึกเสียใจอย่างที่สุดโจวหงหลินมองดูเธอที่กำลังร้องไห้ รู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อยและอารมณ์เสียเล็กน้อยเขาคิดว่าเย่เจียนีเป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ เข้าใจผู้อื่น ยังเป็นเด็กและสวย ถ้าเขาแต่งงานกับเธอ เขา

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1261

    "เธอคิดว่าฉันจะไปเพียงเพราะเธอบอกเหรอ? ฉันก็มีศักดิ์ศรีนะ นี่ไม่ใช่บ้านของเธอด้วยซ้ำ เธอจ่ายค่าเช่าหรือไง? ถ้าเธอเป็นคนจ่าย ฉันจะออกไปทันทีและจะไม่กลับมาอีกเลย"โจวหงอิงงก็ไม่เต็มใจที่จะแสดงจุดอ่อนออกมาเช่นกันเย่เจียนียังเด็กและเคยชินกับการนั่งทำงานในออฟฟิศมาก่อน เธอไม่มีแรงมากนักและไม่สามารถต่อสู้กับโจวหงอิงได้เลยเมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถขับไล่พี่สะใภ้ต่ำช้าคนนี้ออกไปได้ เย่เจียนีก็หันกลับมาด้วยความโกรธและตะโกนใส่สามีของเธอ "โจวหงหลิน คุณไม่เห็นพี่สาวของคุณรังแกฉันเหรอ? ถ้าคุณไม่ช่วยฉันไล่พี่สาวของคุณออกไป ฉันจะบอกคุณว่าถ้ายังมีพี่สาวของคุณอยู่ในครอบครัวนี้ มันก็จะไม่มีฉัน!"“พี่ เจียนี ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันได้แล้ว การทะเลาะกันไม่รู้จบนี้ทำให้ฉันแทบบ้า”โจวหงหลินเบื่อหน่ายกับสถานการณ์ปัจจุบันจริงๆ มันเป็นครอบครัวที่ไม่มีความสงบสุขจริงๆตราบใดที่กลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแม่และภรรยาของเขาทะเลาะกัน หรือพี่สาวและภรรยาของเขาทะเลาะกัน ไม่มีช่วงเวลาที่สงบสุขเลยเพี้ยะ!เย่เจียนีโกรธมากและตบโจวหงหลินอย่างแรงโจวหงหลินตกตะลึงกับการถูกเธอตบ ปิดหน้าที่ถูกตบของเขา และจ้องมองเธออย่างว่างเปล

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1260

    โจวหงอิงแสดงให้เห็นชัดเจนว่าตราบใดที่เธอยังอยู่ เธอจะไม่มีวันปล่อยให้เย่เจียนีอยู่อย่างสงบสุข!เย่เจียนีหยุด หันศีรษะแล้วพูดอย่างเย็นชา "มีอะไร?"โจวหงอิงวางรีโมททีวีลง ลุกขึ้นแล้วเดินไปหา เธอเหลือบมองถุงใบใหญ่และใบเล็กในมือของเย่เจียนีแล้วถาม: "เธอซื้ออะไรมา? ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เธอกับหงหลินไม่มีงานทำหรือรายได้แล้ว เธอไม่รู้วิธีประหยัดเงินบ้างเหรอ?""ตอนนี้ทุกอย่างที่เธอกิน อยู่ และใช้จ่ายคือเงินของหงหลิน หลังจากทำงานมาหลายปี เธอไม่อาจทนใช้เงินที่หามาได้ เธอก็ยังใช้เงินของหงหลินต่อไป เธอไม่รู้วิธีประหยัดเงินบ้างเหรอ? เคิดว่าเงินของหงหลินเสกมาได้หรื่อไง?"โจวหงอิงชี้ไปที่เย่เจียนีโดยไม่รู้ว่าจะประหยัดเงินอย่างไร และคว้าถุงจากมือของเย่เจียนีอย่างแรง"พี่กำลังทำอะไร?"โจวหงหลินพูดถึงพี่เขาโจวหงอิงจ้องมองอย่างโกรธเคืองและพูดว่า "ถึงนายจะมองดูก็ทำอะไรไม่ได้หรอก นายแค่ถอยไปเฉยๆ เมื่อเธอเข้ามาแล้วเห็นว่าฉันเป็นพี่สาว เธอก็ไม่ทักทายด้วยซ้ำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนายตามใจเธอมากเกินไป ทำให้เธอดูไม่เคารพและดูถูกฉัน""โจวหงหลิน ผู้หญิงแบบนี้ไม่ควรตามใจ ถ้านายตามใจเธอมากเกินไป เธอจะขึ้นไปบนหล

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1259

    "แม้ว่าแม่เลี้ยงของคุณจะเป็นแม่เหมือนกัน แต่หยางหยางจะไม่เรียกคุณว่าแม่ ถ้าคุณพูดแบบนั้น ทุกคนจะไม่พอใจ"เย่เจียนีไม่สนใจเขาหลังจากออกจากบ้านเช่าของไห่หลิง เธอก็ขึ้นรถทันทีโจวหงหลินก็ขึ้นรถด้วย"ที่รัก ฉันพาคุณไปช้อปปิ้งดีไหม?""ยังไม่ขับรถอีก"เย่เจียนีพูดกับเขาอย่างหงุดหงิด"ฉันพูดคำเหล่านั้นไม่ใช่เพราะคุณทั้งหมด ฉันรู้ว่าคุณและครอบครัวของคุณต้องการสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางกลับคืนมา ถ้าคุณรับเป็นผู้ดูแลหยางหยาง เขาจะอยู่กับเรา ฉันแค่ต้องปรับตัวให้เข้ากับบทบาทของแม่ก่อน"ขณะที่โจวหงหลินขับรถ เขาพูด: "พ่อแม่ของฉันอยากกลับไปที่หยางหยางจริงๆ พวกเขาไม่อาจทนแยกจากหยางหยางตั้งแต่แรกได้ ส่วนพวกผู้สูงอายุ พวกเขามีหลานเพียงคนเดียว พวกเขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดหรืออย่างไร? แต่ฉันไม่มีแผนที่จะทวงสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางคืนเขายังเหลือบมองเย่เจียนีและพูดว่า "เป็นคุณที่แนะนำให้ฉันสละสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางเองในตอนนั้น ตอนนี้ฉันคิดว่าเป็นเรื่องดีที่หยางหยางจะตามไห่หลิงไป คนรอบตัวที่ไห่หลิงรู้จักไม่อยู่ในระดับของเราอีกต่อไปแล้ว"หยางหยางอาศัยอยู่กับเธอ และสามารถพบกับน้า ซึ่งเป็นนายหญิงคนโต

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1258

    จ้านหยินเพิ่งขอให้ซูหนานสืบเรื่องเย่เจียนีซูหนานเป็นคนที่จ้านหยินไม่อยากหาเรื่องด้วย"ขอบคุณล่วงหน้า นายเป็นเจ้านายที่มีน้ำใจจริงๆ"ซูหนานกล่าวพร้อมแสดงคำเยินยอจ้านหยินพูดด้วยรอยยิ้ม "เอาเถอะ หยุดยอเสียที พวกเราสองคนรู้จักกันดี ไปเดทของนายเถอะ แช่ในน้ำผึ้งทุกวัน มันจะหวานจนนายเป็นเบาหวานเอา""นายก็แช่ในชามน้ำผึ้งทุกวัน แต่นายก็ไม่ได้เป็นเบาหวาน ฉันเพิ่งเริ่ม นายจะกลัวอะไร ฉันจะไปเดทแล้ว เสี่ยวจวินของฉันชอบกินสุกี้ ฉันพาเธอไปกินสุกี้"ซูหนานวางสายโทรศัพท์หลังจากที่พูดจบเขาและเซินเสี่ยวจวินมักจะออกไปกินหม้อไฟกัน"ที่รัก คุณจะกินทุเรียนไหม?"ไห่ถงเปิดทุเรียนและวางเนื้อบนจาน จากนั้นหยิบออกมาแล้วเดินไปหาจ้านหยินพร้อมถามเขาจ้านหยินหน้าซีดเมื่อได้กลิ่นทุเรียนลุกขึ้นทันทีและเดินจากไปพร้อมพูดว่า "ที่รัก ฉันไม่ชอบกลิ่นของทุเรียน แคุณนั่งตรงนั้นแล้วกินเถอะ"ไห่ถงหยุดเดินแล้วพูด: "คุณไม่ชอบเหรอ ฉันกินเองก็ได้ จริงๆ แล้วพอฉันชินกับมัน ฉันก็พบว่ามันอร่อยดี ฉันไม่ชอบกลิ่นของมันในตอนแรก แต่ตอนนี้ฉันค่อนข้างชอบแล้ว"หลังจากแต่งงานกับจ้านหยิน เธอไม่เคยซื้อทุเรียนมากินเลย ดังนั้นเธอจึงไ

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1257

    หลังจากวางสาย จ้านหยินก็ติดต่อซูหนานทันทีและบอกเขาเกี่ยวกับความสงสัยของพี่สาวของเขาซูหนานกล่าว: "ฉันเพิ่งได้รับข้อมูลมาและกำลังจะคุยกับนาย ฉันว่าจะโทรหานายพอดี"ข้อมูลอะไร?"จ้านหยินถามด้วยเสียงต่ำ "มันเกี่ยวข้องกับหยางหยางที่เกือบถูกลักพาหรือเปล่า?""ใช่ พี่ชายบอกฉันว่า พบว่าคุณนายหนิงมีหัวหน้าแก๊งคนนหนึ่งว่าเป็นพ่อทูนหัวของเธอเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว แต่หัวหน้าคนนั้นตกไปอยู่ในมือของตำรวจและถูกตัดสินประหารชีวิต ลูกน้องบางคนภายใต้หัวหน้าแกํงคนนั้นถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุก ในขณะที่คนอื่นๆ หายตัวไป""ฉันสงสัยว่าลูกน้องพวกนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของคุณนายหนิง เหล่าลูกน้องภายใต้การควบคุมของผู้มีอิทธิพลนั้น ที่หลบหนีไปนั้น ล้วนชั่วร้ายและไร้ความปราณี และมีจำนวนมาก หากพวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของคุณนายหนิงและกลายเป็นบอดี้การ์ด พวกเขาทั้งหมดก็สามารถก่อตั้งบริษัทใหญ่ได้""มันเกิดขึ้นเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว และเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะค้นหาที่อยู่ของคนเหล่านั้น ต้องใช้เวลาสักพักเพื่อยืนยัน และหลังจากผ่านไปยี่สิบปี พวกลูกกระจ๊อกเหล่านั้นอาจจะแก่ตัวลง แม้ว่าพวกเขาจะรับสมัครเลือดใหม่ก็ตาม"

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1256

    ขนาดพ่อของเขายังช่วยประกอบไม่ได้เลยหยางหยางคิดว่าลุงลู่คงเก่งมากเขาคิดถึงลุงลู่เป็นครั้งแรกถ้าลู่ตงหมิงรู้ว่าหยางหยางคิดยังไงกับเขา เขาคงรู้สึกดีใจหลังจากเก็บของเล่นและเสื้อผ้าที่โจวหงหลินซื้อให้หยางหยางแล้ว ไห่หลิงก็ขอให้ลูกชายเปิดและเล่นมันไห่หลิงกลับไปที่ครัวเพื่อทำงาน แต่คิดถึงทัศนคติของเย่เจียนีเสมอเย่เจียนีไม่มีทางชอบหยางหยางได้ เพราะหยางหยางเป็นลูกชายของเธอก่อนหน้านี้ เมื่อครอบครัวโจวมาเยี่ยมหยางหยางเย่เจียนีรู้เข้าก็เลยหน้าซีดเผือดลงอย่างมากในช่วงนี้เย่เจียนีเปลี่ยนทัศนคติของเธอไปได้อย่างไร?เธอไม่เพียงแต่ไม่ขัดขวางครอบครัวโจวไม่ให้มาเยี่ยมหยางหยางเท่านั้น แต่พวกเขายังไปกับโจวหงหลินและซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้หยางหยางด้วย ซึ่งค่อนข้างแปลกหากครอบครัวโจวต้องการสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางคืน เย่เจียนีต้องการสร้างความสัมพันธ์กับหยางหยาง เธอสามารถรอจนกว่าครอบครัวโจวจะได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดู และยังไม่สายเกินไปสำหรับเธอที่จะสร้างความสัมพันธ์กับหยางหยางเย่เจียนียังสอบถามว่ามีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้วางแผนเบื้องหลังเหตุการณ์สวนสัตว์จากทางจ้านหยินด้วย หากโจวหงหลินสอบถามสักสองส

  • หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี   บทที่ 1255

    ไห่หลิงไม่อยากคุยกับเย่เจียนี และเย่เจียนีก็หาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงกลับไปหาโจวหงหลินอย่างไม่เต็มใจขณะเดียวกัน เขายังสังเกตสภาพแวดล้อมห้องเช่าของไห่หลิงด้วยห้องเช่าหลังนี้ไม่ใหญ่มากนัก แต่ไห่หลิงทำความสะอาดและจัดวางอย่างเรียบร้อย และการตกแต่งก็อบอุ่นเย่เจียนีต้องยอมรับว่าในแง่ของการจัดการบ้าน ไห่หลิงดีกว่าเธอมากโจวหงหลินสอนลูกชายให้ประกอบบล็อกตัวต่อ เขาไม่ค่อยได้เล่นกับลูกชายเป็นประจำ ตอนนี้ เมื่อมองไปที่บล็อกตัวต่อขนาดเล็กที่กระจัดกระจายและแบบแปลนในการประกอบบล็อกเหล่านั้น เขาพบว่ามันยากจริงๆเขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเขาไม่มีความอดทนกับมัน"คุณประกอบมันได้ไหมเนี่ย?"เย่เจียนีถามเขา"คุณทำได้เหรอ? เชิญเลย"โจวหงหลินปวดหัวเมื่อได้ยินคำพูดของภรรยาและพูดบางอย่างไม่ดีออกไปหยางหยางเงยหน้าขึ้นมองเย่เจียนีแล้วมองพ่อของเขาและถามความสงสัยภายในใจของเขา: "พ่อ ทำไมป้าเย่ถึงตามพ่อตลอดเวลา"โจวหงหลินตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะตอบ เย่เจียนีจงใจพูดอย่างอ่อนโยน "หยางหยาง ฉันเป็นภรรยาของพ่อเธอ และเธอสามารถเรียกฉันว่าแม่ก็ได้นะ""ผมมีแม่แล้ว คุณไม่ใช่แม่ของผม"หย

DMCA.com Protection Status