หลังจากจ้านหยินขึ้นโรลส์-รอยซ์แล้ว ก็สั่งด้วยทุ้มต่ําว่า "รถตงเฟิงที่ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่คันนั้น จําได้ให้ช่วยขับไปจอดให้ด้วย"รถคันนั้นเอาไว้หลอกภรรยา แต่ภรรยาเขาชื่ออะไรนะ?"ใช่แล้ว นายหญิงของพวกนายชื่ออะไรนะ?"จ้านหยินขี้เกียจที่จะหยิบใบทะเบียนสมรสออกมาดู โอ้ใช่แล้ว ใบทะเบียนสมรสเขามอบให้คุณยายดูนี่ แต่ดูเหมือนว่าคุณยายยังไม่ได้คืนให้เขา อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่ตัวเขาไม่มีใบทะเบียนสมรสนั้นบอดี้การ์ด "... นายหญิงแซ่ไห่ มีชื่อพยางค์เดียวคือถง ปีนี้อายุ 25 ปี นายน้อยต้องจําให้ได้นะครับ"นายน้อยของพวกเขามีความจําที่ดีเป็นพิเศษ แต่คนที่เขาไม่อยากใส่ใจจํา กลับจําอะไรไม่ได้เลยโดยเฉพาะผู้หญิง เจอกันทุกวันแต่นายน้อยจำว่าใครเป็นใครไม่ได้ด้วยซ้ำ"อืม จำได้แล้ว"จ้านหยินตอบแบบส่ง ๆบอดี้การ์ดฟังได้จากน้ำเสียงที่เขาพูด ครั้งหน้านายน้อยของพวกเขายังจําชื่อนายหญิงไม่ได้แน่นอนจ้านหยินไม่ต้องการให้เรื่องของไห่ถงทำให้เสียสมาธิ ดังนั้นเขาจึงเอนตัวลงบนเบาะรถและหลับตาลงเพื่อพักผ่อนโรงแรมกวนเฉิงอยู่ห่างจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้นขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้นรถหรูจอดเรียงกันอยู่ที่ประตูหน้าของหมิงหยวน
จ้านหยินใส่ใจรูปร่างของตัวเองมากและเข้มงวดกับอาหาร เขาจะไม่กินอาหารตามใจปากจนทำให้อ้วนเพราะการลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องง่ายไห่ถงยิ้ม "รูปร่างของคุณดีมากค่ะ คุณจ้าน""งั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนนะคะ"จ้านหยินตอบกลับแค่อืม"ราตรีสวัสดิ์"ไห่ถงบอกราตรีสวัสดิ์กับเขา หันหลังกลับเดินจากไป"รอสักครู่ครับ ไห่ ไห่ถง"จ้านหยินเรียกเธอไว้ไห่ถงหยุด หันหน้ากลับและถามเขาว่า "ยังมีอะไรเหรอคะ?"จ้านหยินมองเธอและพูดว่า "ต่อไปอย่าใส่ชุดนอนออกมา"เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในใต้ชุดนอน เขาสายตาดีเกินไป สิ่งที่ควรดูหรือไม่นั้นก็เห็นหมดแล้วพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ถ้าตัวเขานั้นมองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นล่ะ?เขาไม่อยากให้ร่างกายของภรรยาตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นมองทะลุปุโปร่งไห่ถงหน้าแดงก่ำ รีบวิ่งกลับห้องปิดประตูดังสนั่นจ้านหยิน "..."เขาไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย เธอกลับเขินอายแทนหลังจากนั่งไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็กลับไปที่ห้องนอนหลัก บ้านหลังนี้ถูกซื้อมาแบบกระทันหัน โดยที่เขาได้ซื้อบ้านตัวอย่าง ดังนั้งเพียงแค่ถือกระเป๋าเข้ามาก็พร้อมอยู่แต่เนื่องจากความเร่งรีบ ห้องของเขาก็ยังไม่ได้ทําความสะอาดให้เรี
หลังจากทานอิ่มแล้ว จ้านหยินก็หยิบกระเป๋าเงินออกมา เมื่อเปิดดูพบว่าไม่มีเงินสดมากนัก เขาจึงดึงบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาและวางบัตรธนาคารใบนั้นไว้ตรงหน้าไห่ถงไห่ถงเลิกคิ้วมองเขา"คุณจะซื้อของต้องใช้เงิน บัตรธนาคารใบนี้ให้คุณใช้ครับ รหัสผ่านคือ..."เขาหาปากกาและกระดาษมา เขียนรหัสผ่านบนกระดาษแล้วส่งให้ไห่ถง"ต่อไปเงินในบัตรใบนี้จะให้คุณใช้จ่ายในบ้าน ผมก็จะโอนเงินเข้าบัญชีนี้ทุกเดือนพอเงินเดือนออก แต่ต่อไปถ้าคุณซื้ออะไรก็จดลงบัญชีไว้ ผมไม่สนใจว่าคุณใช้เงินเท่าไร แต่ผมต้องทราบว่าคุณจะนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้างครับ"ตอนไปจดทะเบียนสมรสครั้งแรก ไห่ถงเคยถามเขาว่าสามีภรรยาต้องการระบบหารกันหรือไม่ เขาปฏิเสธในเมื่อแต่งงานแล้วเป็นสามีภรรยากันก็เป็นครอบครัวเดียวกัน เขาให้เงินเธอเล็กน้อยเพื่อใช้จ่าย เขาไม่ใส่ใจรื่องเงินเท่าไรยังไงเขาก็มีเงินเยอะจนแม้แต่ตัวเขาเองก็นับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าเขามีทรัพย์สินสุทธิจริง ๆ เท่าไร ปกติงานที่บริษัทยุ่งมาก เขาใช้เงินก็น้อย ดังนั้นการเลี้ยงดูภรรยาก็เท่ากับช่วยเขาใช้เงินได้นิดหน่อยแต่เขาไม่ยอมถูกเอารัดเอาเปรียบ ในความคิดของเขาไห่ถงยังเป็นเหมือนสาวเจ้าเล่ห์ ดังนั้นแน่น
ไห่ถงได้เดินทางไปที่บ้านพี่สาวเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในบ้านพบว่าพี่สาวตื่นอยู่ กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัว"พี่คะ""ถงถง มาแล้วเหรอ"ไห่หลิงออกมาจากห้องครัวและเมื่อเห็นน้องสาวจึงความสุขมาก "เธอกินข้าวหรือยัง? พี่กำลังลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ เดี๋ยวตักใส่ชามให้นะ""ไม่ต้องค่ะ ฉันกินมาแล้ว พี่ลวกก๋วยเตี๋ยวหรือยัง ถ้ายังไม่ต้องลวกแล้ว ฉันห่ออาหารเช้ามาให้พี่กับหยางหยางด้วย""ยังจ้ะ เมื่อวานหยางหยางเป็นไข้เมื่อคืนเลยไม่ค่อยได้นอน ตื่นมาตอนเช้าก็สายแล้ว พี่เขยออกไปกินอาหารเช้าข้างนอก แถมยังด่าก่อนออกไปว่าฉันอยู่บ้านทั้งวันไม่ทําอะไรเลยแค่เลี้ยงลูก ไม่มีหัวคิดตื่นมาทำอาหารเช้าให้เขา"ไห่หลิงรู้สึกน้อยใจไห่ถงได้ยินถึงกับโมโห "หยางหยางเป็นไข้ได้ยังไง? ถึงไข้จะลดลงแล้วก็เถอะ พี่ต้องพาไปหาหมอเพื่อป้องกันไว้ก่อนนะ พี่เขยก็เกินไป ลูกป่วยเขาไม่ช่วยแถมยังต้องด่าอีก""พี่ ฉันย้ายออกแล้ว พี่เขยยังยืนยันใช้ระบบหารค่าใช้จ่ายกับพี่อยู่ไหม?"ไห่หลิงนั่งลงบนโซฟา เปิดถ้วยก๋วยเตี๋ยวถางเหอที่น้องสาวเอามาให้ กินไปพลางพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะพาหยางหยางไปหาหมอ เขายังคงยืนยันที่จะใช้ระบบหารค่าใช้จ่ายอยู่ โ
"ออกรถ"จ้านหยินด่าไห่ถงในใจเรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรและไม่คิดที่ทำอะไรไห่ถงเป็นภรรยาของเขาแค่ในนาม แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาสองคนไม่แตกต่างจากคนแปลกหน้าคนขับไม่กล้าพูดต่อและได้ขับรถออกไปไห่ถงไม่รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเกือบจะชนรถหรูของสามีเธอแล้ว เธอขี่รถจักรยานไฟฟ้าต่อเพื่อจะได้กลับไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว บ้านของเซินเสี่ยวจวินอยู่ใกล้ ๆ เธอมักจะมาถึงร้านก่อนไห่ถงหนึ่งก้าวเสมอ"ถงถง"หลังจากเสร็จงานแล้ว เสี่ยวจวินมักจะทานอาหารเช้า เมื่อเธอกำลังทานอาหารเช้าอยู่นั้นก็เห็นเพื่อนมาถึง จึงยิ้มและถามว่า "เธอกินข้าวหรือยัง?""กินแล้ว"เสี่ยวจวินส่งเสียงตอบรับและทานอาหารเช้าของเธอต่อ"ฉันซื้อขนมมาฝากเธอสองกล่อง อร่อยมาก เธอลองชิมสิ"เสี่ยวจวินดึงถุงที่บรรจุขนมขึ้นมาหนึ่งถุงและวางไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงินพร้อมพูดกับเพื่อนไห่ถงวางกุญแจรถของรถจักรยานไฟฟ้าไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงิน แล้วนั่งลงทันทีเธอดึงถุงที่บรรจุขนมสองกล่องอย่างไม่เกรงใจ "ขอแค่เป็นของหวาน ฉันก็รู้สึกอร่อยแล้ว เสี่ยวจวิน ระหว่างทางฉันมาทํางาน ฉันเห็นโรลส์-รอยซ์คันหนึ่ง"เซินเสี่ยวจวินร้องโอ้โห "เป็นเรื่องปกติที่จะเห
สถานที่จัดงานเลี้ยงคือโรงแรมกวนเฉิง สถานที่ซึ่งปกติไห่ถงคงไม่มาโรงแรมกวนเฉิงเป็นหนึ่งในโรงแรมหรูระดับ 7 ดาวซึ่งจัดว่าที่ดีที่สุดของเมือง แต่ความจริงไม่รู้ว่าระดับกี่ดาวกันแน่ ไห่ถงไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้สักเท่าไรคุณป้าเซินมาถึงโรงแรมก่อนพวกไห่ถง หลังจากทักทายเหล่าคุณหญิงคุณนายที่รู้จักกันแล้ว เธอให้ลูกชายและลูกสาวไปที่โรงแรมก่อน ส่วนเธอรออยู่หน้าโรงแรมเพื่อรอหลานสาวมาถึงคุณป้าเซินยิ้มแย้มทันทีเมื่อเห็นรถที่ตนจัดเตรียมให้ไปรับหลานสาวขับตามหลังรถคันอื่นอย่างช้า ๆหลังจากนั้นไม่นาน เซินเสี่ยวจวินก็ลากไห่ถงไปหาคุณป้า"คุณป้าคะ""สวัสดีค่ะ คุณป้าเซิน"ไห่ถงทักทายคุณป้าเซินพร้อมกับเพื่อนคุณป้าเซินรู้ว่าหลานสาวพาไห่ถงมา เดิมทีก็รู้สึกรังเกียจไห่ถงนิดหน่อย เด็กสาวไห่ถงคนนี้เธอเคยเจอมาก่อน และต้องยอมรับว่าเด็กที่สูญเสียพ่อแม่คนนี้หน้าตาดีกว่าหลานสาวของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าฐานะครอบครัวธรรมดา แต่เธอมีความสง่างามและท่วงท่าของเธอก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของหญิงที่มาจากตระกูลผู้ดีเธอกลัวว่าไห่ถงจะไปกันท่ากันทางหลานสาวเธอ แต่สะใภ้ใหญ่บอกว่าไห่ถงแต่งงานแล้
เขาเดินเข้ามาโดยรอบข้างมีผู้คนมารายล้อมเหมือนดาวล้อมเดือน ไม่ได้สังเกตเห็นว่าภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ของเขาอยู่ที่ตรงมุมห้อง สายตาของไห่ถงก็ไม่อาจมองผ่านฝูงชน เพื่อมองมายังใบหน้าคุ้นเคยของสามีตัวเองได้เธอเขย่งเท้าดูอยู่สักพักก็ไม่เห็นร่างของคนที่เข้ามาเลยหมดความสนใจและนั่งลง แถมยังดึงเพื่อนลงมานั่งพร้อมพูดว่า "ไม่ต้องดูแล้ว คนบังเยอะขนาดนั้น ยังไงเราก็มองไม่เห็น กินต่อเถอะ"สำหรับเธอนั้นคืนนี้การทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!"ถงถง เธอรอฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะไปถามคุณป้าว่าเมื่อกี้ใครมาถึงได้อึกทึกครึกโครมเหมือนฮ่องเต้เสด็จมาเลย"เซินเสี่ยวจวินอยากรู้อยากเห็นมากไห่ถงตอบรับกลับไปแบบปัด ๆเซินเสี่ยวจวินเดินจากไปคนเดียวไห่ถงทานอาหารอร่อย ๆ ที่หยิบมาพวกนั้นหมดแล้ว เธอจึงถือจานเปล่าของตัวเองลุกขึ้น ในขณะที่ทุกคนไปชมคนใหญ่คนโต เธอสามารถเลือกหยิบอาหารได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสนใจกับสายตาจ้องมองและการตัดสินของคนอื่นหลังจากจ้านหยินเข้ามา สิ่งแรกที่เขาทำคือพูดคุยกับนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงคืนนี้ บอดี้การ์ดรอบตัวเขาทุกคนจริงจัง ฟังเสียงจากทุกทิศทุกทาง ให้ความสนใจกับทุกส
เซินเสี่ยวจวินยกไวน์แดงขึ้นดื่ม"เธออ่านนิยายมากเกินไป ในโลกนี้คนที่ชื่อกับแซ่เหมือนกันเยอะแยะ นับประสาอะไรกับคนที่แซ่เดียวกัน ดูอย่างคนรวยที่สุดในฮ่องกงแซ่หลี่ งั้นคนแซ่หลี่ทั้งหมดก็เป็นญาติของเขาหรือไง?"เซินเสี่ยวจวินหัวเราะ "ก็จริง""สามีฉันเขาเป็แค่มนุษย์เงินเดือน ขับรถยนต์ตงเฟิงราคาแค่ 600,000-650,000 บาท เธอว่านายน้อยตระกูลมหาเศรษฐีจะขับรถแบบนี้ไหม เธอน่ะเดามั่วซั่ว"ไห่ถงไม่เคยเพ้อฝันเกินจริง เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะฝัน แต่ไม่ใช่เอาฝันกลางวันมาปนกับความเป็นจริง"จะว่าไปแล้ว นายน้อยจ้านกีดกันหญิงสาวไม่ให้เข้ามาใกล้แบบนั้น เขาไม่ชอบผู้หญิงหรือเปล่า? หรือเขาแต่งงานแล้ว?"ไห่ถงไม่สนใจว่านายน้อยจ้านหน้าตาเป็นอย่างไร แต่รู้สึกว่านายน้อยจ้านห้ามหญิงสาวเข้าใกล้ขนาดนั้น อาจเพราะเขาสูงส่งเกินไป หรือมีปัญหาบางอย่างเช่นเขาไม่ชอบผู้หญิงก็เป็นไปได้"ไม่เคยได้ยินข่าวการแต่งงานของเขานะ แม้ว่าเราจะไม่ใช่พวกชนชั้นสูง แต่นายน้อยจ้านเป็นหัวหน้าตระกูลจ้าน ถ้าเขาแต่งงาน งานแต่งงานคงจะต้องสร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองกวนเฉิงอย่างแน่นอน ทั้งลงข่าวในเว็บไซต์หรือในหนังสือพิมพ์ ช่องทางข่าวสารไห
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้