เขาเดินเข้ามาโดยรอบข้างมีผู้คนมารายล้อมเหมือนดาวล้อมเดือน ไม่ได้สังเกตเห็นว่าภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ของเขาอยู่ที่ตรงมุมห้อง สายตาของไห่ถงก็ไม่อาจมองผ่านฝูงชน เพื่อมองมายังใบหน้าคุ้นเคยของสามีตัวเองได้เธอเขย่งเท้าดูอยู่สักพักก็ไม่เห็นร่างของคนที่เข้ามาเลยหมดความสนใจและนั่งลง แถมยังดึงเพื่อนลงมานั่งพร้อมพูดว่า "ไม่ต้องดูแล้ว คนบังเยอะขนาดนั้น ยังไงเราก็มองไม่เห็น กินต่อเถอะ"สำหรับเธอนั้นคืนนี้การทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!"ถงถง เธอรอฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะไปถามคุณป้าว่าเมื่อกี้ใครมาถึงได้อึกทึกครึกโครมเหมือนฮ่องเต้เสด็จมาเลย"เซินเสี่ยวจวินอยากรู้อยากเห็นมากไห่ถงตอบรับกลับไปแบบปัด ๆเซินเสี่ยวจวินเดินจากไปคนเดียวไห่ถงทานอาหารอร่อย ๆ ที่หยิบมาพวกนั้นหมดแล้ว เธอจึงถือจานเปล่าของตัวเองลุกขึ้น ในขณะที่ทุกคนไปชมคนใหญ่คนโต เธอสามารถเลือกหยิบอาหารได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสนใจกับสายตาจ้องมองและการตัดสินของคนอื่นหลังจากจ้านหยินเข้ามา สิ่งแรกที่เขาทำคือพูดคุยกับนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงคืนนี้ บอดี้การ์ดรอบตัวเขาทุกคนจริงจัง ฟังเสียงจากทุกทิศทุกทาง ให้ความสนใจกับทุกส
เซินเสี่ยวจวินยกไวน์แดงขึ้นดื่ม"เธออ่านนิยายมากเกินไป ในโลกนี้คนที่ชื่อกับแซ่เหมือนกันเยอะแยะ นับประสาอะไรกับคนที่แซ่เดียวกัน ดูอย่างคนรวยที่สุดในฮ่องกงแซ่หลี่ งั้นคนแซ่หลี่ทั้งหมดก็เป็นญาติของเขาหรือไง?"เซินเสี่ยวจวินหัวเราะ "ก็จริง""สามีฉันเขาเป็แค่มนุษย์เงินเดือน ขับรถยนต์ตงเฟิงราคาแค่ 600,000-650,000 บาท เธอว่านายน้อยตระกูลมหาเศรษฐีจะขับรถแบบนี้ไหม เธอน่ะเดามั่วซั่ว"ไห่ถงไม่เคยเพ้อฝันเกินจริง เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะฝัน แต่ไม่ใช่เอาฝันกลางวันมาปนกับความเป็นจริง"จะว่าไปแล้ว นายน้อยจ้านกีดกันหญิงสาวไม่ให้เข้ามาใกล้แบบนั้น เขาไม่ชอบผู้หญิงหรือเปล่า? หรือเขาแต่งงานแล้ว?"ไห่ถงไม่สนใจว่านายน้อยจ้านหน้าตาเป็นอย่างไร แต่รู้สึกว่านายน้อยจ้านห้ามหญิงสาวเข้าใกล้ขนาดนั้น อาจเพราะเขาสูงส่งเกินไป หรือมีปัญหาบางอย่างเช่นเขาไม่ชอบผู้หญิงก็เป็นไปได้"ไม่เคยได้ยินข่าวการแต่งงานของเขานะ แม้ว่าเราจะไม่ใช่พวกชนชั้นสูง แต่นายน้อยจ้านเป็นหัวหน้าตระกูลจ้าน ถ้าเขาแต่งงาน งานแต่งงานคงจะต้องสร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองกวนเฉิงอย่างแน่นอน ทั้งลงข่าวในเว็บไซต์หรือในหนังสือพิมพ์ ช่องทางข่าวสารไห
เซินเสี่ยวจวินก็ทานอิ่มแล้ว เธอยิ้มและพูดว่า "เหนียนเซิง พี่จวินของเธอนั้นไม่สนใจหนุ่ม ๆ หน้าตาหล่อเหลาพวกนั้น พี่กับพี่ไห่ถงของเธอแค่มาเปิดหูเปิดตาและชิมอาหารที่นี่กันเท่านั้น ที่นี่สมกับเป็นโรงแรมที่ขึ้นชื่อว่า 7 ดาวจริง ๆ อาหารอร่อยมาก พี่กับพี่ไห่ถงของเธอกินอิ่มเอมใจมาก"จางเหนียนเซิง “......”"ตอนนี้พวกเราสองคนก็กินอิ่มแล้วและเวลาก็ดึกมาก เหนียนเซิง พี่กับพี่ไห่ถงของเธอขอตัวไปก่อนนะ ฝากลาคุณป้าด้วย"จางเหนียนเซิงรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเหลือบมองไห่ถงสองครั้งก่อนพูดขึ้นว่า "พี่จวิน จะไปแล้วจริง ๆ เหรอครับ? งานเลี้ยงเพิ่งผ่านไปได้ครึ่งทาง ตอนนี้ยังไม่ดึกเลยต้องรอถึงห้าทุ่มก่อนถึงจะเลิกงานเลี้ยง"ไห่ถงกล่าวว่า "พรุ่งนี้พี่กับพี่สาวเธอยังต้องเปิดร้านขายของต่อ จะอยู่จนถึงห้าทุ่มกว่าแล้วค่อยกลับบ้านไม่ได้หรอก"ทั้งสองคนลุกขึ้น จางเหนียนเซิงยังคงตามไปด้วย"ที่จริงเปิดร้านสายหน่อยก็ได้นะครับ"จางเหนียนเซิงเดินตามวนเวียนซ้ายขวาของไห่ถง พยายามยื้อพี่สาวสองคนไว้ต่ออีกสักพัก"ไม่ได้หรอก พวกเราหาเงินได้แค่วันละสามครั้ง คือเช้า กลางวันและเย็น ถ้าพลาดช่วงเวลาตอนเช้าไป จะทำให้รายได้น้อยลงเ
ในแวดวงธุรกิจของเมืองกวนเฉิง ใครก็ตามที่ได้รับความโปรดปรานจากจ้านหยิน ก็เหมือนกับการได้รับสูตรโกงและอนาคตอันรุ่งโรจน์สามีภรรยาคู่นี้พาลูกชายมางานเลี้ยงก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากให้ลูกๆ ได้รู้จักกับเพื่อนๆ เพื่อต่อยอดในอนาคต"นายน้อยจางเมื่อกี้คือ......""ผมออกไปส่งพี่สาวสองคนของผมขึ้นรถและเพิ่งกลับมาครับ"เขาไม่รอให้จ้านหยินถามจนจบประโยค จางเหนียนเซิงชิงอธิบายสิ่งที่เขาเพิ่งไปทำมา กลัวว่าถ้าหากจ้านหยินเข้าใจผิดว่าเขาไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้และไม่พอใจการบริการของโรงแรมโรงแรมกวนเฉิงนั้นเป็นหนึ่งในโรงแรมภายใต้การบริหารของตระกูลจ้านจ้านหยินตอบกลับแค่อืม จากนั้นเดินผ่านหน้าจางเหนียนเซิง ท่าทางที่เขาทักทายต่อจางเนียนเซิงนั้นเป็นไปอย่างสุภาพจางเหนียนเซิงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ รู้แค่ว่ากลุ่มคนหนึ่งล้อมรอบตัวจ้านหยินเดินผ่านหน้าเขาไป เขากลายเป็นคนตัวเล็กลงทันทีการที่จ้านหยินเข้าร่วมงานเลี้ยงและจู่ ๆ ก็ออกไปจากงานนั้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งทุกคนในงานนั้นคุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้ดีพวกผู้บริหารระดับสูงถือโอกาสนี้พูดคุยธุรกิจกับจ้านหยิน พวกเขาแอบดีใจที่ตนโชคดีรีบเข้าคว้าโอกาสไปพูดคุยธุรกิจกับเ
"อืม"จ้านหยินตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ําไห่ถงเดินมาหา ในมือเธอยังถือถุงพลาสติกใสใบเล็ก ๆ อยู่"ฉันซื้อเต้าหู้เหม็นมา คุณอยากทานไหมคะ?"จ้านหยินจ้องมองเธอด้วยสีหน้าเข้มครึ้ม ในงานเลี้ยงก็เอาแต่กินและกิน ยังกินไม่อิ่มอีกเหรอ?ช่างตะกละตะกลามซะจริง!"เต้าหู้เหม็นกลิ่นยิ่งเหม็นแต่ยิ่งกินก็ยิ่งหอม ผู้ชายที่ฉันชอบมากที่สุดก็ชอบทานมันมากเหมือนกันค่ะ"ไห่ถงนั่งลงข้าง ๆ จ้านหยินแล้วเปิดถุงออก กลิ่นเต้าหู้เหม็นฟุ้งกระจายไปทั้วทั้งบ้าน จ้านหยินรีบย้ายที่นั่งไปฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว พยายามถอยห่างจากกลิ่นแปลกประหลาดที่เขาไม่คุ้นเคย"ผู้ชายที่คุณชอบมากที่สุดเหรอ?""คนที่อยู่บนธนบัตรค่ะ"จ้านหยิน "..." เงินสําหรับเขาก็คือตัวเลขชุดหนึ่งในบัตรธนาคารเท่านั้น"อยากลองชิมสักชิ้นไหมคะ? มันอร่อยมาก ๆ ทานเข้าไปแล้วหอมมาก ฉันชอบกินมากค่ะ""ผมไม่ทาน คุณทานเองเถอะ คุณออกไปทานที่ระเบียงด้านนอกได้ไหม? ผมทนดมกลิ่นแบบนี้ไม่ได้"ไห่ถงมองเขาที่มีท่าทางอยากอาเจียน เธอรีบถือถุงเดินจากไปแล้วพึมพําในใจว่าคนที่มีรายได้สูงน่าจะมีชีวิตที่ซับซ้อนเป็นพิเศษไห่ถงทานอย่างมีความสุขที่ระเบียงจ้านหยินสามารถเห็นด้าน
"คืนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่ร้านค่ะ เพื่อนอยากไปร่วมงานเลี้ยง เธอต้องการให้ฉันไปกับเธอด้วย อ่อจริงสิคุณจ้าน ฉันมีเรื่องอยากถามคุณค่ะ แต่ไม่ทราบว่าคุณสะดวกตอบไหม?"ไห่ถงนั่งลงตรงข้ามจ้านหยิน ดวงตาโตสวยงามจ้องมองไปยังชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม แม้ว่าเขาจะไม่แยแส มักจะเย็นชาและมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเธอ แต่เธอรู้ว่าเขาได้สร้างกำแพงในใจไว้เฉพาะเธอเท่านั้นแต่เขาหน้าตาดีมากจริง ๆ มันเหมือนได้มองทิวทัศน์ที่สดใสและเจริญหูเจริญตา"งานเลี้ยงคืนนี้จัดขึ้นที่โรงแรมกวนเฉิง ได้ยินว่าโรงแรมกวนเฉิงเป็นโรงแรมของตระกูลมหาเศรษฐีที่ร่ํารวยที่สุด และนายน้อยตระกูลมหาเศรษฐีก็ยังมาร่วมงานคืนนี้ ได้ยินว่าแซ่จ้าน คุณจ้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลมหาเศรษฐีนั้นใช่ไหมคะ?"จ้านหยินมีสีหน้าสงบและเย็นชา "เมื่อ 500 ปีก่อน เคยเป็นครอบครัวเดียวกันครับ"ไห่ถงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มว่า "ฉันเองก็รู้ว่าคุณน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลมหาเศรษฐีหรอกค่ะ"เมื่อเห็นเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เหมือนกับว่ากำลังมีความสุขจ้านหยินจึงถามคำถามแปลก ๆ กับเธอ "คุณไม่อยากให้ผมเป็นญาติกับพวกเขาเหรอครับ?""ตอนนี้ดึกมากแล้วนะคะ"ไห่ถงย
"วันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากเจอพ่อแม่คุณแล้ว ฉันจะกลับบ้านเดิมเพื่อไปตัดไม้ไผ่สองลำและเอากลับมา"จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "ไม่จำเป็นหรอก ผมจะขอให้ช่างมาติดตั้งในวันพรุ่งนี้ครับ"หลานสะใภ้คนโตตระกูลจ้านจะเดินทางกลับไปยังชนบทเพื่อตัดไม้ไผ่สองลำแล้วนำกลับมาเพื่อทำราวตากผ้า เป็นวิธีที่คนอื่นคิดไม่ออกแต่เธอนั้นกลับคิดไม่ออก"ก็ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนคุณแล้วกันนะคะ""ที่นี่ก็เป็นบ้านของผมเหมือนกันครับ"ไห่ถงตอบกลับแค่อืม แล้วถือเสื้อผ้าของเธอกลับไปที่ห้อง หลังจากผลักประตูเข้าไป เธอหันหน้าไปพูดกับจ้านหยินว่า "หากคุณต้องการสามารถนำเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ออกมาให้ฉันได้หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันจะซักเสื้อผ้าให้คุณด้วยค่ะ เพราะฉันต้องซักเสื้อผ้าเหมือนกัน""ไม่ต้องหรอกขอบคุณครับ พรุ่งนี้ผมจะให้คนส่งเครื่องซักผ้าสองเครื่องมาให้ ห้องน้ำทั้งสองควรมีเครื่องซักผ้าห้องละเครื่อง จะทำให้สะดวกหน่อย""ก็ได้ค่ะ คุณซื้อเครื่องซักผ้าไปเท่าไรบอกราคาฉันหน่อยนะคะ ฉันจะออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง"เขามอบบัตรธนาคารให้เธอแล้ว บอกว่ามันเป็นเงินของครอบครัวและเขาซื้อเครื่องซักผ้าอีก ครั้งนี้เธอไม่สามารถปล่อยให้เขาออกเงินทั้งหมดได้จ้า
"ไปกันครับ"จ้านหยินเดินไปและพูดนิ่ง ๆไห่ถงตอบรับและเดินตามเขาไปสามีภรรยาคู่นี้เดินไปด้วยกันแต่ไม่คุยกัน ไห่ถงต้องการหาเรื่องคุย แต่เมื่อเห็นเขาดูจริงจัง หน้าหล่อนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่จะบึ้งตึงอยู่เสมอ ราวกับทําท่าทางห้ามใครเข้าใกล้ ไห่ถงก็หมดความสนใจที่จะพูดคุยกับเขาคนอย่างเขาควรไปเป็นครูที่โรงเรียน ท่าทางจริงจังซะขนาดนี้ สามารถควบคุมเด็ก ๆ ได้อย่างแน่นอนจากนั้นไม่นานก็มาถึงตลาด ไห่ถงสั่งให้จ้านหยินจอดรถในที่ว่าง หลังลงจากรถเธอพูดกับเขาว่า "ไปค่ะ พวกเราไปกินอาหารเช้ากันก่อน"จ้านหยินไม่พูดและตามเธอไปอย่างเงียบ ๆนายน้อยจ้านมาที่ตลาดครั้งแรกไม่ชินนัก แต่ก็ให้ความร่วมมือกับไห่ถง ไม่แสดงให้ไห่ถงเห็นความไม่สบายใจของเขาทั้งสองสั่งก๋วยเตี๋ยวซุปหนึ่งชามในร้านอาหารเช้า ไห่ถงยังสั่งเกี๊ยวเพิ่มอีก เธอสามารถทานได้อีกเพราะก๋วยเตี๋ยวซุปหนึ่งชามนั้นทานไม่อิ่มจ้านหยินทานอาหารช้ามาก ไห่ถงรู้สึกท่าทางทานอาหารของเขานั้นดูดีเกินไป ทำให้ความอยากอาหารของเธอเพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่ใช่กลัวจ้านหยินจะรังเกียจเธอยังทานได้เพิ่มอีก เธอยังสามารถสั่งเกี๊ยวน้ำและหมั่นโถวอย่างอีกละหนึ่งชุด"ถ้าคุณทานไม่อิ่ม