โจวหงหลินกระซิบข้างหูของเธอ และเย่เจียนีก็ยิ้มทันทียังดีที่เขายังฉลาดเย่เจียนีสบายใจ หากเธอแต่งงานกับเขา เธอก็จะมีความสุขอย่างแน่นอนแน่นอนว่า เธอยังต้องระวังเขาอยู่ หลังจากที่เธอแต่งงานแล้ว เธอจะยึดบัตรเงินเดือนของเขาไว้ และเขาให้เขาสัญญาว่าจะเพิ่มชื่อของเธอในหนังสือทรัพย์สิน เธอจะให้เขาทำเป็นเรื่องเป็นราว กล่าวโดยสรุปว่า เธอจะไม่เดินตามรอยเท้าของไห่หลิงแน่นอน“จริงๆ แล้วมันเรื่องง่ายที่จะทำให้ไห่หลิงออกจากบ้านตัวเปล่า”"ทำยังไงคะ?"แม้ว่าเงินเก็นในบัญชีโจวหงหลินจะเป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ต้องแบ่งก็ไม่ต้องแบ่งให้กับไห่หลิง และเย่เจียนีก็จะได้รับไว้ทั้งหมดเอง“ให้เธอเลือกระหว่างการแบ่งทรัพย์สินกับหยางหยาง เธอจะเลือกหยางหยางอย่างแน่นอน และออกจากบ้านไปอย่างตัวเปล่า”หลังจากได้ยินสิ่งเข้ากับเรื่องนี้ เย่เจียนีรู้สึกผิดหวังมากและพูดกับเขาว่า "คุณยินดีที่จะสละสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายของคุณได้? เขาเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลโจว แม้ว่าคุณจะตั้งใจที่จะสละสิทธิ์ แต่พ่อแม่ของคุณก็จะไม่เห็นด้วยแน่นอนค่ะ"โจวหงหลิน: "... หยางหยางเป็นลูกชายของฉัน แน่นอนว่าฉันไม่สามารถสละสิทธิ์ได้"
“ดึกขนาดนี้ ใครมาเคาะประตู”โจวหงหลินพึมพำขณะที่เดินไปเปิดประตู แต่สีหน้าก็ดูไม่ดีเมื่อเขาเปิดประตูออกมาและเห็นร่างอ้วนยืนอยู่ที่ประตู เขาก็ตัวแข็งทื่อและไม่เชื่อไห่หลิงมาจริงๆ!เธอรู้ได้ไงว่าเขาอยู่ที่นี่สามีภรรยาสบตากันไห่หลิงมองร่างเปลือยเปล่าของเขา และสมองคิดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ปรากฎว่าผู้ชายคนนี้จะหักหลังคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายหลังจากที่โจวหงหลินได้สติ สีหน้าของเขาก็มืดลงทันทีและถามไห่หลิงว่า "คุณมาที่นี่ได้อย่างไร? หยางหยางอยู่ที่ไหนฦ คุณไม่ได้ดูแลหยางหยางที่บ้านตอนกลางคืนเหรอ คุณวิ่งมาที่นี่ …”“หงลิน ใครคะ? ทุบประตูแรงมาก”ก่อนที่โจวหงหลินจัดการข้อกล่าวหาของเขา เย่เจียนีก็โผล่ออกมาเธอสวมชุดนอน มัดผมหลวมๆ และไม่ชัดเจนว่าทั้งสองคนทำอะไรกันมาก่อน เธอดูมีเสน่ห์ดึงดูด แต่มีร่องรอยเรื่องนั้นที่ยังคงติดอยู่ที่คอของเธอในสถานการณ์แบบนี้ แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“นังปีศาจจิ้งจอก!”ไห่หลิงใช้ร่างอ้วนของเธอผลักโจวหงหลินออกจากประตู และพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เพียงชั่วพริบตาเธอก็หยุดอยู่ตรงหน้าเย่เจียนี คว้าผมยาวของเธอมาหนึ
ไห่ถงหันหลังกลับแล้วรีบพุ่งเข้าไปในห้องโจวหงหลินได้สติกลับมาแล้ว และรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เตะ ไห่หลิงที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนร่างของเย่เจียนีไห่ถงที่รีบเข้ามาอย่างโกรธจัด และเธอก็เตะใส่เข้าไปด้วยหลังจากฝึกฝนซานดูและจัดการกับพวกอันธพาลอย่างไห่จือชินมาแล้ว ไห่ถงก็มีความได้เปรียบ ด้วยการเตะครั้งนี้ เธอใช้พละกำลังทั้งหมด เตะโจวหงหลินที่เพิ่งเตะไห่หลิงล้มลง ก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยเช่นกัน เขาถูกไห่ถงเตะล้ม"พี่"ไห่ถงก้าวไปข้างหน้า เพื่อช่วยพี่เธอลุกขึ้นโจวหงหลินก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รีบไปประคองเย่เจียนี ชี้ไปที่ไห่หลิงและน้องสาว ตะโกนด้วยความโกรธว่า "ไห่หลิง พวกแกกำลังทำอะไรอยู่?"ไห่หลิงทุบเย่เจียนี และหอบอย่างแรง ขณะที่เธอฟังเสียงตะโกนของสามีของเธอ ความโกรธของเธอปะทุขึ้นอีกครั้ง และเธอก็ตวาดด้วยว่า "โจวหงหลิน แกสมควรทำเช่นนี้กับฉันไหม? ฉันลาออกจากงานเพื่อแก ดูแลครอบครัวและมีลูกให้กับแก แกหักหลังอฉัน และกับอีนังนี่ แกถามฉันว่ากำลังอะไรเหรอ? ฉันก็กำลังทุบนังแพศยานี่ไง!”พูดแล้ว เธอก็รีบวิ่งพุ่งเข้าไปอีกครั้งแต่ โจวหงหลินยืนอยู่ตรงหน้าเย่เจียนี ผลักไห่หลิงออก เพื่อป้อ
ไห่หลิงส่ายหัวให้น้องสาวเธอเธอจะทะเลาะกับโจวหงหลินได้อย่างไร? นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างสามีและภรรยา มันเป็นเรื่องของครอบครัว อย่างมากที่สุด ครอบครัว โจวจะให้โจวหงหลิน กลับบ้านเพื่อพักฟื้นเหมือนครั้งก่อนเธอทุบเย่เจียนี ซึ่งเป็นการลงมือกับชู้ ทุกคนคงคิดว่าเธอตบได้ถูกต้องและเย่เจียนีก็มีความผิดและจะไม่ทำอะไรเธอแต่ถ้าน้องสาวลงมือทุบตีโจวหงหลินและเย่เจียนี เพื่อระบายความโกรธของเธอ เนื่องจากนิสัยร้ายกาจของพวกตระกูลโจว จะฟ้องน้องสาวเธอและเรียกร้องค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาล และเย่เจียนีก็จะทำเช่นเดียวกันไห่หลิงไม่อยากให้น้องสาวโดนกระทำไห่หลิงจับน้องสาวไว้แน่นแล้วกระซิบว่า “เชื่อฉันสิ ฉันจัดการได้”น้องสาวและสามีของเธอแค่ช่วยเธอรวบรวมหลักฐานเท่านั้น"โจวหงหลิน"ไห่หลิงเช็ดน้ำตา แล้วถามเขาว่า "แกอยากจะหย่ากับฉันจริงๆเหรอ?"โจวหงหลินพูดอย่างเหลืออด "ใช่ ฉันอยากหย่ากับคุณ!"“หยางหยางยังเล็กอยู่ คุณทนได้ไหมที่จะทิ้งแม่กับลูกไว้ตามลำพัง?”สายตาของโจวหงลินไม่มีความลังเลใด ๆ และเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า "ไห่หลิง คุณกลับบ้านไปก่อน พวกเราทุกคนควรจะสงบสติอารมณ์ลง และอีกสองสามวันก็จะเป็นวันเสาร์ พว
หลังจากคืนนี้ เธอจะไม่เศร้าหรือเสียน้ำตาให้กับโจวหงหลินอีกต่อไป"หยางหยาง"ไห่หลิงนึกถึงลูกชายขึ้นมาจู่ๆ ก็รู้สึกกังวล“พี่ ฉันขอให้ป้าเหลียงไปดูแลหยางหยางแล้ว หลังจากที่หยางหยางหลับไปเขาก็หลับไปจนรุ่งสางเลย”โจวหยางนั้นซุกซนมาก มักจะโปรยของเล่นให้ทั่วพื้น แต่เมื่อเขาทำตัวดีเขาก็จะทำตัวดีมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน เว้นแต่เขารู้สึกไม่สบายตัว ไม่อย่างนั้นเขาก็จะนอนหลับจนถึงฟ้าสว่างไห่หลิงก็สบายใจลง“ถงถง จ้านหยิน พวกคุณสองคนเจอที่นี่ได้อย่างไร?” ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลูกชายแล้วไห่หลิงก็ยังมีเวลาและอารมณ์ที่จะถามออกมาไห่ถงตำหนิพี่สาวว่า “พี่ พวกเราเป็นพี่น้องกัน ตั้งแต่พ่อแม่จากไป พวกเราก็อยู่ด้วยกันมาตลอด 15 ปี ทุกอย่างที่พบเจอต้องค่อยปรึกษากัน แต่ครั้งนี้ พี่ก็ทอดทิ้งฉันไว้ แล้วฉันจสบายใจได้อย่างไร?”“เพื่อนของจ้านหยิน ช่วยรวบรวมหลักฐานเรื่องการนอกใจของโจวหงหลิน และเป็นคนที่มีความสามารถมาก เมื่อไปถาม เขาก็รู้อย่างรวดเร็วว่าโจวหงหลินอยู่ที่นี่ และ จ้านหยินกับฉันก็รีบมา”“พี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต พี่ต้องบอกฉัน โอเคไหม? อย่าเก็บไว้คนเดียว ฉันก็โตแล้วและไม่ใช่สาวน้อยที่พี่เ
พี่สาวเชื่อในตัวจ้านหยินมากกว่าที่เธอเชื่อและยังเล่าถึงเหตุการณ์น่าอาย ที่เธอขโมยเหล้าไหว้เทพเจ้าแห่งห้องครัวเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็กอีกด้วยจ้านหยินมองไปที่ไห่ถง และการจ้องของเขาทำให้ไห่ถงอยากจะมุดดินหนี“พี่ เรื่องนั้นเกิดขึ้นมากี่ปีแล้ว?ยังเอามาพูดต่อหน้าจ้านหยินอีกไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "วันนั้น เธอคลานขึ้นไปบนเตียงและนอนหลับทั้งวันหลังจากทานอาหารเสร็จ แม้ว่าเธอจะคออ่อน แต่เธอก็ยังชอบดื่ม หลังจากดื่มแล้วเธอจะนอนหลับจนฟ้ามืด"“จ้านหยิน จำไว้ว่าไม่มีงานเลี้ยงใหญ่โต อย่าให้เธอดื่ม”จ้านหยินเม้มริมฝีปาก แล้วยิ้มตอบว่า "พี่สาว ฉันจะจำไว้"ไห่หลิงพูดคุยเรื่องในอดีต และหลังจากที่ทุกคนหัวเราะออกมาแล้ว ความโศกเศร้าของพวกเขาก็ถูกชะล้างไปเรื่องการหย่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรโลกจะไม่ได้หยุดหมุนเพียงเพราะไม่เหลือใคร หากไม่มีโจวหงหลิน เธอ ไห่หลิงก็จะยังอยู่ดีมีสุขขณะที่เดินออกจากโรงแรม ไห่หลิงก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำแล้วหันไปพูดกับน้องสาวและน้องเขยว่า “ไปกันเถอะ พี่เลี้ยงอาหารท้อตอนดึกสักหน่อย ไม่ใช่สิ นี่มันเป็นอาหารเช้า ฉลองล่วงหน้าว่า พี่จะกลับไปเป็นโสดอีกครั้ง”ตอนนี้เป็นเวลา
เมื่อถูกเขามองอยู่ชั่วอึดใจ ไห่ถงก็พอจะมองออกนิดหน่อย จึงถามตะล่อม "คุณจ้าน คุณคงไม่อยากให้ฉันช่วยคุณล้างหน้าหรอกใช่ไหม?""หน้าผมดีปี๋ขนาดนี้ก็เพื่อคุณนั่นแหละ"หมายความว่า เธอควรจะรับผิดชอบไห่ถงพูดไม่ออก ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กลายเป็นคนหน้าไม่อายไปซะดื้อๆกันนะ?"ก็ได้ ฉันจะช่วยล้างให้ ใครบอกให้คุณทาหน้าซะดำปี๋ขนาดนี้เพื่อเรื่องของฉันกันล่ะ คุณควรจะทาให้ดำไปเลยทั้งหน้า แล้ววาดพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวตรงหน้าผาก อย่างน้อยยังเป็นเปาบุ้นจิ้นได้"ไห่ถงพูดพลางลากเขาให้เดินไปที่ห้องครัวจ้านหยินเดินตามรอยของเธอไปได้สองก้าวก็หยุด เขาขมวดคิ้วเรียวถามไห่ถง "ทำไมมาที่ห้องครัว?""ในครัวมีน้ำไง ห้องของคุณเป็นโซนต้องห้ามสำหรับฉัน ไม่เคยอนุญาตให้ฉันย่างกรายเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าไม่พาคุณไปห้องครัว จะล้างหน้าให้คุณยังไง? หรือคุณจะรอตรงนี้ ฉันไปซักผ้าขนหนูให้เปียกๆ แล้วค่อยมาเช็ดให้ ดูซิว่าจะเช็ดออกหรือเปล่า"จ้านหยิน "..."ปาหินก้อนใหญ่ที่แบกเอาไว้ลงใส่เท้านี่มันเจ็บมากโข เจ็บจนกระดูกข้อต่อที่เท้าจะแตกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้วหลังจากที่เงียบไปนิดหน่อย เขาก็พูดเสียงเรียบว่า "ห้องน้ำในห้องขอ
จ้านหยินถอดเสื้อท่อนบนออก หันกลับมาก็เห็นไห่ถงกำลังมองเขาราวกับจะกลืนกิน พอเห็นว่าเขากำลังมองเธออยู่ เธอก็ถาม "ยังจะถอดอีกไหม?"เธอยังชี้ไปที่กางเกงของเขา เป็นการบอกว่าเขายังไม่ได้ถอดกางเกงจ้านหยินมีสีหน้าบึ้งตึงที่เขาถอดช่วงบนออกเพราะกลัวว่าตอนล้างหน้า มันจะเปียกไปถึงเสื้อนี่เธอคิดว่าเขาจะถอดเสื้อผ้าทำไม?หมุนตัวกลับมาจ้านหยินก็สาวขายาวเข้าไปยืนตรงหน้าไห่ถง จนใกล้กันมากขึ้น ไห่ถงยื่นมือออกหวังจะจับซิกแพ็กแน่นๆของเขา ทั้งยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก "ผู้ชายที่ออกกำลังเป็นประจำ ก็จะหุ่นดีแบบนี้แหละ"มือข้างนึงของจ้านหยินคว้ามือที่แสนบังอาจของเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอลูบเขาได้เขาแผดเสียงแหบต่ำเตือนเธอด้วยสีหน้าดำทะมึน "ไห่ถง คุณรู้หรือเปล่าว่าลูบแล้วผลที่ตามมาจะเป็นยังไง?"ไม่รอให้เธอตอบ มืออีกข้างนึงของเขาก็ดีดหน้าผากเธออีกครั้ง คนเราน่ะ พอได้ทำอะไรหลายๆครั้งเข้า มันก็จะชินไปโดยปริยายหลังจากที่จ้านหยินดีดหน้าผากไห่ถงหลายครั้งเข้า เขาก็ชอบทำแบบนี้ไปซะแล้วแน่นอนว่าเขาควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่แรงไม่เบา ไม่งั้นเดี๋ยวทำเธอเจ็บแล้วจะมาชักสีหน้าใส่เขาได้ไห่ถงยิ้มตาหยี "คุณถอดเสื้อผ้าก็เพราะอยาก