ไห่ถงบอกว่าอยากไปทะเลเพื่อรับลม จ้านหยินจึงพาภรรยาไปที่ชายหาดแน่นอนว่าไม่สามารถพาไปวิลล่าริมทะเลของพวกเขาได้โชคดีที่ในฤดูนี้ แถมตอนกลางคืนชายหาดก็ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนตอนฤดูร้อน มีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนเท่านั้นทั้งคู่เดินเล่นบนทรายนุ่มๆ โดยมีเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งพร้อมกับลมทะเล พัดผมของไห่ถงปลิวไสว และทำให้เธอรู้สึกหนาวจ้านหยินหยุดลงไห่ถงหยุดและถามเขาว่า "มีอะไรเหรอคะ?"จ้านหยินถอดเสื้อสูทออก แล้วส่งให้ไห่ถง “ลมทะเลแรงมา ใส่เสื้อคลุมฉันเถอะ”เมื่อเห็นไห่ตงไม่รับเสื้อคลุม เขาก็พูดอีกครั้งว่า "คุณจะใส่มันเองหรือฉันช่วยคุณใส่?"ไห่ถงทำได้แค่ต้องเอาเสื้อคลุมของเขามาสวมแล้วพูดว่า "คุณหนาวไหมคะ?"“ฉันก็หนาว แต่ฉันกลัวคุณจะเป็นไข้มากกว่า”ไห่ถงมองเขาแล้วหัวเราะ "คุณจ้าน คำตอบของคุณไม่เหมือนกับในละครเลยค่ะ ผู้ชายในทีวีมักจะชอบพูดว่า 'ฉันไม่หนาว คุณใส่เถอะ'"แน่นอนว่าคำตอบของเขา ทำให้เธอรู้สึกถึความจริงใจมาก“ถ้ารู้ตั้งแต่เแรกว่าลมทะเลแรงและหนาวขนาดนี้ คงไม่ขอให้มาที่นี่ค่ะ”หลังจากที่ไห่ถงสวมเสื้อคลุม ร่างกายก็อุ่นขึ้นทันทีเธอหันหน้าไปมองเขา และเขาก็บังเอิญมองเธอเช่นกัน สองส
ไห่ถงหัวเราะออกมาจู่ๆ ก็อยากเห็นเขาเต้นระบำแก้ผ้าจ้านหยินยืนขึ้นและดีดนิ้วบนหน้าผากของเธอ นั้นทำให้เธอรู้สึกถึงเจ็บปวด“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหัวคุณมีอะไรอยู่ในนั้น สิ่งที่คุณคิดออกมาแต่ละอย่างมีเอกลักษณ์เสมอ”ไห่ถงจงใจพูดว่า "คุณยายมักจะขอให้ฉันผลักคุณลงเตียง เปลื้องผ้าคุณ นอนบนตัวคุณ แล้วให้กำเนิดหลานๆ กับเธอ ฉันขอคิดดูหน่อยว่า จะทำให้ความปรารถนาของคุณยายเป็นจริงดีไหม"หลังจากพูดจบ จ้านหยินดีดหน้าผากของเธออีกครั้ง"โอ๊ย"โดนทำให้เจ็บอีกครั้ง ไห่ถงก็ไม่เกรงใจ จับใบหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง หยิกสองครั้งเพื่อแก้แค้น"ไห่ถง"ไห่ถงคว้ามือทั้งสองข้างของเธอด้วยสีหน้าจริงจัง ทันใดนั้น ความขี้เล่นของไห่ถงก็ถูกสะกัดเอาไว้ และก็สบตาเข้ากับดวงตาที่ลึกล้ำของเขา พูดอย่างระมัดระวัง: "คุณจ้าน คุณอยากพูดอะไรก็พูดได้ตามที่คุณต้องการค่ะ ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นได้ไหมคะ มันทำให้ฉันกลัว""ฟังนะ"“เอาล่ะ ฉันกำลังฟังอยู่ หูก็ตั้งใจฟังอยู่”“จะนอนด้วยกันหรือไม่ นั้นก็เรื่องส่วนตัวของพวกเรา และเป็นเรื่องพวกเราเอง และควรทำตามความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเรา และไม่ใช่ไปฟังใครมาเพื่อทำมัน!”จ้านหยินไม่อยากใ
จ้านหยินถอดเสื้อคลุมแล้วยื่นให้เธอ “เอาเสื้อคลุมฉันไปด้วยตอนเข้าเฝ้าพระอินทร์”ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ชายทะเลและมีลมทะเลพัดมา แต่ไห่ถงก็ไม่เกรงใจที่จะหยิบเสื้อคลุมของเขามาคลุมตัวเอง และเตรียมไปเข้าเฝ้าพระอินทร์จ้านหยินปิดเพลงในรถ เพื่อไม่ให้รบกวนเธอเขาขับรถอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอไปเฝ้าพระอินทร์ย่างเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าคุยกับพระอินทร์ไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ได้มาถึงที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นแล้วกลุ่มบอดี้การ์ดยังคงเดินไปมาอยู่ชั้นล่างประเด็นคือ นายน้อยอยู่นอกสายตาพวกเขาตลอดทั้งคืนหลังจากที่ป้าเหลียงกลับมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของนายหญิง ก็รู้ว่านายน้อยจะพานายหญิงออกไปที่อื่น กลุ่มบอดี้การ์ดมีความกังวลเล็กน้อย แต่กลับไม่มีใครกล้าติดต่อกับนายน้อย เพราะกลัวว่าจะรบกวนความเป็นส่วนตัวของนายน้อยและนายหญิงตอนที่เห็นจ้านหยินขับรถกลับมา กลุ่มบอดี้การ์ดก็สลายตัวกันไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะถูกนายหญิงเห็นโดยเฉพาะอาชี เขาวิ่งเร็วที่สุดมาก เกือบจะพุ่งทะลุพุ่มไม้แล้วไปนั่งยองๆเพราะนายหญิงจำเขาได้จ้านหยินเมินต่อบอดี้การ์ดไห่ถงก็ไม่คนไม่สนใจเรื่องรอบตัว ไม่เช่นนั้นก็สังเกตได้ตั้งนานแล้วว่า พวกเขา
เมื่อคิดจะลงมือทำ จ้านหยินก็เริ่มเป็นหัวขโมยของในห้องของ ไห่ถงทันที โดยเปิดดูกล่องและตู้ต่างๆหลังจากตามหาอยู่พักหนึ่ง ก็ค้นทุกซอกทุกมุมที่คิดว่าเธออาจซ่อนไว้ แต่ก็ไม่พบหนังสือสัญญาของเธอเธอเอาไปเก็บไว้ไหน?จ้านหยินยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองไปที่มันเพื่อนึกถึงมุมที่ตัวเขาไม่ได้หา?เขาค้นทุกลิ้นชักทั้งหมดแล้วในที่สุด สายตาเขามองไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งวาดรูปปิ่นหงส์ทองบนโต๊ะเขาหยิบกระดาษขึ้นมาไห่ถงวาดรูปเก่งมากเธอวาดปิ่นหงส์ทองเพื่อทำอะไร?จ้านหยินคาดเดาไม่ออกถึงความหมายของปิ่นหงส์ทองของไห่ถง เขาหยิบกระดาษนั้นผลิกกลับมา และเนื้อหาอีกด้านหนึ่งนั้นเป็นสัญญาที่เขากำลังมองหาเธอวาดภาพไว้ด้านหลังหนังสือสัญญาของเธอจริงๆไม่แปลกใจเลยที่เขาหาหนังสือสัญญาไม่พบ แม้ว่าจะได้หาตามกล่องและตู้ต่างๆ ก็ตามจ้านหยินพับหนังสือสัญญาของไห่ถงลง และยัดมันลงในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเดินไปที่เตียงและนั่งลงที่ขอบเตียง จ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับไหลของไห่ถงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิกใบหน้าของเธอเบา ๆเผยรอบยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปาก "ไห่ถง ชีวิตนี้คุณจะเป็นได้ภรรยาของฉัน จ้านหยิน คนนี้เพ
สมองของไห่หลิงขาวโพล่นทันทีเธอคาดไม่ถึงว่า คนที่รับสายโทรศัพท์จะเป็นเย่เจียนนี่เธอรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหูอย่างรวดเร็ว และเริ่มบันทึกเสียงทันทีเพื่อนของน้องเขยเธอช่วยสืบสวนและรวบรวมหลักฐานของการนอกใจของโจวหงหลิน แต่ยังบอกเธอด้วยว่าหลักฐานเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ได้เพียงจิตใจของโจวหงหลินที่นอกใจ เพราะทั้งสองยังไม่มีความสัมพันธ์ด้านอื่นตอนนี้คู่รักตัวร้ายน่าจะอยู่ด้วยกัน ไห่หลิงคิดที่จะบันทึกเสียงก่อนไว้ก่อน"เธอเป็นใคร?"ความสงบนิ่งของเธอนั้นเพียงพอที่จะทำให้เย่เจียนีตัวสั่นอยู่ปลายสาย ขณะที่ไห่หลิงแสงไปตามบทหลังจากรู้ว่าโจวหงหลินนอกใจ เธอจะต้องโวยวายออกมาแน่ ซึ่งจะทำให้โจวหงหลินรู้สึกรำคาญและตัดสินใจหย่ากับเธอ โดยไม่สนใจลูกชายของเขาถ้าเธอไม่ร้องไห้หรือโวยวาย โจวหงหลินและคนอื่น ๆ ก็จะคิดว่าเธอรอจะหย่าร้าง และจะลากเธอตกต่ำไปแทน“ฉันเป็นเลขาของหงหลินค่ะ ฉันชื่อเย่เจียนนี่ แล้วคุณเป็นใคร?”เย่เจียนีถามถึงคำตอบที่รู้อยู่เต็มอก"ฉันเป็นใครเหรอ? ก็เป็นภรรยาของเขาไง! โจวหงหลินล่ะ? พวกคุณอยู่ที่ไหน? ทำอะไรกันอยู่? เรีกยโจวหงหลินมาเพื่อรับโทรศัพท์!"ไห่หลิงทั้งพูดและตวาด เพื่อทำให
เมื่อรู้ว่าเธอต้องดูแลลูกชาย เธอจึงไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่บ้านตามลำพังในเวลานี้ได้ เพื่อวิ่งมาที่โรงแรมเพื่อจับพวกเขาโทรหาน้อง?ไห่หลิงลังเลจะรบกวนน้องตอนนี้ดีไหม?หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไห่หลิงรู้สึกว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับเธอที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ และรวบรวมหลักฐานของการนอกใจของโจวหงหลินดังนั้น จึงต้องโทรหาไห่ถงไห่ถงหลับไปหลังจากดื่มเบียร์สองขวด และถูกจ้านหยินอุ้มขึ้นไปยังบ้านโดยไม่รู้ตัวไห่หลิงโทรศัพท์ออกไป โทรศัทพ์ของไห่ถงจึงร้องดังขึ้นมา และถูกดึงกลับมาจากการเข้าเฝ้าพระอินทร์เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสาย โดยไม่ได้ดูหมายเลขเรียกเข้าด้วยซ้ำ"ฮัลโหล ใครน่ะ""ถงถง ฉันเอง พี่แกไง""พี่ มีอะไรเหรอ?"ไห่ถงค่อยๆ ฟื้นคืนสติ ก็นึกขึ้นได้ถึงแผนการของพี่เธอที่จะโชว์ไพ่เด็ดเรียกการหย่าให้พี่เขยสารเลวดู เธอคิดว่าทั้งคู่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันอีก ทำให้เธอค่อยๆ ตาสว่าง ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงและถามอย่างกังวลว่า "พี่ กิดอะไรขึ้น? หรือว่าโจวหงหลินทำร้ายพี่อีกแล้วเหรอ?"“เขายังไม่ได้กลับบ้าน เขาบอกว่าจะกลับมาสายหน่อย เพราะไปงานเลี้ยงกับลูกค้าเและตอนนี้ก็เกือบจะตี 1 แล้ว เขาก
ขณะที่ไห่ถงพูดอยู่ ก็ได้หยิบกุญแจจากพวงกุญแจ แล้วมอบให้จ้านหยิน จากนั้นพูดว่า "นี่คือกุญแจบ้านพี่ฉัน"ดวงตาสีดำของจ้านหยินเป็นประกายโจวหงหลินไปงานเลี้ยง เขารู้เขาจัดการให้ซูหนานช่วยตามสืบและรวบรวมหลักฐานของโจวหงลิน ผู้ชื่นชอบเรื่องซุบซิบอย่างซูหนาน รู้สึกว่าหลังจากมอบหลักฐานให้แล้ว เขายังไม่ได้รับการชมเชยสักเท่าไหร่ จึงทำใจยอมรับไม่ได้ เขายังส่งคนไปติดตามโจวหงหลินอย่างลับๆเมื่อใดที่โจวหงหลินออกจากบริษัท ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแทบจะอยู่ภายใต้การจับตาของซูหนานตอนดึกขณะที่จ้านหยินอยู่กับไห่ถง ก็ได้ส่งข้อความหาซูหนาน โดยให้หาโอกาสในการกระตุ้นสถานการณ์ ช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าของโจวหงหลินและเย่เจียนี เพื่อจะได้ยืนยันว่าโจวหงหลินได้ทรยศต่อชีวิตคู่และครอบครัวของเขาเมื่อไห่หลิงเสนอหย่า เธอได้จะเปรียบในเรื่องนี้ตอนนี้โจวหงหลินและเย่เจียนีอยู่ด้วยกัน คือการพัฒนาความสัมพันธ์ไปอย่าปกติหรือเป็นผลมาจากจ้านหยินช่วยผลักให้?จ้านหยินไม่สามารถแยกแยะได้ขณะหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม“คุณรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่โรงแรมไหน?”“พี่ไม่บอกฉันแน่ เธอไม่ยอมฉันไปด้วย”ไห่ถงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เม
หลังจากจ้านหยินล็อคประตูบ้านแล้ว ก็ดึงไห่ถงเดินออกไปพร้อมพูดว่า "เพื่อนของฉันช่วยตามสืบดูแล้ว ตอนนี้พี่เขยของคุณอยู่ที่โรงแรมห่าวเจีย ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือชางซื่อกรุ๊ป ฉันทำงานที่จ้านซื่อกรุ๊ป ทั้งสองกรุ๊ปเป็นคู่แข่งกัน ฉันไม่ต้องการให้คนชางซื่อกรุ๊ปจำฉันได้ เลยระบายสีดำครึ่งหน้า แบบนี้จะได้ไม่มีใครจำฉันได้”ไห่ถงมองปานที่เขาวาดบนหน้าถึงสองครั้งช่วงเวลาเร่งรีบนี้ เขายังคิดถึงรายละเอียดเล็กน้อยนี้ด้วยเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาทำงานเป็นพนักงานในจ้านซื่อกรุ๊ปได้ตอนนี้ไห่ถงเชื่อคำพูดของคุณยายแล้ว ตอนที่คุณยายชมจ้านหยินต่อหน้าเธอ ซึ่งบอกว่าจ้านหยินเป็นคนเอาใจใส่รายละเอียดมากแน่นอน เฉพาะเมื่อเขาเอาใจใส่คุณเท่านั้นที่จะเขาแสดงออกถึงความสนใจได้อย่างมาก"กลับมาบ้าน ค่อยล้างด้วยน้ำและสบู่"ไห่ถงเปิดร้านหนังสือเครื่องเขียน และรู้วิธีทำล้างหมึกบนผิวหนังจ้านหยินอยากจะบอกว่า ตอนกลับมาบ้านอยากให้ไห่ถงช่วยล้างหทึกบนใบหน้าของเขาเมื่อคำพูดมาถึงปาก เขาก็กลืนมันกลับลงไปเขิลเลยไม่กล้าพูดออกไปคุณยายจ้าน: แกมีปากใหญ่ๆ แบบนี้ไว้จะมีประโยชน์อะไร? ไม่กล้าพูดอะไรออกไปสักอย่า