เมื่อคิดจะลงมือทำ จ้านหยินก็เริ่มเป็นหัวขโมยของในห้องของ ไห่ถงทันที โดยเปิดดูกล่องและตู้ต่างๆหลังจากตามหาอยู่พักหนึ่ง ก็ค้นทุกซอกทุกมุมที่คิดว่าเธออาจซ่อนไว้ แต่ก็ไม่พบหนังสือสัญญาของเธอเธอเอาไปเก็บไว้ไหน?จ้านหยินยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองไปที่มันเพื่อนึกถึงมุมที่ตัวเขาไม่ได้หา?เขาค้นทุกลิ้นชักทั้งหมดแล้วในที่สุด สายตาเขามองไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งวาดรูปปิ่นหงส์ทองบนโต๊ะเขาหยิบกระดาษขึ้นมาไห่ถงวาดรูปเก่งมากเธอวาดปิ่นหงส์ทองเพื่อทำอะไร?จ้านหยินคาดเดาไม่ออกถึงความหมายของปิ่นหงส์ทองของไห่ถง เขาหยิบกระดาษนั้นผลิกกลับมา และเนื้อหาอีกด้านหนึ่งนั้นเป็นสัญญาที่เขากำลังมองหาเธอวาดภาพไว้ด้านหลังหนังสือสัญญาของเธอจริงๆไม่แปลกใจเลยที่เขาหาหนังสือสัญญาไม่พบ แม้ว่าจะได้หาตามกล่องและตู้ต่างๆ ก็ตามจ้านหยินพับหนังสือสัญญาของไห่ถงลง และยัดมันลงในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเดินไปที่เตียงและนั่งลงที่ขอบเตียง จ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับไหลของไห่ถงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิกใบหน้าของเธอเบา ๆเผยรอบยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปาก "ไห่ถง ชีวิตนี้คุณจะเป็นได้ภรรยาของฉัน จ้านหยิน คนนี้เพ
สมองของไห่หลิงขาวโพล่นทันทีเธอคาดไม่ถึงว่า คนที่รับสายโทรศัพท์จะเป็นเย่เจียนนี่เธอรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหูอย่างรวดเร็ว และเริ่มบันทึกเสียงทันทีเพื่อนของน้องเขยเธอช่วยสืบสวนและรวบรวมหลักฐานของการนอกใจของโจวหงหลิน แต่ยังบอกเธอด้วยว่าหลักฐานเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ได้เพียงจิตใจของโจวหงหลินที่นอกใจ เพราะทั้งสองยังไม่มีความสัมพันธ์ด้านอื่นตอนนี้คู่รักตัวร้ายน่าจะอยู่ด้วยกัน ไห่หลิงคิดที่จะบันทึกเสียงก่อนไว้ก่อน"เธอเป็นใคร?"ความสงบนิ่งของเธอนั้นเพียงพอที่จะทำให้เย่เจียนีตัวสั่นอยู่ปลายสาย ขณะที่ไห่หลิงแสงไปตามบทหลังจากรู้ว่าโจวหงหลินนอกใจ เธอจะต้องโวยวายออกมาแน่ ซึ่งจะทำให้โจวหงหลินรู้สึกรำคาญและตัดสินใจหย่ากับเธอ โดยไม่สนใจลูกชายของเขาถ้าเธอไม่ร้องไห้หรือโวยวาย โจวหงหลินและคนอื่น ๆ ก็จะคิดว่าเธอรอจะหย่าร้าง และจะลากเธอตกต่ำไปแทน“ฉันเป็นเลขาของหงหลินค่ะ ฉันชื่อเย่เจียนนี่ แล้วคุณเป็นใคร?”เย่เจียนีถามถึงคำตอบที่รู้อยู่เต็มอก"ฉันเป็นใครเหรอ? ก็เป็นภรรยาของเขาไง! โจวหงหลินล่ะ? พวกคุณอยู่ที่ไหน? ทำอะไรกันอยู่? เรีกยโจวหงหลินมาเพื่อรับโทรศัพท์!"ไห่หลิงทั้งพูดและตวาด เพื่อทำให
เมื่อรู้ว่าเธอต้องดูแลลูกชาย เธอจึงไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่บ้านตามลำพังในเวลานี้ได้ เพื่อวิ่งมาที่โรงแรมเพื่อจับพวกเขาโทรหาน้อง?ไห่หลิงลังเลจะรบกวนน้องตอนนี้ดีไหม?หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไห่หลิงรู้สึกว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับเธอที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ และรวบรวมหลักฐานของการนอกใจของโจวหงหลินดังนั้น จึงต้องโทรหาไห่ถงไห่ถงหลับไปหลังจากดื่มเบียร์สองขวด และถูกจ้านหยินอุ้มขึ้นไปยังบ้านโดยไม่รู้ตัวไห่หลิงโทรศัพท์ออกไป โทรศัทพ์ของไห่ถงจึงร้องดังขึ้นมา และถูกดึงกลับมาจากการเข้าเฝ้าพระอินทร์เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดรับสาย โดยไม่ได้ดูหมายเลขเรียกเข้าด้วยซ้ำ"ฮัลโหล ใครน่ะ""ถงถง ฉันเอง พี่แกไง""พี่ มีอะไรเหรอ?"ไห่ถงค่อยๆ ฟื้นคืนสติ ก็นึกขึ้นได้ถึงแผนการของพี่เธอที่จะโชว์ไพ่เด็ดเรียกการหย่าให้พี่เขยสารเลวดู เธอคิดว่าทั้งคู่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันอีก ทำให้เธอค่อยๆ ตาสว่าง ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงและถามอย่างกังวลว่า "พี่ กิดอะไรขึ้น? หรือว่าโจวหงหลินทำร้ายพี่อีกแล้วเหรอ?"“เขายังไม่ได้กลับบ้าน เขาบอกว่าจะกลับมาสายหน่อย เพราะไปงานเลี้ยงกับลูกค้าเและตอนนี้ก็เกือบจะตี 1 แล้ว เขาก
ขณะที่ไห่ถงพูดอยู่ ก็ได้หยิบกุญแจจากพวงกุญแจ แล้วมอบให้จ้านหยิน จากนั้นพูดว่า "นี่คือกุญแจบ้านพี่ฉัน"ดวงตาสีดำของจ้านหยินเป็นประกายโจวหงหลินไปงานเลี้ยง เขารู้เขาจัดการให้ซูหนานช่วยตามสืบและรวบรวมหลักฐานของโจวหงลิน ผู้ชื่นชอบเรื่องซุบซิบอย่างซูหนาน รู้สึกว่าหลังจากมอบหลักฐานให้แล้ว เขายังไม่ได้รับการชมเชยสักเท่าไหร่ จึงทำใจยอมรับไม่ได้ เขายังส่งคนไปติดตามโจวหงหลินอย่างลับๆเมื่อใดที่โจวหงหลินออกจากบริษัท ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแทบจะอยู่ภายใต้การจับตาของซูหนานตอนดึกขณะที่จ้านหยินอยู่กับไห่ถง ก็ได้ส่งข้อความหาซูหนาน โดยให้หาโอกาสในการกระตุ้นสถานการณ์ ช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าของโจวหงหลินและเย่เจียนี เพื่อจะได้ยืนยันว่าโจวหงหลินได้ทรยศต่อชีวิตคู่และครอบครัวของเขาเมื่อไห่หลิงเสนอหย่า เธอได้จะเปรียบในเรื่องนี้ตอนนี้โจวหงหลินและเย่เจียนีอยู่ด้วยกัน คือการพัฒนาความสัมพันธ์ไปอย่าปกติหรือเป็นผลมาจากจ้านหยินช่วยผลักให้?จ้านหยินไม่สามารถแยกแยะได้ขณะหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม“คุณรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่โรงแรมไหน?”“พี่ไม่บอกฉันแน่ เธอไม่ยอมฉันไปด้วย”ไห่ถงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เม
หลังจากจ้านหยินล็อคประตูบ้านแล้ว ก็ดึงไห่ถงเดินออกไปพร้อมพูดว่า "เพื่อนของฉันช่วยตามสืบดูแล้ว ตอนนี้พี่เขยของคุณอยู่ที่โรงแรมห่าวเจีย ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือชางซื่อกรุ๊ป ฉันทำงานที่จ้านซื่อกรุ๊ป ทั้งสองกรุ๊ปเป็นคู่แข่งกัน ฉันไม่ต้องการให้คนชางซื่อกรุ๊ปจำฉันได้ เลยระบายสีดำครึ่งหน้า แบบนี้จะได้ไม่มีใครจำฉันได้”ไห่ถงมองปานที่เขาวาดบนหน้าถึงสองครั้งช่วงเวลาเร่งรีบนี้ เขายังคิดถึงรายละเอียดเล็กน้อยนี้ด้วยเขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาทำงานเป็นพนักงานในจ้านซื่อกรุ๊ปได้ตอนนี้ไห่ถงเชื่อคำพูดของคุณยายแล้ว ตอนที่คุณยายชมจ้านหยินต่อหน้าเธอ ซึ่งบอกว่าจ้านหยินเป็นคนเอาใจใส่รายละเอียดมากแน่นอน เฉพาะเมื่อเขาเอาใจใส่คุณเท่านั้นที่จะเขาแสดงออกถึงความสนใจได้อย่างมาก"กลับมาบ้าน ค่อยล้างด้วยน้ำและสบู่"ไห่ถงเปิดร้านหนังสือเครื่องเขียน และรู้วิธีทำล้างหมึกบนผิวหนังจ้านหยินอยากจะบอกว่า ตอนกลับมาบ้านอยากให้ไห่ถงช่วยล้างหทึกบนใบหน้าของเขาเมื่อคำพูดมาถึงปาก เขาก็กลืนมันกลับลงไปเขิลเลยไม่กล้าพูดออกไปคุณยายจ้าน: แกมีปากใหญ่ๆ แบบนี้ไว้จะมีประโยชน์อะไร? ไม่กล้าพูดอะไรออกไปสักอย่า
เย่เจียนีซบอกของโจวหงหลิน แล้วพูดเบา ๆ “หงหลิน ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรรับสายนั้นเลยค่ะ ฉันกลัวว่าเธอมีเรื่องด่วนจะถามคุณฉันจึงรับสาย”“ไม่เป็นไร อะไรเกิดแล้วก็ปล่อยให้เกิดไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเราจะบอกเกี่ยวกับเรื่องของพวกเรา แค่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป ในเมื่อเธอสงสัย ก็แค่ฉันกลับไปบ้านเผชิญหน้ากับเธอ”โจวหงหลินไม่ปล่อยให้เย่เจียนีรู้สึกน้อยใจหัวใจของเขาเอียงไปทางเย่เจียนนี่มาเนิ่นนานแล้ว โดยที่ไม่มีความอบอุ่นที่มอบไห่หลิงอีกต่อไป แต่เป็นเพราะพ่อแม่และลูกชายของเขานั้นที่เขายังคงอดทนอยู่ ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไล่ไห่หลิงออกไปนานแล้ว“หงหลิน ถ้าคุณสองคนหย่ากัน เธอจะแบ่งแยกทรัพย์สินของคุณด้วยไหมคะ?”เย่เจียนีไม่ต้องการให้ไห่หลิงแย่งทุกอย่างของโจวหงหลินไปเธออยากเห็นไห่หลิงอกจากบ้านไปตัวเปล่าไห่หลิงห่างหายจากที่ทำงานไปสองสามปี และลูกของเธอยังเด็กอยู่มา และอายุสองขวบท่านั้น นี่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะกลับไปทำงานได้อีด จากนั้นเธอก็สามารถได้เห็นหายนะที่เกิดกับไห่หลิงบางทีไห่หลิงอาจจะไปขอทานบนถนนโดยมีแบกลูกอยู่บนหลังโจวหงหลินยิ้มเยาะและพูดว่า "ถ้าเธอต้องการแบ่งทรัพยสิน ฉันก็ต้องแบ่งให้?
โจวหงหลินกระซิบข้างหูของเธอ และเย่เจียนีก็ยิ้มทันทียังดีที่เขายังฉลาดเย่เจียนีสบายใจ หากเธอแต่งงานกับเขา เธอก็จะมีความสุขอย่างแน่นอนแน่นอนว่า เธอยังต้องระวังเขาอยู่ หลังจากที่เธอแต่งงานแล้ว เธอจะยึดบัตรเงินเดือนของเขาไว้ และเขาให้เขาสัญญาว่าจะเพิ่มชื่อของเธอในหนังสือทรัพย์สิน เธอจะให้เขาทำเป็นเรื่องเป็นราว กล่าวโดยสรุปว่า เธอจะไม่เดินตามรอยเท้าของไห่หลิงแน่นอน“จริงๆ แล้วมันเรื่องง่ายที่จะทำให้ไห่หลิงออกจากบ้านตัวเปล่า”"ทำยังไงคะ?"แม้ว่าเงินเก็นในบัญชีโจวหงหลินจะเป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ต้องแบ่งก็ไม่ต้องแบ่งให้กับไห่หลิง และเย่เจียนีก็จะได้รับไว้ทั้งหมดเอง“ให้เธอเลือกระหว่างการแบ่งทรัพย์สินกับหยางหยาง เธอจะเลือกหยางหยางอย่างแน่นอน และออกจากบ้านไปอย่างตัวเปล่า”หลังจากได้ยินสิ่งเข้ากับเรื่องนี้ เย่เจียนีรู้สึกผิดหวังมากและพูดกับเขาว่า "คุณยินดีที่จะสละสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายของคุณได้? เขาเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลโจว แม้ว่าคุณจะตั้งใจที่จะสละสิทธิ์ แต่พ่อแม่ของคุณก็จะไม่เห็นด้วยแน่นอนค่ะ"โจวหงหลิน: "... หยางหยางเป็นลูกชายของฉัน แน่นอนว่าฉันไม่สามารถสละสิทธิ์ได้"
“ดึกขนาดนี้ ใครมาเคาะประตู”โจวหงหลินพึมพำขณะที่เดินไปเปิดประตู แต่สีหน้าก็ดูไม่ดีเมื่อเขาเปิดประตูออกมาและเห็นร่างอ้วนยืนอยู่ที่ประตู เขาก็ตัวแข็งทื่อและไม่เชื่อไห่หลิงมาจริงๆ!เธอรู้ได้ไงว่าเขาอยู่ที่นี่สามีภรรยาสบตากันไห่หลิงมองร่างเปลือยเปล่าของเขา และสมองคิดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ปรากฎว่าผู้ชายคนนี้จะหักหลังคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายหลังจากที่โจวหงหลินได้สติ สีหน้าของเขาก็มืดลงทันทีและถามไห่หลิงว่า "คุณมาที่นี่ได้อย่างไร? หยางหยางอยู่ที่ไหนฦ คุณไม่ได้ดูแลหยางหยางที่บ้านตอนกลางคืนเหรอ คุณวิ่งมาที่นี่ …”“หงลิน ใครคะ? ทุบประตูแรงมาก”ก่อนที่โจวหงหลินจัดการข้อกล่าวหาของเขา เย่เจียนีก็โผล่ออกมาเธอสวมชุดนอน มัดผมหลวมๆ และไม่ชัดเจนว่าทั้งสองคนทำอะไรกันมาก่อน เธอดูมีเสน่ห์ดึงดูด แต่มีร่องรอยเรื่องนั้นที่ยังคงติดอยู่ที่คอของเธอในสถานการณ์แบบนี้ แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“นังปีศาจจิ้งจอก!”ไห่หลิงใช้ร่างอ้วนของเธอผลักโจวหงหลินออกจากประตู และพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เพียงชั่วพริบตาเธอก็หยุดอยู่ตรงหน้าเย่เจียนี คว้าผมยาวของเธอมาหนึ
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้