หลังจากที่ไห่ถงได้รับการยืนยันแล้ว ไม่อาจไม่รู้สึกเสียใจแทนซางเสี่ยวเฟยได้นายน้อยจ้านมีภรรยาแล้วจริงๆซางเสี่ยวเฟยต้องปล่อยวางแล้วหวังว่าหญิงสาวที่น่ารักคนนั้นจะทำใจลืมความรู้สึกที่มีต่อนายน้อยจ้านได้เร็วๆ นี้ และได้พบกับความสุขของตัวเองสักที“นายน้อยจ้านแต่งงานแล้ว ทำไมไม่มีข่าวอะไรออกมาเลย?”กระทั่งชางเสี่ยวเฟยก็ไม่รู้เรื่อง“อาจจะเป็นการปกป้องภรรยาของประธานก็ได้ คุณลองคิดดูประธาของพวกเราหน้าตาหล่อเหลา อายุน้อยและร่ำรวย หญิงสาวคนไหนที่ได้พบเห็นเขาก็ต้องตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น”“แม้ว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ยกเว้นคุณหนูซาง ไม่มีความกล้าที่จะไล่ตามจีบอย่างเปิดเผย แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะคนชื่นชอบเขาไม่กี่คน เขากังวลว่าการเปิดเผยตัวตนและรูปลักษณ์ภรรยาของเขาออกไป จะนำซึ่งปัญหาที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาหาเขาได้ หน้ำซ้ำยังกลัวว่าตอนเขาไม่มีเวลาให้ภรรยาจะมีคนมาทำร้ายภรรยาอีก”“คนอื่นฉันไม่รู้ แต่เสี่ยวเฟยไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่นอน เธอเป็นนิสัยดี แต่กลับที่ถูกคนภายนอกเข้าใจผิดอย่างมาก นายน้อยจ้านไม่ชอบเธอ ดังนั้นจึงพูดได้แค่ว่าพวกเขาถูกฟ้าลิขิตให้มาเป็นคู่กัน”ไห่ถงถอนหายใจ "ฉันหวังว่าเสี่
ปกติเธอมักจะปิดร้านช้าเสมอ อาจเป็นเพราะต้องสั่งสินค้าเข้าร้านไห่ถงมองเขาแล้วพูดว่า "คุณยังไม่รบกวนอะไรมากค่ะ"จ้านหยิน "..."“พี่ฉันจะขอหย่ากับโจวหงหลินคืนนี้ ฉันเลยรู้สึกกังวลนิดหน่อย”“งั้นฉันจะพาคุณไปดูเธอไหม?”ไห่ถงดูเวลาแล้วพูดว่า "เวลานี้โจวหงหลินยังไม่กลับมา ปกติเขาจะกลับมาตอนดึกๆ"เป็นพวกเธอสองพี่น้องเองที่โง่เขลา เพราะคิดเสมอว่าโจวหงหลินกำลังยุ่งอยู่กับงานและมีต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้าอีกมากมาย หลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ทำให้กลับมาตอนดึกดื่น ที่จริงเขาไปพลอดรักกับคนรักของเขา!"เชื่อในตัวพี่ พี่จะต้องจัดการได้แน่นอน"จ้านหยินทำได้แค่ปลอบใจเธอแบบนี้หยุดพูดไปสักพัก ไห่ถงก็พูดว่า "ฉันมักจะรู้สึกเสมอว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ราบรื่น ครอบรัวโจวนั้นไร้ยางอาย คุณไม่รู้ว่าพวกเขาทำให้หยางหยางป่วย เพียงเพื่อไม่ให้พี่ฉันออกไปทำงาน"เธอเอาเรื่องที่แม่โจวทำมาบอกกับจ้านหยินหลังจากที่จ้านหยินได้ยิน ก็หน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ"หยางหยางไม่เป็นไรใช่ไหม?"“ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะติดไข้หรือยัง พี่บอกว่าเสี่ยวเปาเป็นไข้หวัดซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปให้เด็กคนอื่น ๆ ได้ง่าย แต่หยางหยางแข็งแรง
จ้านหยินมองไปที่ไห่ถง ซึ่งไห่ถงก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ฟังเขาถาม"อยากไปบ้านพี่คุณดูหน่อยไหม?"ไห่ถงดูเวลาในโทรศัพท์แล้วพูดว่า "โจวหงหลินยังไม่กลับมาตอนนี้"หลังจากเงียบไปชั่วคราว เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ปล่อยให้เธอจัดการเรื่องนั้นด้วยตัวเองเถอะค่ะ ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือจากฉัน รอจนกว่าะเธอจะเอ่ยปากพูด แล้วฉันจะทำอย่างดีที่สุด”จ้านหยินเงียบไปเขาถือโทรศัพท์และส่งข้อความ ไม่รู้ว่าจะส่งถึงใครไม่กี่นาทีต่อมา จู่ๆ เขาก็พูดกับเธอว่า "ฉันเห็นว่าคุณอารมณ์ไม่ดี จัดการปิดร้านก่อนไหม แล้วฉันจะพาคุณไปเดินเล่น"ไห่ถงเงียบก่อน แล้วก็พูดว่า "ฉันไม่มีที่ที่อยากไปค่ะ"ตอนนี้ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งงานของพี่สาว อารมณ์ของไห่ถงจะเปลี่ยนจากสดใสเป็นหดหู่ทันทีเธอมักจะคิดถึงเสมอว่า น้องพี่น้องอยู่ด้วยกันมาหลายปี หลังจากที่พี่เธอแต่งงานออกไป ก็คิดว่าเธอได้พบครอยครัวที่ดีและมีความสุขอย่างที่รอพี่เธอรอคอยแต่กลับโดนความจริงอันโหดร้ายตบหน้าเธออย่างโหดร้ายตอนนี้การแต่งงานของพี่สาวกำลังจะพังทลาย และเธอกับจ้านหยินก็ยังแสวงหาคำตอบการดำรงอยู่ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรในอนาคตหรือว่าคนที่ใช
เมื่อได้ยินเข้า จ้านหยินก็ขมวดคิ้วและต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ไห่ถงพูดต่อว่า "เสี่ยวจวินและฉันจะตอยแทนเสี่ยวเฟยด้วยวิธีอื่น และจะไม่เอาเปรียบเธอ"ซางเสี่ยวเฟยทิ้งของไว้ที่นี่ เธอและเเซินเสี่ยวจวินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับพวกมันไว้ ไม่รู้ว่าซางเสี่ยวเฟยจะโกรธแค่ไหน ดังนั้นต้องรับเอามาไว้ก่อนตอนที่กำลังจัดการกับของพวกนั้น ทั้งสองคนในใจได้คิดคำนวณแล้วว่าของที่ซางเสี่ยวเฟยเอามาราคาเท่าไหร่ในอนาคตต้องหาโอกาสคืนให้กับชางเสี่ยวเฟยทุกบาททุกสตางค์“ประเด็นไม่ใช่ว่าเอาเปรียบหรือไม่ ร้านของคุณเล็ก ทั้งวางชั้นหนังสือและสต๊อกสินค้าเยอะขนากนี้ หญิงสาวคนนั้นก็ยังคงพยายามเอาของยัดมาเข้าในร้านของคุณอีก และมันไม่ใช่เอาไว้เพื่อให้คุณขาย แบบนี้กลายเป็นรกไม่ใช่เหรอ?”ที่จริงแล้ว จ้านหยินไม่พอใจเขายังไม่เคยทำตัวเป็นใหญ่ในร้านของภรรยาเลย ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ซ่างเสี่ยวเฟยทำตัวเป็นใหญ่แน่นอนซางเสี่ยวเฟยชอบครอบงำภรรยาของเขาอยู่เสมอ และเป็นคนที่น่ารังเกียจมากกว่าจางเหนียนเซิงอีกแต่เพราะว่าซางเสี่ยวเฟยเป็นผู้หญิงเขาไม่สามารถพูดกับไห่ถงได้ "ที่รัก ฉันไม่ชอบให้คุณกับซางเสี่ยวเฟยสนิทกันเพร
ไห่ถงบอกว่าอยากไปทะเลเพื่อรับลม จ้านหยินจึงพาภรรยาไปที่ชายหาดแน่นอนว่าไม่สามารถพาไปวิลล่าริมทะเลของพวกเขาได้โชคดีที่ในฤดูนี้ แถมตอนกลางคืนชายหาดก็ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนตอนฤดูร้อน มีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนเท่านั้นทั้งคู่เดินเล่นบนทรายนุ่มๆ โดยมีเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งพร้อมกับลมทะเล พัดผมของไห่ถงปลิวไสว และทำให้เธอรู้สึกหนาวจ้านหยินหยุดลงไห่ถงหยุดและถามเขาว่า "มีอะไรเหรอคะ?"จ้านหยินถอดเสื้อสูทออก แล้วส่งให้ไห่ถง “ลมทะเลแรงมา ใส่เสื้อคลุมฉันเถอะ”เมื่อเห็นไห่ตงไม่รับเสื้อคลุม เขาก็พูดอีกครั้งว่า "คุณจะใส่มันเองหรือฉันช่วยคุณใส่?"ไห่ถงทำได้แค่ต้องเอาเสื้อคลุมของเขามาสวมแล้วพูดว่า "คุณหนาวไหมคะ?"“ฉันก็หนาว แต่ฉันกลัวคุณจะเป็นไข้มากกว่า”ไห่ถงมองเขาแล้วหัวเราะ "คุณจ้าน คำตอบของคุณไม่เหมือนกับในละครเลยค่ะ ผู้ชายในทีวีมักจะชอบพูดว่า 'ฉันไม่หนาว คุณใส่เถอะ'"แน่นอนว่าคำตอบของเขา ทำให้เธอรู้สึกถึความจริงใจมาก“ถ้ารู้ตั้งแต่เแรกว่าลมทะเลแรงและหนาวขนาดนี้ คงไม่ขอให้มาที่นี่ค่ะ”หลังจากที่ไห่ถงสวมเสื้อคลุม ร่างกายก็อุ่นขึ้นทันทีเธอหันหน้าไปมองเขา และเขาก็บังเอิญมองเธอเช่นกัน สองส
ไห่ถงหัวเราะออกมาจู่ๆ ก็อยากเห็นเขาเต้นระบำแก้ผ้าจ้านหยินยืนขึ้นและดีดนิ้วบนหน้าผากของเธอ นั้นทำให้เธอรู้สึกถึงเจ็บปวด“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหัวคุณมีอะไรอยู่ในนั้น สิ่งที่คุณคิดออกมาแต่ละอย่างมีเอกลักษณ์เสมอ”ไห่ถงจงใจพูดว่า "คุณยายมักจะขอให้ฉันผลักคุณลงเตียง เปลื้องผ้าคุณ นอนบนตัวคุณ แล้วให้กำเนิดหลานๆ กับเธอ ฉันขอคิดดูหน่อยว่า จะทำให้ความปรารถนาของคุณยายเป็นจริงดีไหม"หลังจากพูดจบ จ้านหยินดีดหน้าผากของเธออีกครั้ง"โอ๊ย"โดนทำให้เจ็บอีกครั้ง ไห่ถงก็ไม่เกรงใจ จับใบหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง หยิกสองครั้งเพื่อแก้แค้น"ไห่ถง"ไห่ถงคว้ามือทั้งสองข้างของเธอด้วยสีหน้าจริงจัง ทันใดนั้น ความขี้เล่นของไห่ถงก็ถูกสะกัดเอาไว้ และก็สบตาเข้ากับดวงตาที่ลึกล้ำของเขา พูดอย่างระมัดระวัง: "คุณจ้าน คุณอยากพูดอะไรก็พูดได้ตามที่คุณต้องการค่ะ ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นได้ไหมคะ มันทำให้ฉันกลัว""ฟังนะ"“เอาล่ะ ฉันกำลังฟังอยู่ หูก็ตั้งใจฟังอยู่”“จะนอนด้วยกันหรือไม่ นั้นก็เรื่องส่วนตัวของพวกเรา และเป็นเรื่องพวกเราเอง และควรทำตามความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเรา และไม่ใช่ไปฟังใครมาเพื่อทำมัน!”จ้านหยินไม่อยากใ
จ้านหยินถอดเสื้อคลุมแล้วยื่นให้เธอ “เอาเสื้อคลุมฉันไปด้วยตอนเข้าเฝ้าพระอินทร์”ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ชายทะเลและมีลมทะเลพัดมา แต่ไห่ถงก็ไม่เกรงใจที่จะหยิบเสื้อคลุมของเขามาคลุมตัวเอง และเตรียมไปเข้าเฝ้าพระอินทร์จ้านหยินปิดเพลงในรถ เพื่อไม่ให้รบกวนเธอเขาขับรถอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอไปเฝ้าพระอินทร์ย่างเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าคุยกับพระอินทร์ไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ได้มาถึงที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นแล้วกลุ่มบอดี้การ์ดยังคงเดินไปมาอยู่ชั้นล่างประเด็นคือ นายน้อยอยู่นอกสายตาพวกเขาตลอดทั้งคืนหลังจากที่ป้าเหลียงกลับมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของนายหญิง ก็รู้ว่านายน้อยจะพานายหญิงออกไปที่อื่น กลุ่มบอดี้การ์ดมีความกังวลเล็กน้อย แต่กลับไม่มีใครกล้าติดต่อกับนายน้อย เพราะกลัวว่าจะรบกวนความเป็นส่วนตัวของนายน้อยและนายหญิงตอนที่เห็นจ้านหยินขับรถกลับมา กลุ่มบอดี้การ์ดก็สลายตัวกันไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะถูกนายหญิงเห็นโดยเฉพาะอาชี เขาวิ่งเร็วที่สุดมาก เกือบจะพุ่งทะลุพุ่มไม้แล้วไปนั่งยองๆเพราะนายหญิงจำเขาได้จ้านหยินเมินต่อบอดี้การ์ดไห่ถงก็ไม่คนไม่สนใจเรื่องรอบตัว ไม่เช่นนั้นก็สังเกตได้ตั้งนานแล้วว่า พวกเขา
เมื่อคิดจะลงมือทำ จ้านหยินก็เริ่มเป็นหัวขโมยของในห้องของ ไห่ถงทันที โดยเปิดดูกล่องและตู้ต่างๆหลังจากตามหาอยู่พักหนึ่ง ก็ค้นทุกซอกทุกมุมที่คิดว่าเธออาจซ่อนไว้ แต่ก็ไม่พบหนังสือสัญญาของเธอเธอเอาไปเก็บไว้ไหน?จ้านหยินยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองไปที่มันเพื่อนึกถึงมุมที่ตัวเขาไม่ได้หา?เขาค้นทุกลิ้นชักทั้งหมดแล้วในที่สุด สายตาเขามองไปที่กระดาษแผ่นหนึ่งวาดรูปปิ่นหงส์ทองบนโต๊ะเขาหยิบกระดาษขึ้นมาไห่ถงวาดรูปเก่งมากเธอวาดปิ่นหงส์ทองเพื่อทำอะไร?จ้านหยินคาดเดาไม่ออกถึงความหมายของปิ่นหงส์ทองของไห่ถง เขาหยิบกระดาษนั้นผลิกกลับมา และเนื้อหาอีกด้านหนึ่งนั้นเป็นสัญญาที่เขากำลังมองหาเธอวาดภาพไว้ด้านหลังหนังสือสัญญาของเธอจริงๆไม่แปลกใจเลยที่เขาหาหนังสือสัญญาไม่พบ แม้ว่าจะได้หาตามกล่องและตู้ต่างๆ ก็ตามจ้านหยินพับหนังสือสัญญาของไห่ถงลง และยัดมันลงในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเดินไปที่เตียงและนั่งลงที่ขอบเตียง จ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับไหลของไห่ถงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิกใบหน้าของเธอเบา ๆเผยรอบยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปาก "ไห่ถง ชีวิตนี้คุณจะเป็นได้ภรรยาของฉัน จ้านหยิน คนนี้เพ