แชร์

บทที่ 63

ผู้เขียน: จิ้งซิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 18:49:24
“อะไรนะ? นางไปแล้ว?”

เวินเฉวียนเซิ่งกับเวินฉางอวิ้นไปเสียเที่ยวอีกครั้ง

ตอนที่พ่อลูกคู่นี้คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไปหาเวินซื่อที่วังหลวง แต่กลับรู้มาว่าเวินซื่อกลับอารามสุ่ยเยว่แล้ว

เสี่ยวเต๋อจื่อยิ้มเล็กน้อย “ใช่แล้ว ธิดาศักดิ์สิทธิ์กังวลเกี่ยวกับพิธีขอพรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพิ่งฟื้นก็รีบกลับอารามสุ่ยเยว่เพื่อเตรียมตัวแล้ว”

สีหน้าเวินเฉวียนบึ้งตึงเล็กน้อย

เดิมทีเขาอยากถามให้ชัดเจนด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เวินซื่อกลับกลับอารามสุ่ยเยว่โดยตรงแล้ว

ถ้าหากอยู่ในวังหลวง เขายังสามารถเจอนาง

แต่อยู่ในอารามสุ่ยเยว่ เขากลับไม่สามารถเข้าแม้แต่ประตู

หรือนี่ก็อยู่ในแผนของเป่ยเฉินหยวน?

เวินเฉวียนเซิ่งสงสัยในใจ

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ นี่ไม่ใช่แผนของเป่ยเฉินหยวน

เวินซื่อเดาว่าเวินเฉวียนเซิ่งต้องมาหานางด้วยตัวเองแน่นอน ดังนั้นหลังจากที่ดวงตาหายดีแล้ว ก็กลับไปพร้อมกับม่อโฉวซือไท่ทันที

ไม่ใช่ว่านางกลัวเวินเฉวียนเซิ่ง แต่เพราะนางจะเตรียมพิธีขอพรก่อน รอหลังจากนี้นางค่อยลงมือทวงคืนทุกอย่างจากคนเหล่านี้

แล้วก็ นางไม่อยากให้เวินจื่อเฉินออกจากคุกเร็วเช่นนั้น

ก่อนที่นางจะอารมณ์ดีขึ้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 64

    เมื่อเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้น แววตาเวินซื่อเผยให้เห็นความประหลาดใจทันทีเพราะรูปร่างของอิ่งชีสูงบาง ประกอบกับชุดที่มิดชิด รูปร่างภายนอกแทบไม่มีลักษณะเด่นใดๆ ดูแล้วย่อมแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงแต่ตอนนี้เสียงของอิ่งชีดังขึ้น เวินซื่อก็รู้แล้วอิ่งชีเป็นผู้หญิง“ท่านอ๋อง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”เวินซื่อก็เคยเป็นผู้หญิงสูงศักดิ์มีชาติตระกูล ย่อมรู้ว่าในเรือนของคนชนชั้นสูง และรวมถึงราชวงศ์ จะฝึกองครักษ์ลับส่วนตัวจำนวนหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงก็เช่นกันข้างกายเวินเฉวียนเซิ่งก็มีองครักษ์ลับค่อยปกป้องสมัยเด็กนางเคยเห็นคนเช่นนี้ ความรู้สึกที่อิ่งชีนำมาให้นาง ก็เหมือนกับองครักษ์ลับข้างกายของบิดา “นี่คือองครักษ์ลับที่ฝ่าบาทสั่งให้ข้าส่งมา เดิมทีพวกเขาเป็นคนของราชวงศ์เท่านั้น แต่ท่านเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์เพียงคนเดียว และยังขอพรเพื่อบ้านเมืองในอาราม หลังจากข้ากับฝ่าบาทปรึกษากัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างก่อนหน้านี้ ก็เลยเลือกองครักษ์ลับที่เหมาะสมกับท่านคนหนึ่งส่งมาให้ท่าน”เป่ยเฉินหยวนล้วงป้ายประจำตัวของอิ่งชีออกมาส่งให้เวินซื่อ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านก็คือนายของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 65

    “นี่คือของขวัญตอบแทนที่มอบให้ท่าน อีกชิ้นเป็นของที่ถวายให้ฝ่าบาท รบกวนท่านอ๋องช่วยข้านำไปให้ฝ่าบาทด้วย”เป่ยเฉินหยวนรับกล่องไม้มา ไม่ได้เปิดต่อหน้านางทันที เพียงแค่พยักหน้า “ได้ ข้ารู้แล้ว”รอหลังจากเป่ยเฉินหยวนจากไป เวินซื่อเริ่มคัดพระสูตรต่ออีกครั้ง แต่เพิ่งลงพู่กันได้ไม่นาน คิดไม่ถึงว่าข้างนอกมีคนมาอีกแล้วคือม่อโฉวซือไท่“อู๋โยว”ม่อโฉวซือไท่เห็นเวินซื่อคัดพระสูตรอย่างจริงจังตั้งแต่อยู่ตรงลาน สีหน้าที่แข็งกระด้างตลอด นุ่มนวลลงสองส่วนโดยแทบสังเกตไม่เห็น“อาจารย์?”เมื่อซื่อได้ยินเสียง ก็วางพู่กันลง“ได้ยินมาว่าท่านอ๋องมอบองครักษ์ลับคนหนึ่งให้เจ้า?”“ถูกต้อง ศิษย์รับไว้แล้ว ชื่อจู๋เยวี่ย อาจารย์จะพบนางหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนส่งคนมาอารามสุ่ยเยว่ ย่อมต้องผ่านการเห็นชอบจากม่อโฉวซือไท่ ดังนั้นเวินซื่อไม่แปลกใจที่ม่อโฉวซือไท่รู้เรื่องนี้“ไม่ต้องแล้ว เจ้าเคยพบแล้วก็พอ”ม่อโฉวซือไท่โบกมือ หลังจากเข้าห้องก็รับน้ำชาที่เวินซื่อรินให้นาง แต่ไม่ได้ดื่มทันที “เจ้านั่งลงก่อน อาจารย์มีเรื่องจะถามเจ้า”เวินซื่อวางกาน้ำชา ไปนั่งที่ข้างๆ นางทันที“อาจารย์จะถามอะไรหรือ?”ม่อโฉวซือไท่มองด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 66

    จุดเปลี่ยนกะทันหันนี้ทำให้เวินซื่อยืนตะลึงอยู่ตรงที่เดิมนางไม่อยากจะเชื่อ “อาจารย์ ท่านๆๆ…ท่านบอกว่าท่านคือราชันพิษ? เช่นนั้นหมอปีศาจราชันพิษท่านนั้น?”ม่อโฉวซือไท่เลิกคิ้วเล็กน้อย ยกมือกล่าว “คนออกบวชไม่พูดปด”ราชวงศ์ต้าหมิงมีหมอเทวดาที่เลื่องชื่อสองท่านท่านหนึ่งเล่ากันว่าคือหลินจื่อฟู สามารถช่วยคนตายฟื้นคืนชีพ รักษาเนื้อและกระดูกงอกใหม่ส่วนอีกท่านคือหมอปีศาจราชันพิษที่เชี่ยวชาญการแพทย์และยาพิษชื่อเสียงของพวกเขา ต่อให้เป็นเวินซื่อที่อยู่เรือนส่วนหลังในอดีตก็เคยได้ยินในบรรดาสองท่านนี้ คนที่ลึกลับที่สุดย่อมหนีไม่พ้นหมอปีศาจราชันพิษท่านนี้ ลือกันว่าจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของหมอปีศาจราชันพิษแต่วันนี้นางรู้แล้ว!ใครจะคิดว่าหมอปีศาจราชันพิษที่ลึกลับ จะเป็นซือไท่เจ้าอาวาสของอารามชีที่ไม่สะดุดตาเลยสักนิด?“เช่นนั้นอาจารย์ ท่านจะสอนข้าเรียนพิษจริงหรือ?”“ทำไม เจ้าไม่ยินดี?”“ยินดีเจ้าค่ะ!”เวินซื่อกล่าวกระตือรือร้น “ศิษย์แค่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโชคดีเช่นนี้”ก่อนหน้านี้เป่ยเฉินหยวนยังเตือนนาง ทางที่ดีที่สุดหาใครสักคนที่สามารถชี้แนะจริงๆ มาสอนนางแต่ปราก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 67

    พวกเขาคิดเหมือนกันหมด ‘ถึงว่าฝ่าบาทจะเลือกนาง ปกติก็ไม่รู้สึกอะไร วันนี้พอตั้งใจดูดีๆ เวินซื่อคนนี้มีใบหน้าที่เกิดมาเพื่อเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์จริงๆ’ก็ได้ ขอเพียงต่อไปเวินซื่อยังคงอยู่ในกรอบในศีลขอพรเพื่อบ้านเมือง พวกเขาก็ใช่ว่าจะไม่สามารถยอมรับธิดาศักดิ์สิทธิ์ท่านนี้เวินซื่อยังไม่รู้ ด้วยใบหน้าของตัวเองก็ชนะใจทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ นั่งตำแหน่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างมั่นคงแล้ว“เสด็จอาท่านดู ธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เราเลือกท่านนี้ไม่เลวกระมัง?”ฮ่องเต้น้อยย่อมไม่พลาดการแสดงออกที่ยอดเยี่ยมบนใบหน้าของเหล่าขุนนางและชาวบ้านที่อยู่ข้างล่างในใจรู้สึกพอใจต่อเวินซื่อมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไรก็ตามเขาแค่มอบโอกาสให้เวินซื่อ แต่จะสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้หรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับนางเองความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า ผลงานของนางไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ“สายพระเนตรของฝ่าบาทไม่เลวจริงๆ”เป่ยเฉินหยวนชมฮ่องเต้น้อยในเวลาที่เหมาะสมและยังพยักหน้าอย่างจริงจังด้วยความพยายามในช่วงที่ผ่านมาของเวินซื่อล้วนอยู่ในสายตาของเขา ในพิธีขอพร นางจำเป็นต้องท่องบทสวดขอพรเก้าชุด เพื่อแสดงความศรัทธายังไม่สามารถพลางดูพลางอ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 68

    “ผู้หญิงท่าทางลับๆ ล่อๆ?”เวินซื่อชะงักเล็กน้อย “ข้างกายนางยังมีคนอื่นหรือไม่?”“ไม่มีเจ้าค่ะ แค่นางคนเดียว”เวินซื่อพยักหน้า “เช่นนั้นดี เจ้าซ่อนตัวก่อน อย่าให้ใครพบเห็น”“เจ้าค่ะ”จู๋เยวี่ยหายไปทันทีเวินซื่อจัดแจงเสื้อผ้าต่อ หลังจากจัดแจงเสร็จก็เดินออกไปข้างนอกเหมือนไม่รู้อะไรตอนที่จะก้าวข้ามประตูใหญ่นั้นเอง จู่ๆ มือข้างหนึ่งก็ปรากฏ เหวี่ยงตรงเข้ามาหานางโชคดีที่เวินซื่อมีการเตรียมตัวไว้ก่อน ผินหน้าก็หลบได้แล้วหลังจากนั้นพลิกมือเหวี่ยงใส่ใบหน้าอีกฝ่ายดัง ‘เพียะ’ เวินเยวี่ยตกเป็นฝ่ายที่เสียท่า กุมใบหน้ากล่าวด้วยความโกรธ “เวินซื่อ เจ้ากล้าตบข้า!”“ตบแล้วเจ้าจะทำไม?”เวินซื่อกล่าวเย้ยหยัน “เหมือนสมองของสีกาไม่ค่อยดี ต้องให้ข้าเตือนหน่อยหรือไม่? อย่างไรเสียข้าไม่ได้แค่เคยตบสีกา”“เจ้า!”เวินเยวี่ยอับอายจนโมโหทันที ยกมือคิดจะตบเวินซื่ออีกครั้งแต่เวินซื่อกลับเร็วกว่านาง แทบจะทันทีที่นางยกมือ เวินซื่อใช้มือซ้ายจับนาง มือขวาก็ตบกลับไปอย่างไม่ลังเล“เพียะ!”เสียงของฝ่ามือนี้ ชัดเจนกว่าก่อนหน้านี้มากเวินเยวี่ยไม่ทันหลบด้วยซ้ำ ใบหน้าซ้ายขวาสมดุลทันทีเวินซื่อที่ตบได้หนำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 69

    พลันการแสดงออกบนใบหน้าเวินเยวี่ยแข็งเล็กน้อยเพราะคำพูดของเวินซื่อ จี้โดนอารมณ์ที่แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้สึกสีหน้าเวินเยวี่ยขรึมลงทันทีนางมองเวินซื่อด้วยสายตาเคร่งขรึม “ดังนั้นเจ้าตัดสินใจไม่กลับสกุลเวินแล้ว?”ถูกต้องแต่เวินซื่อไม่อยากให้เวินเยวี่ยอยู่อย่างมีความสุขนางยิ้มเล็กน้อย “ดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากัน อย่างไรเสียถ้าหากพวกท่านพ่อเปลี่ยนใจแล้ว เช่นนั้น ก็ใช่ว่าข้าจะไม่สามารถกลับไปเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงอีกครั้ง”‘บุตรภรรยาเอก’ คำนี้มันแสบหูเวินเยวี่ยข้างนอก นางคือลูกสาวของผู้มีพระคุณที่เวินเฉวียนเซิ่งรับเลี้ยงแต่ในความเป็นจริง นางก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกัน ทว่าไม่ใช่ลูกสาวภรรยาเอกของเวินเฉวียนเซิ่งและถึงขั้นไม่นับเป็นลูกอายุภรรยาด้วยซ้ำแต่เป็นแค่ลูกสาวนอกสมรสนอกเสียจากวันข้างหน้านางสามารถลบชื่อหลานจื่อจวิน มารดาของเวินซื่อออกจากบันทึกลำดับญาติสกุลเวินหลังจากนั้นเติมชื่อของมารดาตัวเองลงไป ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่สามารถก้าวข้ามเวินซื่อ กลายเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงและนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ชาติที่แล้ว เพราะเหตุใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 70

    “โอ๊ย เรียกข้ามาแต่เช้าเช่นนี้จะทำอะไรเนี่ย?”“ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว ข้าว่าเจ้ารีบมาดูของสิ่งนี้ดีกว่า!”หลินจื่อฟูที่ถูกคนของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเคาะประตูเรียกจนตื่น และยังถูกลากมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เดิมทียังงัวเงียเล็กน้อยแต่หลังจากเห็นของในกล่องไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ ตื่นตัวขึ้นมาทันที“สวรรค์! นี่ไม่ใช่เห็ดหลินจือสีม่วงหรือ!”หลินจื่อฟูกระโจนไปที่ข้างโต๊ะ หยิบเห็ดหลินจือที่อยู่ในกล่องไม้ขึ้นมาดูอย่างระมัดระวังทันที“ฮ่าๆๆ สีนี่ดีเกินไปแล้วกระมัง? พวกเจ้าไปได้ของดีเช่นนี้มาจากที่ใด?”หลินจื่อฟูตื่นเต้นจนตาลุกวาวแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้เห็ดหลินจือสีม่วงต้นนั้น ท่าทางที่ทะนุถนอมนั่นก็เหลือแค่จูบแล้ว“นี่เจ้าเลิกตื่นเต้นได้แล้ว รีบดูก่อนว่านี่ใช่เห็ดหลินจือสีม่วงอายุร้อยปีที่เจ้าพูดถึงหรือไม่?”เกาเย่าและคนอื่นร้อนใจจะตายอยู่แล้ว พากันเร่งเร้าเขามีเพียงเป่ยเฉินหยวนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังนับว่าสงบหลินจื่อฟูกล่าวอย่างไม่ลังเล “มันแน่อยู่แล้ว! พวกเจ้าก็ไม่ดูเลยว่าดอกใหญ่เช่นนี้! เป็นเห็ดหลินจือสีม่วงร้อยปีไม่ผิดแน่!”“เยี่ยมไปเลย!”เกาเย่าและคนอื่นดีใจจนแทบกระโดด“ท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 71

    ไฉนเลยที่เป่ยเฉินหยวนจะไม่รู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา กล่าวเรียบ ๆ “ไม่ผิด นางกำลังเรียนวิชาแพทย์อยู่ แต่สิ่งที่นังหนูนั้นอยากเรียนจริง ๆ ก็คือพิษ เจ้ามีความรู้ด้านพิษหรือ?”“พิษ...พอมีความรู้เล็กน้อย? เอาเถอะ ก็ไม่ได้มีความรู้มากเท่าไหร่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเอ่ยถึงยาพิษ หลินจื่อฟูสีหน้าเศร้าซึมลงไปทันทีถึงแม้ว่าเขาจะถูกขนานนามว่าเป็นนักปราชญ์แห่งการแพทย์ที่สามารถทำคนตายให้ฟื้น ทำกระดูกให้มีเลือดเนื้อ แต่เขาไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านพิษสักเท่าใด“หากจะกล่าวว่าผู้ที่เชี่ยวชาญด้านยาพิษมากที่สุดคงจะต้องเป็นหมอปีศาจราชันพิษนั่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หากประลองฝีมือทางการรักษากับคนผู้นั้น เขายังสามารถเหนือกว่าระดับหนึ่ง หากประลองพิษ เช่นนั้นก็ช่างมันเสียเถิด“จะว่าไป ช่วงนี้เหมือนกระหม่อมจะได้ยินข่าวลือมาว่า หมอปีศาจราชันพิษเจ้าหมอนั่นอยู่ที่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”หลินจื่อฟูนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน จึงพูดขึ้นมาลอย ๆเมื่อเป่ยเฉินหยวนได้ยินดังนั้นทำท่าทางครุ่นคิด “เจ้าพอมีหนทางติดต่อกับคนผู้นั้นหรือไม่?”“กระหม่อมมิได้สนิทกับเจ้าหมอนั่น!”เป่ยเฉินหยวนเหลือบมองเขา “เช่นนั้นก่อนหน้านี้เจ้าประลองฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 124

    หลังผ่านคืนนั้นมา เวินจื่อเฉินก็เฝ้าอยู่ในโถงบรรพชนเป็นเวลาสิบกว่าวันเต็ม ๆไม่ว่าจะเป็นเวินเยวี่ย เวินฉางอวิ้น หรือเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นบิดาของพวกเขาจะไปเรียก เขาก็ไม่ยอมออกมาเวินฉางอวิ้นยังนึกว่าตนลงโทษหนักเกินไป ทำร้ายความเคารพในตัวเองของน้องรองเข้าแล้วแต่เมื่อถามเขา เวินจื่อเฉินก็พูดเพียงว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาของท่าน แต่เป็นตัวข้าเอง ข้าแค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพัก”ต่อมา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็ไม่ไปรบกวนเขาอีกเพียงแต่ว่าในวันที่สาม ได้นำข่าวไปแจ้งแก่เวินจื่อเฉิน...ชุยเส้าเจ๋อถูกคนทุบตีอีกแล้วซ้ำยังเกิดขึ้นภายในจวนจงหย่งโหวอีกด้วย ถูกคนจับคลุมกระสอบลากออกไปทุบตีตอนที่พบเห็น ชุยเส้าเจ๋อก็ถูกตีจนร่อแร่แล้ว นอนอยู่ในตรอกโดยมีบาดแผลทั่วร่างกายสิ่งที่ทำให้รู้สึกขำขันที่สุดก็คือ ไม่รู้เช่นกันว่าโจรนั้นจงใจหรือไม่ ที่ทุบตีจนฟันของชุยเส้าเจ๋อหลุดออกไปอีกหลายซี่ ตอนนี้ปากของเขาพูดจาอะไรก็มีลดออกมาหมดเมื่อจงหย่งโหวและเวินหย่าลี่รู้เรื่องเข้า ก็เกือบจะสงสัยว่าเป็นฝีมือของเวินจื่อเฉินหรือไม่เพราะเขาเพิ่งต่อยชุยเส้าเจ๋อจนฟันหลุดไปสองซี่ ผลปรากฏว่าอีกสองวันต่อมาชุยเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 123

    “ท่าน...อึก! เวินจื่อเฉิน...พู่! ข้า...ข้าเอาท่านตายแน่!”ชุยเส้าเจ๋อก็ถูกต่อยตีจนอดรนทนไม่ไหวเช่นกัน หลังจากฉวยโอกาสตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ ก็เปิดฉากตอบโต้กลับทันทีชายกำยำทั้งสองเริ่มวางมวยกันที่หน้าประตูใหญ่ของจวนเจิ้นกั๋วกงเวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ พยายามห้ามแต่ก็ห้ามไม่อยู่สุดท้ายก็ต้องเรียกคนออกมา องครักษ์เจ็ดถึงแปดนายเข้าไปพร้อมกัน ขวางไว้ฝั่งละคน ถึงจับพวกเขาแยกออกจากกันได้ในที่สุดกระนั้น ทั้งสองก็ยังคงมีท่าทีอยากจะกัดกันจนตายไปข้างเวินฉางอวิ้นกุมหน้าผากด้วยความปวดหัวคุณชายรองแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงผู้สูงศักดิ์ วิวาทกับซื่อจื่อแห่งจวนจงหย่งโหวกันข้างถนน ใช้ไม่ได้จริง ๆ“ใครก็ได้ พาจงหย่งโหวซื่อจื่อกลับไปส่งเดี๋ยวนี้!”ก่อนที่องครักษ์จะพาเขาไปส่ง เวินฉางอวิ้นยังกำชับอีกครั้งว่า “หากท่านอาหญิงกับท่านอาถามเข้า พวกเจ้าก็บอกพวกเขาว่ามันเกี่ยวพันถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หากยังดึงดันซักไซ้ ก็ให้พวกเขามาถามท่านพ่อ”“ขอรับ”หลังจากที่ชุยเส้าเจ๋อถูกพาตัวไป เวินฉางอวิ้นก็มองไปที่น้องชายตัวแสบอีกคน นึกถึงปัญหาที่เขาก่อขึ้นจากการทะเลาะวิวาทในช่วงนี้ แล้วออกคำสั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 122

    “พูดจาเหลวไหล!”เวินจื่อเฉินเดือดดาลเป็นที่สุดเขาจ้องเขม็งไปที่ชุยเส้าเจ๋อ “ร้ายดีอย่างไรน้องห้าก็เป็นอดีตคู่หมั้นของเจ้า ต่อให้พวกเจ้าจะถอนหมั้นกันแล้ว นางก็ยังเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเจ้าอยู่ เหตุใดเจ้าถึงกุเรื่องเท็จส่งเดชใส่นางเช่นนี้?!”“แล้วท่านจะใส่อารมณ์ทำไมนักหนา ข้าก็แค่คาดเดาไปเรื่อย ไม่ได้บอกว่าต้องใช่เสียหน่อย”ชุยเส้าเจ๋อยังไม่รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองมีปัญหาอะไรแต่ครั้งนี้แม้แต่สีหน้าของเวินฉางอวิ้นก็ยังเย็นชาลง“ชุยเส้าเจ๋อ มีบางเรื่องที่เจ้าไม่สามารถคาดเดาส่งเดชได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการพูดเช่นนี้อาจจะทำลายชื่อเสียงของน้องห้าได้!”“ใช่แล้วพี่เส้าเจ๋อ ท่านอย่าพูดอะไรเลยดีกว่า บุคคลเฉกเช่นท่านอ๋องจะนึกพึงใจพี่หญิงได้อย่างไร?”เวินเยวี่ยห้ามปรามเขาด้วยท่าทีแข็งกร้าวด่าทอชุยเส้าเจ๋อในใจไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้วเจ้าโง่ไม่มีสมองคิด!แม่ชีตัวแสบอย่างเวินซื่อนั่น นางมีอะไรควรค่าให้เป่ยเฉินหยวนพึงใจ?!เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินคำพูดของนางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขารู้สึกว่าคำพูดของน้องหกไม่ค่อยถูกต้องนักแม้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะเป็นบุคคลผู้สูงส่งจริง แต่น้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 121

    “ท่านลุง น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว”เวินฉางอวิ้นและพวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้พบว่าชุยเส้าเจ๋อมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกงแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างในชุยเส้าเจ๋อรีบก้าวเข้ามาต้อนรับ พร้อมกับยืนอยู่ข้างกายเวินเยวี่ยทันที ก่อนถามอย่างงุนงง “วันนี้พวกท่านไปไหนมา? ทำไมทุกคนไม่อยู่ในจวนตลอดช่วงบ่าย ฟ้ามืดแล้วถึงเพิ่งกลับมา”เมื่อได้ยินคำถามของเขา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็นิ่งไปชั่วขณะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่ชุยเส้าเจ๋ออดีตคู่หมั้นที่เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เยาว์วัยของเวินซื่อก็ลืมวันนี้ไปอย่างคาดไม่ถึงเวินจื่อเฉินอ่อนแรงมากกว่าเดิมเล็กน้อยมีเพียงเวินเยวี่ยที่ตอบเขาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “บ่ายวันนี้พวกเราไปที่อารามสุ่ยเยว่เพื่อฉลองวันเกิดให้พี่หญิงห้าเจ้าค่ะ”ทันทีที่ชุยเส้าเจ๋อได้ยินชื่อเวินซื่อ ก็มีสีหน้าไม่พอใจทันที“ทำไมถึงยังไปฉลองวันเกิดให้นางอีก?”“ไม่ได้มีแต่พวกเราที่ไป แม้แต่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็ไปด้วยนะเจ้าคะ”เวินเยวี่ยพูดประโยคนี้ที่ดูเหมือนทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจสีหน้าท่าทางของชุยเส้าเจ๋อเปลี่ยนไปอย่างมาก “อะไรนะ?!

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 120

    “วันนี้น่าเสียดายจริงๆ”บนรถม้าระหว่างทางกลับเมืองหลวง เวินฉางอวิ้นถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “หากท่านอ๋องไม่มา บางทีอาจจะได้พูดคุยกับน้องห้าดีๆ ก็ได้”เวินจื่อเยวี่ยที่กำลังทายาก็เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด “ข้าว่านะพี่ใหญ่ จนถึงตอนนี้ท่านยังมองไม่ออกอีกหรือ? ต่อให้วันนี้ท่านอ๋องไม่มา เวินซื่อก็ไม่มีทางคุยกับพวกเราดีๆ หรอก”“พี่สามพูดถูก พี่ใหญ่ ต่อไปนี้ท่านอย่าพูดแบบนี้อีกเลย”เวินอวี้จือที่อยู่ภายในรถม้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าน้องหก”เวินฉางอวิ้นขมวดคิ้ว “พูดต่อหน้าน้องหกแล้วอย่างไรเล่า น้องหกใจดี และชอบพี่หญิงของนางมาโดยตลอด ต่อให้พูดเรื่องพวกนี้กับนาง นางก็ไม่ถือสาหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือสองพี่น้องถึงเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนหัวทึบจริงๆ “ก็เพราะว่าน้องหกใจดี พี่ใหญ่ท่านยิ่งไม่ควรพูดแบบนี้”เวินจื่อเยวี่ยเริ่มตำหนิพี่ใหญ่ของเขาอย่างไม่เกรงใจ “เวินซื่อไม่ใช่คนดีอะไร ต่อให้พี่ใหญ่เกลี้ยกล่อมนางกลับมา ต่อไปนางก็จะยังก่อเรื่องวุ่นวายในบ้าน ถ้าน้องหกได้รับบาดเจ็บอีกจะทำอย่างไร? เวินซื่อนางใช่ว่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 119

    หรือว่าจะเป็นเศษดินเศษหญ้าที่กระเด็นเข้าตาตอนรดน้ำเมื่อครู่?ทว่าเหตุใดนางถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ?ในขณะที่นางกำลังทำอะไรไม่ถูก เป่ยเฉินหยวนก็กล่าวขึ้นทันที “ตอนนี้ไม่มีแล้ว เมื่อครู่นี้ ตอนที่ท่านมองเวินจื่อเยวี่ยผู้นั้น ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย ความโกรธ ความเกลียดชัง ความเสียใจ ความเจ็บปวด...”ทุกครั้งที่เขาพูดถึงอารมณ์แต่ละอย่าง สีหน้าอารมณ์ของเวินซื่อก็ค่อยๆ จางหายไปในที่สุด เป่ยเฉินหยวนก็เอ่ยถามนางด้วยเสียงเบาๆ “ท่านเจออะไรมาบ้างที่สกุลเวิน?”แน่นอนว่าเวินซื่อไม่มีทางตอบเขาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะสังเกตได้ละเอียดเช่นนี้”“ข้าไม่ได้สังเกตอย่างละเอียด แต่ท่านไม่รู้ว่า เมื่อครู่นี้ ท่านแสดงอารมณ์ออกมาทางสายตาอย่างชัดเจนเพียงใด”ชัดเจนจนถึงขั้นทำให้ผู้อื่นไม่สามารถมองข้ามไปได้และเป่ยเฉินหยวนไม่ได้บอกเวินซื่อว่า นอกจากเขาแล้ว ยังมีอีกคนที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเช่นกันเวินซื่อกำมือแน่น ก่อนจะหันไปมองทางอื่น “ขอบคุณท่านอ๋องที่คอยดูแลและปกป้องข้าตลอดช่วงเวลานี้ แต่ขออภัยด้วย บางเรื่องข้าคิดว่าเรายังไม่ถึงขั้นที่ต้องเปิดเผ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 118

    “พอแล้วๆ เจิ้นกั๋วกง พอสมควรแล้ว”หลังจากที่เวินจื่อเยวี่ยโดนบิดาของตัวเองตบไปกว่าสามสิบครั้ง เป่ยเฉินหยวนจึงเอ่ยปากขึ้นในที่สุดพร้อมกับรอยยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนขี้โมโหอะไร เพียงแค่ให้ท่านสั่งสอนบุตรชายหน่อยเท่านั้น เหตุใดท่านถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้เล่า ดูสิ ท่านตบลูกชายจนหน้าเสียโฉมแล้ว น่าสงสารจริงๆ”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเป่ยเฉินหยวน เวินเฉวียนเซิ่งที่หยุดมือแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขารู้ว่าคนผู้นี้รับมือยากเพียงใด หากวันนี้ไม่สามารถทำให้เป่ยเฉินหยวนพอใจ เกรงว่าเส้นทางของเจ้าสามคงจะไม่ราบรื่นดังนั้นเวินเฉวียนเซิ่งจึงส่งสายตาให้เวินจื่อเยวี่ยอีกครั้งเวินจื่อเยวี่ยที่มีใบหน้าบวมปูดราวกับหัวหมู คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตุบ” แล้วเอ่ยกับเป่ยเฉินหยวนเบาๆ “กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำอีก ท่านอ๋องโปรดอภัยให้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”นานๆ ทีจะได้เห็นเวินจื่อเยวี่ยพลาดท่าเสียทีแบบนี้ เวินซื่อจึงดูอย่างเพลิดเพลินแต่ในเวลานี้ จู่ๆ เป่ยเฉินหยวนกลับหันมามองนางเวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “มีอะไรหรือ?”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นพลางกล่าวขึ้น “ถามท่านว่าให้อภัยหรือไม่?”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 117

    ในที่สุดเวินฉางอวิ้นและคนอื่นๆ ที่เข้าใจความหมายแฝงของเป่ยเฉินหยวนต่างหน้าซีดเผือดเวลานี้ พวกเขาถึงตระหนักได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ และยังเป็นเทพสงครามผู้สังหารศัตรูนับไม่ถ้วนในสนามรบและได้รับชัยชนะทุกครั้งกล้าล่วงเกินคนเช่นนี้ นั่นก็เหมือนรนหาที่ตาย!และเมื่อครู่น้องหกกับเจ้าสามยังกล้าพูดแทรกต่อปากต่อคำกับเป่ยเฉินหยวนครั้งแล้วครั้งเล่าอีก?คำพูดที่ว่าจะช่วยสั่งสอนแทนท่านพ่อของพวกเขาอะไรนั่น ชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่!เวินจื่อเยวี่ยที่เข้าใจแล้วเช่นกันก็ทำได้เพียงกำหมัดแน่น ยืนอยู่ที่เดิม“เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ! ...”เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่ปรานีเขาตบหน้าลูกชายของตัวเองแต่ละครั้งอย่างแรงด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ไม่นานมุมปากของเวินจื่อเยวี่ยก็มีเลือดไหลออกมาเมื่อเห็นฉากนี้ เวินเยวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าวบัดซบ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่าผ่าเผยเหตุใดถึงใจแคบเช่นนี้?!ช่างอารมณ์แปรปรวนจริงๆ!จนถึงตอนนี้ เวินเยวี่ยถึงได้รู้สึกถึงความน่ากลัวของบุรุษที่ชื่อว่าเป่ยเฉินหยวนผู้นี้เขาสามาร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 116

    “ท่านอ๋องอาจจะยังไม่ทราบ” เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยปากอย่างช้าๆ “วันเกิดปัจจุบันของเยวี่ยเอ๋อร์ไม่ใช่วันเกิดที่แท้จริงของนาง แต่เป็นวันครบรอบวันตายของมารดาของนาง”“โอ้?”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสดงสีหน้าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด “เป็นวันครบรอบวันตาย เช่นนั้นเหตุใดจึงนำมาปะปนกับวันเกิดเล่า?”“เพียงเพื่อมิให้ในภายภาคหน้าเยวี่ยเอ๋อร์ลืมวันที่มารดาของนางเสียชีวิตไป จึงได้เปลี่ยนวันเกิดของเยวี่ยเอ๋อร์มาเป็นสองเดือนก่อนหน้านั้น และถ้าคำนวณตามวันเกิดที่แท้จริงของเยวี่ยเอ๋อร์แล้ว นางก็อายุน้อยกว่าเวินซื่อเล็กน้อย หากถือว่าเป็นน้องสาวก็ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”“แค่เพียงเท่านี้หรือ?”“แค่เพียงเท่านี้”เวินเฉวียนเซิ่งตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยเวินเยวี่ยก็รีบพยักหน้า “ใช่แล้วๆ ท่านพ่อทำเช่นนี้ก็เพื่อเยวี่ยเอ๋อร์ ไม่คิดเลยว่าจะทำให้ท่านอ๋องเข้าใจผิด แต่วันเกิดที่แท้จริงของข้าก็ยังอีกสักพักจริงๆ ”เมื่อได้ยินเวินเยวี่ยยืนยันหนักแน่นเช่นนี้ เวินฉางอวิ้นและคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างต่างมองหน้ากันทันทีจนกระทั่งวันนี้พวกเขาถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ววันเกิดของน้องหกมีเบื้องหลังเช่นนี้เองแน่นอนว่าเป็นเ

DMCA.com Protection Status