Share

บทที่ 68

Author: จิ้งซิง
last update Last Updated: 2024-12-09 18:49:24
“ผู้หญิงท่าทางลับๆ ล่อๆ?”

เวินซื่อชะงักเล็กน้อย “ข้างกายนางยังมีคนอื่นหรือไม่?”

“ไม่มีเจ้าค่ะ แค่นางคนเดียว”

เวินซื่อพยักหน้า “เช่นนั้นดี เจ้าซ่อนตัวก่อน อย่าให้ใครพบเห็น”

“เจ้าค่ะ”

จู๋เยวี่ยหายไปทันที

เวินซื่อจัดแจงเสื้อผ้าต่อ หลังจากจัดแจงเสร็จก็เดินออกไปข้างนอกเหมือนไม่รู้อะไร

ตอนที่จะก้าวข้ามประตูใหญ่นั้นเอง จู่ๆ มือข้างหนึ่งก็ปรากฏ เหวี่ยงตรงเข้ามาหานาง

โชคดีที่เวินซื่อมีการเตรียมตัวไว้ก่อน ผินหน้าก็หลบได้แล้ว

หลังจากนั้นพลิกมือเหวี่ยงใส่ใบหน้าอีกฝ่ายดัง ‘เพียะ’

เวินเยวี่ยตกเป็นฝ่ายที่เสียท่า กุมใบหน้ากล่าวด้วยความโกรธ “เวินซื่อ เจ้ากล้าตบข้า!”

“ตบแล้วเจ้าจะทำไม?”

เวินซื่อกล่าวเย้ยหยัน “เหมือนสมองของสีกาไม่ค่อยดี ต้องให้ข้าเตือนหน่อยหรือไม่? อย่างไรเสียข้าไม่ได้แค่เคยตบสีกา”

“เจ้า!”

เวินเยวี่ยอับอายจนโมโหทันที ยกมือคิดจะตบเวินซื่ออีกครั้ง

แต่เวินซื่อกลับเร็วกว่านาง แทบจะทันทีที่นางยกมือ เวินซื่อใช้มือซ้ายจับนาง มือขวาก็ตบกลับไปอย่างไม่ลังเล

“เพียะ!”

เสียงของฝ่ามือนี้ ชัดเจนกว่าก่อนหน้านี้มาก

เวินเยวี่ยไม่ทันหลบด้วยซ้ำ ใบหน้าซ้ายขวาสมดุลทันที

เวินซื่อที่ตบได้หนำ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 69

    พลันการแสดงออกบนใบหน้าเวินเยวี่ยแข็งเล็กน้อยเพราะคำพูดของเวินซื่อ จี้โดนอารมณ์ที่แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้สึกสีหน้าเวินเยวี่ยขรึมลงทันทีนางมองเวินซื่อด้วยสายตาเคร่งขรึม “ดังนั้นเจ้าตัดสินใจไม่กลับสกุลเวินแล้ว?”ถูกต้องแต่เวินซื่อไม่อยากให้เวินเยวี่ยอยู่อย่างมีความสุขนางยิ้มเล็กน้อย “ดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากัน อย่างไรเสียถ้าหากพวกท่านพ่อเปลี่ยนใจแล้ว เช่นนั้น ก็ใช่ว่าข้าจะไม่สามารถกลับไปเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงอีกครั้ง”‘บุตรภรรยาเอก’ คำนี้มันแสบหูเวินเยวี่ยข้างนอก นางคือลูกสาวของผู้มีพระคุณที่เวินเฉวียนเซิ่งรับเลี้ยงแต่ในความเป็นจริง นางก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเวินเฉวียนเซิ่งเช่นกัน ทว่าไม่ใช่ลูกสาวภรรยาเอกของเวินเฉวียนเซิ่งและถึงขั้นไม่นับเป็นลูกอายุภรรยาด้วยซ้ำแต่เป็นแค่ลูกสาวนอกสมรสนอกเสียจากวันข้างหน้านางสามารถลบชื่อหลานจื่อจวิน มารดาของเวินซื่อออกจากบันทึกลำดับญาติสกุลเวินหลังจากนั้นเติมชื่อของมารดาตัวเองลงไป ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่สามารถก้าวข้ามเวินซื่อ กลายเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงและนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ชาติที่แล้ว เพราะเหตุใ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 70

    “โอ๊ย เรียกข้ามาแต่เช้าเช่นนี้จะทำอะไรเนี่ย?”“ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว ข้าว่าเจ้ารีบมาดูของสิ่งนี้ดีกว่า!”หลินจื่อฟูที่ถูกคนของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเคาะประตูเรียกจนตื่น และยังถูกลากมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เดิมทียังงัวเงียเล็กน้อยแต่หลังจากเห็นของในกล่องไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ ตื่นตัวขึ้นมาทันที“สวรรค์! นี่ไม่ใช่เห็ดหลินจือสีม่วงหรือ!”หลินจื่อฟูกระโจนไปที่ข้างโต๊ะ หยิบเห็ดหลินจือที่อยู่ในกล่องไม้ขึ้นมาดูอย่างระมัดระวังทันที“ฮ่าๆๆ สีนี่ดีเกินไปแล้วกระมัง? พวกเจ้าไปได้ของดีเช่นนี้มาจากที่ใด?”หลินจื่อฟูตื่นเต้นจนตาลุกวาวแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้เห็ดหลินจือสีม่วงต้นนั้น ท่าทางที่ทะนุถนอมนั่นก็เหลือแค่จูบแล้ว“นี่เจ้าเลิกตื่นเต้นได้แล้ว รีบดูก่อนว่านี่ใช่เห็ดหลินจือสีม่วงอายุร้อยปีที่เจ้าพูดถึงหรือไม่?”เกาเย่าและคนอื่นร้อนใจจะตายอยู่แล้ว พากันเร่งเร้าเขามีเพียงเป่ยเฉินหยวนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังนับว่าสงบหลินจื่อฟูกล่าวอย่างไม่ลังเล “มันแน่อยู่แล้ว! พวกเจ้าก็ไม่ดูเลยว่าดอกใหญ่เช่นนี้! เป็นเห็ดหลินจือสีม่วงร้อยปีไม่ผิดแน่!”“เยี่ยมไปเลย!”เกาเย่าและคนอื่นดีใจจนแทบกระโดด“ท่า

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 71

    ไฉนเลยที่เป่ยเฉินหยวนจะไม่รู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเขา กล่าวเรียบ ๆ “ไม่ผิด นางกำลังเรียนวิชาแพทย์อยู่ แต่สิ่งที่นังหนูนั้นอยากเรียนจริง ๆ ก็คือพิษ เจ้ามีความรู้ด้านพิษหรือ?”“พิษ...พอมีความรู้เล็กน้อย? เอาเถอะ ก็ไม่ได้มีความรู้มากเท่าไหร่พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเอ่ยถึงยาพิษ หลินจื่อฟูสีหน้าเศร้าซึมลงไปทันทีถึงแม้ว่าเขาจะถูกขนานนามว่าเป็นนักปราชญ์แห่งการแพทย์ที่สามารถทำคนตายให้ฟื้น ทำกระดูกให้มีเลือดเนื้อ แต่เขาไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านพิษสักเท่าใด“หากจะกล่าวว่าผู้ที่เชี่ยวชาญด้านยาพิษมากที่สุดคงจะต้องเป็นหมอปีศาจราชันพิษนั่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หากประลองฝีมือทางการรักษากับคนผู้นั้น เขายังสามารถเหนือกว่าระดับหนึ่ง หากประลองพิษ เช่นนั้นก็ช่างมันเสียเถิด“จะว่าไป ช่วงนี้เหมือนกระหม่อมจะได้ยินข่าวลือมาว่า หมอปีศาจราชันพิษเจ้าหมอนั่นอยู่ที่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”หลินจื่อฟูนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน จึงพูดขึ้นมาลอย ๆเมื่อเป่ยเฉินหยวนได้ยินดังนั้นทำท่าทางครุ่นคิด “เจ้าพอมีหนทางติดต่อกับคนผู้นั้นหรือไม่?”“กระหม่อมมิได้สนิทกับเจ้าหมอนั่น!”เป่ยเฉินหยวนเหลือบมองเขา “เช่นนั้นก่อนหน้านี้เจ้าประลองฝ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 72

    “เรื่องวันนี้พอแค่นี้ ส่วนเรื่องหญ้าหญ้าคืนวสันต์ข้าจัดการเอง แต่คำพูดทั้งหมดเมื่อครู่นี้ ผู้ใดก็ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว”เป่ยเฉินหยวนหลับตาลงแล้วยกมือขึ้นกดที่กระดูกบริเวณหว่างคิ้วในใจมีความจนปัญญาเล็กน้อยนังหนู ช่างใจกล้าเหลือเกินไม่รู้จักซ่อนความลับของตนเองให้ดี ๆ หน่อยเกาเย่าและคนอื่น ๆ มองหน้ากันไปมาหลินจื่อฟูจ้องมองสีหน้าของเป่ยเฉินหยวนแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านอ๋อง ท่านไม่อยากตามหาคนผู้นั้นเพื่อสืบข่าวหญ้าหญ้าคืนวสันต์หรือพ่ะย่ะค่ะ?”เป่ยเฉินหยวนไม่ได้พูดอะไรหลินจื่อฟูเข้าใจท่าทางของเขาทันที “แต่ว่าท่านอ๋อง อาการป่วยของท่านยื้อไม่ได้นานนัก ยิ่งยื้อนาน ต่อไปเมื่อท่านอาการกำเริบขึ้นมาก็จะยิ่งทรมาน ในเมื่อหญ้าหญ้าคืนวสันต์นี้ส่งมาถึงตรงหน้าของพวกเราแล้ว เหตุใดท่านไม่ไปถามคนผู้นั้นโดยตรงเลยล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”“ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ขอเพียงแค่ได้หญ้าหญ้าคืนวสันต์มาไว้ก่อน พวกเราก็เหลือเพียงหญ้าฝรั่นกลิ่นสุดท้าย ก็จะรวบรวมทั้งหมดครบแล้ว นี่ท่านยังมีความลังเลอันใดอยู่อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ครั้งนี้เกาเย่าและคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วยกับคำพูดของหลินจื่อฟู“ท่านอ๋อง ไ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 73

    นางดีใจขึ้นมาทันที แล้วก็รีบตักน้ำในลำธารขึ้นมา แล้วรดน้ำตรงนี้แล้วก็มองหญ้าหญ้าคืนวสันต์ที่อยู่ด้านข้าง ทุกต้นมีดอกไม้เล็ก ๆ กำลังบานสะพรั่ง ดูสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่งเวินซื่อกำลังยิ้มพลางจิ้มไปที่เกสรดอกไม้ดอกหนึ่งในนั้นทีหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มสำรวจสวนสมุนไพรอันกว้างใหญ่ของนางตอนที่เดินผ่านสมุนไพรแต่ละชนิด นางได้พลิกเปิดตำราสมุนไพรที่อยู่ในมือเพื่อเปรียบเทียบทีละชนิดแต่หนึ่งในนั้นมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ทำให้นางเกิดความสนใจขึ้นมาเนื่องจากในตำราสมุนไพรมีการจดบันทึกสมุนไพรชนิดอื่นไว้อย่างค่อนข้างละเอียด มีเพียงบันทึกข้อความของสมุนไพรกลิ่นนี้เท่านั้น ที่นอกจากรูปร่างหน้าตาคร่าว ๆ แล้ว ก็มีเพียงชื่อและประวัติความเป็นมาเท่านั้น แม้แต่มีประสิทธิผลทางยาอย่างไรก็ไม่ได้กล่าวไว้หญ้าฝรั่น มาจากต่างแคว้น...หลังจากที่เวินซื่อเปรียบเทียบครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงได้มั่นใจว่าสมุนไพรกลิ่นนี้ก็คือหญ้าฝรั่นน่าเสียดายที่ไม่รู้ประสิทธิผลทางยาหรือว่าจะลองชิมดูเสียหน่อย?ทันใดนั้นเวินซื่อก็ครุ่นคิดอย่างสงสัย แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ของตนเองออกไปเสียช่างเถอะ ไม่รู้ว่าเป็นสมุนไพร

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 74

    เวินซื่อยืนอยู่บนขั้นบันได หลุบตามองพวกเขาสองคน “นั่นควรถามพวกท่านมิใช่หรอกหรือ?”“เวินจื่อเฉินลงมือทำร้ายข้าอย่างรุนแรง ทำร้ายข้าจนบาดเจ็บสาหัส บัดนี้รอยฟกช้ำบนร่างกายยังไม่จางหาย พวกท่านคงจะไม่คิดว่าคำพูดง่าย ๆ เพียงประโยคเดียว ก็จะได้รับการยกโทษของข้ากระมัง?”เวินจื่อเยวี่ยกับเวินเยวี่ยคิดแบบนี้จริง ๆถึงอย่างไรที่แล้วมาบุตรสาวบุตรชายแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงผู้สง่าผ่าเผยมีเพียงคนอื่นขอโทษพวกเขา พวกเขาเคยก้มหัวให้คนอื่นเสียที่ไหนกัน?”เวินซื่อเข้าใจอุปนิสัยพวกพี่ชายของนางเป็นอย่างดีหากกล่าวถึงข้อเสียในนิสัยของเวินจื่อเฉิน นั่นคืออารมณ์หุนหันพลันแล่น ส่วนเวินจื่อเยวี่ยคือหยิ่งผยองเกินไปเขาไม่เคยเห็นใครหน้าไหนอยู่ในสายตาดังนั้นจะให้เวินจื่อเยวี่ยมาขอโทษนาง แค่คิดนางก็รู้แล้ว สำหรับคนผู้นี้ เกรงว่าแม้แต่คำว่าขอโทษสองคำนี้ก็คงจะเขียนไม่เป็น“พี่รองถูกลงโทษไปแล้วไม่ใช่หรือ?”เวินจื่อเยวี่ยจ้องเวินซื่อเขม็งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เขาถูกโบยแปดสิบไม้ใหญ่ ยังถูกขังอยู่ในคุกมาหลายวันแล้ว เช่นนี้แล้วยังไม่พออีกหรือ?”“ไม่พอ”เวินซื่อกล่าวอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเวินจื่อเยวี่ยสีหน้าเย็น

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 75

    เวินจื่อเยวี่ยตวาดเรียกชื่อจริงของเวินซื่อออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเย็นชา “เจ้ายอมรับน้องหกไม่ได้ขนาดนี้เชียวหรือ?”“ใช่ ไม่ผิด มีนางต้องไม่มีข้า มีข้าต้องไม่มีนาง”ทันทีที่เวินซื่อพูดประโยคนี้ออกไป ต่อให้เป็นเวินเยวี่ยก็คิดไม่ถึงว่านางจะพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ ไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อยหลังจากที่เวินซื่อพูดจบ พูดออกไปเพียงประโยคเดียว “เงื่อนไขข้าได้พูดชัดเจนแล้ว หากยอมรับได้ วันพรุ่งนี้ก็นำสินเจ้าสาวทั้งหมดของท่านแม่มา”หากรับไม่ได้ละก็ เช่นนั้นก็ปล่อยให้เวินจื่อเฉินเขาอยู่ในคุกหลวงต่อไปก็แล้วกันสุดท้ายเวินจื่อเยวี่ยกับเวินเยวี่ยก็กลับไปด้วยสีหน้าอึมครึมจวนเจิ้นกั๋วกง“น้องห้านางกล่าวเช่นนี้จริงหรือ?”เวินฉางอวิ้นถามเวินจื่อเยวี่ยกับเวินเยวี่ยทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจเวินจื่อเยวี่ยพยักหน้า กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ข้าได้ยินมากับหู ยังจะหลอกพี่ใหญ่ได้อีกอย่างนั้นหรือ?”“ไม่ ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น...”เขาเพียงรู้สึกว่าไม่เข้าใจเวินซื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ“เหตุใดนางถึงได้เกลียดชังน้องหกขนาดนี้? ไม่คิดเลยว่าแม้แต่คำพูดอย่างมีเจ้าไม่มีนางก็ยังพูดออกมาได้”เวินฉางอวิ้นอ

    Last Updated : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 76

    เวินเยวี่ยตะลึงงันไปทันทีนางคิดไม่ถึงว่าเวินจื่อเยวี่ยจะไร้มโนธรรมเช่นนี้กลับบอกให้นางอย่าฟังคำพูดของพี่ใหญ่แต่ว่าเวินเยวี่ยก็ไม่ได้ตอบรับทันที นางยังคงแสร้งทำเป็นลังเลครู่หนึ่ง “แต่ข้ารับปากพี่ใหญ่เอาไว้แล้ว อีกทั้งพี่ใหญ่พูดถูกต้อง ครั้งนี้ท่านพ่อโมโหขนาดนี้ จะต้องเอาจริงอย่างแน่นอน”“ทางที่ดีควรเอาจริง”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “ต่อให้ไม่เอาจริง ข้าก็จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นจริงขึ้นมาจนได้”“พี่สามพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินเยวี่ยสีหน้างุนงง แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจเวินจื่อเยวี่ยยิ้ม “น้องหก เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าคนบางคนมีนิสัยเอาแต่ใจและอวดดีมาตั้งแต่เกิด ไม่ให้นางลองสูญเสียดูบ้าง นางก็จะไม่มีทางแก้ไขสันดานเลวของตนเองได้ ดังนั้นครั้งนี้ข้าเห็นด้วยกับวิธีการของท่านพ่อ”“หลังจากตัดขาดความสัมพันธ์กับเวินซื่อ นางก็จะสูญเสียสถานะบุตรภรรยาเอกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงที่ทำให้นางมีทุกอย่างไปจนหมดสิ้น และในไม่ช้านางก็จะได้รู้ เมื่อไม่มีสถานะนี้ นางก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ก้นบึ้งหัวใจของเวินเยวี่ยยิ้มออกมาทันทียอดเยี่ยม ไม่คิดเลย

    Last Updated : 2024-12-09

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 128

    นั่นคือยาหยกหิมะสามขวดเต็ม ๆต่อให้เขาต้องการนำไปง้อเวินเยวี่ย อย่างน้อยก็ควรทิ้งไว้ให้มารดาอย่างนางสักขวดสิเมื่อใดที่เวินหย่าลี่นึกถึงว่ายาหยกหิมะมากมายขนาดนั้น ตัวเองยังไม่ได้ใช้เลยสักนิด ก็ถูกลูกชายนำไปให้คนอื่นทั้งหมด นางก็เจ็บปวดหัวใจสุดขีดเวินหย่าลี่รู้ว่าลูกชายชอบเวินเยวี่ย แต่ไม่นึกว่ายังไม่ทันได้แต่งงานเข้ามาด้วยซ้ำ ลูกชายตัวเองก็เริ่มแอบช่วยคนนอกหลอกแม่แท้ ๆ แล้วเวินหย่าลี่รู้สึกโกรธอยู่ในใจ แต่ต่อให้โกรธแล้วใครใช้ให้เป็นลูกชายแท้ ๆ ของนางเล่า“ไม่นึกเลยจริง ๆ ที่แท้ก็เป็นเจ้าเด็กนั่น ต้องขอบคุณท่านอ๋อง ในเมื่อสืบสวนกระจ่างแล้ว ที่เหลือก็มอบหมายให้พวกหม่อมฉันก็แล้วกัน ท่านวางใจได้ หม่อมฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าเด็กนั่นอย่างเต็มที่แน่นอนเพคะ”เป่ยเฉินหยวนเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้มที่ดูเสแสร้ง “ท่านสั่งสอนหรือ?ท่านคิดจะสั่งสอนอย่างไร?”เวินหย่าลี่ที่ลงมือตีลูกชายของตัวเองไม่ลงย่อมพูดเพียงว่า “ก็ลงโทษให้เขาคุกเข่าในโถงบรรพชนดีไหมเพคะ?”“ได้สิ”เป่ยเฉินหยวนตอบตกลงอย่างเหนือความคาดหมายเวินหย่าลี่ฉีกยิ้มด้วยความดีใจอีกครั้งทันที นางว่าแล้ว ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็เถอะ จะไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 127

    เมื่อฟังมาถึงประโยคสุดท้าย จงหย่งโหวก็หลับตาลงทันทีธิดาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับเดียวกับองค์หญิงกล่าวคือ การใส่ร้ายธิดาศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับการใส่ร้ายองค์หญิง ไม่อาจลดหย่อนโทษได้เขาอดทอดถอนใจอยู่ในใจไม่ได้ เห็นทีคราวนี้จะหนีไม่พ้นจริง ๆ แล้วเป่ยเฉินหยวนบอกว่าจะสืบก็สืบเลยกองทัพธงดำที่เขาพาได้ปิดล้อมจวนจงหย่งโหวทั้งหมดไว้โดยตรงเวินหย่าลี่ไม่คาดคิดว่าเป่ยเฉินหยวนจะทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้ความสับสนพรั่งพรูอยู่ในส่วนลึกภายในใจของนางจนไม่อาจบรรยาย “พวกท่านคิดจะทำอะไร ที่นี่คือจวนจงหย่งโหว ต่อให้ท่านเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ก็ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้กระมังเพคะ?!”“ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ไม่อย่างนั้นตอนนี้ท่านก็เขียนจดหมายสักฉบับ ไปเรียกเจิ้นกั๋วกงผู้เป็นพี่ชายของท่านมาด้วยไหม?”เป่ยเฉินหยวนชำเลืองมองนางแวบหนึ่งสายตาเย็นเยียบทำให้เวินหย่าลี่รู้สึกเกรงกลัวอย่างไม่มีขอบเขตนางกัดฟันอย่างฝืนใจ “เขียนก็เขียน หม่อมฉันจะเรียกพี่ชายของหม่อมฉันมา!”จงหย่งโหวไม่อยากพูดอะไรแม้เพียงสักคำพอดีกัน อันที่จริงหากวันนี้จวนจงหย่งโหวของพวกเขาโชคร้าย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 126

    จงหย่งโหวมีหรือจะไม่รู้ว่าภรรยาของเขาคนนี้เป็นคนอย่างไร?กับคนอื่นยังดี แต่พอกับหลานสาวคนนั้นของนาง ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมจนสุดจะบรรยายจงหย่งโหวก็รู้สึกจนปัญญากับเรื่องนี้เช่นกันเมื่อก่อนยังคิดว่าหากเด็กสองคนหมั้นหมายกัน ก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดี ดังนั้นในระหว่างนั้นเขายังเคยประนีประนอมอยู่หลายครั้งเพียงแต่ในพิธีปักปิ่นในเวลาต่อมา การหมั้นหมายได้ถูกยกเลิก จงหย่งโหวก็ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องเหล่านี้อีกต่อไปแต่ไม่นึกว่าแค่สองครั้งที่ไม่ยุ่งเกี่ยว นังหนูคนนั้นก็มีคนอื่นมาช่วยนางแล้วยังเป็นเป่ยเฉินหยวนที่มาหาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองถ้าไม่มีปัญหาอะไรในนั้นจริง ๆ เกรงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่ยุ่งอยู่กับงานปกครองมากมายท่านนี้จะไม่มีทางปรากฏตัวขึ้นที่นี่แน่จงหย่งโหวสูดหายใจเข้าลึก ๆ รวดเดียว “เจ้าหยุดก่อน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ายาหยกหิมะสามขวดนั้นถูกธิดาศักดิ์สิทธิ์เอาไป?”เวินหย่าลี่ที่ยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องราวได้กล่าวอย่างคิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น “หลายวันนั้นนางกับไอ้แก่...กับอาจารย์ของนางมาที่จวนจงหย่งโหวของเรา ถ้าไม่ใช่พวกนางขโมยไปแล้วจะเป็นใครได้อีกเล่า?”ภายใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 125

    สีหน้าของจงหย่งโหวแข็งทื่อทันที ก่อนจะรีบหัวเราะกล่าวว่า “ฝีมืออะไรที่ไหนกัน แค่ได้ชาดี ๆ มาหลายกระป๋องเมื่อไม่กี่วันก่อน ถ้าท่านอ๋องชื่นชอบ เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาไปส่งให้ท่านที่จวนท่านอ๋อง”ชาถูกส่งให้ท่านแล้ว ตัวท่านก็ไม่จำเป็นต้องมาแล้ว!จงหย่งโหวไม่คิดจะคบค้าสมาคมกับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้สักนิดประการที่หนึ่งเพราะทางฝั่งจวนเจิ้นกั๋วกงและเป่ยเฉินหยวนเดิมทีก็ไม่ค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว ประการที่สองเขามักจะรู้สึกว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยียนล้วนมาด้วยเจตนาร้ายคราวก่อนเป็นเช่นนี้ คราวนี้สัญชาตญาณของเขาบอกว่า ก็ยังต้องเป็นเช่นนี้!เขารู้ได้อย่างรวดเร็วตามคาด ตนเองนั้นคาดเดาถูกจริง ๆ“แบบนี้ไม่ค่อยดีกระมัง?”เป่ยเฉินหยวนมองไปที่น้ำชาในถ้วยชาที่อยู่ในมือ พลางถามด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “ถ้าเกิดคล้อยหลังไปฮูหยินของท่านวิ่งมาถึงหน้าประตูของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน บอกว่าข้าเป็นคนขโมยใบชาของท่านไป จะเกิดความเข้าใจผิดกันยกใหญ่”จงหย่งโหวที่ฟังออกว่าคำพูดของเขามีความหมายอื่นแฝงอยู่หนังตากระตุกทันทีเขาฝืนยิ้ม แสร้งทำเป็นถามด้วยความไม่เข้าใจ “เหตุใดท่านอ๋องถึงพูดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 124

    หลังผ่านคืนนั้นมา เวินจื่อเฉินก็เฝ้าอยู่ในโถงบรรพชนเป็นเวลาสิบกว่าวันเต็ม ๆไม่ว่าจะเป็นเวินเยวี่ย เวินฉางอวิ้น หรือเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นบิดาของพวกเขาจะไปเรียก เขาก็ไม่ยอมออกมาเวินฉางอวิ้นยังนึกว่าตนลงโทษหนักเกินไป ทำร้ายความเคารพในตัวเองของน้องรองเข้าแล้วแต่เมื่อถามเขา เวินจื่อเฉินก็พูดเพียงว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาของท่าน แต่เป็นตัวข้าเอง ข้าแค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพัก”ต่อมา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็ไม่ไปรบกวนเขาอีกเพียงแต่ว่าในวันที่สาม ได้นำข่าวไปแจ้งแก่เวินจื่อเฉิน...ชุยเส้าเจ๋อถูกคนทุบตีอีกแล้วซ้ำยังเกิดขึ้นภายในจวนจงหย่งโหวอีกด้วย ถูกคนจับคลุมกระสอบลากออกไปทุบตีตอนที่พบเห็น ชุยเส้าเจ๋อก็ถูกตีจนร่อแร่แล้ว นอนอยู่ในตรอกโดยมีบาดแผลทั่วร่างกายสิ่งที่ทำให้รู้สึกขำขันที่สุดก็คือ ไม่รู้เช่นกันว่าโจรนั้นจงใจหรือไม่ ที่ทุบตีจนฟันของชุยเส้าเจ๋อหลุดออกไปอีกหลายซี่ ตอนนี้ปากของเขาพูดจาอะไรก็มีลดออกมาหมดเมื่อจงหย่งโหวและเวินหย่าลี่รู้เรื่องเข้า ก็เกือบจะสงสัยว่าเป็นฝีมือของเวินจื่อเฉินหรือไม่เพราะเขาเพิ่งต่อยชุยเส้าเจ๋อจนฟันหลุดไปสองซี่ ผลปรากฏว่าอีกสองวันต่อมาชุยเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 123

    “ท่าน...อึก! เวินจื่อเฉิน...พู่! ข้า...ข้าเอาท่านตายแน่!”ชุยเส้าเจ๋อก็ถูกต่อยตีจนอดรนทนไม่ไหวเช่นกัน หลังจากฉวยโอกาสตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ ก็เปิดฉากตอบโต้กลับทันทีชายกำยำทั้งสองเริ่มวางมวยกันที่หน้าประตูใหญ่ของจวนเจิ้นกั๋วกงเวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ พยายามห้ามแต่ก็ห้ามไม่อยู่สุดท้ายก็ต้องเรียกคนออกมา องครักษ์เจ็ดถึงแปดนายเข้าไปพร้อมกัน ขวางไว้ฝั่งละคน ถึงจับพวกเขาแยกออกจากกันได้ในที่สุดกระนั้น ทั้งสองก็ยังคงมีท่าทีอยากจะกัดกันจนตายไปข้างเวินฉางอวิ้นกุมหน้าผากด้วยความปวดหัวคุณชายรองแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงผู้สูงศักดิ์ วิวาทกับซื่อจื่อแห่งจวนจงหย่งโหวกันข้างถนน ใช้ไม่ได้จริง ๆ“ใครก็ได้ พาจงหย่งโหวซื่อจื่อกลับไปส่งเดี๋ยวนี้!”ก่อนที่องครักษ์จะพาเขาไปส่ง เวินฉางอวิ้นยังกำชับอีกครั้งว่า “หากท่านอาหญิงกับท่านอาถามเข้า พวกเจ้าก็บอกพวกเขาว่ามันเกี่ยวพันถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หากยังดึงดันซักไซ้ ก็ให้พวกเขามาถามท่านพ่อ”“ขอรับ”หลังจากที่ชุยเส้าเจ๋อถูกพาตัวไป เวินฉางอวิ้นก็มองไปที่น้องชายตัวแสบอีกคน นึกถึงปัญหาที่เขาก่อขึ้นจากการทะเลาะวิวาทในช่วงนี้ แล้วออกคำสั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 122

    “พูดจาเหลวไหล!”เวินจื่อเฉินเดือดดาลเป็นที่สุดเขาจ้องเขม็งไปที่ชุยเส้าเจ๋อ “ร้ายดีอย่างไรน้องห้าก็เป็นอดีตคู่หมั้นของเจ้า ต่อให้พวกเจ้าจะถอนหมั้นกันแล้ว นางก็ยังเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเจ้าอยู่ เหตุใดเจ้าถึงกุเรื่องเท็จส่งเดชใส่นางเช่นนี้?!”“แล้วท่านจะใส่อารมณ์ทำไมนักหนา ข้าก็แค่คาดเดาไปเรื่อย ไม่ได้บอกว่าต้องใช่เสียหน่อย”ชุยเส้าเจ๋อยังไม่รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองมีปัญหาอะไรแต่ครั้งนี้แม้แต่สีหน้าของเวินฉางอวิ้นก็ยังเย็นชาลง“ชุยเส้าเจ๋อ มีบางเรื่องที่เจ้าไม่สามารถคาดเดาส่งเดชได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการพูดเช่นนี้อาจจะทำลายชื่อเสียงของน้องห้าได้!”“ใช่แล้วพี่เส้าเจ๋อ ท่านอย่าพูดอะไรเลยดีกว่า บุคคลเฉกเช่นท่านอ๋องจะนึกพึงใจพี่หญิงได้อย่างไร?”เวินเยวี่ยห้ามปรามเขาด้วยท่าทีแข็งกร้าวด่าทอชุยเส้าเจ๋อในใจไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้วเจ้าโง่ไม่มีสมองคิด!แม่ชีตัวแสบอย่างเวินซื่อนั่น นางมีอะไรควรค่าให้เป่ยเฉินหยวนพึงใจ?!เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินคำพูดของนางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขารู้สึกว่าคำพูดของน้องหกไม่ค่อยถูกต้องนักแม้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะเป็นบุคคลผู้สูงส่งจริง แต่น้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 121

    “ท่านลุง น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว”เวินฉางอวิ้นและพวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้พบว่าชุยเส้าเจ๋อมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกงแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างในชุยเส้าเจ๋อรีบก้าวเข้ามาต้อนรับ พร้อมกับยืนอยู่ข้างกายเวินเยวี่ยทันที ก่อนถามอย่างงุนงง “วันนี้พวกท่านไปไหนมา? ทำไมทุกคนไม่อยู่ในจวนตลอดช่วงบ่าย ฟ้ามืดแล้วถึงเพิ่งกลับมา”เมื่อได้ยินคำถามของเขา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็นิ่งไปชั่วขณะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่ชุยเส้าเจ๋ออดีตคู่หมั้นที่เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เยาว์วัยของเวินซื่อก็ลืมวันนี้ไปอย่างคาดไม่ถึงเวินจื่อเฉินอ่อนแรงมากกว่าเดิมเล็กน้อยมีเพียงเวินเยวี่ยที่ตอบเขาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “บ่ายวันนี้พวกเราไปที่อารามสุ่ยเยว่เพื่อฉลองวันเกิดให้พี่หญิงห้าเจ้าค่ะ”ทันทีที่ชุยเส้าเจ๋อได้ยินชื่อเวินซื่อ ก็มีสีหน้าไม่พอใจทันที“ทำไมถึงยังไปฉลองวันเกิดให้นางอีก?”“ไม่ได้มีแต่พวกเราที่ไป แม้แต่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็ไปด้วยนะเจ้าคะ”เวินเยวี่ยพูดประโยคนี้ที่ดูเหมือนทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจสีหน้าท่าทางของชุยเส้าเจ๋อเปลี่ยนไปอย่างมาก “อะไรนะ?!

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 120

    “วันนี้น่าเสียดายจริงๆ”บนรถม้าระหว่างทางกลับเมืองหลวง เวินฉางอวิ้นถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “หากท่านอ๋องไม่มา บางทีอาจจะได้พูดคุยกับน้องห้าดีๆ ก็ได้”เวินจื่อเยวี่ยที่กำลังทายาก็เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด “ข้าว่านะพี่ใหญ่ จนถึงตอนนี้ท่านยังมองไม่ออกอีกหรือ? ต่อให้วันนี้ท่านอ๋องไม่มา เวินซื่อก็ไม่มีทางคุยกับพวกเราดีๆ หรอก”“พี่สามพูดถูก พี่ใหญ่ ต่อไปนี้ท่านอย่าพูดแบบนี้อีกเลย”เวินอวี้จือที่อยู่ภายในรถม้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าน้องหก”เวินฉางอวิ้นขมวดคิ้ว “พูดต่อหน้าน้องหกแล้วอย่างไรเล่า น้องหกใจดี และชอบพี่หญิงของนางมาโดยตลอด ต่อให้พูดเรื่องพวกนี้กับนาง นางก็ไม่ถือสาหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือสองพี่น้องถึงเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนหัวทึบจริงๆ “ก็เพราะว่าน้องหกใจดี พี่ใหญ่ท่านยิ่งไม่ควรพูดแบบนี้”เวินจื่อเยวี่ยเริ่มตำหนิพี่ใหญ่ของเขาอย่างไม่เกรงใจ “เวินซื่อไม่ใช่คนดีอะไร ต่อให้พี่ใหญ่เกลี้ยกล่อมนางกลับมา ต่อไปนางก็จะยังก่อเรื่องวุ่นวายในบ้าน ถ้าน้องหกได้รับบาดเจ็บอีกจะทำอย่างไร? เวินซื่อนางใช่ว่

DMCA.com Protection Status