แชร์

บทที่ 229

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“แค่ก แค่ก มีความเป็นไปได้จริง”

เวินอวี้จือที่อยู่ด้านข้างซึ่งร่างกายอ่อนแอ ไอสองทีแล้วกล่าวอย่างเชื่องช้า

เวินฉางอวิ้นชะงักไป ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ใครจะใจกล้าบังอาจลักพาตัวน้องหก?”

หนำซ้ำยังมาลักพาตัวถึงในจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขา

อย่าว่าแต่ข้างนอก ต่อให้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็คงมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าทำเช่นนี้

เวินอวี้จือกล่าวเสียงเรียบ “ใครว่าไม่มีล่ะ เมื่อครึ่งเดือนก่อนยังมีคนกล้านำกองทัพธงดำมาตรวจค้นจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราเลยนี่”

คำกล่าวนี้แค่ฟังก็รู้ว่าเขาหมายถึงเป่ยเฉินหยวน

ทว่าเวินเฉวียนเซิ่งกลับส่ายหน้า

“ไม่น่าจะใช่เขา”

เวินอวี้จือยิ้มเย็น “แล้วท่านพ่อมั่นใจเพียงนั้นได้อย่างไรขอรับ?”

เวินเฉวียนเซิ่งเหลือบมองลูกชายที่ขี้โรคอ่อนแอคนนี้แวบหนึ่ง “เป่ยเฉินหยวนไม่เคยใช้วิธีลับหลังเช่นนี้ หากเขาอยากจับตัวเยวี่ยเอ๋อร์ คงมาจับตัวไปอย่างเปิดเผย เหมือนกับเมื่อครึ่งเดือนก่อนที่ตรวจค้นจวนเจิ้นกั๋วกง ยิ่งเหมือนกับก่อนหน้า ที่เปลี่ยนรับเป็นรุกไปปิดคดีในจวนจงหย่งโหว”

แม้เขาจะไม่ถูกกับเป่ยเฉินหยวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ทว่าเป็นอริกันมานานขนาดนี้ ก็ถือว่าพอเข้าใจวิธีการของอีกฝ่าย

ดังนั้นเวิ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Mariem Alamadine
พี่น้องพวกนี้ ไม่รักน้องสาวตัวเองดันไปโอ๋แต่น้องนอกสมรส สมควรแล้วที่นางจะแค้น
goodnovel comment avatar
Achew
ห๊าาาาาา ทำไมไม่ตายเพราะยาพิษให้มันจบๆ คือโง่โคตรๆ
goodnovel comment avatar
พี่สาวตระกูลหลี่
พี่น้องปาด มาก มากแบบไม่ควรให้อภัย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 230

    เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เพียงโกรธบิดาตัวเอง ยังโกรธเวินจื่อเยวี่ยด้วยเมื่อครู่ที่ไม่ได้ว่าเวินจื่อเยวี่ยตั้งแต่แรก เป็นเพราะน้องหกได้สั่งสอนเวินจื่อเยวี่ยไปแล้วแต่เมื่อเวินจื่อเยวี่ยกล่าวเช่นนี้ออกมา เวินฉางอวิ้นที่เดิมทียังโน้มน้าวทุกคนเป็นอย่างดีขมวดคิ้วทันใดเขาโต้แย้งอย่างไม่เห็นด้วย “น้องห้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับนางได้อย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือนึกไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นถึงขั้นนี้แล้ว ที่ช่วยพูดแทนเวินซื่อ“พี่ใหญ่ ท่านต้องเข้าใจนะ เวินซื่อนางวางยาพิษควบคุมข้านะ!”เวินฉางอวิ้นถอนหายใจ “บางทีนางอาจจะควบคุมเจ้าจริง แต่พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือ หากตอนแรกพวกเจ้าไม่ร่วมมือกันวางแผน ถ่อไปถึงอารามสุ่ยเยว่เพื่อวางยาน้องห้า คิดจะบังคับพาตัวนางกลับมา แล้วนางจะวางยาพิษเจ้าได้อย่างไร?”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือกลายเป็นใบ้ทันทีเพราะพวกเขาลืมตอนเริ่มต้นของเรื่องนี้เสียสนิทโดยเฉพาะเวินอวี้จือ จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังเกลียดชังเวินซื่อ เพราะนางทำให้เขากลายเป็นคนใบ้และคนพิการเกือบหนึ่งเดือนเต็มทั้งวัน เขาพูดไม่ได้ ขยับตัวก็ไม่ได้ความทรม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 231

    “ท่านพ่อพูดเช่นนี้ หมายความว่ามีหลักฐานอะไรบางอย่างแล้วหรือ?”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “หลักฐานไม่มีหรอก แต่เจ้าหกได้ทำบางเรื่องก่อนที่จะหายตัวไป”“เรื่องอันใด?”เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือเอ่ยถามด้วยความสงสัยเวินเฉวียนเซิ่งหลับตาลง “นางให้สาวใช้ไปเรียกอันหลันซินมาที่จวน”ตอนแรกเวินเยวี่ยคิดว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้แต่นางไม่รู้เลยว่า เดิมทีเซียงเหอนั้นเป็นคนที่เวินเฉวียนเซิ่งจัดหามาให้นางนางเรียกเซียงเหอไปพาอันหลันซินมา เวินเฉวียนเซิ่งจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?“อันหลันซิน?”เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ เวินฉางอวิ้นสามพี่น้องในตอนแรกที่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นเวินจื่อเยวี่ยเป็นคนแรกที่นึกขึ้นได้ เขาขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “คืออันหลันซินคนที่เคยผลักเวินซื่อตกน้ำอย่างนั้นหรือ?”“อืม เป็นนาง”สีหน้าของเวินฉางอวิ้นพลันเปลี่ยนไป สายตาฉายแววโกรธเกรี้ยว “น้องหกนางต้องการทำอะไร? เหตุใพดจึงต้องเรียกคนผู้นั้นมาที่จวน?”คราวนั้น อันหลันซินนั่นทำร้ายน้องห้าจนเกือบตายแล้ว!หากมิใช่เพราะว่ามีคนพบเห็นได้ทันเวลา เกรงว่าตอนนี้น้องห้าอาจจะไม่อยู่บนโลก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 232

    เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือที่จู่ๆ นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ สีหน้าก็บึ้งตึงในทันที“นางกล้า!”“นางไม่มีทางทำเช่นนั้นหรอก!”ตรงกันข้ามกับความโกรธเกรี้ยวของเวินจื่อเยวี่ย คือความเชื่อมั่นที่เวินฉางอวิ้นมีต่อเวินซื่อเวินฉางอวิ้นโมโหราวกับไฟลุกโชน ในใจเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรมแทนน้องสาว “ถึงแม้น้องห้าจะเคยก่อเรื่องวุ่นวาย และทำผิดพลาดไปบ้าง แต่นางไม่เคยหาเรื่องใครก่อน และยิ่งไม่เคยทำเรื่องเกินเลยแบบนี้!”“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านลำเอียงเข้าข้างน้องหก แต่น้องห้าก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านมิใช่หรือ? ท่านพูดเช่นนี้ ไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับน้องห้าบ้างหรือ?”“ข้าตัดสินจากข้อเท็จจริง พูดเพียงแค่ความเป็นไปได้ ไม่ได้บอกว่าเป็นเช่นนั้นแน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งจิบชาที่ทิ้งไว้จนเย็นหนึ่งอึก พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเดิมเวินฉางอวิ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ตัดสินจากข้อเท็จจริง? สงสัยลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ท่านเรียกว่าการตัดสินจากข้อเท็จจริงอย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อ น้องห้าไม่ใช่นักโทษ!”จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดเวินฉางอวิ้นก็เข้าใจว่า เหตุใดน้องรองถึงได้ตัดสินใจอย่าง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 233

    เขาส่งคนไปตั้งสี่ห้าคน สี่ห้าคนสู้กับคนเดียว แต่กลับสู้ไม่ได้!ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งมั่นใจมากขึ้นเยวี่ยเอ๋อร์ต้องถูกเวินซื่อลักพาตัวไปอย่างแน่นอนเพราะถึงอย่างไรการป้องกันของจวนเจิ้นกั๋วกงนั้นไม่ธรรมดาสามารถลักลอบเข้าไปในเรือนของเวินเยวี่ยได้อย่างเงียบเชียบ ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนาขององครักษ์ แล้วยังแอบพาตัวคนไปได้อีกนี่ต้องไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาอย่างแน่นอน“เพิ่มคน! ไปที่อารามสุ่ยเยว่ต่อ ต้องหาตัวคุณหนูหกให้พบ!”เวินเฉวียนเซิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงออกคำสั่งเช่นเดิม“ขอรับ!”ต่อมาในคืนที่สองอารามสุ่ยเยว่ก็ได้ต้อนรับองครักษ์ลับอีกกลุ่มหนึ่งครั้งนี้มีมากถึงสิบคนเดิมทีเวินเฉวียนเซิ่งคิดว่าครั้งนี้จะต้องสำเร็จแน่ๆแต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่า องครักษ์ลับทั้งสิบคน กลับพลาดอีกครั้ง!วันรุ่งขึ้น เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้รับข่าว สีหน้าของเขาก็ดูมืดมนจนน่ากลัว“นางทำได้อย่างไรกันแน่!”องครักษ์ลับที่มีฝีมือเช่นนี้ ถึงแม้จะอยู่ในบรรดาองครักษ์ลับที่ฝึกฝนโดยราชวงศ์ ก็ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นองครักษ์เงาอันดับต้นๆ ใน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 234

    “มือสังหารหรือ?”ฮ่องเต้น้อยทรงเต็มไปด้วยความสงสัย “เหตุใดจึงมีมือสังหารไปที่อารามสุ่ยเยว่เพื่อลอบสังหารท่าน? ใครเป็นคนส่งมา?”เวินซื่อก้มหน้าลง “อู๋โยวมิกล้าทูลเพคะ”“มิกล้าทูล?”ฮ่องเต้น้อยทรงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย การที่ไม่กล้าทูลนั่นแสดงว่ารู้ว่าเป็นใครและในเมืองหลวงนี้จะมีสักกี่คนกันที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่กล้าเอ่ยถึง?ทันใดนั้น ฮ่องเต้น้อยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเนื่องด้วยเหตุการณ์ที่จินโจวก่อนหน้านี้ พิธีขอฝนเพียงครั้งเดียวก็บันดาลให้ฝนตกหนักในจินโจว ซึ่งไม่เคยตกมานานถึงสามเดือนไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรืออะไรก็ตาม แต่สรุปแล้ว ฝนก็ตกลงมาจริงๆเวลานี้ เวินซื่อซึ่งเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงผู้นี้ได้กลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงในใจของชาวเมืองจินโจวแล้วไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของนางจะโด่งดังไปทั่ว แม้แต่ฮ่องเต้น้อยผู้ประทานสมญานามให้เวินซื่อ ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมจากราษฎรจำนวนมากทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้เยาว์วัยและอ่อนประสบการณ์สามารถครองบัลลังก์ได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ไร้ผู้ต่อต้านและยังได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้นในราชสำนักแม้แต่เหล่าขุนนางที่เคยคัดค้านเรื่องนี้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 235

    ตอนนี้เป่ยเฉินหยวนโกรธมากเนื่องจากไปที่จินโจวกับเวินซื่อ ถึงได้รู้ว่ามีอันตรายอยู่รอบๆ ตัวนังหนูคนนี้มากมายเพียงใดดังนั้น วันนี้หลังจากที่ได้ยินจากฝ่าบาทว่าเวินซื่อถูกลอบสังหารอีกครั้ง ปฏิกิริยาแรกของเขาคือต้องเป็นฝีมือของคนจินโจวพวกนั้นแน่ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ชื่อว่าจินซือถู อีกฝ่ายจะต้องกลับมาอีกแน่ๆดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงเป็นห่วงความปลอดภัยของเวินซื่อมาก“ไม่ได้โกหก!”เวินซื่อรีบอธิบาย “ข้าแค่ไม่อยากรบกวนท่าน...”“เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นการรบกวนข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกเขาก้มศีรษะเข้าไปใกล้ๆ ดวงตาเรียวยาวดุจหงส์จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาเป็นประกาย ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความจริงจังอย่างยิ่งเขาเอ่ยขึ้นทีละคำ “อู๋โยว ฟังให้ดี สำหรับข้าแล้ว เรื่องของท่านไม่เคยเป็นการรบกวนเลย”ทันใดนั้น เวินซื่อก็รู้สึกใจสั่นนางจ้องมองเป่ยเฉินหยวนที่อยู่ใกล้นางมากด้วยความตกตะลึงในชั่วขณะนั้น เวินซื่อดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างรางๆ “เพราะฉะนั้น ต่อไปอย่าปิดบังข้าอีกเลย ได้หรือไม่?”น้ำเสียงทุ้มต่ำไพเราะ แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและความเด็ดขาด ค่อยๆ กระตุ้นให้เวินซื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 236

    “ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าเป็นคนของใคร และไม่สนใจว่าพวกเจ้ามาเพราะเหตุใด คืนนี้ เมื่อพวกเจ้าก้าวเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่แห่งนี้ ก็เป็นการเริ่มกำหนดวันตายของพวกเจ้าแล้ว”เป่ยเฉินหยวนปักกระบี่เล่มยาวไว้ข้างหน้า ก้มลงมองเหล่าองครักษ์ลับที่ถูกกดลงกับพื้นพวกเขาถูกค้นตัวจนหมด แม้กระทั่งฟันที่ซ่อนยาพิษไว้ ก็ถูกงัดออกมาทีละซี่จนหมด พวกเขาในตอนนี้ ก็เหมือนปลาที่อยู่บนเขียงสายตาเยือกเย็นของเป่ยเฉินหยวนมองไปยังพวกเขาหลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง องครักษ์ลับคนสุดท้ายก็ถูกพามา“ตุบ!”จู๋เยวี่ยผู้มีบาดแผลจากดาบเพิ่มขึ้นบนร่างกาย ลากคนคนหนึ่งที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดออกมาอย่างช้าๆ แล้วโยนเขาไปข้างหน้าองครักษ์ลับทั้งหมดองครักษ์ลับของสกุลเวินต่างรู้จักคนผู้นี้ดี เพราะเขาคือซานเตา องครักษ์ลับคนสนิทที่อยู่ข้างกายเวินเฉวียนเซิ่งแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนไร้ประโยชน์เสียแล้ว“ดีมาก คราวนี้คนครบแล้ว”เป่ยเฉินหยวนกำกระบี่เล่มยาวที่อยู่ในมือแน่น ลุกขึ้นเดินไปอยู่ตรงหน้าของซานเตา“หน้าพระพุทธรูปไม่พึงเห็นเลือด หน้าอารามไม่พึงฆ่าสัตว์ตัดชีวิต”เป่ยเฉินหยวนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ลากตัวไป ฆ่าทิ้งที่จวนเจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 237

    “ไม่มีการเข้าใจผิด เป็นนางอย่างแน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าบูดบึ้งเขาไม่อาจอธิบายเหตุผลเหล่านั้นให้จงหย่งโหวฟังได้ จึงได้แต่ตอบอย่างหนักแน่นเช่นนี้จงหย่งโหวส่ายหน้า “ช่างเถอะ ไม่ว่าจะเข้าใจผิดหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับจวนจงหย่งโหวของเราอยู่แล้ว วันนี้ข้ามาเพราะฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาเยี่ยมเยียนขุนนางอาวุโสที่ล้มป่วยกะทันหันอย่างท่าน”“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง”เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แต่ช่วงนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีธุระมากมาย คงมิอาจรั้งท่านให้กินอาหารด้วยแล้ว”จงหย่งโหวได้ยินก็รู้ทันทีว่านี่เป็นการไล่แขกของอีกฝ่ายเขาเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ถึงอย่างไรเขาก็ทำตามที่ฝ่าบาทรับสั่งแล้วส่วนจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับจวนจงหย่งโหวของพวกเขาแล้วจงหย่งโหวคิดเช่นนี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งจะกลับมาถึงจวนของตน ก็มีเสียงร้องไห้โหยหวนดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน“น้องเยวี่ยเอ๋อร์! ข้าจะไปหาน้องเยวี่ยเอ๋อร์!”ชุยเส้าเจ๋อร้องไห้โวยวายจะออกไปข้างนอกเวินหย่าลี่ด่าทอด้วยความโมโห “เจ้าจะออกไปทำอะไร?! ท่านพ่อของเจ้าก็ขังเจ้าไว้ในเรือนแล้ว ถ้าตอนนี

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status