Share

บทที่ 233

Author: จิ้งซิง
เขาส่งคนไปตั้งสี่ห้าคน สี่ห้าคนสู้กับคนเดียว แต่กลับสู้ไม่ได้!

ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งมั่นใจมากขึ้น

เยวี่ยเอ๋อร์ต้องถูกเวินซื่อลักพาตัวไปอย่างแน่นอน

เพราะถึงอย่างไรการป้องกันของจวนเจิ้นกั๋วกงนั้นไม่ธรรมดา

สามารถลักลอบเข้าไปในเรือนของเวินเยวี่ยได้อย่างเงียบเชียบ ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนาขององครักษ์ แล้วยังแอบพาตัวคนไปได้อีก

นี่ต้องไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาอย่างแน่นอน

“เพิ่มคน! ไปที่อารามสุ่ยเยว่ต่อ ต้องหาตัวคุณหนูหกให้พบ!”

เวินเฉวียนเซิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงออกคำสั่งเช่นเดิม

“ขอรับ!”

ต่อมาในคืนที่สอง

อารามสุ่ยเยว่ก็ได้ต้อนรับองครักษ์ลับอีกกลุ่มหนึ่ง

ครั้งนี้มีมากถึงสิบคน

เดิมทีเวินเฉวียนเซิ่งคิดว่าครั้งนี้จะต้องสำเร็จแน่ๆ

แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่า องครักษ์ลับทั้งสิบคน กลับพลาดอีกครั้ง!

วันรุ่งขึ้น เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้รับข่าว สีหน้าของเขาก็ดูมืดมนจนน่ากลัว

“นางทำได้อย่างไรกันแน่!”

องครักษ์ลับที่มีฝีมือเช่นนี้ ถึงแม้จะอยู่ในบรรดาองครักษ์ลับที่ฝึกฝนโดยราชวงศ์ ก็ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่

และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นองครักษ์เงาอันดับต้นๆ ใน
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 234

    “มือสังหารหรือ?”ฮ่องเต้น้อยทรงเต็มไปด้วยความสงสัย “เหตุใดจึงมีมือสังหารไปที่อารามสุ่ยเยว่เพื่อลอบสังหารท่าน? ใครเป็นคนส่งมา?”เวินซื่อก้มหน้าลง “อู๋โยวมิกล้าทูลเพคะ”“มิกล้าทูล?”ฮ่องเต้น้อยทรงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย การที่ไม่กล้าทูลนั่นแสดงว่ารู้ว่าเป็นใครและในเมืองหลวงนี้จะมีสักกี่คนกันที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่กล้าเอ่ยถึง?ทันใดนั้น ฮ่องเต้น้อยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเนื่องด้วยเหตุการณ์ที่จินโจวก่อนหน้านี้ พิธีขอฝนเพียงครั้งเดียวก็บันดาลให้ฝนตกหนักในจินโจว ซึ่งไม่เคยตกมานานถึงสามเดือนไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรืออะไรก็ตาม แต่สรุปแล้ว ฝนก็ตกลงมาจริงๆเวลานี้ เวินซื่อซึ่งเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงผู้นี้ได้กลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงในใจของชาวเมืองจินโจวแล้วไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของนางจะโด่งดังไปทั่ว แม้แต่ฮ่องเต้น้อยผู้ประทานสมญานามให้เวินซื่อ ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมจากราษฎรจำนวนมากทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้เยาว์วัยและอ่อนประสบการณ์สามารถครองบัลลังก์ได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ไร้ผู้ต่อต้านและยังได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้นในราชสำนักแม้แต่เหล่าขุนนางที่เคยคัดค้านเรื่องนี้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 235

    ตอนนี้เป่ยเฉินหยวนโกรธมากเนื่องจากไปที่จินโจวกับเวินซื่อ ถึงได้รู้ว่ามีอันตรายอยู่รอบๆ ตัวนังหนูคนนี้มากมายเพียงใดดังนั้น วันนี้หลังจากที่ได้ยินจากฝ่าบาทว่าเวินซื่อถูกลอบสังหารอีกครั้ง ปฏิกิริยาแรกของเขาคือต้องเป็นฝีมือของคนจินโจวพวกนั้นแน่ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ชื่อว่าจินซือถู อีกฝ่ายจะต้องกลับมาอีกแน่ๆดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงเป็นห่วงความปลอดภัยของเวินซื่อมาก“ไม่ได้โกหก!”เวินซื่อรีบอธิบาย “ข้าแค่ไม่อยากรบกวนท่าน...”“เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นการรบกวนข้าหรือ?”เป่ยเฉินหยวนยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกเขาก้มศีรษะเข้าไปใกล้ๆ ดวงตาเรียวยาวดุจหงส์จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาเป็นประกาย ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความจริงจังอย่างยิ่งเขาเอ่ยขึ้นทีละคำ “อู๋โยว ฟังให้ดี สำหรับข้าแล้ว เรื่องของท่านไม่เคยเป็นการรบกวนเลย”ทันใดนั้น เวินซื่อก็รู้สึกใจสั่นนางจ้องมองเป่ยเฉินหยวนที่อยู่ใกล้นางมากด้วยความตกตะลึงในชั่วขณะนั้น เวินซื่อดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างรางๆ “เพราะฉะนั้น ต่อไปอย่าปิดบังข้าอีกเลย ได้หรือไม่?”น้ำเสียงทุ้มต่ำไพเราะ แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและความเด็ดขาด ค่อยๆ กระตุ้นให้เวินซื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 236

    “ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าเป็นคนของใคร และไม่สนใจว่าพวกเจ้ามาเพราะเหตุใด คืนนี้ เมื่อพวกเจ้าก้าวเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่แห่งนี้ ก็เป็นการเริ่มกำหนดวันตายของพวกเจ้าแล้ว”เป่ยเฉินหยวนปักกระบี่เล่มยาวไว้ข้างหน้า ก้มลงมองเหล่าองครักษ์ลับที่ถูกกดลงกับพื้นพวกเขาถูกค้นตัวจนหมด แม้กระทั่งฟันที่ซ่อนยาพิษไว้ ก็ถูกงัดออกมาทีละซี่จนหมด พวกเขาในตอนนี้ ก็เหมือนปลาที่อยู่บนเขียงสายตาเยือกเย็นของเป่ยเฉินหยวนมองไปยังพวกเขาหลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง องครักษ์ลับคนสุดท้ายก็ถูกพามา“ตุบ!”จู๋เยวี่ยผู้มีบาดแผลจากดาบเพิ่มขึ้นบนร่างกาย ลากคนคนหนึ่งที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดออกมาอย่างช้าๆ แล้วโยนเขาไปข้างหน้าองครักษ์ลับทั้งหมดองครักษ์ลับของสกุลเวินต่างรู้จักคนผู้นี้ดี เพราะเขาคือซานเตา องครักษ์ลับคนสนิทที่อยู่ข้างกายเวินเฉวียนเซิ่งแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนไร้ประโยชน์เสียแล้ว“ดีมาก คราวนี้คนครบแล้ว”เป่ยเฉินหยวนกำกระบี่เล่มยาวที่อยู่ในมือแน่น ลุกขึ้นเดินไปอยู่ตรงหน้าของซานเตา“หน้าพระพุทธรูปไม่พึงเห็นเลือด หน้าอารามไม่พึงฆ่าสัตว์ตัดชีวิต”เป่ยเฉินหยวนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ลากตัวไป ฆ่าทิ้งที่จวนเจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 237

    “ไม่มีการเข้าใจผิด เป็นนางอย่างแน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าบูดบึ้งเขาไม่อาจอธิบายเหตุผลเหล่านั้นให้จงหย่งโหวฟังได้ จึงได้แต่ตอบอย่างหนักแน่นเช่นนี้จงหย่งโหวส่ายหน้า “ช่างเถอะ ไม่ว่าจะเข้าใจผิดหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับจวนจงหย่งโหวของเราอยู่แล้ว วันนี้ข้ามาเพราะฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาเยี่ยมเยียนขุนนางอาวุโสที่ล้มป่วยกะทันหันอย่างท่าน”“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง”เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แต่ช่วงนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีธุระมากมาย คงมิอาจรั้งท่านให้กินอาหารด้วยแล้ว”จงหย่งโหวได้ยินก็รู้ทันทีว่านี่เป็นการไล่แขกของอีกฝ่ายเขาเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ถึงอย่างไรเขาก็ทำตามที่ฝ่าบาทรับสั่งแล้วส่วนจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับจวนจงหย่งโหวของพวกเขาแล้วจงหย่งโหวคิดเช่นนี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งจะกลับมาถึงจวนของตน ก็มีเสียงร้องไห้โหยหวนดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน“น้องเยวี่ยเอ๋อร์! ข้าจะไปหาน้องเยวี่ยเอ๋อร์!”ชุยเส้าเจ๋อร้องไห้โวยวายจะออกไปข้างนอกเวินหย่าลี่ด่าทอด้วยความโมโห “เจ้าจะออกไปทำอะไร?! ท่านพ่อของเจ้าก็ขังเจ้าไว้ในเรือนแล้ว ถ้าตอนนี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 238

    หลังจากที่จงหย่งโหวเอ่ยคำพูดนั้นแล้ว ก็สะบัดแขนเสื้อหันหลังกลับต้องการจะเข้าห้องแต่ท่าทางเช่นนั้นของเขา กลับไปกระตุ้นเวินหย่าลี่เสียแล้ว“ชุยเหลียงเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”จู่ๆ เวินหย่าลี่ก็ตะโกนเรียกชื่อเต็มของเขานางจ้องมองจงหย่งโหวด้วยความไม่พอใจและโกรธเกรี้ยว “ท่านปกป้องนางเด็กสารเลวเวินซื่อนั่น เป็นเพราะในใจท่านยังไม่เคยลืมหลานจื่อจวินใช่หรือไม่?!”ทันใดนั้น สีหน้าของจงหย่งโหวก็มืดมนลงเขาหันกลับมามองเวินหย่าลี่ด้วยสายตาเย็นชา “ข้าบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้วว่า ข้ากับจื่อจวินเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น”“ถ้าพวกท่านเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กกัน เช่นนั้นเหตุใดท่านต้องเข้าข้างนางเด็กสารเลวเวินซื่อนั่นด้วย?! ก็เพราะนางเป็นลูกสาวของหลานจื่อจวินใช่หรือไม่?”เวินหย่าลี่ไม่เชื่อเลยสักนิด นางร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม “ดูท่าทางที่ท่านปฏิบัติต่อข้า ปฏิบัติต่อลูกชายสิ! ท่านยังกล้าพูดอีกหรือว่าไม่ลืมหลานจื่อจวิน! ท่านยังคิดถึงนางอยู่ชัดๆ ถึงได้ดีกับลูกสาวของนางเช่นนี้!”“ฮือๆๆ ชุยเหลียงเฟิง ท่านมันคนจิตใจโหดเหี้ยม! ในเมื่อท่านไม่ได้ชอบข้า แล้วตอนนั้นท่านแต่งงานกับข้าทำไม?!”เวลานี้ ชุยเส้าเจ๋อที

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 239

    แม้แต่เจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง ก็ยังให้หลานจื่อจวินให้กำเนิดบุตรให้เขาถึงห้าคนสุดท้ายยังไปมีบุตรนอกสมรสอีกเมื่อเวินหย่าลี่ได้ฟังคำพูดของเขา จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดจริงๆถึงแม้จะไม่รู้ว่าคำพูดของชุยเหลียงเฟิงที่ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับหลานจื่อจวินนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หลังจากที่แต่งงานกันมา เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรผิดต่อนางจริงๆเมื่อหาเหตุผลมาแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ นางก็บ่นพึมพำออกมา “ตอนนั้นข้าแสดงออกชัดเจนตั้งหลายครั้ง ท่านก็ยังปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะหลานจื่อจวินมาหาท่าน ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับท่าน ท่านถึงได้ยอมตกลง”“นางไม่ได้พูดอะไร แค่พูดประโยคเดียว”จงหย่งโหวถอนหายใจเวินหย่าลี่ถามขึ้นมาทันที “พูดว่าอะไร?”“ลืมไปแล้ว”จงหย่งโหวไม่อยากพูดนัก รู้สึกว่าถ้าพูดออกไป เวินหย่าลี่ต้องโวยวายใส่เขาอีกแน่ๆแต่ยิ่งเขาไม่พูด เวินหย่าลี่ก็ยิ่งไม่ยอมแพ้ “เช่นนั้นท่านก็ลองนึกดูสิ บอกข้ามาเร็วๆ ว่าหลานจื่อจวินพูดอะไรกับท่านกันแน่?!”“โอ๊ย วุ่นวายจริง ดึกป่านนี้แล้ว ยังจะไม่ให้คนเขานอนอีกหรือ? ดูลูกชายเจ้าสิ เกือบจะหลับไปกับพื้นแล้ว!”“โอ๊ย เส้าเจ๋อ! เจ้าเด็กคนนี้นี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 240

    “แมลงชีวิต?”เวินซื่อกำลังยุ่งจนเหงื่อท่วมตัว เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง “อ้อ ที่แท้ก็เป็นเจ้าหรอกหรือ”หลังจากพูดประโยคนี้จบ นางก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ราวกับมองข้ามจินซือถูโดยสิ้นเชิงเมื่อเห็นนางทำท่าทางไม่กลัวตนเองเลยแม้แต่น้อย จินซือถูก็รู้สึกอัดอั้นขึ้นมาทันที “บอกข้ามาเดี๋ยวนี้! แมลงชีวิตของข้าอยู่ที่ไหนกันแน่ เจ้าเอามันไปซ่อนไว้ที่ไหน?!”เวินซื่อเกลียดที่สุดเวลาที่มีคนมารบกวนตอนที่นางทำงานนางเงยหน้าขึ้นมองจินซือถูด้วยความรำคาญ “เจ้าหมายถึงตะขาบตัวใหญ่นั่นน่ะหรือ? มันอยู่ที่ข้าจริงๆ แต่ทำไมข้าต้องคืนให้เจ้าด้วย?”เวินซื่อถือจอบแล้วหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ข้าเกือบจะโดนตะขาบพิษของเจ้ากัดตายแล้ว ตอนนี้เจ้ายังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ไม่กลัวข้าจะเรียกคนมาฆ่าเจ้าหรือไร?”“เจ้าไม่กล้าหรอก”จินซือถูเชิดคางขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างชาวต่างเผ่าเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม “ถ้าเจ้ากล้าเรียกคนมาฆ่าข้า ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแม่ชีเฒ่าแม่ชีน้อยในอารามนี้ก็แล้วกัน!”“เจ้าเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้สง่าผ่าเผย ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะทนดูพวกนางเป็นอะไรไปได้ลงคอหรอก!”จินซือถูคิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 241

    เมื่อเดินกลับไปหยิบตะเกียบออกมาอีกครั้ง นางก็เรียกทั้งสองคนนั้นโดยไม่ได้คิดอะไร “เลิกสู้กันได้แล้ว รีบมากินข้าวเร็วเข้า”จู๋เยวี่ยวางมือลงในทันใด แล้วรีบเหาะไปหาเวินซื่อทางด้านนั้นทันทีจินซือถูที่ฉวยโอกาสกำลังจะได้เปรียบอยู่แล้วก็คว้าน้ำเหลวในทันใดจินซือถู “...”ไม่มีใครต่อยตีกับเขาแล้ว เขาจึงต้องเดินตามไปด้วย จากนั้นก็ยืนบนโต๊ะหินอย่างไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง มองไปที่บะหมี่หยางชุนชามที่เพิ่มขึ้นมาชามหนึ่งแบบคล้ายสนใจแต่ก็เหมือนไม่สนใจ“ท่านเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ยังมาทำบะหมี่ให้คนอื่นกินอีกหรือ? ชามที่เพิ่มมานี่คงไม่ใช่ของข้ากระมัง?”เวินซื่อกินบะหมี่ของตัวเองโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า “ไม่ใช่ ให้จู๋เยวี่ยกิน นางค่อนข้างกินจุ”จู๋เยวี่ยพยักหน้า “อืม ๆ”จินซือถูเบิกตากว้างทันที จ้องมองจู๋เยวี่ยอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้ากินจุขนาดไหนกินบะหมี่ชามใหญ่ได้ตั้งสองชาม? ข้าไม่สน ตะเกียบมีสามคู่ ทำไมชามนี้ถึงไม่ใช่ของข้าล่ะ?”เขานั่งลงอย่างไม่ลังเลด้วยความโมโห หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินทันทีอย่าว่าไป แม้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้มีดีอะไรมากมาย อารมณ์ก็ร้าย แต่ฝีมือการทำบะหมี่หยางชุนถือว

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status