Share

บทที่ 238

Penulis: จิ้งซิง
หลังจากที่จงหย่งโหวเอ่ยคำพูดนั้นแล้ว ก็สะบัดแขนเสื้อหันหลังกลับต้องการจะเข้าห้อง

แต่ท่าทางเช่นนั้นของเขา กลับไปกระตุ้นเวินหย่าลี่เสียแล้ว

“ชุยเหลียงเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

จู่ๆ เวินหย่าลี่ก็ตะโกนเรียกชื่อเต็มของเขา

นางจ้องมองจงหย่งโหวด้วยความไม่พอใจและโกรธเกรี้ยว “ท่านปกป้องนางเด็กสารเลวเวินซื่อนั่น เป็นเพราะในใจท่านยังไม่เคยลืมหลานจื่อจวินใช่หรือไม่?!”

ทันใดนั้น สีหน้าของจงหย่งโหวก็มืดมนลง

เขาหันกลับมามองเวินหย่าลี่ด้วยสายตาเย็นชา “ข้าบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้วว่า ข้ากับจื่อจวินเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น”

“ถ้าพวกท่านเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กกัน เช่นนั้นเหตุใดท่านต้องเข้าข้างนางเด็กสารเลวเวินซื่อนั่นด้วย?! ก็เพราะนางเป็นลูกสาวของหลานจื่อจวินใช่หรือไม่?”

เวินหย่าลี่ไม่เชื่อเลยสักนิด นางร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม “ดูท่าทางที่ท่านปฏิบัติต่อข้า ปฏิบัติต่อลูกชายสิ! ท่านยังกล้าพูดอีกหรือว่าไม่ลืมหลานจื่อจวิน! ท่านยังคิดถึงนางอยู่ชัดๆ ถึงได้ดีกับลูกสาวของนางเช่นนี้!”

“ฮือๆๆ ชุยเหลียงเฟิง ท่านมันคนจิตใจโหดเหี้ยม! ในเมื่อท่านไม่ได้ชอบข้า แล้วตอนนั้นท่านแต่งงานกับข้าทำไม?!”

เวลานี้ ชุยเส้าเจ๋อที
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 239

    แม้แต่เจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่ง ก็ยังให้หลานจื่อจวินให้กำเนิดบุตรให้เขาถึงห้าคนสุดท้ายยังไปมีบุตรนอกสมรสอีกเมื่อเวินหย่าลี่ได้ฟังคำพูดของเขา จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดจริงๆถึงแม้จะไม่รู้ว่าคำพูดของชุยเหลียงเฟิงที่ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับหลานจื่อจวินนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หลังจากที่แต่งงานกันมา เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรผิดต่อนางจริงๆเมื่อหาเหตุผลมาแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ นางก็บ่นพึมพำออกมา “ตอนนั้นข้าแสดงออกชัดเจนตั้งหลายครั้ง ท่านก็ยังปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะหลานจื่อจวินมาหาท่าน ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับท่าน ท่านถึงได้ยอมตกลง”“นางไม่ได้พูดอะไร แค่พูดประโยคเดียว”จงหย่งโหวถอนหายใจเวินหย่าลี่ถามขึ้นมาทันที “พูดว่าอะไร?”“ลืมไปแล้ว”จงหย่งโหวไม่อยากพูดนัก รู้สึกว่าถ้าพูดออกไป เวินหย่าลี่ต้องโวยวายใส่เขาอีกแน่ๆแต่ยิ่งเขาไม่พูด เวินหย่าลี่ก็ยิ่งไม่ยอมแพ้ “เช่นนั้นท่านก็ลองนึกดูสิ บอกข้ามาเร็วๆ ว่าหลานจื่อจวินพูดอะไรกับท่านกันแน่?!”“โอ๊ย วุ่นวายจริง ดึกป่านนี้แล้ว ยังจะไม่ให้คนเขานอนอีกหรือ? ดูลูกชายเจ้าสิ เกือบจะหลับไปกับพื้นแล้ว!”“โอ๊ย เส้าเจ๋อ! เจ้าเด็กคนนี้นี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 240

    “แมลงชีวิต?”เวินซื่อกำลังยุ่งจนเหงื่อท่วมตัว เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง “อ้อ ที่แท้ก็เป็นเจ้าหรอกหรือ”หลังจากพูดประโยคนี้จบ นางก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ราวกับมองข้ามจินซือถูโดยสิ้นเชิงเมื่อเห็นนางทำท่าทางไม่กลัวตนเองเลยแม้แต่น้อย จินซือถูก็รู้สึกอัดอั้นขึ้นมาทันที “บอกข้ามาเดี๋ยวนี้! แมลงชีวิตของข้าอยู่ที่ไหนกันแน่ เจ้าเอามันไปซ่อนไว้ที่ไหน?!”เวินซื่อเกลียดที่สุดเวลาที่มีคนมารบกวนตอนที่นางทำงานนางเงยหน้าขึ้นมองจินซือถูด้วยความรำคาญ “เจ้าหมายถึงตะขาบตัวใหญ่นั่นน่ะหรือ? มันอยู่ที่ข้าจริงๆ แต่ทำไมข้าต้องคืนให้เจ้าด้วย?”เวินซื่อถือจอบแล้วหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ข้าเกือบจะโดนตะขาบพิษของเจ้ากัดตายแล้ว ตอนนี้เจ้ายังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ไม่กลัวข้าจะเรียกคนมาฆ่าเจ้าหรือไร?”“เจ้าไม่กล้าหรอก”จินซือถูเชิดคางขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างชาวต่างเผ่าเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม “ถ้าเจ้ากล้าเรียกคนมาฆ่าข้า ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแม่ชีเฒ่าแม่ชีน้อยในอารามนี้ก็แล้วกัน!”“เจ้าเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้สง่าผ่าเผย ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะทนดูพวกนางเป็นอะไรไปได้ลงคอหรอก!”จินซือถูคิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 241

    เมื่อเดินกลับไปหยิบตะเกียบออกมาอีกครั้ง นางก็เรียกทั้งสองคนนั้นโดยไม่ได้คิดอะไร “เลิกสู้กันได้แล้ว รีบมากินข้าวเร็วเข้า”จู๋เยวี่ยวางมือลงในทันใด แล้วรีบเหาะไปหาเวินซื่อทางด้านนั้นทันทีจินซือถูที่ฉวยโอกาสกำลังจะได้เปรียบอยู่แล้วก็คว้าน้ำเหลวในทันใดจินซือถู “...”ไม่มีใครต่อยตีกับเขาแล้ว เขาจึงต้องเดินตามไปด้วย จากนั้นก็ยืนบนโต๊ะหินอย่างไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง มองไปที่บะหมี่หยางชุนชามที่เพิ่มขึ้นมาชามหนึ่งแบบคล้ายสนใจแต่ก็เหมือนไม่สนใจ“ท่านเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ยังมาทำบะหมี่ให้คนอื่นกินอีกหรือ? ชามที่เพิ่มมานี่คงไม่ใช่ของข้ากระมัง?”เวินซื่อกินบะหมี่ของตัวเองโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า “ไม่ใช่ ให้จู๋เยวี่ยกิน นางค่อนข้างกินจุ”จู๋เยวี่ยพยักหน้า “อืม ๆ”จินซือถูเบิกตากว้างทันที จ้องมองจู๋เยวี่ยอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้ากินจุขนาดไหนกินบะหมี่ชามใหญ่ได้ตั้งสองชาม? ข้าไม่สน ตะเกียบมีสามคู่ ทำไมชามนี้ถึงไม่ใช่ของข้าล่ะ?”เขานั่งลงอย่างไม่ลังเลด้วยความโมโห หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินทันทีอย่าว่าไป แม้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้มีดีอะไรมากมาย อารมณ์ก็ร้าย แต่ฝีมือการทำบะหมี่หยางชุนถือว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 242

    “แน่นอนว่าต้องเป็น...ตั้งแต่ตอนที่ท่านก้าวเข้ามาในเรือนของข้า”เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย นางมองไปที่สมุนไพรที่ปลูกไว้ในสวนสมุนไพรอีกด้านหนึ่งในเรือนเล็กของตัวเองในนั้นมียาพิษชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพหลอนได้ได้ยินมาว่าข้างนอกนั้นหาซื้อสมุนไพรชนิดนี้ได้น้อยมาก แต่เนื่องจากเวินซื่อต้องการศึกษาเรื่องพิษ ดังนั้นท่ามกลางเมล็ดพันธุ์สมุนไพรเหล่านั้นที่เป่ยเฉินหยวนเก็บมาให้เขาในครั้งนี้ จึงมีเมล็ดพันธุ์ยาพิษ ตลอดจนต้นกล้าสมุนไพรอยู่ไม่น้อยตอนนี้ที่ปลูกไว้ในสวนสมุนไพรแห่งนี้ คือยาสำเร็จรูปที่กำลังจะออกดอกแล้วเป็นสิ่งที่เป่ยเฉินหยวนหามาให้นางเช่นกัน มีเพียงยาสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ในท้องตลาดไม่กี่ต้นเท่านั้นเดิมทีเวินซื่อเห็นจินซือถูยืนอยู่ข้างนอกเรือนเล็กตลอดเวลา ยังคิดว่าเขาแยกแยะยาพิษไม่กี่ต้นนั้นได้แล้วแต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้นไม่นาน ตัวเขาเองได้เดินเข้ามาอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าชายต่างชนเผ่าผู้นี้ถึงแม้จะใช้พิษด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องยาพิษมากนักมิฉะนั้นจะไม่มีทางเสียท่าให้กับอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ส่วนบะหมี่หยางชุนชามนั้นแค่เอาไว้ใช้เร่งการออกฤทธิ์ยาภายในร่างกายข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 243

    ไม่เช่นนั้นจินซือถูคงไม่ไล่ตามมาถึงที่นี่เพื่อถามหาแมลงชีวิตจากนางโดยเฉพาะ โดยที่ไม่ได้ถามเวินเยวี่ยเลยสักคำทันใดนั้นเวินซื่อก็เกิดความใคร่รู้ขึ้นมา ถ้าหากจินซือถูอยู่ด้วย ตะขาบพิษตัวนี้จะยังเชื่อฟังนางอยู่หรือไม่?เวินซื่อขบคิดสักครู่ แล้วตัดสินใจออกไปลองดูตอนนี้“เจ้าตัวน้อย ไปเถอะ ไปหานายที่ดีของเจ้า”ไม่นานเวินซื่อก็นำตะขาบพิษตัวนั้นเข้าไปในครัวเล็ก ๆทันทีที่เข้าไปก็พบว่าจินซือถูถูกจู๋เยวี่ยมัดอยู่กับเสาด้วยมหาเงื่อนห้าบุปผา“พั่วจวิน? พั่วจวิน! เข้ามาเร็ว พั่วจวิน!”หลังจากเวินซื่อนำตะขาบพิษเข้าไปแล้ว จินซือถูที่เกือบจะฟื้นคืนสติสัมปชัญญะได้อย่างสมบูรณ์ก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่าง จึงตะโกนเรียก“ที่แท้ชื่อของเจ้าตัวน้อยก็คือพั่วจวินเองหรือ?”เวินซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าจับตะขาบพิษสีดำมันวาวตัวนั้นวางลงบนพื้นหลังจากวางลงไปแล้ว จินซือถูก็ส่ายหัวไปมาพลางตะโกนเรียกแมลงชีวิตของตัวเอง“พั่วจวิน...เข้ามาเร็ว ข้าอยู่ที่นี่...เข้ามาช่วยข้าเร็ว”เวลานี้จินซือถูยังไม่ได้สติมากนักเขาแค่ตะโกนเรียกพั่วจวินโดยจิตใต้สำนึกตะขาบพิษที่ได้ยินนายของตัวเองเรียกหา ก็เลื้อยไปยังทิศทางที่จินซือถูอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 244

    “อื้ม! อื้ม ๆ ๆ...”เมื่อใช้เวลาอยู่ใต้น้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ จินซือถูที่ถูกมัดกับเสาก็เริ่มดิ้นรนขึ้นมาทันใดใบหน้าแดงก่ำไปหมด ราวกับหายใจไม่ออก ดวงตาสีทองทั้งคู่เบิกกว้างขึ้นอย่างมาก ใบหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยวดูเหมือนว่าในขณะนี้ไม่ใช่แค่พั่วจวินเท่านั้นที่จมอยู่ใต้น้ำ แต่รวมถึงจินซือถูด้วย“ดังนั้นหากฆ่าตะขาบพิษตัวนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จินซือถูจะตาย หรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสใช่ไหม?”เวินซื่อเปรียบเทียบความเป็นไปได้สองประการ นางเอนเอียงไปทางข้อสุดท้ายเพราะท้ายที่สุดแล้วหากแมลงชีวิตตัวนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของจินซือถูแล้วล่ะก็ เขาก็คงจะไม่ปล่อยตะขาบพิษตัวนี้ออกมาง่าย ๆแต่เมื่อพิจารณาจากระดับความสนใจที่จินซือถูมีต่อแมลงชีวิตของเขา คิดว่าหากพั่วจวินตายไป ต้องมีผลกระทบต่อเขาไม่น้อยแน่นอนหลังจากเข้าใจเรื่องนี้กระจ่างแล้ว เวินซื่อก็เอื้อมมือไปเทน้ำในถังไม้ออกมาจนหมด เผยให้เห็นตะขาบพิษที่ก้นถังทันทีที่พั่วจวินได้รับการช่วยเหลือ สถานการณ์ของจินซือถูก็ผ่อนคลายลงทันทีเพียงแต่สภาพยังดูค่อนข้างแย่เหมือนเดิม ใบหน้าซีดเผือดและหลังจากผ่านความทรมานทั้งหมดนี้มาแล้ว สติสัมปชัญญะของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 245

    ปรากฏว่าคราวนี้ไม่รอให้เวินซื่อพูดให้จบ จินซือถูก็ขัดจังหวะนางด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง“เวินเยวี่ยน่ะหรือ? จิตใจบริสุทธิ์ดีงาม? ไร้เดียงสาไม่มีพิษภัย? ฮ่า ๆ ๆ ๆ นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในใต้หล้าจริง ๆ!”จินซือถูอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นหัวเราะลั่นหัวเราะไปด่าไป “นางเป็นจอมลวงโลก นางโกหกพวกเราทุกคน กับแม่สมควรตายนับหมื่นนับพันครั้งของนางนั้นด้วย หลอกพวกเราทุกคนจนหัวหมุนไปหมด!”เมื่อจินซือถูพูดจนจบ ก็เริ่มด่าทออย่างโกรธจัดเวินซื่อจ้องมองเขาเช่นนั้น หลังจากที่เขาด่าทอจบ ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างราบเรียบ “หากเจ้ากล้าขัดจังหวะข้าอีกครั้งหนึ่ง ก็อย่าโทษที่ข้าทรมานแมลงตัวน้อยของเจ้าต่อ”เวินซื่อชี้ไปที่ถังไม้จินซือถูจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาทันที “เอาละ เจ้าพูด ๆ”“พูดเรื่องนายของเจ้าจบแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาว่าเจ้าแล้วเจ้าแมลงตัวน้อย”ตอนนี้เวินซื่อรู้สึกหมดความสนใจเล็กน้อย “นางกล่าวอย่างรายเรียบด้วยอารมณ์หมดสนุก “เจ้าตัวน้อยนี่เจ้าให้มันปล่อยพิษใส่ข้า เพราะว่ามัน ยังทำให้ข้าหลั่งเลือดไปไม่น้อย”แล้วยังดื่มน้ำทิพย์จากมิติของนางอีกด้วยตอนนี้แค่ทรมานมันสักหน่อยก็ถือว่าดีมากแล้วถ้าไม่ใช่เพราะค้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 246

    ทางที่ดีก็ขอให้ส่งต่อ?คำพูดนี้ทำให้เวินซื่ออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นนางก็คิดอะไรออกได้อย่างฉับพลัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าคงไม่ใช่ไม่ได้กินยาถอนพิษมานานแล้วหรอกนะ?”จินซือถูกัดฟันกรอดทันที “ใช่ นานมาก ๆ แล้ว”พวกเขาหยุดยามาสามปีแล้ว!สามครั้งที่ออกฤทธิ์ พวกเขาต่างไม่เคยได้รับยาถอนพิษเลย!สามครั้งนี้ที่ผ่านมานี้ เดิมทีพวกเขามีอยู่สามร้อยคน เหลือเพียงไม่ถึงสองร้อยคนต่อมาก็ถูกส่งไปที่จินโจวเพื่อลอบสังหารเวินซื่อ สูญเสียไปอีกกว่าครึ่งตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น!หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าอีกไม่นาน พวกเขาทั้งหมดก็จะตายลง“แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ฆ่านางเสียเลยเล่า?”เวินซื่อถามด้วยความแปลกใจจินซือถูเหลือบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง “ร้ายดีอย่างไรเจ้าก็เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ เป็นแม่ชีน้อยที่ออกบวชแล้วอีกต่างหาก เหตุใดถึงเอาแต่พูดเรื่องการฆ่า ๆ ๆ ตาย ๆ ๆ?”“เจ้าจะบอกหรือไม่?”เวินซื่อจ้องเขม็งกลับไปที่เขา“บอก ๆ ๆ”จินซือถูเอนศีรษะพิงเสาข้างหลัง “พวกข้าก็อยากฆ่านางเหมือนกัน แต่แม่ของเวินเยวี่ยได้บอกพวกข้าไว้ก่อนตาย ว่านางได้ส่งต่อสูตรลับของยาถอนพิษให้แก่เวินเยวี่ย

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status