เมื่อลู่เฉินเห็นมีดที่สว่างอยู่ข้างหน้าเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาเธอยังไม่รู้สถานการณ์อย่างชัดเจน ก็บอกว่าเขาเป็นคนทรยศป่าเถื่อนมากจริงๆ"ป้าหลานคะ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ? ลู่เฉินจะไม่ใช่หนอนบ่อนไส้แน่นอนเลยค่ะ" ฉาวซวนเฟยอธิบายทันที"จะเป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่า รอสอบสวนแล้วค่อยตัดสินใจ"หญิงสาวสวยตะโกนด้วยสีหน้าที่เย็นชา "มัดเขาไว้ก่อน ถ้าเขากล้าต่อต้าน ก็ฆ่าไปทันที""ฆ่า?"ลู่เฉินขมวดคิ้ว "เรื่องยังตรวจสอบไม่ชัดเจนเลย คุณก็ตัดสินใจตามอําเภอใจแบบนี้ มากเกินไปหรือเปล่า?""ฮึ่ม! เพื่อกิจการอันยิ่งใหญ่ของตระกูลฉาว ไม่ว่าเรื่องที่มากเกินไปแค่ไหนฉันก็สามารถทําได้!" หญิงสาวสวยตะคอก"คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าผมเป็นคนทรยศ?" ลู่เฉินถามกลับ"ฉันไม่จําเป็นต้องแน่ใจ เพราะฉันบอกว่าคุณเป็น คุณก็จะเป็น!" หญิงสาวสวยพูดอย่างเผด็จการมากพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลแบบนี้ทําให้ใบหน้าของลู่เฉินค่อยๆเย็นลงเขาคุยกับเธอแบบมีเหตุมีผลอย่างสงบมาตลอด แต่คนที่ตรงหน้าเขาไม่สนใจอะไรและระบุตรงๆว่าเขาเป็นหนอนบ่อนไส้ไปกลั่นแกล้งผู้อื่นมากเกินไปจริงๆ!"ป้าหลานคะ! เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป คุณอย่าทําอะไรมั
"เป็นไปไม่ได้มั้ง? ป้าหลานเป็นคนทรยศจริงๆเหรอ?"หลังจากได้ยินคําพูดของฉาวอานอาน ทุกคนก็ตกตะลึงแต่เมื่อพวกเขาถอดเสื้อผ้าของพวกนักฆ่าออกและเห็นถึงรอยสักที่เหมือนกันทุกประการสีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปทั้งหมดเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ"แค่รอยสักเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้แสดงอะไรมั้ง?" ผู้คุมหัวล้านคนนั้นถาม"แค่รอยสักอันหนึ่ง อาจจะยังขาดความน่าเชื่อถือหน่อย แต่ถ้าทุกคนมีกันหมดล่ะ?"ลู่เฉินก้าวไปข้างหน้าและถอดเสื้อผ้าของลูกน้องของสาวสวยออกทีละคนในไม่ช้า ทุกคนก็พบว่าในร่างกายของคนเหล่านี้มีเครื่องหมายรอยสักที่สอดคล้องกันที่คนหนึ่งมียังสามารถเรียกได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มีคนสิบกว่าคนจะได้อธิบายปัญหาแล้วถึงตอนนี้ ที่เธอเป็นคนทรยศนั้นยืนยันได้เลย"ไม่แปลกใจเลย...ไม่แปลกใจที่พอป้าหลานปรากฏตัวเธอจะให้ความยากลำบากเรื่อยๆ ที่แท้เธอเป็นคนทรยศต่างหาก!" หลิวเฉียงรู้สึกทั้งตกใจและโกรธเขาที่เป็นผู้ยอดฝีมือของตระกูลฉาวเหมือนกัน สําหรับคนทรยศประเภทนี้ เขาเกลียดชังจากก้นหัวใจเขา"แต่ทําไมล่ะ? ตระกูลฉาวฝึกอบรมเธอโดยถือว่าเธอเป็นคนหลักที่สำคัญมาตลอด ทําไมเธอถึงต้องทรยศต่อตระกูลฉาวด้วย"
หลังจากเหยียบคนทรยศจนตายไป ลู่เฉินก็อุ้มฉาวซวนเฟยที่อ่อนแอขึ้นไปในรถตอนนี้ ส่วนที่ถูกงูกัดของฉาวซวนเฟยเปลี่ยนเป็นสีม่วงดําเข้มแล้วและสารพิษยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง จนต้นขาของเธอสูญเสียความรู้สึกไปหมด"มันยุ่งยากนิดหน่อยจริงๆ..."ลู่เฉินมองอย่างละเอียด สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยถ้าเป็นพิษทั่วไปเขาจะแก้ได้ง่ายแต่พิษงูครั้งนี้ ร้ายแรงมากสิ่งที่สําคัญคือเขาไม่มีสมุนไพรและไม่มีเข็มเงินด้วย แม้ว่าเขาจะมีเทคนิคทางการแพทย์ แต่ก็ยากที่จะดําเนินการดูเหมือนว่า ได้แต่ใช้ปากดูดเท่านั้น"ฉาวหนานหนาน มาช่วยด้วย"ลู่เฉินหันกลับมาเรียก"ฉันชื่อฉาวอานอาน ฉาวอานอาน!"หลังจากฉาวอานอานพูดประโยคหนึ่งแล้ว เธอก็รีบขึ้นรถและถามว่า "ต้องให้ฉันทําอะไร?""ช่วยพี่คุณถอดกางเกงออก" ลู่เฉินสั่ง"เฮ่ย คุณคิดจะทำอะไร? ฉันเตือนคุณว่าอย่าทําอะไรสุ่มสี่สุ่มห้านะ!" การแสดงออกของฉาวอานอานเหมือนว่าเธอกำลังดูเสือผู้หญิงอยู่"พี่คุณถูกวางพิษร้ายแรง ผมต้องดูดพิษออกมาให้เธอ" ลู่เฉินอธิบาย"อ๊ะ?"ฉาวอานอานตกตะลึง เธอดูแปลกๆ "แต่... แต่บาดแผลนี้อยู่ที่ต้นขาด้านในของพี่ฉันนะ คุณคงไม่อยากฉวยโอกา
ในยามพลบค่ำ ภายในห้องผู้ป่วยห้องหนึ่งของโรงพยาบาลลู่เฉินที่นอนหลับได้ตื่นขึ้นมาในที่สุดแต่ทันทีที่เขาลืมตา เสียงตกใจเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหูเขา"เอ๊ะ ลู่เฉิน คุณยังไม่ตายเหรอ?"ลู่เฉินมองไปตามเสียง เขาเห็นว่าฉาวอานอานกำลังนั่งอยู่ข้างๆ และมองเขาอย่างตกตะลึงอยู่"ทําไม ที่ผมไม่ตาย คุณดูเหมือนจะผิดหวังมากเหรอ?" ลู่เฉินพูดอย่างไม่พอใจ"แค่กๆ...คือ ฉันแค่ประหลาดใจนิดหน่อยค่ะ" ฉาวอานอานยิ้มอย่างอึดอัด"แล้วพี่สาวคุณล่ะ?" ลู่เฉินขี้เกียจที่จะถือสาเธอ "โอ้ เธอไปขอยาให้คุณแล้ว"ฉาวอานอานมองเขาขึ้นๆลงๆ แล้วพูดว่า "ได้ยินมาว่าพิษที่คุณดูดเป็นพิษงูดําอะไรอย่างนั้น สิ่งนี้ร้ายมากเห็นเลือดก็ตาย! ปาฏิหาริย์จริง ๆ ที่คุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้!""ใช่ พิษงูดําตายนั้นร้ายแรงจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะทําให้ผมนอนได้ สมกับเป็น1 ใน 10 ของพิษประหลาด" ลู่เฉินถอนหายใจด้วยสมรรถภาพทางกายของเขา คงกระพันต่อพิษทั้งหมดแต่พิษงูดํากลับต้องให้เขานอนหลับไปคืนหนึ่งถึงจะแก้ได้ น่ากลัวจริง ๆ"ที่คุณพูดแบบนี้ ทำไมจะฟังแปลกๆเล็กน้อยเลย?" ฉาวอานอานเกาหัวยังไม่รอให้เธอตอบสนอง จู่ๆก็มีสองคนเดินเข้ามาจากประ
ในขณะนี้ ในห้องผู้ป่วยอีกห้องหนึ่งตาเฒ่าหลี่กําลังนอนหมดสติ หน้าเขาซีดเซียวเป็นผิดปกติจางชุ่ยฮัวและกลุ่มคนในตระกูลหลี่รวมตัวกระซิบกันเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการ"แปลกนะ ทําไมตาเฒ่าจู่ ๆ ก็ป่วยหนักล่ะ?""ใช่นะ ปกติเขาดูร่างกายแข็งแรงมาก ไม่คิดว่าพอเป็นป่วยก็ไม่ไหวแล้ว โรคกำเริบอย่างรวดเร็วจริง ๆ"ทุกคนถอนหายใจและดูเสียดายมาก"คุณปู่เป็นไงบ้างแล้วคะ"ในเวลานี้ หลี่ชิงเหยาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยรองเท้าส้นสูงเธอเพิ่งไปประชุมที่บริษัท จู่ๆ ก็ได้ข่าวว่าคุณปู่ป่วยหนัก เธอจึงรีบมาทันที"ชิงเหยา หมอบอกว่า ตาเฒ่าดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว"จางชุ่ยฮัวส่ายหัว"อะไรนะ!"สีหน้าของหลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไป "เป็นแบบนี้ได้ยังไง? เมื่อวานคุณปู่ยังสบายดีไม่ใช่เหรอ?""ฉันก็รู้สึกแปลก ๆ ด้วย นี่อาจจะเป็นโชคชะตามั้ง" จางชุ่ยฮัวถอนหายใจ"คุณหมอล่ะ? คุณหมออยู่ไหน?" หลี่ชิงเหยาใจร้อนเล็กน้อย"ไม่มีประโยชน์หรอก ทั้งแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันได้ตรวจดูแล้ว พวกเขาบอกว่า อาการป่วยของตาเฒ่าแปลกเกินไป ไม่สามารถหาสาเหตุได้เลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ได้แต่รอความตายเท่านั้น""ไม่... เป็นไปไม่ได้!"หลี่ชิงเหยาตื่
"คุณบอกว่าผมทําไม่ได้? ได้... งั้นผมถามคุณนะ ใครจะช่วยคุณปู่ได้?" ลู่เฉินถามด้วยเสียงทุ้มต่ำเขาพบว่าการพูดด้วยเหตุผลกับผู้หญิงนั้นไม่มีผลเลย"ตอนนี้คนที่สามารถช่วยคุณปู่ได้ มีแต่หมอสื่อที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น" หลี่ชิงเหยาทำหน้าจริงจัง"ถูกต้อง! ยวี่ถางไปเชิญหมอสื่อแล้ว ตราบใดที่เขายอมลงมือ ตาเฒ่าก็จะรอดได้แล้ว จะต้องการให้คนจับจดอย่างคุณมาอวดอ้างที่นี่ได้ยังไง?""หมอสื่อ? นั่นเป็นใคร?" ลู่เฉินถาม"ฮึ่ม! บอกความจริงกับแกเถอะ หมอสื่อเป็นลูกศิษย์ที่เก่งกาจของหมอเจียง เชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่รักษาไม่หายต่าง ๆ เก่งกว่าคุณมากกว่าร้อยเท่า!" จางชุ่ยฮัวพูดอย่างหยิ่งผยองพอเธอพูดจบ ก็มีสองคนเดินเข้าประตูผู้นําคือหหลวี่ยวี่ถางข้างหลังเขายังมีชายอายุสามสิบกว่าปีตามมาด้วยผู้ชายสวมเสื้อคลุมยาวและใส่แว่นตา สีหน้าเขาหยิ่งผยอง ดูเหมือนจะยกย่องตัวเองเป็นคนวิเศษ"ยวี่ถาง เป็นไงบ้าง? หมอสื่อเชิญมาหรือยัง?"พอจางชุ่ยฮัวเห็น เธอก็รีบไปต้อนรับทันที"แน่นอนเลยครับ"หลวี่ยวี่ถางยิ้มแล้วเอื้อมมือไปชักให้ทุกคนมองไปชายที่ใส่แว่นตา “คนนี้ก็คือหมอสื่อครับ”"ที่แท้ท่านก็คือหมอสื่
เมื่อเผชิญกับความเฉยเมยของหลี่ชิงเหยาและความขุ่นเคืองของคนรอบข้าง ลู่เฉินพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เดินออกจากวอร์ดเพราะเขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ก็ไม่มีใครจะเชื่อ"ฮึ่ม! ควรจะออกไปตั้งนานแล้ว เกะกะจริงๆ!""นั่นนะสิ ไม่รู้ประเมินตนเองได้ถูกต้องเลย!"เมื่อมองไปที่ลู่เฉินที่ออกไปข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ดูหมิ่นก็เยาะเย้ย"หมอสื่อคะ คนที่มีตาหามีแววไม่ได้ไสหัวไปแล้ว ท่านใจเย็นๆก่อนนะคะ" จางชุ่ยฮัวยิ้มอย่างประจบ"พี่สื่อครับ คุณอย่าถือสาเลยเพื่อเห็นแก่หน้าผมเถอะ รักษาโรคมันสําคัญกว่า หลังจากนี้ผมต้องให้ค่าตอบแทนมากๆนะครับ!" หลวี่ยวี่ถางก็เริ่มไกล่เกลี่ย"ในเมื่อคุณชายหลวี่เอ่ยปากแล้ว งั้นยังไงผมก็ต้องไว้หน้าบ้าง แต่แค่ครั้งเดียวนี้ ห้ามทำอีกนะ!" ชายใส่แว่นตาเตือน"แน่นอนสิครับ!"ทุกคนพยักหน้าซ้ำๆ และมองหหลวี่ยวี่ถางด้วยสายตาที่ขอบคุณคนเราเปรียบกันไม่ได้จริง ๆ ไม่งั้นจะโกรธจะตายลู่เฉินที่เป็นไอ้ขยะนั้น รู้แต่ทำลายเรื่อง ที่ต้องเปลี่ยนสถานการณ์อย่างแท้จริง ยังต้องพึ่งพาคุณชายหลวี่"พอแล้ว ไปซื้อยามาให้ผมก่อน"ชายใส่แว่นตาขี้เกียจที่จะพูดเรื่องไร้สา
ชายใส่แว่นตาเริ่มวินิจฉัยอีกครั้ง แต่สภาพของชีพจรที่วุ่นวายของตาเฒ่าหลี่ทําให้เขาตกใจจนตากระตุกอย่างต่อเนื่องในพักหนึ่ง เขาไม่มีทางเริ่มต้นได้เลย"สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี..."ชายใส่แว่นตาทำหน้าลําบากใยและถอนหายใจว่า “ผู้ป่วยร่างกายอ่อนแอและขี้โรค พิศเย็นโหมกระหน่ำ รักษาให้หายขาดได้ยาก ดูเหมือนว่าจะไม่ไหวแล้ว พวกคุณ... รีบเตรียมงานศพไว้เถอะ""อะไรนะ?!"พอคําพูดนี้พูดออกมา ทุกคนก็แข็งทื่อไปหมดวินิจฉัยและรักษามาเป็นเวลานาน เขาแม่งแค่ให้ผลลัพธ์แบบนี้หรือ?เตรียมงานศพ?"หมอสื่อ! ขอร้องคุณต้องช่วยคุณปู่ของฉันด้วยนะคะ ไม่ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ฉันก็ยอม" หลี่ชิงเหยาตื่นตระหนกทันที"ผม..."ขณะที่ชายใส่แว่นตากำลังจะพูดอะไร จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกคนเตะเปิดออกด้วยเสียง "บูม" แล้วลู่เฉินก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่มืดมนเขาไม่ได้พูดอะไร แต่หยิบเข็มเงินออกมาแทงที่หน้าอกของตาเฒ่าหลี่อย่างรวดเร็ว"หึ่ง~!"เข็มเงินเริ่มสั่นและหมุนอย่างบ้าคลั่งกระแสลมที่โปร่งใสไหลเข้าสู่ร่างกายของตาเฒ่าลี่อย่างรวดเร็วและปกป้องหัวใจให้เขา"เฮ่ย คุณจะทําอะไร?"เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ชายใส่แว่นตาก็ไม่พอใจทั