Share

หยุมหัว

last update Last Updated: 2024-12-14 08:09:29

“แก นังโรสรินทร์!!”

“ทำไม แกจะทำไม!!?”

“ถ้าสวยจริงต้องมีผัวเป็นของตัวเองสิ ไม่ใช่ใช้ความสวยแย่งผัวคนอื่น”

“หยุดพูดไร้สาระเดี๋ยวนี้นะเชอร์รี่ !!” เสียงทุ้มของแทนไทพูดขึ้นขัดจังหวะ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างชะงักนิ่งไปทันที เขาเองก็ตกใจไม่แพ้คนอื่น ๆ เช่นเดียวกัน เพราะไม่คิดว่าแฟนสาวของตัวเองที่ไปเรียนต่อต่างประเทศจะกลับมาโดยไม่แม้แต่จะบอกเขาล่วงหน้าแบบนี้

“นี่มันอะไรกันคะพี่แทน ที่ยัยปากปีจอนี่พูดมันหมายความว่ายัง

ไง?” โรสรินทร์พูดขึ้นดวงตากลมโตจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่งเพื่อรอฟังคำตอบ

“นั่นสิคะ พี่แทนพูดมาเลยดีกว่าว่าที่ยายเพิ้งนี่พูดมันหมายความว่ายังไงกันแน่!!” คราวนี้กชกรพูดขึ้นบ้างอย่างเหลืออด พลางจ้องหน้าชายหนุ่มผู้เป็นแฟนของเพื่อนสาวเพื่อรอคำตอบ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนอ้ำอึ้งอยู่กับที่

“เงียบทำไมล่ะคะ พูดสิคะพี่แทน พูดมาเลยว่าที่นังเงินกู้รายวันนี่พูด มันหมายความว่าไง!!” พอลล่าพูดแทรกขึ้น

“ใคร แกว่าใครเงินกู้รายวันไม่ทราบ” เชอร์รี่เอ่ยขึ้น

“ก็แกไง เห็นดอกเยอะ! ฉันก็นึกว่าแกเป็นพวกเงินกู้รายวันไง คิก

คิก!!” พอลล่าหัวเราะคิกคักชอบใจ พลางเบะปากใส่อีกคนอย่างหมั่นไส้

“แอร๊ยยยยย!! อีบ้า อีตุ๊ดปากเสีย!!”

“พูดมาเลยดีกว่าค่ะพี่แทน ตกลงว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” คราวนี้โรสรินทร์เป็นคนเอ่ยขึ้น ดวงตากลมโตวูบไหวจ้องมองผู้ชายที่เธอเรียกว่าแฟนมาเป็นปี ๆ อย่างตั้งใจรอฟังคำตอบ

“จะหมายความว่ายังไงล่ะ ก็หมายความว่าแทนเป็นผัวฉันไง ส่วนแกมันก็เป็นแค่ของเล่นแก้เบื่อเพื่อรอเวลาให้เมียตัวจริงอย่างฉันกลับมายังไงล่ะ อีโง่!!”

“แกสิโง่!! อีสมองไขปลาทูเค็ม หัดบำรุงสมองหน่อยน๊ะจ๊ะ อย่าบำรุงแต่หนังหน้า ถ้าฉลาดจริงแกคงไม่โง่ปล่อยให้ผัวตัวเองแอบมากิ๊กกับเพื่อนฉันเป็นปี ๆ แบบนี้หรอก ก็อย่างว่าแหละ เพื่อนฉันน่ะสวยออกขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนจะไม่รักไม่ชอบล่ะ ว่าไหมจ๊ะ..?”

“แก!! อีกระทิงปากปีจอ!!”

“อ๊ายยยย!! อีเขียงปลวกแทะ ถ้าแกว่าฉันอีกระทิงอีกแม้แต่คำเดียว ฉันตบปากฉีกแน่!!” พอลล่าพูดขึ้นเสียงดังลั่นอย่างเกรี้ยวโกรธ

“ฉันจะพูด แล้วแกจะทำไมห๊ะ !”

“ฉันก็จะตบปากแกเอาให้กินไก่ไม่ได้อีกเลยไง อีตัวกินไก่!!”

“อร๊ายยย อีบ้า แน่จริงก็เข้ามาสิ แกมีมือคนเดียวหรือไง อีกระเทยเถื่อน!!”

“มาสิยะ คนอย่างพอลล่าพร้อมบวกตลอด หนอยแน่ะ! ปากดีจริ๊ง! นอกจากปากแล้วก็ไม่มีอะไรดีเลย ชะนีชั้นต่ำ!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างเดือดดาล ประกอบกับท่าทางที่พร้อมบวกอีกฝ่ายอย่างเต็มที

“อ๊ายยยย!! แก อีตุ๊ด แก!!” เชอร์รี่ตั้งท่าจะเข้าไปทำร้ายอีกฝ่าย โดยที่พอลล่าเองก็ตั้งท่าจะเดินเข้าไปหมายจะสั่งสอนผู้หญิงปากดีอย่างเชอร์รี่เช่นกัน แต่แทนไทดันกระชากตัวเชอร์รี่ออกมาซะก่อน

“หยุดพูดได้แล้วเชอร์รี่ มากับผมเดี๋ยวนี้!!” มือหนาของแทนไทเอื้อมเข้าไปฉุดกระชากข้อมือของหญิงสาวที่มีนามว่าเชอร์รี่ ก่อนจะออกแรงดึงฉุดกระชากจนร่างของเธอแทบจะกระเด็นไปตามแรงฉุดนั้น

“ปล่อยนะคะแทน เชอร์จะไปตบมัน เชอร์จะไปตบสั่งสอนอีนั่น ปล่อย!!” เสียงแหลมเล็กจนแสบแก้วหูของหญิงสาวที่มีนามว่าเชอร์รี่ดังขึ้นพร้อมพยายามขัดขืนและรั้งตัวเองเอาไว้

“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้เลยทั้งสองคน!!”

โรสรินทร์พูดเค้นเสียงขึ้นมาอย่างโกรธจัดในขณะที่เธอถอดรองเท้าส้นสูงออกและหยิบยกมันขึ้นมาชี้หน้าให้ทั้งสองคนที่กำลังจะเดินออกไปให้หยุด ก่อนทุกคนจะหยุดและหันไปมองที่เธอเป็นตาเดียว

ผู้คนที่อยู่ในงานปาร์ตี้ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจับจ้องมองมาด้วยความสนใจ ทุกคนเริ่มซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปาก บางคนก็หยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปถ่ายคลิปบันทึกเหตุการณ์เอาไว้

“กะ แก แกจะทำอะไร?” เชอร์รี่พูดขึ้นมาเสียงสั่นประกอบกับสีหน้าท่าทางที่ดูตกใจไม่น้อย เช่นเดียวกันกับแทนไทที่ชะงักนิ่งงันไปจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก

“ราดไวน์ใส่ฉัน แล้วเธอคิดจะเดินหนีไปง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ…?” โรสรินทร์แค่นยิ้มเยาะ ก่อนจะพูดประโยคถัดมา

“แล้วคนอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นของเล่นของใคร เหมือนแก อีป้า!”

“อ๊ายยย!! แก… แกกล้าว่าฉันป้าอย่างงั้นเหรอ !!”

“กล้าสิ!”

โรสรินทร์พูดขึ้นเสียงดังดวงตาแข็งกร้าว พร้อม ๆ กับก้าวเดินเข้าไปหาคนตรงหน้าอย่างช้า ๆ สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนสองคนสลับกันด้วยอารมณ์โกรธจัด

“และฉันก็กล้าตบแกด้วย !!”

ป๊าบ! ปั๊วะ!!

โรสรินทร์ใช้รองเท้าส้นสูงตบเข้าที่ใบหน้าเชอร์รี่เต็มแรงจนร่างเธอเซถลาไปด้านหลัง ประกอบกับมือของเธอสั่นเทาไปด้วยความโกรธ

“อร๊ายยย อีโรส!! แกมันเริศ ตบมันค่ะ ตบมั้นนน!!”

พอลล่าและกชกรพูดขึ้นพร้อมกัน พลางร้องเชียร์เพื่อนสาวอย่างถึงพริกถึงขิง

“กรี๊ดดดดดด แก…แกกล้าตบฉันเหรอ!!”

“ก็บอกว่ากล้าไง ถามอะไรนักหนา หน้าอย่างแกไม่เหมาะกับรองพื้นหรอก เหมาะกับรองเท้าของฉันมากกว่า!!” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมาอีกครั้งอย่างไม่เกรงกลัว พลางจ้องหน้าอีกคนอย่างท้าทาย

“แกตายแน่ !!” เธอตะโกนลั่น พร้อมสะบัดมือของแทนไทออกจากการเกาะกุม ก่อนจะพุ่งเข้าหาหมายจะทำร้ายโรสรินทร์

“อร๊ายยย ยัยโรสระวังนะ!!” กชกรตะโกนขึ้นจนสุดเสียง

“แน่จริงก็เข้ามา อย่าคิดว่าคนอย่างอีโรสจะกลัว รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว!!”

โรสรินทร์ยืนหยัดต่อสู้ ทั้งสองสาวตะโกนด่าทอตบตีกันกันจนผมเผ้ายุ่งเหยิง เสียงกรีดร้องแหลมสูงต่างดังก้องไปทั่วงาน จากงานปาร์ตี้วันเกิดสุดหรูกลับกลายมาเป็นความชุลมุนวุ่นวาย

เสียงแก้วแตกกระจาย เศษแก้วกระเด็นไปทั่ว ประกอบกับเสียงตบตีกันดังสนั่น ผู้คนที่อยู่ในงานต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนก็ถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ สองหญิงสาวในชุดเดรสสุดหรูหรากำลังตบตีทำร้ายกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แม้จะมีคนคอยเข้าไปช่วยห้ามปราม แต่ก็ไม่สามารถห้ามศึกตบตีนี้ได้

“ด้านนักใช่ไหม คิดจะมาแย่งแทนของฉันเหรอ ห๊ะ !!” เชอร์รี่ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวโกรธ พร้อมกับดึงผมของโรสรินทร์อย่างโมโห

“ฉันไม่เคยคิดจะแย่ง เพราะคนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปแย่งของของใคร หน้าตาเธอก็ดูฉลาดนะ แต่พูดจาเหมือนขาดสมอง หึ! ผู้ชายเฮงซวยแบบนี้มีดีอะไรให้ฉันต้องแย่ง ห๊ะ!”

โรสรินทร์พูดตอบโต้ ทั้งคู่ต่างผลัดกันตบ ตี ข่วน ดึงผม กระชากเสื้อ กลิ้งเกลือกไปมาบนพื้น และไม่สนใจใยดีกับผู้คนรอบข้างที่ต่างมองมาด้วยความตกตะลึง

โรสรินทร์ได้จังหวะเป็นฝ่ายขึ้นมาคร่อมบนตัวของเชอร์รี่ ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปบีบตรงลำคอของเธออย่างแรง จนเชอร์รี่เองถึงกับตาเหลือกลานเพราะหายใจไม่ออก

“คิดว่าคนอย่างอีโรสจะกลัวงั้นสิ หึ อยู่ให้หน้าเป็นรอยตีนกาดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้เป็นรอยตีนกู งั้นแกเตรียมตัวรับผลลัพธ์ได้เลย!” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็ยกฝ่ามือขึ้นก่อนจะฟาดเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรงจนมีเลือดซึมออกมาตรงมุมปาก

ปั้วะ ปั้วะ!!

“กรี๊ดดดดด อีเด็กบ้า ปล่อยฉันนะ!!” เชอร์รี่ร้องตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เมื่อฝ่ามือพิฆาตของโรสรินทร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธฟาดลงไปสุดแรงอย่างไม่ยั้งหลายที

แทนไทชายหนุ่มผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องยืนอยู่ไม่ไกลนัก และมองดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจโดยที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หรือจะเข้าไปห้ามปรามด้วยวิธีไหน

“อีโรส ตบมันให้ฟันร่วงเลยแก ตบมั้นนน!!” เสียงเชียร์ของพอลล่าดังขึ้น

“นี่แกจะบ้าเหรอพอลล่า เดี๋ยวอีป้านั่นก็ตายคามือเพื่อนแกหรอก แกดูสภาพมันตอนนี้สิ” กชกรเอ่ยขึ้น เมื่อเริ่มเห็นว่าเพื่อนสาวของตนเองโมโหจัดจนแทบจะครองสติและยับยั้งความโกรธของตัวเองไม่อยู่

“ช่างหัวมันสิยะ” พอลล่าสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่สนใจ

จู่ ๆ ชายหนุ่มต้นเรื่องก็ไม่อาจทนดูสองสาวตบตีกันต่อได้ จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปห้ามปราม ทางด้านกชกรกับพอลล่าได้แต่ยืนอ้าปากค้างมองสองคนตบตีกันอย่างตะลึงงัน ก่อนกชกรจะเป็นคนเอ่ยให้พอลล่าเข้าไปลากตัวเพื่อนออกมา เมื่อเห็นโรสรินทร์เริ่มที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

“หยุดนะ หยุดทั้งสองคน !!” เขาตะโกนออกไปจนสุดเสียง ก่อนทั้งสองหญิงสาวจะหยุดชะงักและมองมาที่เขาเพียงนิดก่อนจะหันไปตบกันต่อ

“ไปห้ามเพื่อนมึงก่อนเร้วววว!! เดี๋ยวมันได้กลายเป็นฆาตกรฆ่าคนตายหรอก!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางดันแผ่นหลังเพื่อนชายใจหญิงอย่างพอลล่าให้เข้าไปช่วยห้ามศึกนี้ พอลล่าและกชกรจึงรีบปรี่เข้าไปห้ามเพื่อนสาวของตัวเอง เมื่อโรสรินทร์เริ่มจะคุมสติตัวเองไม่ได้เพราะอารมณ์โกรธจัด

“พะ พอแล้วยัยโรส เดี๋ยวมันก็ตายคามือแกไปซะก่อนหรอก!!” กชกรกับพอลล่ารีบลากตัวโรสรินทร์ออกมาอย่างทุลักทุเล

“พอได้แล้วทั้งสองคน!!” แทนไทพูดเสียงแข็งพลางเข้าไปพยุงตัวเชอร์รี่ออกมาเช่นเดียวกัน โรสรินทร์และเชอร์รี่ต่างจ้องมองหน้ากัน สายตาต่างเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง

“แทนจะเลือกใครว่ามาเลย ระหว่างเชอร์รี่กับอีเด็กหมาบ้านี่ !!” เชอร์รี่ถามขึ้นมาด้วยเสียงเกรี้ยวกราด

“ผะ ผม เอ่อ….!” ชายหนุ่มลังเล

“ไม่ต้องเลือก!” โรสรินทร์ตะโกนขึ้นมาเสียงแข็ง ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา

“ฉันไม่ต้องการผู้ชายเฮงซวยแบบนี้หรอก สวย ๆ อย่างฉัน หาผู้ชายดี ๆ ที่เพียบพร้อมได้สบายอยู่แล้ว ผีเน่ากับโลงผุอย่างพวกแกดูแล้วก็เหมาะสมกันดีออก”

โรสรินทร์จ้องมองชายหนุ่มด้วยสายที่ดูเย็นชา

“แก….!!”

“ทำไม!! แกอยากจะไฟท์กับฉันอีกสักยกไหมล่ะ? คราวนี้แม่จะเอาให้ฟันร่วงออกมาทั้งปากเลย!” โรสรินทร์พูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวและท้าทาย

“พอได้แล้ว ถือว่าพี่ขอเถอะ ทั้งสองคน!” น้ำเสียงเข้มของแทนไทเอ่ยขึ้น

“ไม่ต้องมาขอหรอก! ถ้าจะขอ…ก็ขอให้รักกันจนตายเถอะ ส่วนแกก็อย่าลืมเอาเชือกผูกคอผู้ชายเฮงซวยคนนี้ไว้ด้วยล่ะ เพราะเดี๋ยวจะออกไปเพ่นพ่านเที่ยวไปหลอกผู้หญิงคนอื่นเขาไปทั่วอีกว่าตัวเองโสด น่าสมเพช!!” พูดจบร่างบางระหงก็เชิดหน้าขึ้น พร้อมกับก้าวขาเรียวเล็กเดินฉับ ๆ ออกไปอย่างสวย ๆ ก่อนเพื่อนสาวคนสนิทอย่างกชกรและพอลล่าจะหันมาพูดทิ้งท้ายอย่างหมั่นไส้ และเดินตามโรสรินทร์ออกมาเช่นเดียวกัน

“ผีเน่ากับโลงผุ ช่างเหมาะกันจริงจริ้งงง ชิส์ !!”

“แกมันก็เป็นได้แค่ผีเน่าที่มาอาศัยโลงผุ ๆ เป็นผัวแค่นั้นแหละ นังชะนี!!” พอลล่าพูดทิ้งท้ายอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะสะบัดบ๊อบแล้วเดินตามเพื่อนออกไปเช่นเดียวกัน

“อีพวกหมาบ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ!!” เชอร์รี่พูดขึ้นอย่างหยุดหงิด ที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ แถมยังถูกอีกฝ่ายตบซะน่วมอีก แต่แล้วเธอก็ทำได้เพียงแค่กระทืบเท้าอย่างโมโหอยู่กับที่แบบนั้น

“พอได้แล้วเชอร์รี่ หัดอายคนอื่นบ้างสิ มองกันเต็มไปหมดแล้ว ดูสภาพตัวเองตอนนี้บ้าง!!” แทนไทพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะเดินปรี่เข้าไปด้านในโดยไม่แม้แต่จะรอเธอ และนั่นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตััว

เช้าวันต่อมา….

(เมื่อคืนนี้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้นกลางงานปาร์ตี้วันเกิดสุดหรูของคนในแวดวงไฮโซ เมื่อหญิงสาวสองคนตบตีแย่งผู้ชายกันกลางงานปาร์ตี้ สร้างความตกตะลึงให้กับแขกผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก จากข้อมูลที่ได้มานั้น ทั้งสองสาวต่างมีปากเสียงกันเรื่องผู้ชาย ซึ่งคาดว่าผู้หญิงชุดแดงน่าจะเป็นแฟนของชายหนุ่มผู้เป็นทาญาติเจ้าของห้างดัง ส่วนผู้หญิงชุดสีชมพูเป็นลูกสาวคนเล็กของนายตำรวจใหญ่ซึ่งเป็นถึง ผบ.ตร. จากภาพถ่ายและวิดีโอที่ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดีย จะเห็นได้ว่าหญิงสาวทั้งสองต่างมีรอยฟกช้ำและรอยขีดข่วนบนใบหน้า เสื้อผ้าของทั้งคู่ก็ยับเยิน เศษแก้วแตกกระจายเกลื่อนพื้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนที่อยู่ภายในงานเป็นอย่างมาก)

“นั่งอ่านอีหยังอยู่ลูก” (นั่งอ่านอะไรอยู่ลูก)

สีดาได้เอ่ยถามลูกชายเพียงคนเดียวของเธอขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังก้มหน้าก้มตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอไอแพดเครื่องหรูได้สักพักแล้ว

“จะอะไรล่ะครับคุณแม่ ก็อ่านข่าวของว่าที่ลูกสะใภ้ที่คุณแม่รักนักรักหนายังไงล่ะครับ” วายุภัคพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พลางส่ายหัวอย่างคนเอือมระอาให้กับภาพเคลื่อนไหวที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอไอแพด

“มันอาจสิบ่ได้เป็นคือในคลิปกะได้เด้ลูก ถึงหนูโรสสิดื้อแล้วกะเอาแต่ใจไปแหน่ แต่แม่กะยังเชื่อเด้ว่าเรื่องทั้งเบิดที่เกิดขึ้น หนูโรสคือสิบ่ได้เป็นคนเริ่มดอก”

(มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างในคลิปก็ได้นะลูก ถึงหนูโรสจะดื้อและเอาแต่ใจไปบ้าง แต่แม่ยังเชื่อนะว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น หนูโรสคงไม่ได้เป็นคนเริ่มหรอก)

“เด็กไม่รู้จักโต…เบิดคำสิเว้า!”

(เด็กไม่รู้จักโต…หมดคำจะพูด)

ชายหนุ่มพูดขึ้นมาเบา ๆ ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับลอบยิ้มให้กับพฤติกรรมของลูกชาย ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าลูกชายของเธอเป็นห่วงโรสรินทร์มากแค่ไหน ถึงแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วที่วายุภัคเองไม่ได้เจอโรสรินทร์เลย เพราะตั้งแต่จบจากมัธยมศึกษาตอนต้น วายุภัคก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่อายุ 16 ปี จนกระทั่งจบปริญญาโทถึงได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดของผู้เป็นแม่ที่ต่างจังหวัดและคอยช่วยผู้เป็นพ่อดูแลธุรกิจของครอบครัว แต่ชายหนุ่มก็ยังติดตามความเคลื่อนไหวของโรสรินทร์ผ่านทางโซเชียลอยู่ตลอด

วายุภัค ภูริจินดา หรือ ไวน์ อายุ 30ปี ชายหนุ่มหล่อผู้มาดขรึม พูดน้อย และจริงจังกับชีวิต เขาจบปริญญาโทด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา หลังจากเรียนจบเขาก็เลือกที่จะกลับมาอยู่บ้านนอกที่จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เป็นแม่ วายุภัคเกิดสนใจในการทำโคกหนองนาโมเดล ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาพื้นที่เกษตรแบบผสมผสาน และเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนและการสร้างความสุขที่แท้จริง ชายหนุ่มจึงใช้ที่ดินบนทุ่งกุลาร้องไห้กว่า 50 ไร่ เพื่อทำโคกหนองนา ซึ่งบนโคกนั้นมีการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ประกอบด้วยไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ และไม้ผล ส่วนในหนองน้ำขนาดย่อมที่ขุดขึ้นมาเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามหน้าแล้งนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ส่วนพื้นที่นานั้นเป็นพื้นที่สำหรับปลูกข้าวซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของคนไทย

ที่ดินผืนนี้มีมากกว่า 100 ไร่ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของคุณตาที่มอบให้กับคุณนายสีดาแม่ของเขาซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว วายุภัคจึงใช้ที่ดินกว่าครึ่งเพื่อทำโคกหนองนาโมเดลบนพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้ นอกเหนือจากทำโคกหนองนาแล้ว ชายหนุ่มยังช่วยผู้เป็นพ่อบริหารดูแลกิจการของครอบครัว ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่ขยายกิจการอีกหลายสาขาทั่วทั้งภาคอีสาน

Related chapters

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   การเดินทาง

    “ไม่ค่ะคุณพ่อคุณแม่ หัวเด็ดตีนขาดยังไงโรสก็ไม่ไปอยู่ที่บ้านนอกนั่นแน่ ๆ ค่ะ โรสยอมตายดีกว่าที่จะต้องไปอยู่ในที่กันดารแบบนั้น” โรสรินทร์พูดขึ้นอย่างหัวชนฝา ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะไม่มีทางไปอยู่ที่บ้านนอกคอกนาแบบนั้นเป็นแน่ เพราะถ้าหากเธอไปเรื่องที่พ่อแม่จับให้เธอหมั้นหมายกับผู้ชายบ้านนอกนั่นตั้งแต่เด็กก็จะเป็นจริงขึ้นมา เธอไม่มีทางยอมรับได้แน่ ๆ ที่จะต้องไปมีสามีบ้านนอกเป็นไอ้หนุ่มภูธรแบบนั้น ผู้หญิงสวย ๆ ระดับไฮโซอย่างเธอจะต้องมีสามีที่เป็นลูกผู้ดีมีสกุล หล่อ รวย อยู่ในแวดวงไฮโซ ไม่ใช่ผู้ชายภูธรแบบนั้น แม้แต่หน้าตาเธอเองก็ไม่รู้และไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้นเลยด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ถึงแม้พ่อกับแม่ของเธอจะเคยพูดถึงเรื่องราวและเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง เมื่อตอนเธออายุได้ประมาณสี่ขวบ เธอและครอบครัวได้ไปเที่ยวเล่นที่บ้านของคุณป้าสีดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแม่เธอ และตัวเธอเองก็ติดผู้ชายคนนั้นแจ วิ่งตามผู้ชายคนนั้นยิ่งกว่าเงาตามตัว และแทบจะไม่อยากกลับมาที่กรุงเทพเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องในอดีตไหม เพราะเธอลืมเรื่องราวพวกนั้นไปจนหมดสิ้นแล้ว เธอจำอะไรไม่ได้สักอย่างเลยด้วยซ้ำ และตอนนี้เธอ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   หนุ่มภูธร

    ณ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด…. สายลมเย็น ๆ พัดโชยมาปะทะใบหน้าหวานหลังจากเธอก้าวขาลงจากเครื่อง ท้องฟ้าวันนี้ช่างปลอดโปร่งไร้เมฆฝนบ่งบอกถึงวันที่สดใสท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของสนามบิน ก่อนร่างบางระหงจะก้าวขาเรียวสวยตรงมาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ดวงตากลมโตสอดส่ายสายตามองหาบุคคลที่มารอรับเธอที่สนามบินประกอบกับหัวใจที่เต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ พลางคิดและจินตนาการไปต่าง ๆ นานาร้อยแปดพันอย่างถึงหน้าตาของคู่หมั้นที่พ่อแม่ตั้งใจจะจับเธอคลุมถุงชน (หนุ่มภูธรแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหน้าตาดี ผมเผ้าก็คงจะรกรุงรังหรือไม่ก็หยิกเหมือนฝอยขัดหม้อ ผิวพรรณก็คงจะดำปี๋เหมือนคนเผาถ่าน เผลอ ๆ คนบ้านนอกคอกนาแบบนี้นมรัฐบาลก็คงจะเข้าไม่ถึงแน่ ๆ ตอนเด็ก ๆ ได้ดื่มนมบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ คงจะเป็นได้แค่ไอ้เตี้ยหมาตื่น แถมบ้านนอกแดดก็แรงอย่างกับเดินอยู่ในนรกขนาดนี้ กลิ่นตงกลิ่นตัวคงไม่ต้องพูดถึง รักแร้คงเหม็นเปรี้ยวน่าดู อี๋…แค่นึกก็ขมคอขึ้นมาแล้ว แหวะ !!) โรสรินทร์เดินไปพลางจินตนาการไปถึงรูปลักษณ์ของคู่หมั้นหนุ่มภูธร ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาบุคคลที่เธอนึกถึง วายุภัคยืนรอคอยใครบางคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลาสิบกว่าปีมากว่าครึ่งชั่วโมงแ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   แกล้ง

    ฉันกำลังยืนอยู่หน้ารถอีแต๋น รถอีแต๋นเป็นรถดัดแปลงจากรถไถนาประกอบด้วยที่นั่งไม้เรียบ ๆ สองแถว ด้านหน้ามีหลังคาผ้าใบกันแดด ส่วนกระบะด้านหลังน่าจะใช้สำหรับบรรทุกพืชผล อุปกรณ์การเกษตร หรือสินค้าทั่วไป เสียงเครื่องยนต์ดีเซลเก่าดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาเหยียบคันเร่งขึ้นมาเหมือนจะเร่งเร้าให้เธอนั้นรีบขึ้นมากราย ๆ บรึ้นนนน บรื้นนนน!!! “ระ รอด้วย โรสนั่งรถอีแต๋นบ้า ๆ นี่ไปกับพี่ไวน์ด้วยก็ได้!!” พูดเพียงแค่นั้นโรสรินทร์ก็รีบปีนขึ้นไปนั่งบนเบาะไม้แถวหน้าข้างคนขับ บ่งบอกได้เลยว่าชีวิตสาวชาวกรุงของเธอต่อจากนี้คือการเริ่มต้นการผจญภัยบนรถอีแต๋น ยานพาหนะพื้นบ้านที่ใครหลาย ๆ คนคงมองว่าเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ แต่สำหรับเธอ….นี่มันรถหรือเกวียนลากกันแน่ ทั้งช้า ทั้งแข็ง ไม่นุ่มนวลกับผู้หญิงบอบบางแถมสวยเริศอย่างเธอเอาเสียเลย กว่าจะถึงทุ่งกุลาร้องไห้เธอจะไม่มดลูกพิการไปก่อนหรือไง “รถอีแต๋นอะไรของพี่เนี่ย ทำไมมันช้าอย่างกับเต่าคลานแบบนี้คะ กว่าจะไปถึงโน่นไม่ชาติหน้าเลยหรือไง” เสียงแหลมแสบแก้วหูดังก้องกังวานประสานกับเสียงเครื่องยนต์ขึ้นมา เมื่อเธอรู้สึกได้ว่านอกจากมันจะช้าแล้ว

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ทุ่งกุลาร้องไห้

    พรึ่บบบ!! “อุ๊ย พี่ไวน์!!” แขนแข็งแกร่งคว้าหมับเข้าที่ตัวเธอไว้ได้ วายุภัคโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง พลางเผลอมองริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูที่เผยอขึ้นลงอย่างยั่วยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนเขาจะโน้มใบหน้าคมคายลงมาอย่างช้า ๆ โรสรินทร์หลับตาพริ้มลงทันทีก่อนจะ….. “อ้าว คุณไวน์คุณโรสมาฮอดแล้วบ้อครับ” (อ้าว คุณไวน์คุณโรสมาถึงแล้วเหรอครับ) มืดเด็กรับใช้ที่บ้านเอ่ยขึ้นขัดจังหวะทั้งสองคน ก่อนวายุภัคและโรสรินทร์จะรีบผละตัวออกจากกันอย่างอัตโนมัติทันที “อืม” เขาตอบด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น “ละ แล่วคือเปียกปานลูกหมาตกน้ำจั่งสี้ครับคุณไวน์” (แล้วทำไมถึงเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนี้ล่ะครับคุณไวน์) มืดถามขึ้นอีกครั้ง พลางมองคนทั้งสองสลับกันไปมา “ล้างโคลนตมน่ะ มีอะไรทำก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณโรสไปพบคุณแม่แล้ว” “ครับคุณไวน์ มืดขอโตไปก่อนเด้อครับคุณโรสคนสวย สวัสดีครับ” (ครับคุณไวน์ มืดขอตัวก่อนนะครับคุณโรสคนสวย สวัสดีครับ) ‘จะไปไหนก็รีบไปให้ไวเลยเถอะไอ้มืดมอดมิด แกเข้ามาดับฝันฉันทำไมก่อน นี่มันคือจูบแรกของฉันเลยนะ กำลังจะฟินแล้วเชียว’ โรสรินทร์ไ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดูผู้ชายถอดเสื้อ

    แอ๊ดดดด…!! โรสรินทร์เปิดประตูห้องเข้าไปอย่างช้า ๆ พลางสอดส่ายสายตามองหาคนตัวโต ก่อนหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอจะเต้นรัวแรงขึ้นมาประกอบกับใบหน้าแดงก่ำ ร่างกายของเธอร้อนผ่าวราวกับไฟกำลังลุกโชนอยู่ภายใน ดวงตาของเธอเบิกกว้างจับจ้องไปที่ร่างกายแกร่งกำยำของชายหนุ่มตรงหน้า เธอเผลอมองอย่างลุ่มหลง และไม่สามารถที่จะละสายตาออกจากภาพเคลื่อนไหวตรงหน้านี้ได้ วายุภัคอาบน้ำเสร็จเขาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอวเอาไว้ หยดน้ำจากเส้นผมสีดำขลับไหลรินจากปลายผมไหลผ่านใบหน้าคมเข้มลงสู่ลำคอที่ขาวเนียนก่อนจะหยดลงสู่แผ่นอกกว้าง วายุภัคใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กเช็ดผมและใบหน้าอย่างคล่องแคล่ว กล้ามเนื้อแขนและหน้าอกของเขาตึงแน่น แผ่นหลังกว้างมีรอยสักรูปนกอินทรี รอยสักนั้นมันช่างดูดุดัน เข้มแข็ง แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ เขายังคงใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวอย่างเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาขยับไปมาอย่างมีเสน่ห์ชวนมอง เธอเผลอกัดริมฝีปากกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกมนต์สะกดให้มองภาพตรงหน้าแต่ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองตัวเองผ่านหน้ากระจกใบโต ก่อนจะเบิกตาโพลงขึ้นมาทันทีเมื่อปรากฏเห็นภาพอีกคนสะท้อนอยู่ในกระจกใบนั้น วาย

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ควายคลอดลูก

    เช้าวันใหม่…. เสียงไก่ขันปลุกให้ตื่นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า โรสรินทร์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดเพราะเมื่อคืนเธอหลับสนิทตั้งแต่หัววัน เช้าวันนี้เธอจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเพราะได้นอนหลับเต็มอิ่ม ร่างบางรีบลุกจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้ตัวเองสดชื่น และแต่งตัวผลัดเปลี่ยนสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมาด้านนอก เธอตั้งใจว่าเช้านี้จะเดินเที่ยวเล่นชมนกชมไม้บริเวณภายในรอบ ๆ โคกหนองนาแห่งนี้ โรสรินทร์สูดหายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์เข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างรู้สึกโล่ง นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้สูดเอาอากาศที่บริสุทธิ์แบบนี้เข้าเต็มปอดเลยก็ว่าได้ ยามเช้าตรู่อากาศที่นี่เย็นสบายและปราศจากมลพิษ หมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนือพื้นดินประกอบกับท้องฟ้าสีครามสดใส เช้า ๆ แบบนี้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบได้ยินเพียงแค่เสียงนกร้องและเสียงไก่ขัน ดวงตากลมโตจ้องมองท้องฟ้าสีครามซึ่งสะท้อนลงบนผิวน้ำในหนองที่นิ่งสงบบนโคกดินที่สูงขึ้นจากพื้นราบ โดยรอบมีไม้ยืนต้นเรียงรายสลับกับพืชพรรณนานาพันธุ์ เสียงนกร้องเพลงขับกล่อม บรรยากาศต่างร่มรื่น อากาศเย็นสบาย โรสรินทร์จับจ้องไปที่แปลงผักสวนครัวที่เ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   หวง

    “ผมว่าคุณโรสไปล้างเท้าตรงโน้นก่อนดีกว่านะครับ” หมอณภัทรเอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วเรียวยาวไปตรงตุ่มใส่น้ำที่อยู่ใต้ต้นมะม่วง ก่อนโรสรินทร์จะรีบก้มลงไปมองที่เท้าของตัวเองซึ่งตอนนี้ขี้ควายติดเต็มเท้าของเธอไปหมด “อี๋ ขี้ควายเลอะเต็มเท้าเลยค่ะคุณหมอ” “ไปครับ เดี๋ยวผมช่วยล้าง” “ค่ะ” หมั่บ!! “อุ๊ย พี่ไวน์!!” เธอร้องขึ้นมาเสียงดังเมื่อจู่ ๆ วายุภัคก็เดินเข้ามากระชากแขนเธอแรง ๆ จนร่างบางเซถลาเข้าไปกระแทกกับอกแกร่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “เดี๋ยวพี่พาไปล้างเอง หากให้ไอ้หมอพาไปมีหวังเดี๋ยวคนซุ่มซ่ามอย่างเธอได้หาเรื่องให้ไอ้หมอมันซวยไปด้วยอีก” พูดจบมือหนาก็จับข้อมือบางดึงกระชากแรง ๆ ให้เธอเดินตามไป “เบา ๆ สิวะไอ้ไวน์ เดี๋ยวคุณโรสได้ล้มหน้าทิ่มลงไปอีกหรอก” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นตามหลังในขณะที่ทั้งสองคนได้เดินออกไปแล้ว พลางส่ายหัวเบา ๆ อย่างระอาให้กับพฤติกรรมที่ส่อแววไปในทางหึงหวงของเพื่อน “เบิ่งท่าแล้ว…คุณไวน์คงสิหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ” (ดูท่าแล้ว…คุณไวน์คงจะหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ) นายมืดเอ่ยขึ้นพลางมองตามหลังของบุคคลทั้งสองที่เดินห่างออกไปแล้ว “นั่นน่ะสิ หึงขนาดนี้มันยังฟอร์มเย

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เหตุการณ์ไม่คาดคิด

    ในเวลาเดียวกัน ขณะที่วายุภัคและโรสรินทร์นั่งรถออกไปในตัวเมือง… “เด็ก ๆ พวกนั้นออกไปกันแล้ว หวึ่งศรีเพิ่งโทรมารายงานฉันเมื่อกี้ และตอนนี้ฉันก็ให้คนของคุณสุพจน์ตามเด็ก ๆ พวกนั้นไปแล้ว” คุณนายสีดาแม่ของวายุภัคพูดกรอกผ่านปลายสายเมื่อโทรคุยกันกับคุณหญิงพิศมัยแม่ของโรสรินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท “แล้วแผนที่พวกเราวางไว้มันจะสำเร็จเหรอสีดา” คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้น “ยังหรอก…เพราะความสำเร็จจริง ๆ คือการที่ลูกของเราต้องแต่งงานกันต่างหากล่ะ นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ฉันแค่อยากทำให้พวกเขาทั้งสองรักและเป็นห่วงเป็นใยกัน” “นั่นสิเนอะ แต่เธอแน่ใจจริง ๆ เหรอสีดา ว่าแผนแบบนี้จะทำให้ลูก ๆ ของเราสนิทสนมกันมากขึ้น” พิศมัยเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “แน่ใจสิ !!” สีดาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “งั้นก็จัดการตามที่เธอเห็นสมควรเลยแล้วกัน เธอจะทำยังไงก็ได้ให้ลูกทั้งสองของเรารักกันเร็ว ๆ จะได้แต่งงานมีหลานให้พวกเราอุ้มสักที” คุณหญิงพิศมัยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะทั้งสองต่างฝันอยากจะเป็นคุณยายคุณย่าเต็มทีแล้ว แต่ลูกสาวและลูกชายทั้งสองคนก็ยังไม่มีวี่แววที่จะช่วยสานฝันให้คนแก่แบบพวกเธอไ

    Last Updated : 2024-12-14

Latest chapter

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status