Share

บทที่ 14

last update Last Updated: 2025-02-27 22:33:56

หลังจากที่ท่านปู่หยางไห่ร้องถามด้วยเสียงอันดังทำเอาเด็ก ๆ ถึงกับตกอกตกใจ จะไม่ให้หยางไห่ตกใจได้อย่างไร ในเมื่อคำว่าเห็ดเยื่อไผ่นี้ไม่ได้ยินมานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ยินเรื่องเห็ดเยื่อไผ่นี้เวลาก็ผ่านมานับสามสิบกว่าปี ว่ากันว่าเห็ดเยื่อไผ่เป็นของดีมีราคาแพง เพราะสามารถนำไปทำยาได้ ทั้งยังมีสรรพคุณบำรุงร่างกายด้วย ตั้งแต่ย้ายมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านลี่จวงแห่งนี้ ก็ไม่เคยพบเห็นเยื่อไผ่เลย นี่ไม่ใช่ว่าหลาน ๆ ของเขาไปพบเข้ากับขุมสมบัติมาหรือยังไง

“พวกเจ้าว่าอะไรนะ เห็ดเยื่อไผ่หรือ ไหนเอามาให้ปู่ดูใช่เห็ดเยื่อไผ่จริง ๆ ใช่หรือไม่”

“ท่านปู่ทำไมต้องเสียงดังด้วยขอรับ พวกข้าตกใจแทบแย่” หยางอิน

“นั่นสิ ท่านปู่ทำอย่างกับไม่เคยเจอเห็ดอย่างนั้นแหละ” หยางชิง

“ใช่ข้าเห็นด้วย ท่านปู่ร้องเสียงดังเล่นเอาข้าตกใจแทบตาย ก็แค่เห็ดไม่ใช่หรือไง วันหลังคงต้องให้ท่านพี่พาท่านปู่เข้าป่าไปเก็บเห็ดเสียบ้าง จะได้รู้ว่ายังมีเห็ดอีกมากมายเกิดในป่า อย่างเช่นเห็ดหอม เห็ดหูหนูดำ เห็ดแตร เห็ด..” ยังไม่ทันที่หยางเสียนจะทันได้พูดจบหยางไห่ก็ร้องขึ้นหนึ่งเสียง

“ยังมีเห็ดหอมอีกเรอะ เห็ดหูหนูดำด้วย”

“ก็มีน่ะสิขอรับ ท่านพี่เก็บกลับมาที่บ้านของข้า ท่านแม่ยังตากเอาไว้ตั้งเยอะ” หยางเสียน

“ที่บ้านเราก็มีขอรับท่านปู่ อาเสี้ยวแบ่งให้ข้าเอากลับไปให้ท่านแม่ตากแห้งเอาไว้กินตอนหน้าหนาว”

“เพ้ย เจ้าเด็กตัวเหม็นพวกนี้ กิน กิน จะกินเข้าไปได้อย่างไร ของดีมีราคาทั้งนั้น รีบ ๆ เอามาให้ปู่ดู ใช่เห็ดเยื่อไผ่แน่หรือไม่” หยางไห่รู้สึกว่าตัวเองหน้ามืดตาลายขึ้นมาทันที

“ท่านพ่อ ใจเย็น ๆ ขอรับ” หยางเทียน

“นั่นสิท่านพ่อท่านตื่นเต้นมากไปแล้ว” หยางเทา

“นี่ขอรับท่านปู่ เห็ดเยื่อไผ่” หยางเสี้ยวยื่นตะกร้าเห็ดให้กับหยางไห่ดู พอได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่สีขาวอยู่เต็มตะกร้าหยางไห่อดยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจไม่ได้ ไหนจะมีส่วนหมวกของเห็ดที่แยกเอาไว้ต่างหากอีก นี่มันเงินทั้งนั้น

“ท่านพ่อ ตกลงว่าใช่หรือไม่” หยางเทา

“นั่นสิท่านปู่ท่านรีบพูดมาเถอะ ข้าหิวข้าวแล้วขอรับ” หยางอิน

“ไอ้เด็กตัวเหม็นพวกนี้นี่กล้าพูดจาแบบนี้กับปู่เรอะ คันก้นแล้วใช่หรือไม่”

“ท่านพ่อ ตกลงว่าใช่หรือไม่ขอรับ” หยางเทียนรีบขัดขึ้นก่อนที่หยางไห่จะไล่ตีก้นเด็ก ๆ ขึ้นมาจริง ๆ

“อื้ม ใช่แล้ว มันคือเห็ดเยื่อไผ่ สมัยพ่อเป็นเด็กได้กินอยู่เพียงครั้งเดียว ตั้งแต่ย้ายมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านแห่งนี้พ่อก็ไม่เคยพบเห็นเห็ดเยื่อไผ่อีกเลย อาเสี้ยวช่างโชคดีจริง ๆ”

“เสี่ยวไป๋ต่างหากที่เจอ แล้วเรียกท่านพี่ไปดู เสี่ยวไป๋ของข้าเก่งที่สุด” หยางเสียน

“ทำไมท่านปู่ถึงได้ย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านในหุบเขาแห่งนี้ล่ะขอรับ ทางเข้าออกหมู่บ้านก็มีทางเดียว”

“ก็เพราะสงครามระหว่างแคว้นน่ะสิ ไหนจะสงครามภายในอีก ปู่ทวดของหลานก็เลยพาพวกเราเดินทางรอนแรมมาถึงที่นี่ นอกจากปู่แล้วยังมีพี่ชายของปู่อยู่อีกคน ตอนนี้อยู่อีกเมืองหนึ่งน่ะ ตอนนั้นพี่ชายของปู่แต่งเข้าบ้านภรรยา ทำเอาท่านย่าทวดของเจ้าโมโหจนล้มป่วยไปเลยทีเดียว แต่พี่ใหญ่ก็ยังยืนยันว่าจะแต่งเข้าบ้านภรรยา ท่านพ่อเองก็ไม่อยากจะบังคับ เห็นว่าครอบครัวพี่สะใภ้ไม่มีใครแล้วนอกจากตัวนางกับแม่ที่แก่แล้วและน้องชายที่อายุยังน้อยอยู่”

“แล้วท่านพ่อไม่ได้เจอท่านลุงเลยหรือขอรับ พวกเราไม่เห็นรู้เลยว่ามีญาติอยู่ที่ต่างเมือง”

“เจอกันครั้งสุดท้ายก็ตอนที่เจ้าใหญ่เกิด แต่ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าจะยังสบายดีหรือเปล่าน่ะสิ บ้านเราก็ยากจน พ่อเองก็ไม่มีเงินที่จะเดินทางไปเมืองทางเหนือหรอกนะ เดินทางแต่ละครั้งใช้เงินไม่น้อยเลยในการเดินทาง”

“ท่านปู่ เอาไว้พวกเรามีเงินแล้วค่อยไปเยี่ยมบ้านปู่ใหญ่ยังได้ ไม่ต้องทุกข์ใจไปขอรับ ตอนนี้กลับบ้านกันเถอะ น้อง ๆ คงหิวแล้วจริง ๆ ท่านดูหน้าอาเสียนกับอาอินสิ” หยางเชวียน

“ไป ไป กลับ กลับ พวกเจ้าเดินนำหน้าไปก่อน ปู่กับพ่อของพวกเจ้ายังต้องขนไม้ไผ่ไปด้วย”

“ขอรับท่านปู่”

หยางเสี้ยวเดินนำหน้าพี่ชายน้องชายกลับบ้าน โดยมีพวกท่านปู่เดินตามหลัง แต่ละคนแบกไม้ไผ่เอาไว้คนละห้าท่อน ระหว่างทางก็พบกับชาวบ้านที่กลับจากขุดผักป่าหลายคน หนึ่งในนั้นมีสหายของหยางเทียนอย่างลู่คง

“อาเทียนพวกเจ้าตัดไม้ไผ่ไปทำอะไรรึ” ลู่คงถามออกมาด้วยความสงสัย

“อ่อ ข้าจะซ่อมบ้านน่ะ ถ้าหากไม่ซ่อมให้ดีกลัวว่าหากฝนตกลงมาแล้วจะไม่มีที่นอนกัน หลังคาก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เลยคิดว่าจะตัดไม้บนเขามาเปลี่ยนคานน่ะ แล้วนี่เจ้าไปขุดผักป่ามาหรือ”

“ใช่แล้วล่ะ ชาวบ้านยากจนอย่างพวกเราก็อาศัยของป่าเพื่อประทังชีวิตทั้งนั้น พรุ่งนี้ข้ากับพี่ใหญ่จะมาช่วยนะ เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าล่ะ หากว่าข้าไม่บังเอิญพบเจ้าวันนี้ เจ้าคงจะไม่บอกพวกข้างั้นสิ”

“ข้าเกรงใจน่ะ”

“จะเกรงใจไปทำไมคนกันเองแท้ ๆ หรือว่าเจ้าไม่เห็นข้าเป็นสหายเล่า”

“เจ้าอย่าคิดไปเอง ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น”

“ไม่ได้คิดก็ดีแล้ว ตกลงว่าพรุ่งนี้ข้าจะมาช่วย”

เมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้านเวลาก็ล่วงเลยยามอู่ไปแล้ว เสิ่นซื่อกับหานซื่อแม่สามีกับลูกสะใภ้เมื่อเห็นทุกคนกลับมาจากตัดไม้แล้วก็รีบยกอาหารขึ้นโต๊ะทันที หยางเสี้ยวรีบนำหมวกเห็ดที่เขาแยกเอาไว้ไปตากแห้งทันที เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้หรือไม่ ทำได้แค่ลองดูเท่านั้น ส่วนเห็ดเยื่อไผ่เขานำไปตากแห้งทั้งหมด หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จแล้วเด็กชายตั้งใจจะไปขุดหน่อไม้และเก็บเห็ดเยื่อไผ่อีกครั้ง

“ท่านพ่อ พรุ่งนี้ลู่คงกับพี่ชายลู่จื้อจะมาช่วยนะขอรับ แล้วก็รบกวนท่านแม่ทำอาหารเพิ่มมากขึ้นสักหน่อย” หยางเทียน

“อ่อ เด็กบ้านลู่จะมาช่วยเหรอ นับว่าลูกมีสหายที่ดี สองคนนั้นเป็นเด็กดีกตัญญู”

“ส่วนเรื่องอาหาร แม่กับสะใภ้รองจะจัดการเอง เสี้ยวเอ๋อร์หลานแน่ใจหรือว่าจะไม่แบ่งปลาไปขาย”

“แน่ใจขอรับท่านย่า เอามาทำอาหารให้ท่านเลี้ยงท่านลุงบ้านลู่ที่จะมาช่วยงานพรุ่งนี้เถอะขอรับ คนเขามีน้ำใจมาช่วยเราจะปล่อยให้ท้องคนเขาหิวไม่ได้นะขอรับ กินไม่อิ่มจะมีแรงที่ไหนมาทำงานกัน ส่วนเรื่องเงิน ไม่ใช่ว่าที่บ้านพอมีเงินอยู่นิดหน่อยหรือขอรับถ้าไม่พอเดี๋ยวข้าจะหาเพิ่มเอง”

“ทำไมฟังดูแล้วพ่อกลายเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเลยล่ะ ต้องให้ลูกชายมาหาเงินเลี้ยงครอบครัวทั้งที่ลูกชายยังเด็กขนาดนี้ พ่อรู้สึกละอายใจเลยนะเนี่ย” หยางเทียน

“น้องรอง ถ้าจะพูดแบบนั้น ข้าที่เป็นลุงก็ละอายใจเหมือนกันที่ให้ลูกกับหลานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ข้าเป็นทั้งพี่ ทั้งพ่อ ทั้งสามีและลูกที่ไม่เอาไหนยิ่งกว่าเจ้าเสียอีก” หยางเทา

“พอแล้ว พวกเจ้ามันไม่ได้เรื่องทั้งสองคนนั่นล่ะ สู้หลานข้าก็ไม่ได้ รีบ ๆ กินจะได้ไปตัดไม้มาไว้ให้มากหน่อย” หยางไห่ห้ามปรามลูกชายทั้งสองก่อนที่จะพูดกันจนเลยเถิดไปมากกว่านี้

“ท่านพ่อกับท่านลุงคิดมากไปแล้ว ข้าก็แค่ทำหน้าที่ลูกที่ดี หาเงินเลี้ยงครอบครัวแล้วพวกท่านจะรู้สึกผิดทำไม” หยางเสี้ยว

“ตกลง ๆ พ่อขอโทษ พ่อจะไม่โทษตัวเองอีก ต่อไปพ่อต้องเรียนรู้จากลูกชายให้มาก” หยางเทียนรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าลูกชายไม่ดี

“ลุงก็ขอโทษ”

“ข้าก็บอกแล้วให้คิดก่อนพูด” หยางเชวียน

“เพ้ย เจ้าลูกคนนี้นี่” หยางเทาถลึงตาใส่ลูกชาย

หลังจากกินมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้วหยางอินกับหยางเสียนถูกห้ามไม่ให้ไปป่าไผ่ด้วยเพราะได้เวลานอนกลางวันแล้ว หยางเสี้ยวกับหยางเชวียนเอาตะกร้าไม้ไผ่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองสะพายขึ้นหลังไป

หยางชิงเอาตะกร้าของเขาและยังเอาตะกร้าของหยางอินมาด้วย สามพี่น้องขุดหน่อไม้ไปพร้อม ๆ กับเก็บเห็ดเยื่อไผ่ไปด้วย รอบนี้พวกเขาได้เห็ดเยื่อไผ่มาเพียงสองตะกร้าใหญ่เท่านั้น หยางเสี้ยวคิดว่าถ้าเกิดมีฝนตกลงมาค่อยกลับมาดูอีกครั้ง

ตอนนี้เห็ดเยื่อไผ่ยังมีไม่มาก หยางชิงแบกตะกร้าใส่หน่อไม้ที่ปอกแล้วเดินนำหน้าพี่ชายกลับบ้านก่อนพวกท่านปู่ หยางเสี้ยวเหลือเห็ดเอาไว้ทำอาหารเย็นส่วนหนึ่ง ที่เหลือเขานำไปตากแห้งทั้งหมด

“ข้าหวังว่ามันจะทำเงินให้ครอบครัวเราได้นะ ในเมื่อท่านปู่บอกว่ามันหายาก” หยางเชวียน

“ข้าก็หวังเอาไว้เช่นนั้นขอรับ พรุ่งนี้เราจะขึ้นเขาอู๋หลงกันนะ เราจะไม่ไปตัดไม้กับพวกท่านปู่ ข้าว่าจะแวะไปดูผูเถาสักหน่อยใกล้จะสุกหรือยัง”

“ตกลง พรุ่งนี้ให้อาชิงไปกับพวกเราด้วย จะได้ช่วยกันเก็บผักป่ามาให้มากหน่อย”

“ได้ เดี๋ยวพวกเราเอาหน่อไม้พวกนี้ไปต้มกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยเอาไปตากทำเป็นหน่อไม้ตากแห้ง ส่วนพวกนี้ทำหน่อไม้ดองเปรี้ยว”

วันรุ่งขึ้นพี่น้องบ้านลู่ก็มาช่วยตัดไม้ตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ พวกเขาตัดไม้ไผ่อยู่ 3 วัน จากนั้นขึ้นเขาไปตัดไม้เพื่อทำคาน หลังจากมีคนมาช่วยการซ่อมบ้านก็เร็วขึ้น

หยางเสี้ยว หยางเชวียน และหยางชิง ยังคงขึ้นเขาอู๋หลงไปเก็บผักป่าทุกวัน นอกจากนี้หยางเสี้ยวยังได้สอนหยางชิงวางกับดักอีกด้วย เด็กทั้งสามคนได้ไก่ฟ้าหรือไม่ก็เป็นกระต่ายป่ากลับมาทุกวัน พี่น้องบ้านลู่มองเด็กชายทั้งสามคนด้วยความตกตะลึง เด็กสามคนยังล่าสัตว์ได้มากกว่าเขาที่เป็นผู้ใหญ่เสียอีก

“อาเทียน ลูกชายเจ้าเก่งกาจนัก เสียดายที่ลูกชายข้าเพิ่ง 4 ขวบ”

“ทำไมรึ เกี่ยวอะไรกับลูกชายของเจ้า”

“ก็ถ้าโตกว่านี้หน่อยข้าจะให้มาเรียนรู้การวางกับดักกับอาเสี้ยวน่ะสิ ข้าโตมาขนาดนี้ยังอายหลานเลย” ลู่คง

“อย่าว่าแต่เจ้าอายเลย พวกข้าพี่น้องก็อายเหมือนกัน” หยางเทา

“ฮ่า ฮ่า ไม่เห็นต้องอาย ข้าหน้าหนา เอาไว้ข้าจะขอมาเรียนการวางกับดักกับหลานชายหลังจากช่วยพวกเจ้าซ่อมบ้านเสร็จ” ลู่จื้อ

เพราะมีคนมาช่วยในที่สุดบ้านก็ซ่อมเสร็จ รวมเวลาที่ทำรั้วใหม่เข้าไปด้วยก็รวมทั้งสิ้นสิบวัน หยางเสี้ยวมีห้องของตัวเอง หยางเสียนเอาเจ้าเสี่ยวไป๋ไปนอนในห้องด้วย ห้องเก็บของที่ต่อเติมให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม และมีการขุดห้องใต้ดินเอาไว้อีกด้วย การขุดห้องใต้ดินเป็นความคิดของหยางเสี้ยว เอาไว้เก็บซ่อนอาหารเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

เพราะพี่น้องบ้านลู่มาช่วยซ่อมบ้าน หยางเสี้ยวจึงช่วยพวกเขาเก็บผักป่าเป็นการตอบแทน ทั้งสองคนเป็นแรงงานหลักของบ้าน พ่อเฒ่าลู่เสียชีวิตไปนานแล้ว ลู่จื่อกับลู่คงสองพี่น้องเพราะครอบครัวยากจนจึงทำให้แต่งงานช้า ตอนนี้ภรรยาของลู่จื้อกำลังตั้งครรภ์ที่สอง ลูกชายคนโตเพิ่งจะ 6 ขวบเท่ากับหยางเสียน

ส่วนลู่คงแต่งงานช้ากว่าพี่ชายหนึ่งปี และมีลูกเพียงคนเดียวอายุได้ 4 ขวบ ส่วนแม่เฒ่าลู่สุขภาพไม่แข็งแรง ล้มป่วยอยู่บ่อยครั้ง แรกเริ่มเดิมทีลู่คงกับลู่จื้อจะไม่รับผักป่าจากบ้านหยาง แต่หยางเทียนไม่ยอม หากว่าวันนี้ไม่รับผักป่าก็จะไม่ให้ทั้งสองคนช่วยซ่อมบ้านแล้ว ลู่คงเข้าใจความหวังดีของสหาย เขาจึงไม่คัดค้านอีก เพียงได้แต่ขอบใจหยางเสี้ยวซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 15

    หลังจากที่บ้านซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวอยากเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เพื่อขอบคุณท่านลุงบ้านลู่ที่มีใจมาช่วยเหลือจนสามารถซ่อมบ้านเสร็จเร็วกว่าเวลาที่กำหนดไว้ หยางเสี้ยวสอนให้ท่านพ่อกับท่านลุงขุดหลุมดักปลา แม้กระทั่งท่านปู่เองก็มาเรียนรู้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่า “ข้าเป็นพ่อเป็นปู่ จะไม่รู้เรื

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 16

    เช้าวันต่อมาพี่น้องบ้านลู่มารวมตัวกันที่บ้านของหยางเทียนกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ละคนเตรียมตัวมาอย่างดี เสิ่นซื่อตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อทำอาหารเช้าให้สามีและลูกชายได้กินก่อนขึ้นเขา สามีของนางได้บอกกับนางเอาไว้แล้ว วันนี้พวกเขาจะไม่กลับมากินมื้อกลางวันที่บ้าน ให้นางเตรียมอาหารสำหรับมื้อกลางวันให้

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 17

    วันนี้เป็นวันแรกที่หยางไห่จะขึ้นเขาไปกับหลาน ๆ โดยมีลู่คงไปด้วย วันนี้ลู่คงจะรับหน้าที่ขนมันเทศลงจากเขา ระหว่างรอทั้งสามคนกลับมาจากนำของป่าไปขาย บ้านหยางกับบ้านลู่ตกลงกันว่า ขุดมันเทศเสร็จแล้วจะแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน บ้านใหญ่หยางหนึ่งส่วน บ้านลู่หนึ่งส่วน และบ้านหยางเสี้ยวหนึ่งส่วน ในส่วนของเ

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 18

    ทั้งสี่คนหามหมูป่ากลับมาที่บ้าน หยางเทานั่งลงด้วยความเหนื่อยหอบ นอกเหนือจากอาการเหนื่อยนั้นคือความตื่นเต้น ลู่จื้อถึงกับตาแดงก่ำ ขอบตารื้นเมื่อมีหมูป่าสองตัว พวกเขาตัดสินใจว่าจะไม่เอาไปขาย ต่างเก็บเอาไว้เป็นเสบียงทั้งหมด ข่าวว่าพี่น้องบ้านหยางกับสองพี่น้องบ้านลู่หามหมูป่ากลับมาคนละตัว สร้างคลื่นลมใ

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 19

    เช้าวันต่อมา หยางเทียนเข้าเมืองกับหยางเสี้ยว สองพ่อลูกออกเดินทางตั้งแต่ปลายยามเหม่า วันนี้ทั้งสองคนรับหน้าที่นำสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ของทุกคนไปขาย หยางเสี้ยวเอาเห็ดเยื่อไผ่แห้งบางส่วนพร้อมทั้งส่วนหมวกของเห็ดที่ตากจนแห้งดีแล้วไปด้วย หยางเทาไปช่วยพี่น้องบ้านลู่ตัดไม้ไผ่ หยางเชวียนพาน้อง ๆ ไปขุดหน่อไม้พร

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 20

    หยางเทียนเดินตามหลังลูกชายไปด้วยความอดทนและอดกลั้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองจะควบคุมสติไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เขาเกิดมาจนอายุเท่านี้ เขาเพิ่งจะเคยจับเงินมากมายขนาดนี้ เขานำเงินจากบ้านมา 16 ตำลึง เพื่อซื้อวัวและเกวียน เขาไม่เคยคิดไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง 250 ตำลึง จำนวนเงินมากมายขนาดนี้ หากใช้จ่ายอย่างประหยัด

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 21

    หยางเทียนพยายามประคับประคองสติตัวเองบังคับเกวียนกลับมาจนถึงหมู่บ้าน ส่วนหยางเสี้ยวผู้เป็นลูกชายนั้นค่อนข้างแปลกใจกับเจ้าม้าตัวนี้มากกว่า เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้มันวิ่งมาหาเขา นอกจากนี้มันยังทำตัวเชื่องอย่างกับแมวป่วย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มันก่อความวุ่นวายที่ตลาดค้าสัตว์ จนมีคนและสัตว์ได้รับบาดเจ็

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 22

    “ท่านพ่อได้รับความกระทบกระเทือนใจนิดหน่อยขอรับ”“กระทบกระเทือนใจรึ นี่พวกเจ้าไปพบเจอกับเรื่องอันใดมา เจ้าบอกลุงมาให้ละเอียด”“ไม่มีอันใดจริง ๆ ขอรับ ท่านลุงวันนี้มีพวกชาวบ้านขึ้นเขาไปหรือไม่ขอรับ”“มีสิ มีเยอะเลยล่ะ พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันไปหาผักป่า ส่วนพวกผู้ชายรวมกลุ่มกันกับบ้านท่านลุงติงชุนขึ้นเขาไ

    Last Updated : 2025-02-27

Latest chapter

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 311

    “อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 310

    หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 309

    “พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 308

    เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 307

    “ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 306

    หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 305

    “พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 304

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 303

    ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status