วันนี้เป็นวันแรกที่หยางไห่จะขึ้นเขาไปกับหลาน ๆ โดยมีลู่คงไปด้วย วันนี้ลู่คงจะรับหน้าที่ขนมันเทศลงจากเขา ระหว่างรอทั้งสามคนกลับมาจากนำของป่าไปขาย บ้านหยางกับบ้านลู่ตกลงกันว่า ขุดมันเทศเสร็จแล้วจะแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน บ้านใหญ่หยางหนึ่งส่วน บ้านลู่หนึ่งส่วน และบ้านหยางเสี้ยวหนึ่งส่วน ในส่วนของเ
ทั้งสี่คนหามหมูป่ากลับมาที่บ้าน หยางเทานั่งลงด้วยความเหนื่อยหอบ นอกเหนือจากอาการเหนื่อยนั้นคือความตื่นเต้น ลู่จื้อถึงกับตาแดงก่ำ ขอบตารื้นเมื่อมีหมูป่าสองตัว พวกเขาตัดสินใจว่าจะไม่เอาไปขาย ต่างเก็บเอาไว้เป็นเสบียงทั้งหมด ข่าวว่าพี่น้องบ้านหยางกับสองพี่น้องบ้านลู่หามหมูป่ากลับมาคนละตัว สร้างคลื่นลมใ
เช้าวันต่อมา หยางเทียนเข้าเมืองกับหยางเสี้ยว สองพ่อลูกออกเดินทางตั้งแต่ปลายยามเหม่า วันนี้ทั้งสองคนรับหน้าที่นำสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ของทุกคนไปขาย หยางเสี้ยวเอาเห็ดเยื่อไผ่แห้งบางส่วนพร้อมทั้งส่วนหมวกของเห็ดที่ตากจนแห้งดีแล้วไปด้วย หยางเทาไปช่วยพี่น้องบ้านลู่ตัดไม้ไผ่ หยางเชวียนพาน้อง ๆ ไปขุดหน่อไม้พร
หยางเทียนเดินตามหลังลูกชายไปด้วยความอดทนและอดกลั้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองจะควบคุมสติไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เขาเกิดมาจนอายุเท่านี้ เขาเพิ่งจะเคยจับเงินมากมายขนาดนี้ เขานำเงินจากบ้านมา 16 ตำลึง เพื่อซื้อวัวและเกวียน เขาไม่เคยคิดไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง 250 ตำลึง จำนวนเงินมากมายขนาดนี้ หากใช้จ่ายอย่างประหยัด
หยางเทียนพยายามประคับประคองสติตัวเองบังคับเกวียนกลับมาจนถึงหมู่บ้าน ส่วนหยางเสี้ยวผู้เป็นลูกชายนั้นค่อนข้างแปลกใจกับเจ้าม้าตัวนี้มากกว่า เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้มันวิ่งมาหาเขา นอกจากนี้มันยังทำตัวเชื่องอย่างกับแมวป่วย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มันก่อความวุ่นวายที่ตลาดค้าสัตว์ จนมีคนและสัตว์ได้รับบาดเจ็
“ท่านพ่อได้รับความกระทบกระเทือนใจนิดหน่อยขอรับ”“กระทบกระเทือนใจรึ นี่พวกเจ้าไปพบเจอกับเรื่องอันใดมา เจ้าบอกลุงมาให้ละเอียด”“ไม่มีอันใดจริง ๆ ขอรับ ท่านลุงวันนี้มีพวกชาวบ้านขึ้นเขาไปหรือไม่ขอรับ”“มีสิ มีเยอะเลยล่ะ พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันไปหาผักป่า ส่วนพวกผู้ชายรวมกลุ่มกันกับบ้านท่านลุงติงชุนขึ้นเขาไ
เช้าวันต่อมาคนบ้านหยางยังคงรวมตัวกันเพื่อตัดไม้มาซ่อมแซมบ้านของสองพี่น้องลู่คงลู่จื้อ การตัดไม้เป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขามีเกวียนวัวช่วยขนไม้ ตอนนี้ชาวบ้านมีความกล้าที่จะขึ้นเขาอู๋หลงไปหาของป่ามากขึ้น แต่ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปในป่าลึกเท่าไหร่ หญิงชาวบ้านจับกลุ่มกันขึ้นเขาเพื่อขุดผักป่า ส่วนชายฉก
หลังจากหยางเทียนพูดจบก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวบ้านมากมาย ผู้ใหญ่บ้านจากไปด้วยความโกรธ ก่อนจะทิ้งคำพูดข่มขู่เอาไว้ว่า “หากเกิดอันใดขึ้นมาไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะถือว่าเตือนแล้วไม่ฟัง”หลังจากที่ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมแยกย้ายกันไปหมด ลู่คงเดินมาหาหยางเทียนพร้อมกับลู่จื้อ“อาเทียน ข้าว่าพว
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี