Share

บทที่ 19

last update Last Updated: 2025-02-27 22:37:14

เช้าวันต่อมา หยางเทียนเข้าเมืองกับหยางเสี้ยว สองพ่อลูกออกเดินทางตั้งแต่ปลายยามเหม่า วันนี้ทั้งสองคนรับหน้าที่นำสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ของทุกคนไปขาย หยางเสี้ยวเอาเห็ดเยื่อไผ่แห้งบางส่วนพร้อมทั้งส่วนหมวกของเห็ดที่ตากจนแห้งดีแล้วไปด้วย

หยางเทาไปช่วยพี่น้องบ้านลู่ตัดไม้ไผ่ หยางเชวียนพาน้อง ๆ ไปขุดหน่อไม้พร้อมทั้งหาเห็ดเยื่อไผ่ไปด้วย แต่ว่าวันนี้พวกเขาโชคไม่ดีไม่พบเห็ดเยื่อไผ่เลย อาจจะเป็นเพราะว่าฝนยังไม่ตกลงมาด้วยก็เป็นได้

เด็ก ๆ ขุดหน่อไม้อย่างสนุกสนาน พวกผู้ใหญ่เองก็เร่งมือตัดไม้ไผ่ วันนี้พวกเขาไม่กลับไปกินข้าวที่บ้าน แต่เตรียมข้าวมากินที่ป่าไผ่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการเดินไปเดินกลับ

ลู่จื้อเห็นว่าควรตัดไม้ไผ่เอาไว้ให้มาก ตอนกลับบ้านในตอนเย็นค่อยขนกลับไปด้วย และจะช่วยกันขนทั้งหมดในวันที่ตัดไม้ไผ่วันสุดท้าย ทำแบบนี้จะได้ไม่เสียเวลามาก เพราะบ้านพวกเขาอยู่ห่างจากป่าไผ่มากกว่าบ้านของหยางเทียน

หยางเทียนเดินเท้าเข้ามาในเมือง เขาไม่ได้เร่งฝีเท้าให้เร็วมากนักเพราะกลัวว่าลูกชายจะเดินตามไม่ทัน หยางเสี้ยวรู้สึกอบอุ่นใจมาก ถึงแม้ว่าท่านพ่อคนนี้อาจจะใช่หรือไม่ใช่พ่ออาทิตย์ของเขาเมื่อชาติที่แล้ว แต่เขาสัมผัสได้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกคนหนึ่ง

เด็กชายรู้ว่าทุกคนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีใครซักถามเอาความกับเขา เรื่องนี้ทำให้เด็กชายได้รู้ว่า ต่อให้เขาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ทุกคนในครอบครัวก็ยังรักเขาเสมอมา

ไม่ว่าเด็กชายจะตัดสินใจทำอะไร ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่เคยกังขาในตัวเขา ในทางกลับกันพวกท่านพร้อมที่จะสนับสนุนเขาทุกครั้ง หยางเสี้ยวตั้งใจว่าจะต้องทำให้ครอบครัวอยู่ดีกินดี มีรากฐานที่มั่นคง น้อง ๆ ต้องได้เรียนหนังสือ ถึงตอนนั้นเขาจะได้เรียนรู้กับน้องชาย ความจริงแล้วเขาสามารถอ่านออกเขียนได้ หยางเสี้ยวคิดว่าน่าจะเป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เขาตอนที่เขาทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ แต่เขาไม่กล้าบอกใครว่าเขารู้หนังสือ เพราะมันจะเป็นที่สงสัยมากไป เขาไม่อยากหาข้อแก้ตัวหรือโกหกอีกแล้ว

“เหนื่อยหรือไม่ลูก อดทนอีกหน่อยเกือบจะถึงแล้วล่ะ”

“ไม่เหนื่อยเลยขอรับท่านพ่อ ถ้าหากวันนี้การค้าราบรื่นดี ข้าอยากจะซื้อหนังสือฝึกคัดตัวอักษรไปให้น้องชายฝึก ถึงเวลาที่พวกเราจะส่งน้องชายไปเรียนที่โรงเรียนส่วนตัวในหมู่บ้านป่าหยกแล้วนะขอรับ”

“พ่อเห็นด้วย เดี๋ยวพ่อจะไปสอบถามอาจารย์ดูก่อนว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร และค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ว่าแต่ลูกไม่อยากไปเรียนแน่นะ ไม่ต้องห่วงทางบ้านตอนนี้ พ่อรู้แล้วว่าภูเขาอู๋หลงไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น พ่อกับท่านลุงของเจ้าสามารถขึ้นเขาหาของป่าได้ ส่วนลูกไปเรียนพร้อมกับน้อง ๆ เสีย ยังมีพวกอาเชวียนอีก วันหยุดพวกลูกค่อยขึ้นเขาดีหรือไม่”

“เรื่องนี้คงต้องปรึกษาท่านปู่ก่อนนะขอรับ ส่วนเรื่องที่ท่านพ่อจะให้ข้าไปเรียนนั้นข้าไปกับน้องชายก็ได้ขอรับ แต่ข้าบอกไว้ก่อนนะข้าไม่อยากเป็นขุนนาง ข้าอยากเป็นชาวนาที่ร่ำรวย”

“ตกลง ๆ พ่อตามใจลูก พ่อรู้ว่าลูกของพ่อเก่งที่สุด”

“เก่งเหมือนท่านพ่อขอรับ”

สองพ่อลูกเดินคุยกันมาจนในที่สุดก็มาถึงประตูเมือง หยางเทียนเดินนำลูกชายไปที่โรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลเพื่อขายไก่ฟ้าและกระต่ายป่า เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นหยางเทียนเดินมาก็รีบให้การต้อนรับอย่างดี

“หลงจู๊อยู่ด้านในขอรับ ตามข้าน้อยมาทางนี้เลยขอรับ”

“อ้าว หยางเทียนวันนี้มีของดีอันใดมา รีบ ๆ เข้ามา เอามาให้ข้าดูเร็วเข้า” หลงจู๊รีบทักทาย

“คารวะหลงจู๊ขอรับ วันนี้มีเพียงไก่ฟ้าและกระต่ายป่า ส่วนนี่เป็นลูกชายของข้าขอรับ”

“คารวะหลงจู๊ขอรับ”

“โอ้ สวัสดีเด็กน้อย ตามสบายไม่ต้องมากพิธีคนกันเองทั้งนั้น เดี๋ยวข้าให้คนเอาไก่กับกระต่ายพวกนี้ไปชั่ง เด็กน้อยในตะกร้าของเจ้ามีอันใดอยู่รึ”

“เห็ดเยื่อไผ่ตากแห้งขอรับ”

“อะไรนะ! เจ้าว่าเห็ดอันใดนะ”

“เห็ดเยื่อไผ่ตากแห้งขอรับท่านหลงจู๊”

“หะ..เห็ดเยื่อไผ่หรือ? รีบเอาออกมาให้ข้าดูเร็วเข้า”

“นี่ขอรับ ไม่ทราบว่าท่านหลงจู๊รับซื้อหรือไม่ขอรับ”

“รับสิ ต้องรับแน่นอนอยู่แล้ว แต่ขอข้าดูหน่อยว่าใช่เห็ดเยื่อไผ่จริงหรือไม่”

“นี่ขอรับ ท่านหลงจู๊ตรวจสอบได้เลยขอรับ” หยางเสี้ยวยกห่อผ้าที่ใส่ส่วนหมวกของเห็ดเยื่อไผ่เอาไว้ออกจากตะกร้า

“โอ้ เห็ดเยื่อไผ่จริง ๆ ด้วย อีกทั้งยังตากจนแห้งสนิท คุณภาพดีมากเลยทีเดียว ข้าไม่ได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่มากี่ปีแล้วนะ นี่มันสมบัติล้ำค่าชัด ๆ เจ้าเด็กน้อยเจ้าช่างเป็นดาวนำโชคของข้าแท้ ๆ”

“ท่านหลงจู๊กล่าวเกินไปแล้วขอรับ เดิมทีข้าตั้งใจจะเอาไปขายให้กับร้านสมุนไพรน่ะขอรับ”

“ไม่ได้ ๆ เจ้าต้องขายให้ข้าสิ ข้าเป็นคนพบก่อน รับรองเลยข้าไม่กดราคาเจ้าแม้แต่อิแปะเดียวเลย”

“แล้วท่านรับซื้ออย่างไรเล่าขอรับ”

“จินละ 10 ตำลึง เจ้าพอใจหรือไม่”

“10 ตำลึงหรือขอรับ” หยางเสี้ยวไม่รู้ราคาเห็ดเยื่อไผ่ สำหรับเด็กชายแล้วเขาแบ่งมาขายเพียงสามส่วน อีกส่วนเก็บเอาไว้กินในครอบครัว เมื่อหลงจู๊เห็นเด็กชายเงียบไม่ตอบตกลงก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก

“ จินละ 15 ตำลึง ข้าให้มากที่สุดได้เท่านี้แล้ว ว่าไงเจ้าหนูตกลงเจ้าพอใจหรือไม่”

“ตกลงขอรับ” หยางเสี้ยวตอบด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า

“เดี๋ยวให้คนเอาไปชั่ง เจ้ามาได้เวลาพอดีเลย ฮูหยินของนายท่านของข้ากำลังตั้งครรภ์ นางอยากกินเห็ดเยื่อไผ่ แต่ด้วยยังไม่ถึงฤดูกาลของเห็ด แต่ต่อให้ถึงฤดูกาลก็ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่าย ๆ เจ้านับว่าช่วยให้ตำแหน่งของข้ามั่นคงขึ้นอีกนิด ขอบใจเจ้ามากเจ้าหนู”

“ไม่เป็นไร หามิได้ขอรับ ข้าเพียงแต่นำของมาขาย ท่านเองก็ให้ราคาที่ยุติธรรมสำหรับข้า เป็นข้าที่ต้องขอบคุณท่านขอรับ”

“ดี ดี ดีมาก เจ้าเด็กนี่อยู่เป็นจริง ๆ”

ในระหว่างที่หยางเสี้ยวกับหลงจู๊กำลังตกลงการค้ากันอยู่นั้น หยางเทียนได้แต่ตกตะลึงตั้งแต่ได้ยินว่า เห็ดเยื่อไผ่จินละ 10 ตำลึงแล้ว ตอนนี้สติรับรู้ของเขาหายไป ยืนนิ่งเป็นก้อนหินไปแล้ว เสี่ยวเอ้อร์ที่นำไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าไปชั่งกลับมาพร้อมเงินค่าสัตว์ป่า เขายื่นเงินให้กับหลงจู๊แล้วนำเห็ดเยื่อไผ่ไปชั่งทันที

“นี่เงินค่าสัตว์ป่าของเจ้า ไก่ป่าทั้งหมด 30 ชั่ง ชั่งละ 20 อิแปะ เป็นเงิน 600 อิแปะ ส่วนกระต่ายป่า 20 ชั่ง ชั่งละ 18 อิแปะเป็นเงิน 360 อิแปะ นี่เจ้ารับไป”

“ท่านพ่อ ท่านพ่อขอรับ เป็นอันใดไปขอรับ” หยางเสี้ยวเขย่าแขนผู้เป็นพ่อ

“เอ่อ เปล่า ๆ พ่อแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”

“นี่เงินค่าสัตว์ป่าของพวกเจ้า 960 อิแปะ”

“ขอบคุณหลงจู๊ขอรับ”

หลังจากที่หยางเทียนรับเงินจากหลงจู๊แล้ว พวกเขารออยู่ไม่นาน เสี่ยวเอ้อร์ก็มาแจ้งน้ำหนักเห็ดพร้อมกับนำเงินค่าสินค้ามาด้วย เขายื่นเงินให้กับหลงจู๊แล้วกลับไปทำงานทันที

“เห็ดเยื่อไผ่ตากแห้งทั้งหมด 10 จิน คิดเป็นเงิน 150 ตำลึง นี่เงินของพวกเจ้า”

“ขอบคุณหลงจู๊มากขอรับ”

“อย่าลืมล่ะ ถ้าหากมีอะไรดี ๆ อย่าลืมนำมาขายให้กับโรงเตี๊ยมของเราล่ะ”

“ไม่ลืมแน่นอนขอรับ พวกเราขอตัวก่อน”

หยางเทียนเดินตามหลังลูกชายออกมาจากโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เขาทั้งตกใจทั้งตื่นเต้นจนเหงื่อชุ่มไปหมด

“สวรรค์ 150 ตำลึง นี่ข้าฝันไปใช่หรือไม่” หยางเทียนไม่สามารถเดินต่อไปได้แล้ว เขายืนนิ่งอยู่กับที่ คล้ายว่าจะเป็นลมเสียให้ได้ หยางเสี้ยวไม่เห็นท่านพ่อเดินตามมาเด็กชายถึงได้หันกลับไปมอง ก็เห็นว่าตอนนี้ท่านพ่อของเขายืนหน้าซีดขาสั่นอยู่ข้างถนน

“ท่านพ่อ ท่านเป็นอันใดไปขอรับ ไม่สบายหรือ ไปให้หมอตรวจดูหน่อยดีหรือไม่”

“พ่อไม่เป็นไร พ่อแค่ตกใจเพียงเท่านั้น อาเสี้ยว พ่อไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่”

“ไม่ได้ฝันขอรับ เรื่องจริง ท่านพ่อจะตกใจทำไมก็แค่เงินเล็กน้อยเท่านั้น” ถึงจะบอกว่าเล็กน้อยแต่เด็กชายก็อดดีใจไม่ได้ ด้วยเงินจำนวนนี้มากพอที่จะให้พวกเขาอยู่ได้สบาย ๆไปหลายปี

“ไป ไปขายหมวกเห็ดที่ร้านสมุนไพรกันเถอะ”

“ขอรับท่านพ่อ”

สองพ่อลูกเดินมาจนถึงร้านสมุนไพรแห่งเดียวของที่นี่และเป็นร้านสมุนไพรที่ให้ราคายุติธรรม ไม่เอาเปรียบชาวบ้าน ว่ากันว่าเจ้าของร้านสมุนไพรแห่งนี้เป็นหมอหลวงอยู่ในพระราชวัง สองพ่อลูกเข้าไปในร้านก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี

“สวัสดีขอรับ ไม่ทราบว่าท่านต้องการซื้อสมุนไพรหรือว่านำสมุนไพรมาขายขอรับ” ผู้ช่วยหมอที่ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าแทนคนงานที่ลาป่วยรีบเข้ามาถามสองพ่อลูกที่เดินเข้ามา

“สวัสดีขอรับพี่ชาย ข้ากับท่านพ่อมีสมุนไพรมาขาย รบกวนพี่ชายช่วยดูให้หน่อยว่ารับซื้อหรือไม่”

“ได้สิ ไหนล่ะสมุนไพรของเจ้า ขอพี่ชายดูหน่อย”

“นี่ขอรับ” หยางเสี้ยวยื่นห่อผ้าให้กับชายหนุ่มตรงหน้า หลังจากเขาเปิดดูแล้วเขาทำหน้าตกตะลึงอยู่สักครู่ จากนั้นก็เรียกให้สองคนพ่อลูกเดินตามเขาเข้าไปในร้าน

“อ่า นี่มัน .. ตามข้ามาทางนี้ นั่งรอที่นี่สักครู่ข้าจะไปตามหลงจู๊มาให้”

“ขอบคุณพี่ชายมากขอรับ”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจมันเป็นหน้าที่ของข้า”

หลังจากที่ชายหนุ่มออกไปได้ไม่นานก็มีชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐาน ท่าทางใจดีเดินมา

“สวัสดี มีสมุนไพรมาขายใช่หรือไม่ ข้าชื่อหย่งเหวินเป็นหลงจู๊ของที่นี่”

“คารวะหลงจู๊หย่งเหวินขอรับ ข้าชื่อหยางเสี้ยว นี่ท่านพ่อของข้าหยางเทียน”

“คารวะหลงจู๊ขอรับ”

“นั่งลงเถอะ นั่งลง เจ้าหนู ไหนขอข้าดูสมุนไพรของเจ้าหน่อย จะได้ประเมินราคา”

“นี่ขอรับ” หยางเสี้ยวเลื่อนห่อผ้าไปตรงหน้าหลงจู๊

"นี่เป็นส่วนบนของเห็ดเยื่อไผ่ นับว่าเจ้ามีความรู้และจัดการสมุนไพรได้ดี หมวกเห็ดพวกนี้จัดการได้ดีมาก มีชาวบ้านน้อยมากที่จะรู้ว่าหมวกของเห็ดเยื่อไผ่สามารถนำไปทำส่วนผสมของยาได้ ที่สำคัญเห็ดเยื่อไผ่จะเกิดในป่าไผ่ที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น นับว่าพวกเจ้าโชคดีที่หาพบ ทางร้านรับซื้อหมวกเห็ดเยื่อไผ่ จินละ 20 ตำลึง นี่เป็นราคาที่ทางร้านรับซื้อ พวกเจ้าพ่อลูกมีความเห็นอย่างไร พอใจหรือไม่"

“พอใจขอรับ พอใจ ข้าเชื่อว่าหลงจู๊ให้ราคาที่ยุติธรรมกับพวกเรา” หยางเทียน

“ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้ารอสักครู่ ข้าจะนำไปชั่งแล้วจะนำเงินมาจ่ายให้พวกเจ้า”

“รบกวนหลงจู๊แล้วขอรับ”

หลงจู๊เดินไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเงิน 100 ตำลึง หมวกเห็ดที่นำมามีน้ำหนักเพียง 5 จินเท่านั้น หลังจากรับเงินมาแล้วหยางเสี้ยวต้องการตำราสมุนไพร เพราะเขาไม่รู้จักสมุนไพรเลย เด็กชายคิดว่าในภูเขาอู๋หลงต้องมีสมุนไพรมากมายอยู่เป็นแน่ นี่เป็นหนทางหาเงินอีกช่องทางหนึ่ง จึงได้เอ่ยปากถามหลงจู๊ถึงตำราสมุนไพร

“หลงจู๊ขอรับ ข้าอยากรบกวนท่านสักเรื่องจะได้หรือไม่”

“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นรึเจ้าหนู ไหนลองว่ามา”

“ข้าอยากได้ตำราสมุนไพร ไม่ทราบว่าท่านพอจะขายให้ข้าสักเล่มได้หรือไม่ คือว่าหมู่บ้านของพวกเราล้อมรอบไปด้วยภูเขา ข้าคิดว่าน่าจะมีสมุนไพรอยู่มากขอรับ เพียงแต่ข้าไม่รู้จักสมุนไพรเลย จึงอยากได้ตำราไปศึกษาขอรับ”

“อ้อ นึกว่าเรื่องอะไร นับว่าหาได้ยากที่จะมีเด็กน้อยเช่นเจ้าสนใจเรื่องสมุนไพร นับว่าน้องชายมีลูกชายที่ดี ตำราสมุนไพรปกติทางร้านไม่ได้ขายหรอกนะเจ้าหนู แต่ข้าจะยกให้เจ้าหนึ่งเล่ม แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าก่อน หากว่ามีของดี ๆ ล่ะก็ต้องมาขายให้ข้านะ”

“ตกลงขอรับ รับรองได้เลย ข้าต้องมีของดี ๆ มาขายอีกเป็นแน่”

“ฮ่า ฮ่า เจ้าเด็กนี่ไม่รู้จักถ่อมตัวเลยจริง ๆ แต่ข้าชอบเด็กอย่างเจ้า”

“ขอบคุณขอรับ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 20

    หยางเทียนเดินตามหลังลูกชายไปด้วยความอดทนและอดกลั้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองจะควบคุมสติไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เขาเกิดมาจนอายุเท่านี้ เขาเพิ่งจะเคยจับเงินมากมายขนาดนี้ เขานำเงินจากบ้านมา 16 ตำลึง เพื่อซื้อวัวและเกวียน เขาไม่เคยคิดไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง 250 ตำลึง จำนวนเงินมากมายขนาดนี้ หากใช้จ่ายอย่างประหยัด

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 21

    หยางเทียนพยายามประคับประคองสติตัวเองบังคับเกวียนกลับมาจนถึงหมู่บ้าน ส่วนหยางเสี้ยวผู้เป็นลูกชายนั้นค่อนข้างแปลกใจกับเจ้าม้าตัวนี้มากกว่า เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้มันวิ่งมาหาเขา นอกจากนี้มันยังทำตัวเชื่องอย่างกับแมวป่วย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มันก่อความวุ่นวายที่ตลาดค้าสัตว์ จนมีคนและสัตว์ได้รับบาดเจ็

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 22

    “ท่านพ่อได้รับความกระทบกระเทือนใจนิดหน่อยขอรับ”“กระทบกระเทือนใจรึ นี่พวกเจ้าไปพบเจอกับเรื่องอันใดมา เจ้าบอกลุงมาให้ละเอียด”“ไม่มีอันใดจริง ๆ ขอรับ ท่านลุงวันนี้มีพวกชาวบ้านขึ้นเขาไปหรือไม่ขอรับ”“มีสิ มีเยอะเลยล่ะ พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันไปหาผักป่า ส่วนพวกผู้ชายรวมกลุ่มกันกับบ้านท่านลุงติงชุนขึ้นเขาไ

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 23

    เช้าวันต่อมาคนบ้านหยางยังคงรวมตัวกันเพื่อตัดไม้มาซ่อมแซมบ้านของสองพี่น้องลู่คงลู่จื้อ การตัดไม้เป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขามีเกวียนวัวช่วยขนไม้ ตอนนี้ชาวบ้านมีความกล้าที่จะขึ้นเขาอู๋หลงไปหาของป่ามากขึ้น แต่ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปในป่าลึกเท่าไหร่ หญิงชาวบ้านจับกลุ่มกันขึ้นเขาเพื่อขุดผักป่า ส่วนชายฉก

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 24

    หลังจากหยางเทียนพูดจบก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวบ้านมากมาย ผู้ใหญ่บ้านจากไปด้วยความโกรธ ก่อนจะทิ้งคำพูดข่มขู่เอาไว้ว่า “หากเกิดอันใดขึ้นมาไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะถือว่าเตือนแล้วไม่ฟัง”หลังจากที่ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมแยกย้ายกันไปหมด ลู่คงเดินมาหาหยางเทียนพร้อมกับลู่จื้อ“อาเทียน ข้าว่าพว

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 25

    เช้าวันนี้ หยางเทากับลู่จื้อจะเป็นคนนำปลาไปขายที่โรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล ถังใส่ปลาถูกยกไปวางบนเกวียน รายได้จากการขายปลาพวกเขาจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน คนบ้านหยางไม่สนใจว่าพวกผู้ใหญ่บ้านจะมีท่าทีอย่างไรกับชาวบ้านและครอบครัวของพวกเขา อย่างน้อย ๆ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดี พวกเขาเพียงทำเพื่อปากท้องเท่านั

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 26

    “หาสมุนไพรน่ะสิ”“สมุนไพร? เจ้ารู้จักสมุนไพรด้วยรึ”“ข้าได้ตำราสมุนไพรมาจากร้านสมุนไพรตอนเอาหมวกเห็ดไปขายน่ะ วันหลังพวกท่านสามารถมาดูที่บ้านข้าได้ เราจะได้มีทางหาเงินเพิ่ม”“ตกลง ข้าจะไปเรียนรู้กับเจ้า” หยางชิง“ข้าเองก็จะเรียนรู้ด้วยเช่นกัน” หยางเชวียน“ไม่รู้ว่าพวกท่านพ่อจะกลับมากันหรือยัง อีกหน่อ

    Last Updated : 2025-02-27
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 27

    หยางเสียนที่ได้ยินพี่ชายเรียกเสี่ยวไป๋ เด็กน้อยค่อนข้างมึนงง เสี่ยวไป๋มีท่านพ่อด้วยรึไม่ใช่ว่าท่านพี่เจอมันอยู่ตัวเดียวหรือ ถึงได้พามันกลับมาด้วย ไม่ใช่ว่ามันเป็นหมากำพร้าที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ตามลำพังรึ หรือว่ามีพวกแอบอ้างกัน เด็กชายคิดได้ดังนั้นก็เดินออกจากบ้านมาด้วยความโมโห สำหรับหยางเสียนแล้ว เด

    Last Updated : 2025-02-27

Latest chapter

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 311

    “อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 310

    หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 309

    “พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 308

    เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 307

    “ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 306

    หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 305

    “พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 304

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 303

    ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status