แชร์

ตอนที่ 2

ผู้เขียน: ไป๋เฉิน (白辰)
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 11:30:26

ตอนที่ 2

หลิวหลันเฟยวิ่งสุดกำลัง เธอวิ่งตามแสงไฟสลัวจากตะเกียงที่ติดอยู่ตามผนังคุก ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการถูกล่ามโซ่ทำให้เธอวิ่งได้ไม่เร็วนัก ด้านหลังของเธอมีเสียงฝีเท้าของทหารที่วิ่งไล่ตามเธอพร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวกดังก้องไปทั่วคุก

"หยุดเดี๋ยวนี้! ซูหยวนเหม่ย ถ้าไม่หยุด เราจะฆ่าเจ้าทันที!" เสียงตะโกนตามหลังทำให้เธอเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีก

เธอเลี้ยวเข้าไปตามทางแคบ ๆ ระหว่างห้องขัง ท่ามกลางความมืดและกลิ่นอับของคุกหลวง จนมาถึงมุมหนึ่งที่เปิดออกสู่ทางเดินกว้าง ทันใดนั้นเอง เธอก็เธอก็นร่างของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ ร่างสูงสง่าในชุดผ้าคลุมยาวสีดำ ดาบข้างเอวสะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย แต่แฝงความเยือกเย็นและทรงอำนาจ หลันเฟยหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ชายคนนี้ไม่ได้ดูเหมือนทหารทั่วไป แต่กลับดูเหมือนชนชั้นสูง หรืออาจเป็นขุนนางผู้มีอำนาจ

"ช่วยด้วย!ได้โปรดช่วยข้าด้วย!" หลิวหลันเฟยรีบร้องขอความช่วยเหลือจากคนตรงหน้า เพราะเขาดูมีอำนาจมากพอที่จะช่วยเธอได้

ชายหนุ่มคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าขอความช่วยเหลือจากเขาในสถานการณ์แบบนี้ "เจ้าเป็นใคร?" เขาถามเสียงเรียบ แต่แววตายังคงจับจ้องมาที่เธออย่างสำรวจ

"ข้าชื่อหลิว…ข้าชื่อซูหยวนเหม่ย!" เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วกับชื่อที่เธอเพิ่งได้ยินมา "ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พวกเขาจะฆ่าฉัน”

เสียงฝีเท้าของทหารดังใกล้เข้ามา หลิวหลันเฟยมองไปทางด้านหลังด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้า "ขอร้องเถอะ! ได้โปรด ข้าถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ แต่ตระกูลข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

ชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบอยู่ชั่วขณะ ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปที่หลิวหลันเฟย ราวกับคิดพิจาณาคำพูดของเธอ

"พวกเขาหาว่าข้าเป็นกบฏ ทั้งที่ข้าและคนของข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย!" หลันเฟยเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ชายหนุ่มคนนั้นถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น "คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏในที่แห่งนี้... ส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้พูดความจริงนักหรอก" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ลึกลงไปกลับแฝงความเศร้าไว้จาง ๆ

คำพูดนั้นทำให้หลันเฟยรู้สึกถึงบางอย่างในตัวเขา ราวกับว่าเขาเข้าใจความรู้สึกนี้ดี

"ถ้าเจ้ารอดออกไปได้ เจ้าจะทำอย่างไรต่อ" เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ

หลันเฟยชะงัก ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว "ข้าจะพิสูจน์ว่าข้าไม่ได้ทำอะไรผิด และข้าจะล้างแค้นให้กับตระกูลของข้า!”

ชายหนุ่มมองเธออย่างพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะยิ้มที่มุมปากเบา ๆ "เจ้าช่างเป็นคนที่น่าสนใจเสียจริง”

ก่อนที่หลันเฟยจะทันพูดอะไรต่อ เขาก็หันหลังให้และเดินไปทางด้านหลังของทางเดิน "ตามมาข้าจะพาเจ้าออกไป"

หลันเฟยนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งตามเขาไป เสียงฝีเท้าของทหารยังคงดังอยู่ห่าง ๆ ชายหนุ่มพาเธอเลี้ยวลัดเลาะไปตามทางเดินแคบ ๆ จนมาถึงประตูไม้บานหนึ่งที่ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ

เขาหยุดยืนอยู่หน้าประตู หันกลับมามองเธอ "จำไว้นะ เจ้าเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับข้า ข้าช่วยเจ้าเพราะสงสารเจ้าเท่านั้น อย่าทำอะไรที่ทำให้ข้าต้องเสียใจทีหลัง"

"ข้าเข้าใจแล้ว" หลันเฟยพยักหน้าอย่างจริงจัง ชายหนุ่มดึงกลไกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในผนังด้านข้าง ประตูไม้บานนั้นเปิดออก เผยให้เห็นทางเดินลับที่ทอดยาวไปในความมืด

"อุโมงค์นี้จะพาเจ้าออกไปยังป่าด้านนอก" เขาอธิบายสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำหน้านางไป หลันเฟยจึงเดินตามเขาเข้าไปในอุโมงค์ ภายในนี้มีแต่ความมืดมิดและทางเดินคับแคบแค่นั้น

"ขอบคุณนะเจ้าคะ" หลันเฟยเอ่ยเสียงเบา “ข้ายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย..” เธอเห็นเขาชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าจะได้รู้ว่าข้าต้องตอบแทนบุญคุณของใคร”

ชายหนุ่มหยุดเดินหันมามองเธอ ดวงตาคมกริบสบตาเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบสั้น ๆ "หลี่เซวียน..ข้าชื่อหลี่เซวียน”

"หลี่เซวียน..." เธอพึมพำซ้ำกับตัวเอง ก่อนจะถามต่อ "ทำไมท่านถึงช่วยข้าล่ะ"

หลี่เซวียนไม่ได้ตอบในทันที เขาหันกลับไปเดินต่อ ราวกับไม่คิดจะพูดถึงเหตุผลนั้น แต่สุดท้ายเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะข้าเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเจ้า"

คำพูดนั้นทำให้หลันเฟยเงียบไป เธอไม่ถามถามอะไรต่อ เพราะรู้ดีว่ามันอาจเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากเอ่ยถึง เมื่อเดินมาจนถึงปลายทาง เริ่มมีแสงจากภายนอกสอดส่องเข้ามาภายในอุโมงค์แล้วหลี่เซวียนจึงเอ่ยขึ้นมา

"จากนี้ไป เจ้าต้องเดินต่อเองแล้ว" หลี่เซวียนบอกพร้อมกับหันกลับมามองเธอ

"แล้วท่านล่ะ จะไปไหน" หลันเฟยเอ่ยถามขึ้นในทันที เพรานี่เป็นชายคนแรกที่เธอรู้จักในโลกแห่งนี้ พอจะต้องอยู่ตามลำพังเธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

"ข้ามีหน้าที่ต้องทำต่อ เจ้าคงไม่อยากให้ข้าถูกจับเพราะช่วยเจ้าหรอกนะ" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลันเฟยเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

"ขอบคุณท่านมาก เราจะได้เจอกันอีกหรือไม่”

“ถ้าฟ้าลิขิตให้ได้เจอ เจ้าก็จะเจอข้าเอง” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินจากไป หลันเฟยมองตามหลังเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้า แล้วหันไปมองทางข้างหน้าเพื่อเดินต่อไป อีกไม่กี่ก้าวเธอก็จะเป็นอิสระแล้ว

เมื่อหลิวหลันเฟยก้าวออกจากอุโมงค์ ความมืดก็โอบล้อมรอบตัวเธอในทันที ท้องฟ้าสีดำสนิทประดับด้วยดวงดาวเพียงไม่กี่ดวง ลมเย็นในยามค่ำคืนพัดผ่านพุ่มไม้และต้นไม้สูงใหญ่จนเกิดเสียงเสียดสี เธอหยุดยืนสูดลมหายใจลึกแล้วเหลียวมองไปรอบ ๆ เพื่อประเมินสถานการณ์

เธอกวาดตามองหาทางออกจากป่าที่มืดมิด ก่อนจะตัดสินใจเดินลัดเลาะผ่านป่าทึบไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเธอเห็นแสงสว่างจากไกลๆ เธอจึงรีบเดินเข้าไปใกล้ขึ้น จนเห็นว่าแสงนั้นมาจากตะเกียงในตลาดแห่งหนึ่ง

ในตลาดนั้นมีผู้คนมากมายกำลังเดินซื้อของยามค่ำคืน มีคนเดินผ่านไปมาอย่างครึกครื้น หลันเฟยคิดว่าเธอจะใช้เวลาซ่อนตัวอยู่ที่นี่สักพัก แต่หากออกไปตอนนี้เธอคงจะโดนจับได้แน่ เพราะชุดที่เธอใส่อยู่คือชุดของนักโทษ เธอต้องรอให้ดึกกว่านี้แล้วรอให้ผู้คนซาลงแล้วค่อยเดินออกไป

เมื่อคิดได้ดังนั้นหลิวหลันเฟยจึงตัดสินใจซ่อนตัวไว้ในพุ่มไม้ใกล้ ๆ ริมป่า เธอนั่งลงพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อพักเหนื่อย หัวใจของเธอยังคงเต้นแรงจากการหลบหนี

เธอหลับตาลงเพียงชั่วครู่ ความเหนื่อยล้าทำให้จิตใจสงบลงบ้าง แต่แล้ว ทันใดนั้น…

ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอเองก็พลันปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

ในหัวของเธอ ภาพของหญิงสาวที่ชื่อ ซูหยวนเหม่ย ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เธอเห็นตัวเองในชุดงดงามกำลังยิ้มอยู่ในจวนที่สวยงาม เสียงหัวเราะของบิดาและพี่ชายยังคงดังก้อง ความสุขในวันวานของตระกูลซูปรากฏขึ้นเหมือนภาพฝัน

แต่ความสุขนั้นกลับพลันแหลกสลาย ภาพจวนที่ถูกล้อมด้วยทหาร เสียงตะโกนของแม่ทัพที่กล่าวหาตระกูลซูว่าเป็นกบฏ ใบหน้าของพี่ชายที่เปื้อนเลือดขณะพยายามปกป้องครอบครัว ทุกอย่างดูเหมือนจริงจนหลิวหลันเฟยแทบจะทนมองไม่ไหว

เสียงคำพูดของบิดาดังก้องในหัว “หยวนเหม่ย… จำไว้นะลูก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเรา เจ้าต้องเอาตัวรอด และจงใช้สมบัติที่พ่อซ่อนไว้อย่างรอบคอบ”

เธอสะดุ้งตื่นจากภาพในหัว ลมหายใจของเธอหนักหน่วงและกระชั้น เธอยกมือกุมหน้าอกที่หัวใจเต้นรัว

“สมบัติที่ท่านพ่อซ่อนไว้…” เธอพึมพำเบา ๆ ความทรงจำเริ่มชัดเจนขึ้น พ่อของซูหยวนเหม่ยได้ซ่อนสมบัติไว้ในที่แห่งหนึ่งเพราะเขาเกรงว่าวันหนึ่งจะเกิดเรื่องไม่ดีกับตระกูลซู แล้วลูกหลานของเขาจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ เขาจึงได้ซ่อนสมบัติจำนวนหนึ่งไว้ในที่ลับแห่งหนึ่ง ที่มีแค่คนในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่รู้

จากความทรงจำนั้นทำให้เธอรู้สึกมีแสงสว่างส่องเข้ามาในชีวิตของเธอในยามที่มันมืดมิด เพราะการจะมีชีวิตอยู่เธอต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หากไม่มีเงินเธอจะไม่มีทางที่จะทวงยุติธรรมให้กับตระกูลของเธอได้เลย เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงได้เปลี่ยนเป้าหมายในการเดินทางทันที

—————————

มาต่อแล้วค่า เปิดตัวพระเอกแล้ววว 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 3

    ตอนที่ 3หลังจากที่เธอเดินลัดเลาะริมป่ามาเรื่อยๆ เมื่อสบโอกาสเธอจึงหยิบเสื้อผ้าของชาวบ้านมาหนึ่งชุด เพื่อที่เธอจะได้เดินทางได้สะดวกขึ้นเธอเลือกชุดผ้าฝ้ายธรรมดาที่ดูเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป พร้อมทั้งผ้าคลุมไหล่ที่ช่วยปกปิดตัวเธอได้มากขึ้น หลังจากนั้น เธอหาที่ซ่อนเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมัดผมยาวให้เรียบง่ายที่สุดเพื่อไม่ให้ดูโดดเด่นเมื่อเปลี่ยนโฉมเสร็จ หลิวหลันเฟยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง แม้ชุดที่เธอสวมจะดูธรรมดา แต่ก็ดีกว่าชุดนักโทษที่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัดหลิวหลันเฟย หรือในชื่อใหม่ ซูหยวนเหม่ย เดินทางมาถึงที่หมายในเวลาไม่นาน สถานที่แห่งนี้คือกระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่ดูเก่าโทรมจนไม่มีใครสนใจ มันตั้งอยู่ในมุมอับของป่าใกล้กับจวนเก่าของตระกูลซูกระท่อมหลังนี้เคยเป็นที่พักของคนงานในจวน แต่ท่านพ่อได้ให้คนงานไปพักที่อื่นแทนและเปลี่ยนที่นี่เป็นที่เก็บสมบัติแทน เธอยืนมองกระท่อมอยู่ครู่หนึ่ง พลางสอดส่องไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา แม้สภาพของกระท่อมดูทรุดโทรมจนแทบไม่มีใครคาดคิดว่าภายในจะมีสมบัติใดซ่อนอยู่ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะระแวงเธอค่อยๆ เปิดประตูกระท่อมเข้าไปและรีบปิดมันอย่างรวดเร็ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-28
  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 4

    ตอนที่ 4 แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาทั่วตัวเมือง เสียงผู้คนในตลาดเริ่มคึกคัก หลิวหลันเฟยในร่างซูหยวนเหม่ย เดินปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชนในตลาด ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังเธอเดินไปนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่จุดประสงค์ของเธอไม่ใช่เพื่อกินข้าวเท่านั้น แต่เป้าหมายของเธอคือการที่เธอจะหาข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอด้วย ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด ยังไงคนก็ชอบเล่าข่าวลือหรือชอบเล่าเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว“เอาบะหมี่หนึ่งชาม” หยวนเหม่ยเอ่ยกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน“ได้ ๆ เจ้าไปนั่งก่อนเลย เดี๋ยวข้าเอาไปให้”“ขอบคุณ” เธอพยักหน้ารับหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่ใกล้กับกลุ่มชาวบ้านที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่“นี่พวกเจ้า ได้ยินเรื่องตระกูลซูหรือยัง” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา“อ้อ เรื่องนั้นน่ะหรือ…” เพื่อนของเขาตอบกลับเสียงเบา พลางเหลียวมองรอบ ๆ “ได้ข่าวว่าฮ่องเต้เลื่อนการประหารชีวิตของพวกเขาออกไป เพราะบุตรของตระกูลซูสองคนหนีออกมาได้”ซูหยวนเหม่ยตัวเย็นเฉียบในทันที เธอเงี่ยหูฟังต่ออย่างระมัดระวัง หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น“เลื่อนการประหารหรือ ทำไมล่ะ” ผู้หญิงที่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-28
  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 1

    ตอนที่ 1ณ เมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยผู้คนที่ขวักไขว่เร่งรีบไปทำงานของตน และเสียงรถบนถนนใหญ่ที่วิ่งไปมาอย่างไม่เคยหยุดพัก เป็นภาพที่หลิวหลันเฟยเคยินไปเสียแล้ว เพราะเธออาศัยอยู่ในเมืองแบบนี้มาทั้งชีวิตหลิวหลันเฟย หญิงสาวในวัย 25 ปีกำลังเดินอยู่บนท้องถนนด้วยความเร่งรีบ เธอเป็นนักเขียนนิยายแนวแฟนตาซีที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน ด้วยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ไม่เหมือนใคร ทำให้นิยายของเธอได้รับความนิยมจนขึ้นแท่นหนังสือขายดีในเวลาอันรวดเร็ว แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น หลันเฟยเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกองหนังสือ สมุดโน้ต และแก้วกาแฟที่ลืมล้างหลิวหลันเฟยไม่ได้มีชีวิตที่หรูหราอย่างที่คนอื่นคิด เธอเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อแม่ของเธอเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ความฝันของหลันเฟยคือการเป็นนักเขียน เธอมีความฝันนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยในตอนเด็กนั้นเธอมักชอบอ่านนิยายกำลังภายในและนิยายแฟนตาซีที่พี่ชายของเธอซื้อมาจากตลาดนัดหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยในสาขาวรรณกรรม หลิวหลันเฟยต้องต่อสู้กับความยากลำบากในการเริ่มต้นอาชีพนักเขียน เธอเคยถูกปฏิเสธจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-28
  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 1-2

    หลิวหลันเฟยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เสียงครางเบา ๆ หลุดออกจากปากของเธอ ขณะที่ลืมตาขึ้นช้า ๆ แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้เธอต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจพื้นแข็งกระด้างที่เธอนอนอยู่ไม่ใช่เตียงนุ่ม ๆ ในห้องพักของเธอ หากแต่เป็นกองฟางแห้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นอับราวกับไม่ได้ถูกเปลี่ยนมานานหลายปี อากาศรอบตัวของเธอเย็นชื้นจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น เสื้อผ้าที่เธอสวมก็ไม่ใช่ชุดทำงานที่เธอใส่ในวันที่เกิดอุบัติเหตุแต่เป็นชุดผ้าหยาบหนาสีหม่นที่ดูคล้ายเสื้อผ้าของชาวบ้านในยุคโบราณ"ที่นี่... ที่ไหน?" หลันเฟยพึมพำกับตัวเอง เสียงของเธอแหบพร่าและอ่อนล้า ลำคอของเธอแห้งผากราวกับคนที่ไม่ได้กินน้ำมานานเธอพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่ความรู้สึกหนักที่ข้อเท้าทำให้เธอต้องก้มลงมอง และนั่นทำให้เธอพบว่าข้อเท้าของเธอถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กหนา!"นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!" หลันเฟยอุทานออกมาเสียงดัง ความตกใจทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก เธอดึงขาพยายามแกะโซ่ออก แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นทันใดนั้น คลื่นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอเองก็พลันซัดเข้ามาในสมองของเธออย่างรุนแร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-28

บทล่าสุด

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 4

    ตอนที่ 4 แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาทั่วตัวเมือง เสียงผู้คนในตลาดเริ่มคึกคัก หลิวหลันเฟยในร่างซูหยวนเหม่ย เดินปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชนในตลาด ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังเธอเดินไปนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่จุดประสงค์ของเธอไม่ใช่เพื่อกินข้าวเท่านั้น แต่เป้าหมายของเธอคือการที่เธอจะหาข่าวคราวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอด้วย ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด ยังไงคนก็ชอบเล่าข่าวลือหรือชอบเล่าเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว“เอาบะหมี่หนึ่งชาม” หยวนเหม่ยเอ่ยกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน“ได้ ๆ เจ้าไปนั่งก่อนเลย เดี๋ยวข้าเอาไปให้”“ขอบคุณ” เธอพยักหน้ารับหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่ใกล้กับกลุ่มชาวบ้านที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่“นี่พวกเจ้า ได้ยินเรื่องตระกูลซูหรือยัง” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา“อ้อ เรื่องนั้นน่ะหรือ…” เพื่อนของเขาตอบกลับเสียงเบา พลางเหลียวมองรอบ ๆ “ได้ข่าวว่าฮ่องเต้เลื่อนการประหารชีวิตของพวกเขาออกไป เพราะบุตรของตระกูลซูสองคนหนีออกมาได้”ซูหยวนเหม่ยตัวเย็นเฉียบในทันที เธอเงี่ยหูฟังต่ออย่างระมัดระวัง หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น“เลื่อนการประหารหรือ ทำไมล่ะ” ผู้หญิงที่อ

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 3

    ตอนที่ 3หลังจากที่เธอเดินลัดเลาะริมป่ามาเรื่อยๆ เมื่อสบโอกาสเธอจึงหยิบเสื้อผ้าของชาวบ้านมาหนึ่งชุด เพื่อที่เธอจะได้เดินทางได้สะดวกขึ้นเธอเลือกชุดผ้าฝ้ายธรรมดาที่ดูเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป พร้อมทั้งผ้าคลุมไหล่ที่ช่วยปกปิดตัวเธอได้มากขึ้น หลังจากนั้น เธอหาที่ซ่อนเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมัดผมยาวให้เรียบง่ายที่สุดเพื่อไม่ให้ดูโดดเด่นเมื่อเปลี่ยนโฉมเสร็จ หลิวหลันเฟยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง แม้ชุดที่เธอสวมจะดูธรรมดา แต่ก็ดีกว่าชุดนักโทษที่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัดหลิวหลันเฟย หรือในชื่อใหม่ ซูหยวนเหม่ย เดินทางมาถึงที่หมายในเวลาไม่นาน สถานที่แห่งนี้คือกระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่ดูเก่าโทรมจนไม่มีใครสนใจ มันตั้งอยู่ในมุมอับของป่าใกล้กับจวนเก่าของตระกูลซูกระท่อมหลังนี้เคยเป็นที่พักของคนงานในจวน แต่ท่านพ่อได้ให้คนงานไปพักที่อื่นแทนและเปลี่ยนที่นี่เป็นที่เก็บสมบัติแทน เธอยืนมองกระท่อมอยู่ครู่หนึ่ง พลางสอดส่องไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา แม้สภาพของกระท่อมดูทรุดโทรมจนแทบไม่มีใครคาดคิดว่าภายในจะมีสมบัติใดซ่อนอยู่ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะระแวงเธอค่อยๆ เปิดประตูกระท่อมเข้าไปและรีบปิดมันอย่างรวดเร็ว

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 2

    ตอนที่ 2หลิวหลันเฟยวิ่งสุดกำลัง เธอวิ่งตามแสงไฟสลัวจากตะเกียงที่ติดอยู่ตามผนังคุก ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการถูกล่ามโซ่ทำให้เธอวิ่งได้ไม่เร็วนัก ด้านหลังของเธอมีเสียงฝีเท้าของทหารที่วิ่งไล่ตามเธอพร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวกดังก้องไปทั่วคุก"หยุดเดี๋ยวนี้! ซูหยวนเหม่ย ถ้าไม่หยุด เราจะฆ่าเจ้าทันที!" เสียงตะโกนตามหลังทำให้เธอเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีกเธอเลี้ยวเข้าไปตามทางแคบ ๆ ระหว่างห้องขัง ท่ามกลางความมืดและกลิ่นอับของคุกหลวง จนมาถึงมุมหนึ่งที่เปิดออกสู่ทางเดินกว้าง ทันใดนั้นเอง เธอก็เธอก็นร่างของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ ร่างสูงสง่าในชุดผ้าคลุมยาวสีดำ ดาบข้างเอวสะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย แต่แฝงความเยือกเย็นและทรงอำนาจ หลันเฟยหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ชายคนนี้ไม่ได้ดูเหมือนทหารทั่วไป แต่กลับดูเหมือนชนชั้นสูง หรืออาจเป็นขุนนางผู้มีอำนาจ"ช่วยด้วย!ได้โปรดช่วยข้าด้วย!" หลิวหลันเฟยรีบร้องขอความช่วยเหลือจากคนตรงหน้า เพราะเขาดูมีอำนาจมากพอที่จะช่วยเธอได้ชายหนุ่มคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าขอความช่วยเหลือจากเขาในสถานการณ์แบบนี้ "เจ้าเป็นใคร?" เขาถามเสียงเร

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 1-2

    หลิวหลันเฟยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เสียงครางเบา ๆ หลุดออกจากปากของเธอ ขณะที่ลืมตาขึ้นช้า ๆ แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้เธอต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจพื้นแข็งกระด้างที่เธอนอนอยู่ไม่ใช่เตียงนุ่ม ๆ ในห้องพักของเธอ หากแต่เป็นกองฟางแห้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นอับราวกับไม่ได้ถูกเปลี่ยนมานานหลายปี อากาศรอบตัวของเธอเย็นชื้นจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น เสื้อผ้าที่เธอสวมก็ไม่ใช่ชุดทำงานที่เธอใส่ในวันที่เกิดอุบัติเหตุแต่เป็นชุดผ้าหยาบหนาสีหม่นที่ดูคล้ายเสื้อผ้าของชาวบ้านในยุคโบราณ"ที่นี่... ที่ไหน?" หลันเฟยพึมพำกับตัวเอง เสียงของเธอแหบพร่าและอ่อนล้า ลำคอของเธอแห้งผากราวกับคนที่ไม่ได้กินน้ำมานานเธอพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่ความรู้สึกหนักที่ข้อเท้าทำให้เธอต้องก้มลงมอง และนั่นทำให้เธอพบว่าข้อเท้าของเธอถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กหนา!"นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!" หลันเฟยอุทานออกมาเสียงดัง ความตกใจทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก เธอดึงขาพยายามแกะโซ่ออก แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นทันใดนั้น คลื่นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอเองก็พลันซัดเข้ามาในสมองของเธออย่างรุนแร

  • หยกลิขิตรัก   ตอนที่ 1

    ตอนที่ 1ณ เมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยผู้คนที่ขวักไขว่เร่งรีบไปทำงานของตน และเสียงรถบนถนนใหญ่ที่วิ่งไปมาอย่างไม่เคยหยุดพัก เป็นภาพที่หลิวหลันเฟยเคยินไปเสียแล้ว เพราะเธออาศัยอยู่ในเมืองแบบนี้มาทั้งชีวิตหลิวหลันเฟย หญิงสาวในวัย 25 ปีกำลังเดินอยู่บนท้องถนนด้วยความเร่งรีบ เธอเป็นนักเขียนนิยายแนวแฟนตาซีที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน ด้วยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ไม่เหมือนใคร ทำให้นิยายของเธอได้รับความนิยมจนขึ้นแท่นหนังสือขายดีในเวลาอันรวดเร็ว แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น หลันเฟยเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกองหนังสือ สมุดโน้ต และแก้วกาแฟที่ลืมล้างหลิวหลันเฟยไม่ได้มีชีวิตที่หรูหราอย่างที่คนอื่นคิด เธอเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อแม่ของเธอเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ความฝันของหลันเฟยคือการเป็นนักเขียน เธอมีความฝันนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยในตอนเด็กนั้นเธอมักชอบอ่านนิยายกำลังภายในและนิยายแฟนตาซีที่พี่ชายของเธอซื้อมาจากตลาดนัดหลังเรียนจบมหาวิทยาลัยในสาขาวรรณกรรม หลิวหลันเฟยต้องต่อสู้กับความยากลำบากในการเริ่มต้นอาชีพนักเขียน เธอเคยถูกปฏิเสธจาก

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status