“ไม่ต้อง ข้ายังไม่อยากตาย ไม่อาจเอื้อมดื่มชาของเจ้า ชงชาเป็นหน้าที่ของนางกำนัล เจ้า แค่มานั่งดื่มชากับข้าก็พอแล้ว”
“ตะตะแต่ท่านแม่บอกว่า ข้าเข้าวังจะต้องปรนนิบัติฝ่าบาท เรื่องชงชาเรื่องเล็กน้อย หนิงอันไม่เกี่ยง”ยิ้มแก้มใส
เสี่ยวเอิงก้มหน้าเดินเลี่ยงไปรับอุปกรณ์สำหรับชงชาที่นางกำนัลนำมาชงชาถวายฝ่าบาทและหนิงอัน
“ข้ามีนางกำนัลชงชามากมาย หากต้องการเพียงคนชงชาจะให้เจ้าเข้าวังทำไม” เฉินหยวนฮ่องเต้มองสบตากลมที่ก้มหน้าหลบตาคมที่ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
เอื้อมมือคว้ามือบางให้เข้าไปในศาลานั่งลงก่อนจะตบที่ว่างข้างๆ ให้หนิงอันนั่งลงเสีย
นางกำนังยกชามาวางตรงหน้าทั้งสอง กลิ่นชาหอมหวน
“อึกๆๆ อ่าาาาา สดชื่นที่สุด”
หนิงอันยกชากระดกลงคอรวดเดียว เฉินหยวนฮ่องเต้ส่ายหน้าไปมา
“ต้องดื่มแบบนี้”
เอื้อมมือยกถ้วยชาขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปาก ยกมือขึ้นปัดเหนือจอกชาสูดดมกลิ่นหอมของชา เป่าไล่ลมร้อนแล้วจิบชาช้าๆ
หนิงอันยื่นจอกชาให้กับนางกำนัลรินชาใส่จอกตั้งใจทำตามแบบที่เฉินหยวนฮ่องเต้ทำ แต่ก็เงอะงะน่ากลัวจะทำชาหกใส่ตัว
เฉินหยวนฮ่องเต้ลุกขึ้นคุกเข่าอ้อมมาด้านหลังโอบแขนสองข้างรอบร่างบางแนบชิด หนิงอันหันมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาที่ใกล้เกินกว่าใกล้ใจเต้นตึกตัก เฉินหยวนจับจอกชามือข้างหนึ่งโบกไล่กลิ่นชาตรงหน้าของหนิงอัน
กระซิบข้างหูเบาๆ
ยกจอกชาจ่อที่ริมฝีปาก
หนิงอัน.ใจเต้นรัวจิบชารสขมทว่าหวานเย็นในตอนท้าย
“อืมมมชื่นใจจัง หากจะมีขนมก้อนหวานๆ หรือขนมไหว้พระจันทร์ เสี่ยวเอิง ไปที่ห้องเครื่องนำขนมมากินกันเถอะ”
เสี่ยวเอิงย่อกายแต่ยังไม่กล้าขยับตัวไปที่ห้องเครื่อง
“อยากกินขนมหรือ เจ้ากินหวานมากไปจะอ้วนเอาได้นะ”
เฉินหยวนนั่งลงข้างๆ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อ้วนก็ดีข้าจะได้นอนกลิ้งบนแท่นนอนแสนสบายไปไม่ต้องไหน แบบนั้นจึงจะเหมือนที่เขาพูดว่าเข้ามาอยู่ในวังหลวงจึงจะสบาย”
“หืม เช่นนั้นข้ากลัวว่าจะกอดเจ้าไม่มิดเอาได้ เจ้าไม่อ้วนจะดีมาก ถึงไม่อ้วนเจ้าก็ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นนั่งสบายในวังหลวง..นอนนิ่งๆ บนแท่นนอนให้ข้าได้กอดเจ้าแน่นๆ เหมือนคนที่ว่าง่ายได้ก็ได้นี่”
หนิงอัน แก้มแดงระเรื่อด้วยพอจะเข้าใจความหมายเหล่านี้อยู่บ้าง เฉินหยวนฮ่องเต้เชยคางมนให้สบตาเขาหนิงอันสบตาที่สื่อความหมายภายใน
“แต่ หนิงอันอยากจะดื่มชานี่ กับขนม”
น้ำเสียงออดอ้อน เฉินหยวนฮ่องเต้อมยิ้ม
“เสี่ยวโอ ไปที่ห้องเครื่องให้คนคัดสรรขนมที่หวานน้อย ทว่ารสดีมาให้พระสนมมากหน่อย”
เสี่ยวโอประสานมือรีบวิ่งไปยังห้องเครื่องในทันที
“ไม่ต้องเยอะเพคะ แค่นิดหน่อยก็พอ ไม่อย่างนั้นฝ่าบาทจะกอดไม่มิด”
“เอามามากหน่อย เพราะค่ำนี้เจ้าจะได้นั่งกินขนมพร้อมกับให้ข้าอ่านรายนามของกำนัลเหล่านี้ ที่บนแท่นนอน”หนิงอัน ก้มหน้าไม่กล้าสบตา
ตำหนักพระพันปี
“สุ่ยเอ่อ ถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการเรื่องต่างๆ ได้เสียที เจ้าเป็นหลานของไทเฮา ฝ่าบาทไม่โปรดปรานก็ต้องโปรดปรานด้วยเกรงใจข้าแต่ดูเจ้ารึวันๆ เอาแต่งอนฝ่าบาทอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นฮองเฮาแล้วหรือถึงได้โอหังเพียงนี้ฮ่องเต้พาสนมคนใหม่เข้าวังเจ้ายิ่งต้องพยายามจะมาทำเจ้าแง่แม่งอนเจ้าคิดว่าฮ่องเต้มีเจ้าคนเดียวหรือไร”
ไทเฮาวัยกลางคนที่ยังดูสวยสะคราญ เอ่ยปากช้าๆ ควบคุมกิริยาให้งดงามเสมอ
“ไทเฮา ท่านน้า ท่านไม่เข้าใจข้าหรือฝ่าบาทหลงใหลนางตั้งแต่นางยังไม่เข้าวังด้วยซ้ำไป ไม่บังคับให้ถวายตัว ไม่บังคับให้เข้าวัง รอให้นางสมัครใจด้วยตัวเอง วันนี้คนของข้ายังบอกอีกว่าฝ่าบาทประทานของกำนัลห้าหมื่นชิ้นที่ล้วนเป็นแต่ของดีดี ท่านน้าท่านจะให้ข้ายิ้มแย้มแสดงความยินดีกับนางหรือไร”
“นั่นยิ่งสมควรทำเจ้าใจกว้างกับนางฮ่องเต้จึงจะพอใจ”
“ไม่ท่านน้า ข้ามีวิธีของข้านางกับข้าล้วนไม่อาจญาติดี มีข้าจึงไม่มีนาง ฝ่าบาทเปิดตำหนักสวรรค์ประทานให้กับนางทั้งที่นางมาทีหลัง ข้าเป็นถึงพระญาติไทเฮา เข้าวังก่อนเฟยคนอื่นฝ่าบาทกลับให้ข้าเจียมตัวอย่างนั้นหรือ”
“เพราะเฟยไม่ได้มีคนเดียว เจ้าอยากอยู่แค่ตำแหน่งเฟยหรืออยากเป็นฮองเฮากันเล่า หากอยากเป็นฮองเฮาจงเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ฮ่องเต้ไม่ชอบคนบงการและไม่ชอบคนที่ ไร้เหตุผล”
หวังสุ่ยเอ่อจิกเล็บลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ
ตำหนักสวรรค์ประทาน
“น้องหญิง ข้าสนมถานอิงจื่อแวะมาแสดงความยินดีกับเจ้า”
ร่างอ้อนแอ้นมาพร้อมกับกิริยาอ่อนหวาน อีกทั้งใบหน้าหวานอมเศร้าของอิงจื่อทำเอาหนิงอันรีบลุกจากโต๊ะเดินหมากที่กำลังเดินหมากกับเสี่ยงเอิงแก้เหงา
รับเอา ผลไม้เชื่อมมาไว้กับมือ
“ยินดี เราสองคนก็เป็นสนมระดับเดียวกันท่านไม่ต้องมากพิธีน่าฮ่าาา”
“เจ้าเป็นที่โปรดปรานเพียงนี้ใครบ้างจะไม่รู้ ผู้คนในวังหลวงต่างเกรงใจเจ้า ฝ่าบาทโปรดปรานเจ้า …จนหลายคนอิจฉาพวกเราทั้งสามเข้าวังในวันแรกก็ต้องถวายตัว แต่เจ้าฝ่าบาทกลับไม่บีบบังคับเจ้าซ้ำยังเอาใจเจ้าราวกับคนรักของฝ่าบาท”
“พี่สาวท่านพูดเกินไปแล้ว ฝ่าบาทอาจเห็นว่าข้ายังเด็กหรือเปล่า ความจริง ..ข้าก็พร้อมที่จะถวายตัวเพราะทำใจไว้แล้วเข้าวังก็ต้องถวายตัวปรนนิบัติฝ่าบาท….บนแท่นนอน”ยิ้มเอียงอาย
อิงจื่อยิ้มเศร้าๆ
“ทุกคนล้วนต้องถวายตัวจริงดังเจ้าว่า แต่ข้าตั้งแต่ถวายตัวฝ่าบาทยังไม่เคยเรียกหาข้าอีกเลย จริงสิข้าเย็บถุงหอมและเลือกกลิ่นหอมด้วยตัวเองอาศัยสอบถามนางกำนัลและขันทีเรื่องกลิ่นหอมที่ฝ่าบาทโปรดปราน รอว่าสักวันฝ่าบาทจะเรียกหาข้าแต่จนป่านนี้ผ่านไปสามเดือนกับยี่สิบสี่วันแล้วฝ่าบาทไม่เคยเรียกข้าเข้าไปปรนนิบัติ ข้าจึงอยากจะฝากถุงหอมนี้ไว้กับเจ้า หากเจ้าจะแค่เพียงมอบมันให้กับฝ่าบาทแล้วบอกว่าเป็นของข้า จะได้ไหม”
มอบถุงหอมที่เย็บด้วยความประณีตกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมา
“โอ้โห้สวยจัง การปักละเอียดสวยงามพี่สาวเก่งจัง”
อิงจื่อยิ้มเศร้าๆ“สวยแล้วอย่างไรสวยแล้วรอคนมาเชยชม หวังเพียงเจ้าส่งให้ถึงมือฝ่าบาทแทนข้าจะได้ไหมน้องหญิง เจ้ามีโอกาสดีกว่าข้า ฝ่าบาทแวะเวียนวันละสองสามครั้ง ไม่เหมือนข้าที่รอฝ่าบาทมาแรมเดือนก็ไม่เคยได้พบหน้า ข้าแม้จะเป็นสนมที่ขอยัดเยียดตัวเองเข้ามาในวังหลวง แต่ในใจข้าก็มีฝ่าบาทเพียงคนเดียวรอคอยฝ่าบาทเพียงคนเดียว”หนิงอันกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ สงสารอิงจื่อจับใจอิงจื่อจากไปแล้วเสี่ยวเองเดินมายืนตรงหน้าหนิงอัน“พระสนม ถุงหอมนั่นเอามันไปซ่อนไว้เสีย”หนิงอันเคี้ยวขนมในมือแล้วเลิกคิ้วสูง“ทำไมกัน”“พระสนม ข้ากับพระสนมและท่านหมอไป๋เยว่เทียนเราเติบโตมาด้วยกันหากท่านหมอหวังดีกับคุณหนูที่สุด เสี่ยวเอิงก็หวังดีกับคุณหนูเท่าๆ กับท่านหมอ เช่นนั้นถุงหอมนั่นมอบให้เสี่ยวเอิงนำมันไปซ่อนไม่อย่างนั้นก็เอาไปคืนพระสนมหวังเสีย บอกกับนางว่าเรื่องที่นางไหว้วานพระสนมไม่อาจตัดใจทำให้นางได้”“ไม่ได้นะนางน่าสงสาร แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี พวกเจ้าสองคนหวังดีแล้วเกี่ยวอะไรกับถุงหอมเล่า”“พระสนมฝ่าบาทโปรดปรานถือว่าเป็นโชคและเป็นโชคใหญ่ไม่มีใครแบ่งปันโชคใหญ่ของตัวเองให้คนอื่นหรอกเจ้าค่ะ ถึงพระสนมหวังจะน่าสงสารแต่ พระ
“พี่หญิงหากไม่ใช่ท่านแล้วจะใครที่สมควรจะสั่งสอนนางให้รู้จักที่ต่ำที่สูงท่านเป็นถึงพระญาติของไทเฮา”ฟางจิวยี่สนมอันดับสองต่อจากกู้สุ่ยเอ่อพูดขึ้นด้วยท่าทีนอบน้อม“เจ้าเอาแต่ยุยงข้าแล้วอิงจื่อคนนั้นเล่านางทำอะไรอยู่”จิวยี่เแค่นยิ้ม“นางนะหรือวันๆ เอาแต่เย็บถุงหอม อยู่ในตำหนักวันก่อนนางอุตส่าห์ย้ายก้นนางไปที่ตำหนักสวรรค์ประทานไปยินดีกับสนมคนใหม่หลี่หนิงอัน เหอะนางคงหวังพึ่งบารมีสนมหลี่หารู้ไม่ว่าคนที่ควรจะฝากชีวิตไว้คือพี่หญิงกู้สุ่ยเอ่อ”สุ่ยเอ่อยิ้มมุมปาก“ไปที่ตำหนักสวรรค์ประทานกับข้า เราไปยินดีกับสนมหลี่ด้วยกันดีไหม”จิวยี่หน้าถอดสีแค่ยุยงไม่อยากไปที่นั่นเพราะเกรงว่าหากฝ่าบาทรู้ว่าพวกนางไประรานสนมคนโปรดจะต้องถูกลงทัณฑ์ หลายวันมานี้ข่าวลือหนาหูบ้างก็ว่าฝ่าบาทเอาใจนางราวกับคนรัก บ้างก็ว่าก่อนนั้นฝ่าบาท มีรักแรกพบคือ..สนมหลี่“เอ่อ เอ่อข้าว่าข้าไม่อยากไปที่นั่น”“เฮอะ เจ้ามันก็แค่สุนัขที่มีไว้เพื่อช่วยตรวจตราหาได้ช่วยขบกัดขโมยอย่างที่ตั้งใจ (ดีแต่เห่า) ”สนมจิวยี่กัดฟันแน่น นางน่าจะโกรธแต่ทว่า“แหมพี่หญิงท่านก็รู้บิดาข้าก็แค่ขุนนางต่ำต้อย หากเกิดอะไรขึ้นกระทบกับบิดาข้าขึ้นมา ข้าก็แย่
ประสานมือนอบน้อม สายตาที่มองไปยังหนิงอันอ่อนโยนจนเฉินหยวนสัมผัสได้ขยับกายตั้งใจจะจับชีพจร เฉินหยวนในฮ่องเต้ขึ้นไปนั่งบนแท่นนอน ดึงตัวหนิงอันให้พิงอกกว้าง ให้หมอไป๋ได้ตรวจดูอาการป่วย“สนมสุ่ยเอ่อ สนมจิวยี่ สนมอิงจื่อ เสด็จจจจ”เสี่ยวโอขานดังๆเฉินหยวนฮ่องเต้ กระชับอ้อมกอดแนบแน่นจนหนิงอันรู้สึกอึดอัด“สุยเอ่อถวายพระพรฝ่าบาท จิวยี่ถวายพระพรฝ่าบาท อิงจื่อถวายพระพรฝ่าบาท”ย่อกายลงพร้อมกัน อิงจื่อยังมาพร้อมกับใบหน้าเศร้าสร้อย จิวยี่ที่มองภาพเฉินหยวนฮ่องเต้กอดประคองหนิงอันด้วยสายตาริษยา ไม่ต่างจากสุ่ยเอ่อแต่ทว่าสุ่ยเอ่อนางเจ็บแค้นในใจไม่น้อยด้วยนางไม่เคยเจียมตัวถูกเลี้ยงดูมาว่าสูงส่งเกินใคร“ออกไปรอด้านนอก ท่านหมอกำลังตรวจดูอาการป่วยของสนมหนิงอัน”น้ำเสียงเรียบเฉยทว่าเฉียบขาดของเฉินหยวนฮ่องเต้ที่คนฟังรู้สึกได้“ฝ่าบาทสุยเอ่อแวะมายินดีกับสนมหนิงอัน”“นางป่วยเจ้ามายินดีเรื่องอะไรกัน”เสียงเข้มมีแววตำหนิ สุ่ยเอ่อหน้าเสีย“เอ่อ พี่หญิงไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกเพคะ พี่หญิงคงไม่รู้ว่าน้องหญิงหนิงอันกำลังป่วยคงแค่แวะมายินดีที่ได้เข้าวัง”จิวยี่รีบแก้ตัวแทน และอยากมีตัวตนขึ้นมาในตอนนั้น หากจะเห็นว่
“พระสนม พระสนมสบายดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ร่างสูงเร้นกายเข้ามาในอาภรณ์ขันทีประสานมือตรงหน้าอิงจื่อน้ำเสียงแสดงความตื่นเต้นดีใจที่ได้พบหน้า“สบายหรือไม่ ใครให้เจ้าบังอาจถามที่ผ่านมาท่านหายไปไหนมาทิ้งข้าเพียงลำพังในวังหลวงแห่งนี้”น้ำเสียงตัดพ้อจริงจัง“พระสนม โจต้าเหมิงไม่เคยโดดเดี่ยวพระสนมที่หายไปเพราะกำลังหาทางเข้ามาในวังหลวงเพื่อรับใช้ใกล้ชิด”“ดีพูดแบบนี้ ดีมาก อยากช่วยข้าก็ช่วยให้ฝ่าบาทหันมาเหลียวแลข้าบ้าง ท่านทำได้ไหม ท่านรู้ไหมข้าอยู่ที่นี่ต้องทนทุกข์ทรมานและเจ็บปวดเพียงใดทุกวันข้านั่งมองประตูทางเข้าตำหนักว่าเมื่อไหร่ฝ่าบาทจะมา คอยมองว่าเมื่อไหร่ขันทีจะนำป้ายชื่อมายื่นให้ข้า รอว่าเมื่อไหร่จะได้ร่วมเสวยกับฝ่าบาท รอ รอ เฝ้ารอ สุดท้ายก็ได้แค่…รอ”โจต้าเหมิงถอนหายใจยาวสามเดือนต่อมา“ตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ หนิงอันนางตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือเป็นเรื่องดีเป็นเรื่องดีจริงๆ” วางฎีกาลงโบกมือไล่ขุนนางให้กลับออกไปจนหมดไป๋เยว่เทียนยิ้มกว้างประสานมือตรงหน้าเฉินหยวนฮ่องเต้“พ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้พระสนมตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วไม่มีอาการแพ้ท้องหากแต่ มีอาการ อยากกินอาหารรสหวานรสเปรี้ยวเพิ่มขึ้น”“ส่งข่าวย
“พระสนม ชีวิตเช่นนี้จึงเรียกว่าสบายพระสนมเป็นที่โปรดปราน อย่าว่าแต่ของเปรี้ยวหวานของสิ่งใด แม้อยู่บนสวรรค์ฝ่าบาทก็ให้คนหามาถวายพระสนม”หนิงอันเคี้ยวขนมก้อนในปากจั๊บๆยิ้มกว้าง หน้าท้องที่เริ่มป่องนูนมองเห็นชัดเจนขึ้นเสี่ยวเอิงเคี่ยวยาบำรุงครรภ์ตามที่ท่านหมอไป๋จัดเทียบยามาให้“ฝ่าบาทแค่ตื่นเต้นที่ข้ากำลังตั้งครรภ์ลุกของฝ่าบาทก็เท่านั้น”“ฝ่าบาทแวะเวียนมาเช้ากลางวันเย็น มารอฟังหมอไป๋ตรวจดูครรภ์ในทุกครั้ง งานราชสำนักแม้จะเหนื่อยแค่ไหนพอเสร็จจากเรื่องในท้องพระโรงก็จะตรงมาที่ตำหนักสวรรค์ประทานในทันที ทรงรักพระสนมแหละเจ้าค่ะ”หนิงอันก้มหน้าอียงอาย“ท้องเริ่มโตข้าเริ่มอึดอัด เสี่ยวเอิงต้องทำอย่างไร ครรภ์เพิ่งจะได้หกเดือนแต่ข้าอึดอัดเหลือเกิน”เสี่ยวเอิงละมือเดินมายืนใกล้ๆ“ข้าน้อยจะถามท่านหมอไป๋ให้ดีไหมเจ้าคะ”อิงจื่อที่เดินเข้ามาทีหลังรีบ หาหมอนมารองที่แผ่นหลังให้“ต้องเอนกายน้องหญิง เจ้าต้องเอนกายลงแบบนี้จึงจะสบาย”“หือพี่สาวท่านเก่งจังรู้แม้กระทั่งต้องทำอย่างไร คนตั้งครรภ์ถึงจะสบาย”ยิ้มน้อยๆ“แล้วเจ้าสบายขึ้นไหมน้องหญิง”หนิงอันพยักหน้าขึ้นลง“ลูกในครรภ์ของเจ้าเป็นลูกคนแรกของฝ่าบาทที่ยอมให้
อิงจื่อส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทจะอารมณ์ขุ่นมัวเสียมากกว่าที่พบหน้าข้า”“เช่นนั้นข้าจะนำถุงหอมนี้มอบให้กับฝ่าบาท”หยิบถุงหอมขึ้นมาดู“ท่านนับวันฝีมือปักเย็บยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ พี่สาวท่านสอนข้าบ้างจะได้ไหม”อิงจื่อยิ้มน้อยๆ“ได้สิหากเป็นน้องหญิงหนิงอันฝ่าบาทจะต้องชอบถุงหอมที่เจ้าเย็บด้วยตัวเองแน่”หนิงอันยิ้มสดใส“ข้าอยากทำแจกจ่ายให้หลายคน”อิงจื่อก้มหน้าหนิงอันจับมืออิงจื่อให้ลุกขึ้น“ข้าเข้ามาในวังหลวงมีเพียงท่านที่ไปมาหาสู่อย่าได้เห็นข้าเป็นคนอื่นเลยต่อไปเราเป็นเหมือนพี่น้อง พรุ่งข้าจะทูลฝ่าบาทว่ายามบ่ายข้าจะอยู่กับท่าน ฝ่าบาทจะได้ไม่ต้องมาที่นี่ พรุ่งนี้ยามบ่ายท่านมาสอนข้าปักถุงหอมดีไหม” อิงจื่อยิ้ม“ขอบใจเจ้ามากน้องสาวเช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะตั้งใจมา”ตำหนักกุ้ยฮวา“พระสนม จื่อจื่อ”โจต้าเหมิง ในอาภรณ์ของทหารองครักษ์ก้าวเข้ามาขวางหน้าไว้“เจ้าเมื่อไหร่จะเข้าใจในสิ่งที่ข้าทำ”อิงจื่อเดินหลบไปยืนเหม่อมองออกนอกหน้าต่าง“เข้าใจแล้วต่อไปไม่ต้องมาสนใจว่าข้าจะเป็นอย่างไรข้าหาทางด้วยตัวเองไม่ต้องอาศัยท่าน เพราะก่อนหน้านั้นก็อาศัยท่านไม่ได้อยู่แล้ว”โจต้าเหมิงคุกเข่าลงตรงหน้าอิงจื่อนางกลับแค่ปรายตา
“เสี่ยวเอิงลุกขึ้นต่อไปเป็นเจ้าที่จะต้องดูแลพระสนมให้ดี วันนี้ดีที่ข้ากับท่านหมอมาทันเวลาความจริงข้ากำชับท่านหมอเรื่องยาที่หนิงอันต้องกินแล้วว่าไม่ให้รับยาจากคนอื่นนอกจากของท่านหมอไป๋เท่านั้น”“ฝ่าบาทไทเฮาไม่มีทางวางยาหนิงอัน เพราะไทเฮาบอกหนิงอันว่าขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของฝ่าบาท” เฉินหยวนฮ่องเต้ยิ้มหยันนางพรากเขาจากมารดาตั้งแต่3ขวบแล้วยังบังคับให้เรียกเสด็จแม่ตั้งแต่นั้นมา การดูแลก็เป็นนางไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจหรือเจ็บปวดขมขื่นเพียงใดเฉินหยวนฮ่องเต้ต่อหน้าไทเฮาคือห้ามร้องไห้ จะต้องเข้มแข็งและฝืนยิ้มตลอดเวลาจับมือหนิงอันมองสบตานิ่ง“ให้เจ้าจำไว้ สตรีที่ข้ารักมีสองคนคนหนึ่งคือมารดาข้าอีกคนก็คือเจ้า ที่ข้าจะไม่ยอมให้ต้องพบเจอเรื่องร้ายๆ ผิดแต่มารดาข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้ เช่นนั้นมีเพียงเจ้าที่ข้าต้องการปกป้องส่วนคนอื่นก็แค่เพียงคนรู้จักที่ไม่อาจวางใจ เช่นนั้นเจ้าก็ควรคิดเช่นเดียวกับข้า ไม่วางใจคนอื่นจนทำให้ตัวเจ้าต้องลำบาก”น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก หนิงอันสบตาคมไป๋เยว่เทียนยิ้ม“ ฝ่าบาทเพิ่มกำลังอารักขาพระสนมเพิ่มขึ้นทั้งช่วยเป็นหูเป็นตาและช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกไม่กี่เดือนจะถึงกำหนดคลอดแล้
“เสี่ยวเอิง เจ้านำของกินเหล่านี้ไปมอบให้กับองครักษ์ที่ด้านหน้าตำหนักเถิดพวเขาต้องกินนอนอยู่ที่นี่คอยอารักขาข้า ทั้งกลางวันกลางคืนคงลำบากไม่น้อย”“พระสนมมีแต่ของดีๆ ที่ฝ่าบาทตั้งใจสั่งให้ห้องเครื่องปรุงเพื่อพระสนม”“มันเยอะมาก ข้ากินอย่างไรหมดเล่า พวกเขาดูแลความปลอดภัยให้ข้าก็ควรจะดีกับพวกเขาหน่อย”“พระสนมใจดีที่สุดเลย”เสี่ยวเอิงยิ้มยกอาหารคาวหวานเดินออกจากห้อง“ฮ่องเต้เสด็จจจจ”เฉินหยวนฮ่องเต้ เดินเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจากการประชุมขุนนางในวันนี้ เสี่ยวเอิงย่อกายลงพร้อมกับถาดอาหาร“ยกเครื่องเสวยเหล่านี้ไปไหนกัน”“ทูลฝ่าบาทพระสนมให้เสี่ยวเอิงยกเครื่องเสวยเหล่านี้ไปให้กับองครักษ์ที่มาอารักขาที่ตำหนักฟ้าประทาน”“พระสนมเสวยน้อยหรือไรจึงเหมือนไม่ได้แตะต้องของเหล่านี้”เอื้อมมือเปิดฝาโถอาหาร“เพคะสองสามวันมานี้พระสนมเสวยน้อยมาก ส่วนมากมักจะเป็นของหวานที่ชื่นชอบ”เฉินหยวนฮ่องเต้พยักหน้าโจต้าเหมิงเดินลาดตระเวณพร้อมกับองครักษ์อีกนายกำลังจะเดินผ่านไปประสานมือตรงหน้าเฉินหยวนฮ่องเต้“เดี๋ยว เจ้าทั้งสองดูแลส่วนหน้าของตำหนักหรือไร”“พ่ะย่ะค่ะข้าน้อยทั้งสองดูแลส่วนหน้าของตำหนักและมีหน
เรื่องราวก่อนหน้าที่หนิงอันจะเข้าวังหนิงอันนั่งชิงช้าจากเถ้าวัลย์ ใบหน้างามสวมอาภรณ์สีชมพูขาว ใบหน้าสะอาดสดใส บนชิงช้าแกว่งไกล ร่างสูงของเฉินหยวนยืนตะลึงจังงังในมือกำธนูไว้แน่นเขาเข้าป่าล่าสัตว์และตามกระต่ายป่ามาจนกระทั่งพบเข้ากับใบหน้างดงามและรอยยิ้มสดใสนั้น“เทพีสวรรค์หรือไร”เสี่ยวโออมยิ้ม“ฝ่าบาท คุณหนูหนิงอันบุตรีบ้านหลี่ หลี่หนิงอัน”“บุตรีใต้เท้าหลี่อย่างนั้นหรือบิดานางเป็นขุนนางตงฉิน ดีเลยเสี่ยวโอพรุ่งนี้ให้ใต้เท้าหลี่เข้าพบข้าที่ตำหนักทรงงาน ข้ากำลังต้องการขุนนางกรมคลังคนใหม่ปลดคนของตระกูลกู้เสีย”เสี่ยวโอประสานมือ“ข้าอยากรับนางในตำแหน่งสนม”เฉินหยวนยิ้มกว้างในรอบหลายปีที่ผ่านมา“ฮะๆๆๆๆๆ เสี่ยวเอิงแกว่งสูงขึ้นไปอีกได้ยินไหมเสี่ยวเอิง”“คุณหนูเจ้าขา สูงแล้วเจ้าค่ะอันตรายเจ้าค่ะนายหญิงจะดุเสี่ยวเอิงที่ยอมตามใจคุณหนูหากเกิดพลาดพลั้งบาดเจ็บ เสี่ยวเอิงต้องโดนทำโทษแน่เลย”“ไม่ต้องห่วงน่าเห็นไหมท่านพี่ไป๋คอยรับข้าอยู่ด้านหลัง”ไป๋เยว่เทียนเอามือไพล่หลังยืนอมยิ้มอยู่ไม่ไกลนักคอยระวังและจับจตามองหนิงอันอยู่“สนุกจังฮ่าๆๆๆๆๆ ข้าอยากจะยกชิงช้าอันนี้กลับไปไว้ที่บ้านหลี่”ไป๋เยว่เทียนส่า
หนิงอันวิ่งไปหยุดตรงหน้าเฉินหยวนฮ่องเต้ แต่กลับสะดุดชายกระโปรงตัวเองเฉินหยวนรวงบร่างบางไว้ในอ้อมแขนอมยิ้มกับความซุกซน“โอ๊ะๆๆๆ ฝ่าบาทเก่งจังรับหนิงอันไว้ได้ทัน”ยิ้มกว้างสดใสเมื่อร่างบางถูกรวบว้ในอ้อมแขนของเฉินหยวนดวงตากลมโตจ้องใบหน้าหล่อเหลาของเฉินหยวนนิ่ง เฉินหยวนยกมือขึ้นลูบที่แก้มเนียนเบาๆ รอยยิ้มที่เขา เห็นนางในครั้งแรกรอยยิ้มที่อยากจะยิ้มตามยกมือขึ้นอังหน้าผาก หนิงอันเบี่ยงตัวหลบ เฉินหยวนฮ่องเต้ยิ้มน้อยๆ หนิงอันคนเดิม กลับมาแล้วหนิงอันเลือกที่จะจดจำเรื่องราวดีๆ ลบทิ้งเรื่องราวเลวร้ายเสียกำมือเรียวของเฉินหยวนฮ่องเต้มาแนบแก้มเนียน“หนิงอันไม่ชอบให้ใครเอามืออังหน้าผากมันเหมือนว่าหนิงอันกำลังป่วยและต้องกินยา”ไป๋เยว่เทียนยิ้มพยักหน้าให้เสี่ยวเอิงกับเสี่ยวโอออกไปข้างนอก“ในที่สุดก็มีวันนี้”กดจมูกโด่งลงบนแก้มเนียนสองสามที“อะวันไหนกัน ฝ่าบาทขี้โกงฝ่าบาทเอาเปรียบหนิงอัน”“หืม ข้าขอโทษเอาแบบนี้ไถ่โทษโดยการมอบตำแหน่งฮองเฮาให้กับสนมหลี่ดีไหม”พูดไปยิ้มไปหนิงอันทำตาโต“ฝ่าบาทแล้วสนมคนอื่นเล่าฝ่าบาทเอาพวกนางไปไว้ไหนยอมยกตำแหน่งฮองเฮาให้หนิงอันง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ”เฉินหยวนจูงมืออีกค
เฉินหยวนฮ่องเต้เฝ้ามองด้วยความเจ็บปวดในใจ หมอหลวงหนุ่มไป๋เยว่เทียนถอนหายใจยาวสุดจะสะกดกลั้นความรู้สึกหดหู่นั้นได้เช่นกัน“ฝ่าบาท พระสนมไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว นอกจากโลกที่นางสร้างขึ้นมา โลกที่มีเพียงนางกับโอรส ธิดาทั้งสอง”“พอกันที เจ้าเลิกทำแบบนี้ได้แล้ว หนิงอัน”น้ำเสียงแหบแห้งในลำคอเฉินหยวนฮ่องเต้คว้ามัดฟางโยนทิ้งไปคนละทิศละทาง รวบร่างบางไว้แนบกาย“ลูกแม่ลูกแม่ อย่าๆๆๆ อย่าพาพวกเขาไป เอาลูกข้าคืนมา ได้โปรดคืนพวกเขามาฮือๆๆๆๆๆ ได้โปรดคืนพวกเขาให้ข้า….”หนิงอันสะอื้นอย่างหนักมือไขว่คว้าหามัดฟางสายตาเหม่อลอยแสดงอาการตื่นตกใจและหวาดกลัว มองหามัดฟางที่เฉินหยวนฮ่องเต้โยนทิ้งไป แม้เฉินหยวนฮ่องเต้จะกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้นางไปเก็บเอามัดฟางเหล่านั้น“ฝ่าบาท อย่าทำร้ายพระสนมอีกเลย”ท่านหมอไป๋เยว่เทียน ส่งเสียงเตือนเบาๆ รีบเก็บมัดฟางส่งให้สนมหนิงอัน นางรับมาไว้ในอ้อมแขนเห่กล่อม ด้วยบทเพลงโศกสลด ริมฝีปากเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ยังสดใสเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เฉินหยวนฮ่องเต้ได้พบนาง เขายังจำมันได้ดี“ไม่เป็นไรแล้วลูกแม่ พวกเขาทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้หรอก…..เสด็จพ่อจะต้องปกป้องเรา”เฉินหยวนฮ่องเต้ กลืนก้อนแข็งๆ ล
“ฝ่าบาท เสวยเสียหน่อยวันนี้มีการแต่งตั้งขุนนางชุดใหม่ดำรงค์ตำแหน่งต่างๆ แทนคนเก่าของตระกูลกู้ เช่นนั้นควรจะกินให้มากหน่อย”เสี่ยวโอยกถาดเครื่องเสวยเข้ามา“ไป๋เยว่เทียนเล่า”“เอ่อท่านหมอ ได้ยินว่าวันนี้แวะไปเยี่ยมสุสานของเสี่ยวเอิง อีกสักประเดี๋ยวก็คงจะมา”เฉินหยวนฮ่องเต้วางฎีกาลงตรงหน้า ดึงเอาถ้วยตุ๋นรากบัวมาตรงหน้า“ใต้เท้าหลี่ถวายฎีกาทุกวันตลอดสามเดือนเพื่อให้ข้าปล่อยตัวหนิงอันจากคุกใต้ดิน ความรักของบิดามารดายิ่งใหญ่เสียจนข้าไม่อาจละเลย”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสมควรจะปล่อยตัวพระสนมโดยเร็วเพราะทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมดแล้วคนชั่วรับกรรม ตระกูลกู้ล้วนยอมจำนน”เสี่ยวโอพูดขึ้นยิ้มๆ“คนตระกูกู้ชุดสุดท้ายกำลังจะออกจากวังหลวงก่อนหน้านั้นพวกเขากดดันข้าให้ประหารเจ็ดชั่วโคตรตระกูลหลี่ และให้นำตัวหนิงอันออกมาประหาร มาบัดนี้พวกเขาจึงรู้ว่าข้าไม่ยอมให้ตระกูลกู้มีอำนาจเหนือข้าที่เป็นฮ่องเต้ต้าถังอีกต่อไป”“เช่นนั้นก็ควรพาพระสนมออกมาจากคุกใต้ดินได้แล้วขืนอยู่ต่อไปนานๆ การรักษาล้าช้าจะหมดหนทางเยียวยา อีกอย่างโอรสธิดาทั้งสองของพระสนมที่ท่านหมอส่งคนช่วยไว้จากนางกำนัลเสี่ยวหรานในวันนั้นตอนนี้แข็งแรงดีมีท่านย
“ไป๋เยว่เทียนรอด้านนอก”ก้าวเดินออกจากห้องปล่อยให้เแฺนหยวนกับหนิงอันอยู่ในห้องเฉินหยวนฮ่องเต้ เดินเข้ามาทรุดกายตรงหน้าหนิงอันกอดรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน ไม่เพียงแต่ไม่ปัดป้องหนิงอันยังนิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเฉินหยวนก้มลงกดจมูกโด่งที่แก้มเนียน“เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือ”“ฝ่าบาท หนิงอันอยากจะกลับไปที่ตระกูลหลี่ ฝ่าบาทหนิงอันอยากจะหย่ากับฝ่าบาทเสียเพื่อว่าต่อไปจะได้ไม่ต้องกลับมาที่วังหลวงอีก”เฉินหยวนนิ่งงัน“เจ้า ไม่อยากอยู่กับข้าแล้วหรือไร เจ้า….หมดรักข้าแล้วหรือไร”หนิงอันถอนหายใจยาว“หนิงอันไม่อาจปรนนิบัติฝ่าบาทได้อีกแล้วในตอนนี้ในหัวใจหนิงอันว่างเปล่า ความรักใคร่ทั้งหมดไม่มีเหลือแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะฝ่าบาทยอมให้อิงจื่ออุ่นเตียงหากแต่ สำหรับเราทั้งสองมันจบลงแล้ว มันจบลงแล้วจริงๆ หนิงอันไม่อาจกลับไป ที่เดิมได้อีกแล้ว ไม่อาจกลับไปอยู่ข้างกายฝ่าบาทได้อีกแล้ว ”“แต่ข้ารักเจ้าหนิงอันเจ้าจะจากข้าไปแล้วหรือไร”“หนิงอัน ไม่อาจบอกว่าไม่เหลือเยื่อใยให้กับฝ่าบาทแล้ว แต่หากฝ่าบาทยังรัก หนิงอันฝ่าบาทก็ควรจะปล่อยหนิงอันไปเสีย”เฉินหยวนนิ่งงัน“เข้าใจแล้ว ข้ายินดีจะปล่อยเจ้าไป”หน
ไป๋เยว่เทียนล้วงหยิบยาในอกเสื้อยื่นตรงหน้าหนิงอัน“หนิงอัน พี่ใหญ่ไป๋เยว่เทียนทำน้ำตาลก้อนมาให้เจ้า”ใบหน้าเหม่อลอยหันมองเม็ดยาในมือของไป๋เยว่เทียน“ท่านพี่หมอไป๋หรอกหรือจริงด้วยท่านพี่หมอไป๋”“ท่านพี่หมอไป๋ท่านพาใครมา แล้วเสี่ยวเอิงไปไหนวันนี้ลูกข้าไม่สบายอีกแล้วเสี่ยวเอิงบอกว่าวันนี้ฝ่าบาทอยู่กับสนมอิงจื่อทั้งวันทั้งคืน ข้าแค่หวังว่าฝ่าบาทจะค้นหาความจริงแล้วปกป้องเราสามคนแม่ลูก ฝ่าบาทจะปกป้องข้ากับลูกใช่ไหม”เฉินหยวนหลับตาไล่หยาดน้ำตาเสีย“นางจำข้าไม่ได้”ไป๋เยว่เทียนยิ้มเศร้าๆ ยื่นยาเม็ดจ่อที่ริมฝีปากหนิงอัน“กินน้ำตาลก้อนเสียก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปพบฝ่าบาท”“ไม่ไม่ข้าไม่พบเขา เขาใจร้ายพวกเขาทั้งหมดใจร้ายท่านพี่หมอไป๋ข้ารู้ว่าที่ให้ข้ากินมันคือยาข้าไม่สบายอีกแล้วใช่ไหม ข้ายอมกินยาท่านพาข้าหนีกลับไปที่ตระกูลหลี่จะได้ไหม ข้าคิดถึงท่านแม่”“ได้สิเจ้ากินรีบกินยาเสีย”อ้าปากให้ไป๋เยว่เทียนยัดยาเข้าไปในปาก“เอาเจ้าแฝดไปด้วย พวกเขาเป็นลูกข้า ไม่พา พวกเขาไป ไทเฮาจะกำจัดพวกเขา”พูดไปพร้อมกับดวงตาที่หรี่ปรือ และในที่สุดก็เอนกายหลับใหล เฉินหยวนรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขน“นางฟื้นขึ้นมาจะอาละวาดไหม
“ฝ่าบาท เสวยเสียหน่อยวันนี้มีการแต่งตั้งขุนนางชุดใหม่ดำรงค์ตำแหน่งต่างๆ แทนคนเก่าของตระกูลกู้ เช่นนั้นควรจะกินให้มากหน่อย”เสี่ยวโอยกถาดเครื่องเสวยเข้ามา“ไป๋เยว่เทียนเล่า”“เอ่อท่านหมอ ได้ยินว่าวันนี้แวะไปเยี่ยมสุสานของเสี่ยวเอิง อีกสักประเดี๋ยวก็คงจะมา”เฉินหยวนฮ่องเต้วางฎีกาลงตรงหน้า ดึงเอาถ้วยตุ๋นรากบัวมาตรงหน้า“ใต้เท้าหลี่ถวายฎีกาทุกวันตลอดสามเดือนเพื่อให้ข้าปล่อยตัวหนิงอันจากคุกใต้ดิน ความรักของบิดามารดายิ่งใหญ่เสียจนข้าไม่อาจละเลย”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสมควรจะปล่อยตัวพระสนมโดยเร็วเพราะทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมดแล้วคนชั่วรับกรรม ตระกูลกู้ล้วนยอมจำนน”เสี่ยวโอพูดขึ้นยิ้มๆ“คนตระกูกู้ชุดสุดท้ายกำลังจะออกจากวังหลวงก่อนหน้านั้นพวกเขากดดันข้าให้ประหารเจ็ดชั่วโคตรตระกูลหลี่ และให้นำตัวหนิงอันออกมาประหาร มาบัดนี้พวกเขาจึงรู้ว่าข้าไม่ยอมให้ตระกูลกู้มีอำนาจเหนือข้าที่เป็นฮ่องเต้ต้าถังอีกต่อไป”“เช่นนั้นก็ควรพาพระสนมออกมาจากคุกใต้ดินได้แล้วขืนอยู่ต่อไปนานๆ การรักษาล้าช้าจะหมดหนทางเยียวยา อีกอย่างโอรสธิดาทั้งสองของพระสนมที่ท่านหมอส่งคนช่วยไว้จากนางกำนัลเสี่ยวหรานในวันนั้นตอนนี้แข็งแรงดีมีท่านย
เฉินหยวนฮ่องเต้ กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ“ทำอย่างไรดี ท่านหมอ”ไป๋เยว่เทียนล้วงหยิบยาในอกเสื้อยื่นตรงหน้าหนิงอัน“หนิงอัน พี่ใหญ่ไป๋เยว่เทียนทำน้ำตาลก้อนมาให้เจ้า”ใบหน้าเหม่อลอยหันมองเม็ดยาในมือของไป๋เยว่เทียน“ท่านพี่หมอไป๋หรอกหรือจริงด้วยท่านพี่หมอไป๋”“ท่านพี่หมอไป๋ท่านพาใครมา แล้วเสี่ยวเอิงไปไหนวันนี้ลูกข้าไม่สบายอีกแล้วเสี่ยวเอิงบอกว่าวันนี้ฝ่าบาทอยู่กับสนมอิงจื่อทั้งวันทั้งคืน ข้าแค่หวังว่าฝ่าบาทจะค้นหาความจริงแล้วปกป้องเราสามคนแม่ลูก ฝ่าบาทจะปกป้องข้ากับลูกใช่ไหม”เฉินหยวนหลับตาไล่หยาดน้ำตาเสีย“นางจำข้าไม่ได้”ไป๋เยว่เทียนยิ้มเศร้าๆ ยื่นยาเม็ดจ่อที่ริมฝีปากหนิงอัน“กินน้ำตาลก้อนเสียก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปพบฝ่าบาท”“ไม่ไม่ข้าไม่พบเขา เขาใจร้ายพวกเขาทั้งหมดใจร้ายท่านพี่หมอไป๋ข้ารู้ว่าที่ให้ข้ากินมันคือยาข้าไม่สบายอีกแล้วใช่ไหม ข้ายอมกินยาท่านพาข้าหนีกลับไปที่ตระกูลหลี่จะได้ไหม ข้าคิดถึงท่านแม่”“ได้สิเจ้ากินรีบกินยาเสีย”อ้าปากให้ไป๋เยว่เทียนยัดยาเข้าไปในปาก“เอาเจ้าแฝดไปด้วย พวกเขาเป็นลูกข้า ไม่พา พวกเขาไป ไทเฮาจะกำจัดพวกเขา“ไม่ พี่หมอไป๋อย่าให้เขามาใกล้ข้าและลูกของข้า เขาเป็นคนเอา
เฉินหยวนพยักหน้าขึ้นลง“ข้าเองก็คิดถึงเจ้าก้อนแป้งทั้งสองแล้วเช่นกันพรุ่งนี้ให้พาพวกเขาเข้าวังพบกับหนิงอันเสียพร้อมกันนางจะดีใจแค่ไหนกันนะ ที่พบหน้าพวกเขา เจ้าก่อนแป้งที่อ้วนจ่ำม่ำ ข้าแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าหนิงอันจะมีท่าทีเช่นไรเมื่อพบกับเจ้าก่อนแป้ง”ยิ้มด้วยดวงตาเปี่ยมสุขทุกอย่างสงบเรียบร้อยแล้วสามเดือนมานี้เขาจัดการคนในตระกูลกู้ที่ละคน สับเปลี่ยนเอาคนของเขาเข้าทำหน้าที่แทนคนไหนแข็งข้อก็หาหลักฐานเอาผิดตระกูลกู้ที่ครองอำนาจมายาวนานทุจริตตั้งแต่ล่างขึ้นไปข้างบน ไม่เว้นแม่แต่ไทเฮาที่รับเอาส่วยจากคนในตระกูลที่ดูแลส่วนสำคัญในวังหลวง“ไปรอรับท่านหมอที่ด้านหน้ากันดีกว่า”เฉินหยวนลุกจากแท่นนั่ง วางถ้วยตุ๋นรากบัวที่กินจนหมด ตื่นเต้นที่จะได้พบหนิงอันเช่นกัน“รับบัญชาฝ่าบาท”เสี่ยวโอพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความดีใจที่หนิงอันจะได้ออกมาจากคุกใต้ดินเสียที“ไป๋เยว่เทียนถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี“ไปกันเถอะ”ไป๋เยว่เทียนประสานมือยิ้มกว้าง“นัอมบัญชาฝ่าบาท”เฉินหยวนฮ่องเต้และไป๋เยว่เทียนสาวเท้ายาวๆ ยังคุกใต้ดิน ที่ด้านนอกเป็นกำแพงสูงถึงสองชั้น ลอดผ่านกำแพงชั้นแรกเข้าไป ได้ยินเสีย