"หาอะไรกินก่อนค่อยกลับบ้านไหม" อาเธอร์เดินเคียงคู่กับลูกศรไปยังลานจอดรถ"ไม่" อาเธอร์มองหน้าของผู้หญิงข้างๆที่ค่อนข้างบึ้งตึงมองไปข้างหน้าโดยไม่คิดจะมองเขาและเหมือนเธอกำลังจะเดินเลยรถที่จอดอยู่ของเขาแล้วจนต้องดึงแขนเล็กเอาไว้ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้"เดียวลูกศรรถฉันจอดอยู่ทางนี้เธอเดินเลยแล้ว" ลูกศรหยุดชะงักฝีเท้าเงยหน้ามองเจ้าของมือที่ดึงแขนของเธอเอาไว้"อ้าวเหรอรู้แล้ว" ลูกศรพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แบบไม่ใส่ในเดินไปยังรถที่เขาชี้บอกพอเข้ามานั่งในรถก็เป็นอาเธอร์ที่เป็นฝ่ายอดทนไม่ไหวจนต้องหันมาคุยระหว่างจอดรถติดไฟแดง"ลูกศรเธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ" ลูกศรที่มองไปข้างหน้าโดยไม่สนใจคนขับหันกับไปมองหน้าชัดๆถอดหายใจหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นก่อนพูดกับเขา"ใช่ฉันยังไม่หายโกรธนาย" พอเป็นไปตามที่คาดจากท่าทีเย็นชาเฉยชาของลูกศรที่แปลกประหลาดสำหรับเขา"ขอโทษ เธอจะยกโทษให้ฉันสักครั้งได้ไหมลูกศร" พอได้ยินเสียงอ่อยๆเจือปนเรียกร้องไห้เธอให้อภัยอยู่ทำให้ลูกศรจำต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองออกไปเหลือเอาไว้เพียงเรื่องของลูก"ได้เพื่อลูกฉันจะไม่เอาอารมณ์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง" ลูกศรคิดว่าเธอควรจะแยกแยะความรู้
"เมื่อวานออกัสไข้ขึ้นสูงจนต้องแอดมิทตอนตีสาม" ตอนพักเที่ยงลูกศรนั่งกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนสนิทเลยเล่าให้เพื่อนฟัง"แล้วหลานชายของฉันเป็นยังไงบ้างตอนนี้" แจนสีหน้าตกใจแว่วเป็นห่วงออกัสน้อยมาก"หายแล้วตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว" ลูกศรตักข้าวกินขนาดที่คุยกับเพื่อนปกติช่วงที่ทำงานเธอจะไม่โทรหาลูกเพราะกลัวแกจะงอแงแล้วปลอบไม่หยุดเอาแล้วน่าสงสาร"วันเสาร์นี้ฉันขอไปเยี่ยมร้านที่บ้านของอาเธอร์จะได้ไหมแก คิดถึงไม่ได้เจอเลยนอกจากเห็นในคลิป" "เดียวขอถามแม่ของอาเธอร์ดูก่อนเกรงใจท่าน" ถ้าเป็นที่บ้านของเธอเองลูกศรจะไม่เป็นกังวลใจเหมือนตอนนี้เลยแต่นี้เป็นบ้านของอาเธอร์อยู่ๆจะให้เธอพาเพื่อนไปบ้านเขาโดยที่ไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านก็ดูจะไม่รู้กาลเทศะเท่าไหร่"โอเคแล้วได้เรื่องยังไงก็บอกด้วยไปทำงานต่อแล้ว" จากนั้นลูกศรกับเพื่อนสนิทก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในวันนี้ให้เสร็จก่อนออกเวรเย็นวันศุกร์ที่รอคอยในที่สุดก็มาถึงสักที ลูกศรได้โทรไปสอบถามกับแม่ของอาเธอร์แล้วว่าเพื่อนๆของเธอขออนุญาตเข้าไปเยี่ยมออกัสน้อยที่บ้านเพราะคิดถึงไม่ได้เจอนานหลายเดือนแล้วท่านก็อนุญาตเรียบร้อยบอกไม่ต้องเกรงใจให้เธอพาเพื่อนมาบ้
ตอนเช้าเพื่อนของลูกศรก็เข้ามาบ้านของอาเธอร์เพื่อเยี่ยมหลานชายตัวน้อยที่พวกเขาคิดถึงและมีของฝากมาให้หลานเต็มไม้เต็มมืออย่างกับจะแข่งกันเอาหน้ากับหลานที่ยังเป็นเพียงทารกน้อยวัยห้าเดือนยังไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยตอนนี้"ออกัสครับมาน้าแจนของอุ้มหน่อยลูก" แจนที่รับวิ่งมาอุ้มออกัสน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของลูกศร "ไปให้น้าแจนของหนูอุ้มหน่อยนะครับออกัสน้อย นี้น้าแจนเพื่อนสนิทของแม่นะครับลูก" ออกัสน้อยที่คุ้นชินกับคนเยอะๆก็ยอมโผล่ตัวโน้มตัวให้กับเพื่อนสนิทแม่อุ้มอย่างง่ายได้"ตายแล้วหนูตัวจั้มหม่ำขึ้นเยอะโตแล้วนะครับออกัสหลานน้าแจน" แจนอุ้มหอมแก้มออกัสน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดูหลานคนแรกของกลุ่ม"ไหนๆน้อยออกัสของพวกเราโตเป็นหนุ่มน้อยแล้วเหรอครับหลานชายของน้าปอน" ปอนและสองที่มาพร้อมกันต่างหยอกล้อแล้วก็ผลักกันอุ้มออกัสกันอย่างไม่น้อยหน้า ส่วนเจ้าตัวน้อยก็เหมือนจะรู้งานยอมให้เพื่อนแม่อุ้มโดยไม่รู้ไห้งอแงสักนิดอยู่เป็นที่สุดตัวแค่นี้พวกเรารวมแก๊งก็เมาส์กันอย่างสนุกสนานไม่หยุดจนออกัสหลับคาตักของลูกศรที่เล่นกับเพื่อนๆของแม่เยอะคงจะเหนื่อยมากถึงหลับกลางอากาศอย่างที่เห็นชวนให้พวกเพื่อนหัวเราะด้วยความเอ็นดู"อ้
ตอนเช้าอาเธอร์เคาะประตูที่ถูกล็อกจากด้านในปกติลูกศรจะไม่ล็อกประตูห้องแต่วันนี้ล็อกแล้วก็สายมากแล้วทำไมสองแม่ลูกไม่ออกมาสักทีเลยทำให้อาเธอร์ที่ยืนอยู่หน้าห้องรู้สึกร้องรนกลัวว่าทั้งสองจะเป็นอะไรไม่ดีหรือเปล่า"ลูกศรเธอเป็นอะไรหรือเปล่าเปิดประตูให้ฉันหน่อย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า!" น้ำเสียงร้อนรนจากหน้าประตูห้องปลุกให้สองแม่ลูกที่ตื่นสายผิดปกติของทุกวันรู้สึกตัว เจ้าออกัสน้อยลุกขึ้นนั่งมองไปทางประตูที่มีเสียงของพ่อดังปลุกเขาให้ตื่นเจ้าตัวน้อยอยากคลานไปหาพ่อแต่ออกจากคอกที่สูงเกินกว่าเด็กหนึ่งขวบจะข้ามไปได้เลยร้องอ้อแอ้ตอบรับพ่อไปอย่างไร้เดียงสา"พ่อหนูมาปลุกแต่เช้ามากเลยออกัสน้อย" ลูกศรขยี้เปลือกตาให้ตื่นเต็มตาหาววอดแล้วยันตัวลุกขึ้นไปเปิดประตูที่โดนอาเธอร์ทุบจะแตกได้อยู่แล้วถ้าเธอยังลีลาชักช้าต่อไป"มาแล้ว นายจะทุบประตูให้พังเลยเหรออาเธอร์!" ลูกศรเฮ้วใส่คนตัวสูงที่เคาะประตูดีหน่อยก็ไม่ได้อันนี้เขาเล่นจะพังประตูเข้ามาให้ได้เลยต่างหากแบบนั้น"ลูกศรทำไมเปิดช้าจังว่ะ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ด้วยความเป็นห่วงร่างบางตรงหน้ามากอาเธอร์จับตัวผู้หญิงหัวชี้ฟูจากการพึ่งตื่นนอนหมุนไปมาสำรวจอยู่หลายรอบเผื่
เสียงหัวเราะของสมาชิกในครอบครัวดังออกมาก่อนที่ลูกศรจะเดินเข้าไปในห้องอาหารก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน"อ้าวหนูลูกสรมาแล้วเหรอมานั่งเลย" คุณพ่อของอาเธอร์หันมาเห็นลูกศรเดินเข้ามายังโต๊ะอาหารทำท่าเหมือนจะถอยหลังกลับเลยเรียกเอาไว้ก่อน"ค่ะคุณลุง" ลูกศรยิ้มให้ท่านแล้วนั่งลงข้างอาเธอร์ มองไปยังออกัสน้อยที่หันมายิ้มโชว์เหงือกพร้อมกับหยิบผักลวกกัดกินโชว์ทุกคนอย่าอารมณ์ดี"อร่อยมากไหมครับลูก" ลูกศรยิ้มให้กับลูกชายตัวน้อยพร้อมกับคุยกับแก"ลูกกินผักเก่งมากเลยลูกศร สมกับเป็นลูกพ่อจริงๆเก่งได้พ่อ" อาเธอร์พูดขึ้นท่าทางภูมิใจเป็นหนักหนา "น้อยๆหน่อยเถอะตาอาเธอร์ ตอนเด็กๆเรานะตัวเกลียดผักมากแม่บังคับทีไรชอบร้องไห้งอแงไม่ยอมตลอด""โถวคุณแม่ครับไม่ใช่สักหน่อย ผมจำได้ว่าตอนเด็กตัวเองก็กินผักเก่งเหมือนออกัสน้อยนี้แหละ" คุณพ่อที่กลัวจะเสียฟอร์มเลยแก้ตัวอย่างร้อนรนไม่หยุดจนลูกศรที่มองเขาอยู่แอบเบ้ปากด้วยความขำ"แม่พูดความจริงทั้งนั้น ไม่เชื่อถามพ่อเราได้เลย ใช่ไหมคุณตาอาเธอร์ตอนเด็กๆไม่ชอบกินผักเลยสักนิดฉันกับคุณป้อนทีไรคลายทิ้งตลอดเลยเนอะ" คุณน้าโบ้ยให้คุณลุงรับช่วงต่อทันที ส่วนคนขี้โม้มองพ่อตัวเองอย่างคาดหวัง
"นายก็ดูหน่อยลูกอายุแค่1ขวบเขายังไม่รู้เรื่องแต่นายดันสอนเหมือนลูก3ขวบแล้วเลยมันไม่ได้ไหมแบบนี้" ลูกศรไม่ยอมรับที่ถูกอาเธอร์กล่าวหาว่าเธอเป็นแม่ที่ชอบตามใจลูกอย่างที่เขากล่าวหา"ก็สอนเอาไว้แต่เนิ่นๆยังไงล่ะลูกศรเธอไม่เข้าใจอะไรเลย" ลูกศรถึงกับขมวดคิ้วยุ่งใส่คนที่ด่าว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยความโมโหไอ้ผู้ชายปากเสียตรงหน้า"นายสิไม่เข้าใจอะไรเลย" ลูกศรด่าอาเธอร์กับอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วหันหลังอุ้มลูกพาเดินหนีกลับไปนั่งบนเสื่อเอาไว้นั่งเลย แต่คนหน้ามึนที่ด่าเธอเมื่อกี้ก็เดินตามมาต่อยๆไม่ห่าง"แอ้แอ้มะมะปะปะ" ออกัสน้อยแม่พานั่งลงบนเสื่อก็คลานออกจากอ้อมแขนของแม่ ดวงตากลมโตมองทางพ่อทีแม่ทีแล้วก็โบกมืออยากชวนให้เล่นด้วย"ไหนอยากให้พ่อเล่นเป็นเพื่อนหรือออกัสน้อย" อาเธอร์ถามลูกชายตัวน้อยพร้อมกับรับเอาของเล่นในมือป้อนน้อยๆที่ยื่นมาให้พ่อลูกศรนั่งมองพ่อกับลูกชายเล่นกัน เมื่อกี้ยังทำท่างอนพ่อ แต่พอพ่อพาเล่นก็ลืมง่ายมากได้นิสัยใครมานะเจ้าลูกชายคนนี้"เอาให้แม่เล่นด้วยสิลูก" อาเธอร์แอบเหล่ตามองลูกศรที่นั่งมองเงียบๆไม่พูดอะไรจึงคิดส่งลูกไปง้อเธอ..."มะมะมะแอ้" พอได้รับคำสั่งจากพ่อออกัสน้อยก็หันมาห
"ไปลูกศรไปปรับลุคกันใหม่ มีเงินเดือนแล้วไม่ต้องประหยัดแล้ว" แจนที่เลิกงานพร้อมกันเดินมาเร่งรัดลูกศรให้เก็บของในห้องพักแพทย์"รู้แล้วๆเก็บของแปบ" ลูกสรเร่งเก็บของใส่กระเป๋าหลังจากเลิกงานพร้อมกับเพื่อนสนิทก็จะตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีร้านเสริมสวยชื่อดังอยู่ในนั้น"รับรองแกต้องสวยจนหัวกระไดไม่แห้งแน่นอนลูกศร" แจนคล้องแขนลูกศรพูดด้วยความมั่นใจในตัวเองที่จะพาเพื่อนไปปรับลุคให้สวยจนโลกตลึงจะได้มีแฟนมาดูแลหัวใจสักทีไม่ต้องไปหลงรักผู้ชายที่เขาไม่ได้รักให้เสียเวลา"ถ้าจะขนาดนั้นพาฉันบินไปศัลยกรรมที่เกาหลีดีกว่าไหมแจน แค่ทำสีผมเรียนแต่งหน้าและซื้อชุดใหม่ไม่น่าจะเปลี่ยนไปขนาดนั้นหลอกนะ" ลูกศรส่ายหน้ากับคำพูดเกินจริงของเพื่อนด้วยรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาทั่วไปไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้น"โอ้ยยัยลูกศรแกอย่าพูดด้อยค่าตัวเองอย่างนั้นสิเพื่อนรัก ผู้หญิงเราทุกคนมีความสวยในตัวเองแค่ต้องปรับบุคลิกภาพให้มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ เมื่อเรามีอินเนอร์มาบอกตัวเองว่าฉันสวยแล้วเสน่ห์จากข้างในมันจะเปล่งประกายออกมาเองเชื่อเพื่อนที่กำลังมีแฟนตอนนี้ได้จ้า" ลูกศรตาโตมองเพื่อนที่เจอกันมากกว่าลูกชายตัวน้อย
“ยัยลูกศรแค่วันเดียวแกก็ตกผู้ได้แล้วเห็นไหมว่าปรับลุกตามแผนของฉันมันได้ผลจริงๆ” ยัยแจนวิ่งแจนมาคุยกับเธอตอนพักเที่ยงอย่างตื่นเต้นดูโอเว่อร์เกินจริง"ข่าวเร็วมากสาว" ลูกศรกำลังตักข้าวกินกลืนข้าวลงคอแล้วพูดประชดเพื่อนด้วยความมั่นไส้กับท่าทีแสนจะภูมิใจเป็นนักหนาของเพื่อนสาวตอนนี้"เป็นไงบ้างผ่านเปล่า" ลูกศรหลุดยิ้มก่อนจะทำหน้ายู้ด้วยความคุกคิด"เร็วไปยังไม่รู้" ลูกศรตอบอย่างเปิดกว้างไม่ได้ปิดกลั่นแต่ก็ไม่ได้เปิดทีในเร็วๆนี้"ไม่รู้หรือมีคนล็อกเป้าอยู่แล้วเฮ้อนะเพื่อนเรา""ล็อกเป้าได้ก็ไม่ใช่ว่าจะปลดล็อกไม่ได้นี้" ลูกศรพูดตามความเป็นจริงถึงแม้เธอจะชอบอาเธอร์แต่เขาก็ไม่ได้ชอบเธอ จะเสียเวลาปมปรักกับผู้ชายคนเดียวทั้งชีวิตก็จะเป็นการเสียเวลาชีวิตของตัวเองไปเปล่า"ก็ขอให้แกปลดล็อกแล้วก้าวต่อไปได้เร็วๆนะลูกศร" แจนอวยพรให้กับลูกศร"ต้องในสักวันไม่ต้องห่วง""พวกฉันก็ขอให้แกปลดล็อกเป้าได้เร็ววันนี้แล้วกันนะลูกศร" ลูกศรรับคำอวยพรของเพื่อนที่ไม่ใช่แค่แจนแต่เป็นเพื่อนทั้งกลุ่มที่ให้กำลังใจเธอให้ออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นไปไม่ได้นี้สักที"จะพยายามให้เร็วที่สุด ขอบใจพวกแกทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เพื่อนคนนี
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้" "รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ""เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็
"ได้ที่อยู่ของเขาแล้วครับท่านรอง" ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเธอร์ที่เขาได้คัดเลือกขึ้นมาเองใหม่มีทั้งฝีมือในการทางวิชาการและมีความรู้เรื่องวิชาการป้องกันตัวทุกแขนงมาได้ถึงสองคนเพื่อเป็นมือซ้ายมือขวา"ออกไปเตรียมรถและคนรอฉันอีกครึ่งชั่วโมงเราจะเดินทางไปหาตัวมัน" พอผู้ช่วยคนใหม่ออกไปแล้ว อาเธอร์ก็กดโทรหาลูกศรที่น่าจะเลิกเรียนแล้วพอดีและยังไม่ลืมโทรหาคุณย่าให้ท่านพาออกัสเข้านอนก่อนเลยเพราะพ่อแม่มีธุระต้องกลับดึกในคืนนี้"เตรียมใจของเธอให้พร้อมนะลูกศร" อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรขึ้นมานั่งบนรถข้างเขา ส่วนรถของเธอที่ขับมาเรียนวันนี้ให้คนขับรถของเขาขับตามมาด้านหลัง "ไม่ต้องหรอกห่วงน่า นี้นายเอาคนไปด้วยเยอะไปไหมเนี้ยอาเธอร์" ลูกศรมองรถอีกสองคันที่ขับตามมาเห็นคนเต็มคันรถที่ตามมาส่วนคันนี้มีแค่เธอกับเขาและคนขับเพียงสามคนในรถตู้คันหรูนี้"เอาไปเผื่อไว้ทางนั้นก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่คาดคิดเอาไว้แต่แรกหรอกนะลูกศร""ก็ได้ฉันเชื่อนาย" "เด็กดี" อาเธอร์จับหัวลูกศรซบลงบนอกกอดเธอเอาไว้แน่นหลับตาลง"อยากให้ถึงที่หมายในเร็วๆเรื่องนี้จะได้จบลงซะที จะได้กลับบ้านไปหาลูกกันเนอลูกศร" อาเธอร์ว่าขึ้นแค่ทำงานบริหารและร่ว
ลูกศรจับเวลาเอาไว้สักห้านาทีจนแน่ใจแล้วอริสไปออกไปจากบริเวณห้องน้ำแล้วค่อยออกมาแล้วไปทำงานของตัวเองต่อในหัวของเธอก็คิดแต่เรื่องที่พึ่งได้รับรู้คิดว่าเธอควรจะแก้ปัญหานี้เองหรือบอกอาเธอร์ให้เขาช่วยปัญหาแต่อีกใจก็ไม่อยากบอกเขาเพราะกลัวว่าคนใจร้อนจะทำให้เรื่องราวใหญ่ดตอย่างที่อริสเตือนจุลนั้นแหละ"คุณหมอลูกศรมีสมาธิหน่อยสิค่ะเย็บแผลพลาดขึ้นมาคนไข้จะร้องเรียกเราได้นะคะ" เสียงเข้มของพยาบาลอาวุธโสที่ทำงานมานานนับสิบกว่าปีเตือนน้องหมอใหม่อย่าดุๆ"อะเอ่อขอโทษค่ะ หมอจะมีสมาธิให้มากกว่านี้" ลูกศรตั้งใจเย็บแผลให้เรียบร้อยที่สุดตัดเรื่องรบกวนภายในจิตใจออกตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายตรงหน้าให้ดีหลังเลิกงานประมาณสี่โมงเย็นลูกศรขับรถตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยมีสมาธิยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น"เฮ้อเอาไงดีนะยัยลูกศรบอกอาเธอร์ดีไหมนะ" บ้านของอาเธอร์กับโรงพยาบาลของเขาห่างกันแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วเรียกว่าใกล้กว่าทุกวันมากจะถึงบ้านไวไปไหมเนี้ยคนยิ่งตัดสินใจไม่ได้อยู่ด้วย"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะกระจกรถเรียกให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่ในหัวสะดุ้งตกใจขึ้นมา อาเธอร์ทำมือท่าเปิดประต